หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า [超级奶爸] – บทที่ 188 ผู้ยิ่งใหญ่

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า [超级奶爸]

บทที่ 188 ผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 188 ผู้ยิ่งใหญ่

โจวอี้ต้องการปลูกฝังให้ถังเสี่ยวรุ่ยเป็นคนที่รู้จักรักษาความลับ

สถานการณ์ของเธอในตอนนี้ไม่ต่างจากพี่ชายของเธอ เด็กชายคนนี้สามารถปล่อยการโจมตีอย่างเช่นลูกศรไฟได้โดยการควบคุมการไหลของมวลพลังไปที่นิ้วของตัวเอง

และเวลานี้ถังเสี่ยวรุ่ยก็สามารถรวบรวมมวลพลังในร่างกายของเธอให้ไหลเข้าไปกักเก็บในจุดตันเถียนตามคำแนะนำของโจวอี้ได้สำเร็จ

“ยังจำคำที่พ่อเพิ่งสอนลูกไปได้ใช่ไหม”

“หนูจำได้” ถังเสี่ยวรุ่ยเห็นว่าโจวอี้จริงจังมาก เธอจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่น

“พ่อเชื่อในตัวลูก เสี่ยวรุ่ยและเสี่ยวถังเป็นคนที่มีเหตุผลมาก พวกลูกให้ความสำคัญกับสัญญาแน่นอน พ่อเชื่อว่าพวกลูกจะไม่ปล่อยน้ำและไฟโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อก่อน” โจวอี้พาถังเสี่ยวรุ่ยกลับไปที่ห้องของเธอและแต่งตัวให้เธอด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่

ถังเสี่ยวรุ่ยเป็นเด็กที่เชื่อฟังและมีเหตุผล

เธอปล่อยให้โจวอี้แต่งตัวให้เธอ และเตือนตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่าต่อให้มีคนเอามีดมาจ่อที่คอของเธอ แต่หากยังไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อคนนี้ เธอจะไม่มีวันใช้มวลพลังอุ่น ๆ ที่อยู่ในจุดตันเถียนของเธอแน่นอน เธอจะไม่มีทางให้ใครเห็นว่าเธอสามารถควบคุมน้ำแข็งได้

จากนั้นโจวอี้ก็พาถังเสี่ยวรุ่ยไปที่ห้องนั่งเล่น เปิดทีวีให้ดู และปล่อยให้เธอกินของว่างไปขณะดูทีวี ส่วนเขาและถงหู่ออกไปที่สนาม

โจวอี้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาอาจารย์ของเขา

ติ๊ด ติ๊ด….!

อีกฝ่ายตัดสายทันที

เขาโทรอีกครั้ง และอีกฝ่ายก็ยังคงตัดสาย

โจวอี้ยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว เขามองไปที่ถงหู่และพูดว่า “อย่าถามฉันว่าทำไม ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวถังสามารถปล่อยและควบคุมไฟได้ และนายก็คงเห็นแล้วว่าเสี่ยวรุ่ยเป็นยังไง เธอสามารถควบคุมน้ำหรือทำให้กลายเป็นน้ำแข็งได้ด้วย”

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่ออีกว่า “เฮ้อ ฉันอยากจะโทรหาอาจารย์เพื่อถามเรื่องนี้ แต่อาจารย์ไม่รับสาย ทำไมฉันรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งแบบนี้เนี่ย?”

ทว่าทันใดนั้น ร่างที่แผ่กลิ่นอายล้ำลึกสุดแสนที่จะหยั่งก็ปรากฏตัวขึ้น

หลังจากรู้สึกว่าหน้าผากตัวเองถูกดีดจนมึนงงไปครู่หนึ่ง โจวอี้ก็เห็นสตรีอายุมากกว่า 40 ปีแต่ยังคงงดงามและมีเสน่ห์ ซึ่งบัดนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

เธอสวมชุดสีขาว ชุดที่เธอสวมใส่เป็นรูปแบบการผสมผสานระหว่างเสื้อผ้าแบบโบราณและสมัยใหม่ที่ลงตัว เธออุ้มแมวเปอร์เซียไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก

“อ…อาจารย์” โจวอี้ลูบหน้าผากที่เจ็บปวดของตัวเอง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และเขารีบพุ่งไปกอดเธอทันที

“เมี๊ยว!!”

บางทีโจวอี้อาจใช้กำลังมากเกินไปเล็กน้อย แมวเปอร์เซียที่ถูกกอดแน่นไปด้วยก็ถึงกับร้องลั่น

เมื่อโจวอี้ถูกฉู่เทียนฮุ่ยผลักออก เขาก็พบว่าดวงตาของแมวเปอร์เซียตัวนี้กำลังจ้องมาที่เขาด้วยความแค้นใจ

“แค่ก ๆ ฉันตื่นเต้นมากไปหน่อยที่ได้เจออาจารย์ นายสบายดีไหมเสี่ยวกั๋วกั๋ว” โจวอี้อุ้มแมวเปอร์เซียสีขาวราวกับหิมะด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ พลางลูบหัวเล็ก ๆ ของมันเบา ๆ

เสี่ยวกั๋วกั๋วสะบัดหน้าหนี แสดงสีหน้าไม่พอใจราวกับมนุษย์

“ฮ่า ฮ่า ฉันจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้นายกินเพื่อชดเชยก็แล้วกันนะ” โจวอี้หัวเราะ

ดวงตาของแมวเปอร์เซียเป็นประกายทันที ความขุ่นเคืองในดวงตาของมันลดลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันจึงเอาหัวเล็ก ๆ ของมันมาถูกับหน้าอกของโจวอี้อย่างออดอ้อน

“อาจารย์ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ผม? ไม่สิ อาจารย์รู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่?” โจวอี้ถาม

“แค่รู้ว่านายอยู่ที่ไหนนี่มันไม่ลำบากนักหรอก” ฉู่เทียนฮุ่ยอุ้มแมวกลับมาในอ้อมแขนของเธอ แล้วเดินเข้าไปในวิลล่าทันที

“เฮ้ เฮ้ อาจารย์ ผมรู้ว่าอาจารย์ฉลาดที่สุด ไม่แปลกที่จะรู้ว่าผมอยู่ที่ไหน แต่ผมแค่สับสน!” โจวอี้กล่าวอย่างงุนงง เมื่อเขามาถึงห้องนั่งเล่น เขาชี้ไปที่ถังเสี่ยวรุ่ยแล้วพูดว่า “นี่คือลูกสาวบุญธรรมของผม ถังเสี่ยวรุ่ย และยังมีเด็กชายอีกคนที่ผมรับเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งเป็นพี่ชายของเธอ ชื่อถังเสี่ยวถัง”

“เหมียวเหมี่ยวอยู่ที่ไหน” ฉู่เทียนฮุ่ยถาม

“ไปโรงเรียน”

“อืม!”

ฉู่เทียนฮุ่ยพยักหน้า ก่อนจะเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลง เธอวางแมวเปอร์เซียไว้ข้าง ๆ แล้วโบกมือ ทันใดนั้นคลื่นของอากาศก็เกิดขึ้น มันม้วนพันร่างของถังเสี่ยวรุ่ย ดึงเอาเด็กหญิงตัวน้อยเข้ามาหา จากนั้นก็กอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน

“ไม่ต้องกลัว” ฉู่เทียนฮุ่ยยกมือขึ้นลูบผมนุ่มสลวยของถังเสี่ยวรุ่ยอย่างอ่อนโยน

ถังเสี่ยวรุ่ยไม่ได้ดิ้นขัดขืน เธอรู้ว่าขาซ้ายของเธอพิการ การดิ้นรนต่อสู้ไปนั้นเปล่าประโยชน์

ฉู่เทียนฮุ่ยเอื้อมมือไปแตะขาซ้ายของถังเสี่ยวรุ่ย เธอพยักหน้าช้า ๆ และพูดว่า “น่าเสียดายที่ต้องพิการตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ไม่เป็นไร มันสามารถรักษาให้หายได้หลังจากรักษาไประยะหนึ่ง…”

เสียงของฉู่เทียนฮุ่ยหยุดไปกะทันหัน

สีหน้าที่เคยใจดีของเธอแปรเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาด เธอสัมผัสบนจุดชีพจรของถังเสี่ยวรุ่ย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองโจวอี้และถามว่า “นายตรวจสอบร่างกายของเด็กคนนี้แล้วหรือยัง นายรู้ไหมว่าเธอเป็นอะไร?”

“ใช่ ผมโทรหาอาจารย์สองรอบแล้วเพื่อจะขอคำแนะนำเรื่องนี้”

“ไอ้ตัวแสบ นายโชคดีจริง ๆ ครั้งนี้นายเจออัญมณีล้ำค่าเข้าให้แล้ว!” ฉู่เทียนฮุ่ยส่ายหัวและยิ้ม

“อาจารย์ เสี่ยวรุ่ยสามารถปล่อยลูกศรน้ำแข็งและควบคุมน้ำได้ ส่วนเสี่ยวถังพี่ชายของเธอสามารถปล่อยไฟและควบคุมไฟได้ ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน”

“ฮะ? พี่ชายของเธอปล่อยไฟได้? ควบคุมไฟได้?” ฉู่เทียนฮุ่ยรู้สึกตกตะลึง

“ใช่!” โจวอี้พยักหน้า

ฉู่เทียนฮุ่ยเงียบไป เธอเริ่มไม่เข้าใจลูกศิษย์คนนี้ที่ถูกเธอเลี้ยงดูมา

โจวอี้เป็นคนโชคดี เขาสามารถหาวัตถุดิบยาล้ำค่า แร่ล้ำค่า และแม้แต่นำสัตว์ป่าหายากกลับมาได้เสมอเมื่อเขาเข้าไปในป่า

ตอนนี้เขาอยู่ในจินหลิงมานานแค่ไหนแล้ว? คนที่โชคดีปกติทั่วไปไม่มีทางที่จะพบเด็กที่มีร่างกาย “ไฟและน้ำแข็ง” และรับพวกเขาเป็นบุตรบุญธรรมได้แบบนี้!

“อาจารย์ บอกผมหน่อยสิ! พวกเขาเป็นยังไงกันแน่?”

ฉู่เทียนฮุ่ยลูบผมของถังเสี่ยวรุ่ยและพูดเบา ๆ “มีคำอธิบายอยู่สองแบบ แบบแรกขออธิบายเป็นแบบเต๋า สถานการณ์ของเด็กน้อยทั้งสองคือพวกเขามีกายาหยางสุดขั้ว และกายาหยินล้ำลึก หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่ากายไฟแต่กำเนิด และกายน้ำแต่กำเนิด”

“แบบที่สอง อธิบายตามแบบคนสมัยใหม่ที่ไม่ค่อยเข้าใจอะไรก็คือ พวกเขาเป็นพวกที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ก็คือพลังไฟและพลังน้ำ”

“เต๋าฟ้าดินนั้นลึกลับ ดังนั้นบางทีในสังคมปัจจุบันหรือแม้แต่ในโลกของผู้ฝึกยุทธ์ คนแบบนี้จะถูกเรียกว่าตัวตนเหนือธรรมชาติ”

ฉู่เทียนฮุ่ยพูดจบ เธอมองไปที่ท่าทางแปลก ๆ ของโจวอี้และถงหู่ และพูดต่ออีกว่า “นายเคยอาศัยอยู่แต่ในภูเขาและป่า ดังนั้นก็เลยไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับโลกภายนอก แม้ตัวตนแบบนี้จะพิเศษมาก แต่จะพูดว่าพวกเขามีจำนวนน้อยก็ไม่ใช่ คนที่มีตัวตนแบบนี้ในจีนน่าจะมีไม่ต่ำกว่าสี่หลัก”

สี่หลัก?

หลายพันคน?

ดวงตาของโจวอี้เบิกกว้าง

ฉู่เทียนฮุ่ยยิ้มและพูดว่า “มีสองคนอยู่ข้างกายนายแล้วนี่ คิดว่าจะไม่มีคนอื่นอีกรึไง?”

โจวอี้รู้สึกโล่งใจ

ไม่รู้ ไม่ได้แปลว่าไม่มี ไม่เคยเห็น ไม่ได้แปลว่ามีน้อย

มีประชากรในจีนมากมายตั้ง 1.4 พันล้านคน ดังนั้นการมีตัวตนพิเศษแบบนี้อยู่หลักพันคนก็นับว่าไม่แปลก เหมือนน้ำไม่กี่หยดในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว

“แต่การมีอยู่ของตัวตนพิเศษแบบนี้โลกน่ะไม่เป็นที่ยอมรับหรอกนะ ดังนั้นหากมีตัวตนพิเศษแบบนี้ปรากฏขึ้น ก็จะถูกคนของคณะกรรมการกำกับดูแลเถิงหลงควบคุม หรือถูกดูดกลืนเข้าไปในคณะกรรมการกำกับดูแลเถิงหลง หรืออาจถูกขับไล่ออกจากประเทศจีน แต่หากตัวตนเหนือธรรมชาติก่ออาชญากรรมร้ายแรง พวกเขาจะถูกสังหาร” ฉู่เทียนฮุ่ยกล่าวเสริม

“อาจารย์รู้เรื่องพวกนี้เยอะจริง ๆ อาจารย์เคยเจอพวกเขามาก่อนเหรอ?”

“ไม่ใช่แค่ฉันที่เคยเจอ แต่นายก็เคยเจอพวกเขาออกจะบ่อย ชายตาบอดทั้งสี่คนในหมู่บ้านโจวเมี่ยวเป็นพวกผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ความสามารถพิเศษของพวกเขาคือมีประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เหนือกว่าคนทั่วไป” ฉู่เทียนฮุ่ยยิ้ม

ชายตาบอดสี่คนนั้น?

ชายชราที่มักพูดว่าสามารถมองเข้าไปในความลับของสวรรค์ และดูชะตากรรมของผู้คนได้?

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า [超级奶爸]

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า [超级奶爸]

Status: Ongoing
หลังจากอยู่บนภูเขามานานนับปี แต่ทันทีที่เห็นภาพลูกสาวผู้น่ารักที่เกิดกับภรรยาที่พรากจากกันไป ใจของเขาก็ละลายจนอยากทำหน้าที่ ‘ป๊ะป๋า’ ขึ้นมา!โจวอี้ ชายหนุ่มอัจฉริยะแพทย์แผนจีนและอาศัยอยู่บนภูเขาชางหลางมานานตัดสินใจลงจากเขาทันทีที่รู้ว่าตัวเองมีลูกสาวตัวน้อยน่ารักกับศรีภรรยาคนสวย แต่เมื่อพบกับทั้งภรรยาและลูกแล้ว ดูเหมือนภรรยาจะไม่ต้อนรับเขาสักเท่าไหร่เนี่ยซิ!นอกจากนี้ เขายังได้ค้นพบว่าการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่มันช่างต่างกับอยู่บนภูเขานัก แต่โจวอี้ก็ไม่ยอมแพ้ เขาจะใช้สารพัดวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดจากสุดยอดปรมาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนจีน การวาดภาพและเขียนพู่กันมาสร้างความมั่งคั่ง และทำให้ภรรยาของเขาและลูกยอมรับและภูมิใจให้ได้!!โจวอี้จะทำสำเร็จหรือไม่?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท