เหลิ่งรั่วปิงทำงานนานกว่าสองชั่วโมงโดยไม่ดื่มน้ำแม้แต่อึกเดียว ผู้ช่วยทั้งสองคนของเธอก็ไม่ได้สนใจเธอ
เธอวางปากกาและไม้บรรทัดในมือลง จากนั้นยกแก้วน้ำข้างๆ ขึ้นมาดื่ม น้ำนี้เป็นน้ำเย็น การดื่มน้ำเย็นๆ ในฤดูหนาวนั้นรู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงบอกกับผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้าง “รบกวนไปเติมน้ำร้อนให้ฉันแก้วหนึ่ง ขอบคุณค่ะ”
ผู้ช่วยทั้งสองคนของเธอเป็นหญิงสาวอายุน้อยทั้งสองคน อายุของพวกเธอไม่แตกต่างจากเหลิ่งรั่วปิงมาก พึ่งมาทำงานที่บริษัทหนานกงได้ไม่นาน พวกเธอเรียนจบสถาปัตยกรรมด้านการออกแบบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทีแรกได้มาเป็นผู้ช่วยของบริษัทหนานกงก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากเท่าไหร่ เพราะถึงอย่างไรก็ตามการได้เข้ามาทำงานที่บริษัทหนานกงก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
แต่ว่าวันนี้ พวกเธอได้เจอกับเหลิ่งรั่วปิง ทั้งที่เป็นนักศึกษาจบใหม่มาเหมือนกัน แต่เธอมีสิทธิ์อะไรได้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีแบบนั้น
ความอิจฉาริษยา เป็นสันดานของผู้หญิง
ดังนั้น ทัศนคติของผู้ช่วยทั้งสองคนที่มีต่อเหลิ่งรั่วปิงจึงไม่ดีมากนัก เหลิ่งรั่วปิงออกคำสั่งไปนานแล้ว แต่กลับไม่มีใครยอมทำตาม ในทางตรงกันข้ามพวกเธอกลับกรอกตามองบนมาด้วยความดูถูก
แน่นอนว่าเหลิ่งรั่วปิงรู้ดีว่าภายในใจของพวกเธอกำลังคิดอะไร ด้วยเหตุนี้เธอจึงเลิกคิ้วขึ้น “ทำไม ฉันที่เป็นสถาปนิก ไม่สามารถที่จะใช้งานผู้ช่วยของตัวเองได้งั้นหรอ”
แววตาของเธอเย็นยะเยือกเหมือนคมดาบ เสียงของเธอเย็นเฉียบ เคล้าไปด้วยคำสั่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ผู้ช่วยทั้งสองคนนี้เป็นแค่ไก่อ่อน พวกเธอไม่ได้ผ่านการฝึกฝนที่ทรหดมาเหมือนกับเหลิ่งรั่วปิง วินาทีที่เธอมองด้วยสายตาเย็นชานั้น พวกเธอทั้งสองคนก็กลัวแล้ว
ด้วยเหตุนี้ หนึ่งในผู้ช่วยก็ลุกขึ้นแล้วไปเติมน้ำร้อนมาให้กับเธอด้วยความไม่เต็มใจ
“วางเอาไว้” เมื่อเติมน้ำมาให้แล้วนั้น เหลิ่งรั่วปิงกลับไม่มีอารมณ์ที่จะดื่มน้ำ เธอมองไปที่ผู้ช่วยด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็วาดรูปของตนเองต่อ
เมื่อผู้ช่วยได้รับการตอบกลับที่เย็นชาแบบนั้น ภายในใจของเธอก็รู้สึกไม่ยุติธรรม ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้วเริ่มพูดนินทาเสียงเบา
“ชิ ดูความหยิ่งของยัยนั่นสิ มีอะไรดีกัน! “
“ใช่ ที่ขึ้นมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ก็เพราะเอาตัวเข้าแลกไม่ใช่หรือไง”
“หน้าไม่อาย! “
“ผู้หญิงชั้นต่ำ! “
สองประโยคก่อนหน้าที่พวกเธอพูดนั้น เหลิ่งรั่วปิงสามารถคิดว่าเป็นเพียงแค่ลมปาก ไม่ต้องไปสนใจ แต่สองประโยคสุดท้ายนั้นด่าทอเธอเต็มๆ เธอเหลิ่งรั่วปิงเป็นใคร เป็นถึงนักฆ่าในตอนกลางคืนที่สามารถเอาชีวิตศัตรูได้ในชั่วพริบตา ทำไมต้องมาทนกับผู้ช่วยสองคนนี้ด้วย
รหัสของเธอคือนางฟ้าพระอาทิตย์ตกดิน อีกชื่อหนึ่งของเธอคือความสง่างาม ต่อให้เธอฆ่าคนก็จะฆ่าอย่างมีศิลปะ
เห็นเพียงแค่ หญิงสาวที่สวยและบริสุทธิ์เหมือนนางฟ้า เธอลุกขึ้นด้วยความสง่างาม จากนั้นยกแก้วน้ำร้อนที่อยู่ข้างมือไปด้วย เธอเดินไปตรงหน้าผู้ช่วยด้วยท่วงท่าที่งดงาม พร้อมกับคลายยิ้มด้วยความสง่า
ทันใดนั้นเอง น้ำร้อนในแก้วก็ถูกสาดเข้าหน้าของผู้ช่วย
“อ๊ากกก” ภายในออฟฟิศมีเสียงกรีดร้องเหมือนกำลังฆ่าหมูดังขึ้น ผู้ช่วยสาวเอามือปิดหน้าเอาไว้แล้วลงไปกลิ้งนอนบนพื้น
ผู้ช่วยอีกคนถึงกับหน้าถอดสี มองดูคนที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความสั่นเทา โดยที่เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่ดี
ทว่าเหลิ่งรั่วปิงกลับทำหน้านิ่งเฉย ยังคงคลายยิ้มบางๆ อย่างสง่างาม จากนั้นมองดูผู้ช่วยอีกคนที่ยังอยู่ดี “เมื่อกี้เธอเห็นอะไรบ้าง”
“ฉัน…ฉันเห็น…” ผู้ช่วยตกใจจนพูดติดอ่าง “คุณใช้น้ำร้อนสาดหน้าเธอ”
เหลิ่งรั่วปิงกระตุกยิ้มเล็กน้อย เหมือนดอกฝิ่นที่กำลังผลิบาน “เธอ…โง่มาก! “
พอสิ้นเสียง วงเวียนที่อยู่บนโต๊ะก็ลอยขึ้นสูงในทันที เหลิ่งรั่วปิงด้วยความสง่างามหมุนวงเวียนรอบมือของเธอด้วยท่วงท่าที่สง่างาม จากนั้นเธอก็แทงไปที่คอของผู้ช่วยด้วยความรวดเร็ว ผู้ช่วยเจ็บจนตัวชักขึ้นมา แต่กลับไม่สามารถส่งเสียงร้องใดๆ ได้
เหลิ่งรั่วปิงคือนักฆ่าในตอนกลางคืน เธอคุ้นเคยกับโครงสร้างของร่างกายมนุษย์ไม่น้อยไปกว่าหมอ จุดไหนที่สามารถเอาชีวิตได้ทันที จุดไหนที่สามารถทำให้คนเจ็บแต่กลับไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตนั้น เธอรู้ดี
ดังนั้น ผู้ช่วยคนนี้จึงไม่มีความอันตรายถึงชีวิต แต่เธอแค่จะเจ็บจนยากที่จะทน อีกทั้งยังไม่สามารถพูดออกมาได้ เส้นเสียงของเธอได้รับความเสียหายแล้ว แต่สิ่งที่ผู้ช่วยคนนี้ไม่รู้ก็คือ อีกเพียงแค่ไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น วงเวียนนี้ก็จะแทงเข้าไปยังเส้นเลือดใหญ่ของเธอแล้ว
Related