ตอนที่ 511 ตอนพิเศษ ชีวิตของสวี่หลิงอวิ๋นในชาติที่แล้ว 3
ตอนที่ 511 ตอนพิเศษ ชีวิตของสวี่หลิงอวิ๋นในชาติที่แล้ว 3
หลินซีพูดติดตลกว่า “พี่ว่าสวี่หลิงอวิ๋นคนนี้ก็เข้าท่านะ ดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อย แต่มีความแข็งแกร่ง นอกจากนี้เธอยังเป็นเด็กที่มีความคิด…”
“นายต้องรีบทำคะแนนเข้าล่ะ!”
หลินโอไม่สนใจเธอและเดินจากไป ส่วนหลินซียักไหล่และเดินไปอีกทาง
สวี่หลิงอวิ๋นเฝ้าดูนายพลหลินโอที่ถูกส่งมาประจำการเป็นเวลาสามวัน นอกจากอุโมงค์ชั้นใต้ดินจะถูกขยายแล้ว ทหารช่างต่างพากันไปติดตั้งกระแสไฟฟ้าและปล่อยคลื่นสัญญาณ…
สถานที่ดังกล่าวถูกเปลี่ยนจากบ้านไร่เป็นค่ายทหารในทันที
ผู้คนทั่วไปของสวี่หลิงอวิ๋นกลายมาเป็นพนักงานฝ่ายงานธุรการแนวหลังอย่างเงียบ ๆ
มีคนปลูกพืชไร่ทำเกษตร! กองทัพทหารของหลินโอมีความสามารถในการปลูกพืชมาก และมีมือคอยปลูกพืชให้
สวี่หลิงอวิ๋นหวังที่จะปิดกั้นแม่น้ำรวมเข้าไว้ด้วยกัน หลินโอจึงสั่งทหารทำให้มันเป็นจริง
สวี่หลิงอวิ๋นหวังที่จะปลูกพืชผักผลไม้ให้ได้มากขึ้น ขณะที่หลินโอสั่งให้เหล่าทหารกระตุ้นไม้ดอกไม้ผลให้แบ่งบานภายในชั่วข้ามคืน
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกว่าอากาศในฤดูหนาวเย็นยะเยือกเกินไป จึงสั่งก่อตั้งเตียงอิฐผิงไฟที่ให้ความอุ่นเพิ่ม แต่เหล่าทหารกลับพบปัญหาในการนอนหลับ นั่นคือเหงื่อที่ไหลย้อยกับการที่มีเลือดกำเดาไหล…
สวี่หลิงอวิ๋นหวังว่า…
ทั่วทั้งฐานทัพกำลังพัฒนาไปตามทิศทางที่สวี่หลิงอวิ๋นต้องการ และเมื่อฐานทัพได้รับการพัฒนามากขึ้นแค่ไหน ผู้คนก็ยิ่งหนีเข้ามามากขึ้นแค่นั้น
ในยุคที่ผีดิบกำลังอาละวาด สวี่หลิงอวิ๋นออกไปข้างนอกแค่ครั้งคราวเพื่อช่วยเหลือผู้คนและพาพวกเขากลับมายังฐานทัพของเธอ
ความสัมพันธ์ของเธอกับหลินโอเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นตัดสินใจที่จะจากไป
สวี่หลิงอวิ๋นไม่ชอบความรู้สึกที่คลุมเครือ ถ้าชอบก็คือชอบ ถ้าไม่ชอบก็คือไม่ชอบ นอกจากนี้หลินโอยังมีแฟนอยู่แล้ว ถ้ามีเธออยู่ด้วยจะมีอะไรดีขึ้น? มันไม่มีผลดีอะไรเลยนอกจากจะทำให้ตัวเธอจมดิ่งลึกลงไป
ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจจากไป!
เช้าวันหนึ่ง สวี่หลิงอวิ๋นเก็บอุปกรณ์ของตนเองและขับรถออกไปทันที
เนื่องจากสวี่หลิงอวิ๋นชอบขับรถออกไปช่วยเหลือผู้คนเพียงลำพัง จึงไม่มีใครสนใจเธอ แต่ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะจากไปตลอดกาล?!
ขณะเดียวกันหลินโอก็เดินเข้ามาในห้องของสวี่หลิงอวิ๋นด้วยกำลังใจจากหลินซี แต่เขากลับพบเข้ากับจดหมายที่เรียบง่าย
มันเขียนไว้ว่า ‘ฉันไปก่อนนะ อย่าลืมกันล่ะ’
ข้อความที่เรียบง่ายเหมือนกับนิสัยของเธอ ความไม่เยิ่นเย้อทำให้ผู้คนที่อ่านรู้สึกด้านชา
อันที่จริงผู้คนในฐานทัพมักจะบอกว่าหลินโอดูเย็นชา แต่ในใจกลับนึกถึงคนอื่นเสมอ
ในขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นดูเป็นคนใจร้อน แต่อันที่จริงเธอกลับเป็นคนเฉยเมยที่สุด หากเธอตัดสินใจเด็ดขาด เธอจะจากไปในทันที
ไม่เหลือทิ้งโอกาสไว้ให้ใคร
แผ่นกระดาษที่อยู่ตรงหน้าหลินโอหนักอึ้งราวกับทองพันแท่ง สีหน้าของเขาดูซีดเผือด
หลินซีรีบเข้ามาดูด้วยความตื่นเต้น แต่กลับเงียบสงบลงในที่สุด
ดอกไม้ร่วงหล่นไปที่พื้น หลินโอมองดูแผ่นกระดาษในมือเงียบ ๆ และใส่มันลงไปในกระเป๋า
หลินซีตกตะลึง “สวี่หลิงอวิ๋นล่ะ?”
หลินโอไม่พูดอะไร เพียงแต่เดินผ่านเธอและจากไป
หลินซีรู้จักหลินโอเป็นอย่างดี น้องชายของเขามีท่าทีสงบนิ่ง แต่ความเศร้ากำลังทะลักออกมาจากใจ!
สวี่หลิงอวิ๋นหายไปไหน?!
แม้ว่าน้องชายจะไม่พูดอะไร แต่เธอก็รู้ดีว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะไม่กลับมาอีก
เธอพยายามเกลี้ยกล่อมน้องชายให้ออกไปตามหา แต่หลินโอกลับปฏิเสธ
คนที่มีอำนาจมากที่สุดสองคนในฐานทัพคือหลินซีกับหลินโอ พวกเขาทั้งสองแยกออกจากกันไม่ได้ ถ้าหลินโอจากไปแล้วฐานทัพถูกพวกผีดิบโจมตี คนทั่วทั้งฐานทัพจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้!
เมื่อไม่นานมานี้ จำนวนผีดิบมีเพิ่มมากขึ้น และความแข็งแกร่งของพวกมันก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบอย่างแรงกล้าและเลือกที่จะไม่จากไปในตอนนี้
“เธอจะกลับมา! ที่นี่คือบ้านเกิดของเธอ! พ่อแม่และย่าของเธอก็ถูกฝังอยู่ที่นี่ เธอจะไม่มาไม่ได้”
หลินโอพูดพึมพำ
น่าเสียดายที่เขาคงไม่คิดว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะจบชีวิตลงเพราะแกะ
หลังจากนักวิทยาศาสตร์พัฒนาวัคซีนจนสามารถควบคุมไวรัสโรคผีดิบได้ หลินโอที่มีอายุครบห้าสิบปีก็เริ่มออกตามหาเธออีกครั้ง
เขาไม่เชื่อว่าคนอย่างสวี่หลิงอวิ๋นจะจบชีวิตลงง่าย ๆ ผู้หญิงคนนี้ฉลาดมากพอ เธอจะถูกผีดิบฆ่าตายได้อย่างไร?!
สวี่หลิงอวิ๋น คุณไปอยู่ที่ไหน?!
เขาตามหาเธอมานานหลายปีแต่ก็ไม่เจอสักที จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ยินพลทหารสองคนพูดเล่นกัน
“ตอนที่ฉันทำความสะอาดอาคารนี้เมื่อนานมาแล้ว นายรู้ไหมฉันเห็นอะไร?” ทหารนายหนึ่งพูดขึ้น “ฉันเห็นซากศพของผู้หญิงคนหนึ่ง มีหม้อวางอยู่ข้าง ๆ ศพเธอ แน่นอนว่ามันแห้งกรังไปแล้วล่ะ แต่ว่าข้างเธอมีหนังแกะอยู่ด้วย พอฉันมองเข้าไปใกล้ ๆ มันมีรอยฟันอยู่บนแกะนั่น!”
“ฮ่า ๆๆ! ฉันเดาว่าเธอต้องเผลอไปกินแกะที่ถูกผีดิบกัดตายแน่ ๆ!”
“นายเดาถูกเป๊ะเลย! ฮ่า ๆๆ!” ทหารอีกคนพูดว่า “ผู้หญิงคนนั้นน่าสงสารมาก เห็นว่าร่างเธอยังไม่เน่าเลย ฉันรู้สึกว่าตอนนั้นเธอน่าจะเป็นผู้นำอะไรทำนองนั้นนะ?!”
“ผู้หญิงเหรอ? เธอชื่อว่าอะไร?”
“ฉันไม่รู้ชื่อหรอก แต่ว่าฉันเก็บสร้อยคอของเธอมาด้วย เอาไว้จะลองเปิดดู” ทหารคนนั้นพูด
หลินโอที่บังเอิญหันไปดูรู้สึกตกตะลึง!
สร้อยคอนี้?!
เขายื่นมือออกมาและสร้อยคอก็เข้ามาอยู่ในมือทันที เขาจ้องมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนที่นิ้วมือของเขาจะเริ่มสั่นเทา
พอเปิดดู มันเป็นรูปครอบครัวสี่คนของเด็กหญิงตัวน้อย
ทหารมองดูสร้อยคอในมือที่หายไป?!
“เฮ้ย! ทำอะไรตาแก่ จะขโมยของกันหรือไง? นี่เป็นของรำลึกที่ทหารผู้เสียชีวิตทิ้งไว้!”
หลินโอกำสร้อยคอไว้เงียบ ๆ และหันไปมองทหารที่อยู่ตรงหน้า “เธอเป็นภรรยาผมเอง”
ดวงตาของเขาแดงก่ำ ตอนนั้นพี่สาวเขาเคยบอกให้เขาอธิบายความรู้สึกที่มีต่อเธอล่วงหน้า ทว่าเขากลับยืนกรานจะทำอะไรด้วยตนเอง จนสิ่งต่าง ๆ เลยเถิดมาถึงจุดนี้
เพียงแค่ผิดไปขั้นตอนเดียว ทุกอย่างก็ผิดไปหมด!
หลินโอไม่เชื่อว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะไม่มีความรู้สึกต่อเขา แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้บอกรักเธอออกไป
เหล่าทหารต่างตกตะลึงเมื่อเห็นรัศมีข่มเหงออกมาจากเขา ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่พนักงานรีบเข้ามา มองดูหลินโอและแสดงความเคารพ “ท่านจอมพล มาทำอะไรตรงนี้ครับ? การประชุมกำลังเริ่ม!”
“วันนี้ผมจะไม่เข้าประชุม มีธุระอย่างอื่นที่ต้องทำ” หลินโอสูดลมหายใจ มองดูเหล่าทหารที่อยู่ตรงหน้า “พาผมไปหาเธอหน่อยได้ไหม?”
เหล่าทหารพยักหน้าด้วยความลำบากใจ ใครจะคิดว่าชายที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาจะเป็นจอมพลผู้รอดชีวิตจากผีดิบเพียงคนเดียว?!
เขาไปพบสวี่หลิงอวิ๋นภายใต้การนำของพวกทหาร
ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นปิดอยู่ ท่วงท่าของเธอโค้งงอ ราวกับได้รับความเจ็บปวดก่อนที่จะเสียชีวิต
“เดิมทีตาของเธอเปิดอยู่ครับ เธอมองไปที่แกะ แต่ผมปิดตาเธอให้เป็นการส่วนตัว!” ทหารพูด
หลินโอพยักหน้า “ขอบใจนะ”
สวี่หลิงอวิ๋นดูเหมือนเพิ่งหลับไป หากไม่ใช่เสื้อผ้าที่เก่าโทรม ใครจะคิดว่าเธอจากไปนานกว่ายี่สิบปีแล้ว?!