เหลิ่งรั่วปิงนิ่งงัน แล้วคลายยิ้มบางๆ “ค่ะ เดี๋ยวฉันพยุงคุณไปอาบน้ำเองนะคะ” เวลานี้หนานกงเยี่ยเหมือนเด็กน้อยที่กำลังน้อยใจ
เมื่อได้ยินเหลิ่งรั่วปิงรับปาก หนานกงเยี่ยยิ้มร่าทันที เขายื่นมือออกไปรอให้เหลิ่งรั่วปิงดึงตัวเองขึ้น เหลิ่งรั่วปิงจนปัญญา ทำได้เพียงทำตามความต้องการของเขา เธอเอาแขนของเขาพาดที่หัวไหล่ แบกรับน้ำหนักตัวเขาเอาไว้ เธอพยุงเขาไปในห้องน้ำด้วยความยากลำบาก อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยมาก เมื่อไปถึงอ่างอาบน้ำ จู่ๆ เหลิ่งรั่วปิงก็ปล่อยมือกะทันหัน ทำให้หนานกงเยี่ยล้มลงในอ่าง
อ่างอาบน้ำไม่มีน้ำ หนานกงเยี่ยล้มฟันกระแทกอ่าง “เหลิ่งรั่วปิง คุณรุนแรงมากเลย อยากให้ผมหัวฟาดพื้นตายหรือไง!”
“ฮ่าๆๆ…” เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะเสียงดังอย่างอดไม่ได้ เธอเปิดน้ำในอ่างให้กับเขา “ใครใช้ให้คุณหนักแบบนี้ละคะ”
หนานกงเยี่ยตบน้ำด้วยความน้อยใจ เขาพิงตัวนอนในอ่างอาบน้ำด้วยความเหนื่อยล้า “ถอดเสื้อผ้าให้ผม คุณจะให้ผมอาบน้ำทั้งๆ ที่ใส่เสื้อ?”
มองดูหนานกงเยี่ย เหลิ่งรั่วปิงอยากจะโมโหก็ไม่โมโหแล้ว เธอถอดเสื้อผ้าให้เขาอย่างว่าง่าย แล้วถอดกางเกงให้เขา จากนั้นสระผมให้เขาด้วยความตั้งใจ
หนานกงเยี่ยดื่มด่ำกับการบริการที่ได้มาอย่างยากเย็น แล้วหัวเราะเหมือนคนโง่ “เหลิ่งรั่วปิง คุณทำได้ดีมาก ทำแบบนี้ต่อไปนะ ผมจะให้เช็คไม่ระบุจำนวนคุณวันละหนึ่งใบทุกวัน”
เหลิ่งรั่วปิงไม่ได้พูดอะไร แต่บีบไปที่หน้าของเขา เธอบีบอย่างแรง จนหน้าของหนานกงเยี่ยเป็นรอยแดง
หนานกงเยี่ยเจ็บจนร้องซี๊ด “เหลิ่งรั่วปิง คุณทำอะไรของคุณ”
“ฉันอยากให้คุณมีสติไงคะ พรุ่งนี้เช้าตื่นมาห้ามเบี้ยวละ!”
“หึ คุณเป็นผู้หญิงที่ใจดำและโลภมาก”
เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะ เธอหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้เขา “เรียบร้อยแล้วค่ะ รีบออกไปกันเถอะ”
หนานกงเยี่ยทำตามอย่างว่าง่าย ปล่อยให้เธอลากเขาออกจากอ่างอาบน้ำ จากนั้นยืนนิ่ง กางแขนทั้งสองข้างออกให้เธอเช็ดตัว
เหลิ่งรั่วปิงที่ตอนแรกอยากจะเดินออกไป เมื่อเห็นท่าทีของเขาแล้ว เธอทั้งโมโหและตลก สุดท้ายเธอก็ถือหลักไม่ถือสาคนเมา หยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวให้เขา จากนั้นหยิบชุดนอนมาเปลี่ยนให้เขา แล้วพยุงเขาไปนอนบนเตียง
หนานกงเยี่ยที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขารู้สึกสะอาดและสบายตัว เขาพอใจเป็นอย่างมาก ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มเตรียมเข้านอน แต่กลับถูกเหลิ่งรั่วปิงปลุก เธอหยิบโทรศัพท์ยื่นมาตรงหน้าเขา
“ทำไม คุณอยากออกกำลังกาย? วันนี้ผมไม่มีแรงแล้ว”
เหลิ่งรั่วปิงตบปากเขาด้วยความหงุดหงิด “ไม่ต้องพูดเหลวไหล คุณพูดสิ่งที่เมื่อกี้คุณพูดในห้องน้ำอีกรอบสิคะ”
“พูดอะไร”
“ทำไมเบี้ยวเร็วแบบนี้”
“อ่อ เหลิ่งรั่วปิง ผมจะให้เช็คไม่ระบุจำนวนคุณวันละหนึ่งใบทุกวัน”
“โอเคค่ะ นอนกันเถอะ” เหลิ่งรั่วปิงกดหยุดอัดเสียงด้วยความพอใจ เธอซุกโทรศัพท์ไว้ใต้หมอน จากนั้นหลับตาลงด้วยความพอใจ
หนานกงเยี่ยเหยียดตัวลุกขึ้น เขากอดเอวเธอเอาไว้ แล้วพูดเสริมด้วยความสลึมสลือ “แต่ก่อนอื่นคุณต้องดูแลปรนนิบัติผมเป็นอย่างดีนะ”
เหลิ่งรั่วปิงเลือกที่จะไม่สนใจประโยคนี้
*****
วันที่สอง วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เหลิ่งรั่วปิงไม่คิดที่จะตื่นเช้าและเธอเองก็ตื่นไม่ไหวด้วย หนานกงเยี่ยนอนกอดเธอตลอดทั้งคืน มือของเขาเหมือนเหล็กที่ล่ามเธอเอาไว้
กว่าหนานกงเยี่ยจะตื่น พระอาทิตย์ก็ส่องก้นเขาแล้ว สิ่งแรกที่หนานกงเยี่ยทำตอนตื่นนอนก็คือขมวดคิ้ว “ปวดหัวจัง เหลิ่งรั่วปิง คุณช่วยเอาน้ำให้ผมแก้วหนึ่งสิ” น้ำเสียงของเขาไม่ได้ใช่น้ำเสียงออดอ้อนน้อยเนื้อต่ำใจเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว แต่เป็นน้ำเสียงออกคำสั่ง
เหลิ่งรั่วปิงเบะปาก “ค่ะ คุณหนานกง แต่คุณต้องปล่อยฉันก่อนสิคะ ไม่อย่างนั้นจะให้วิญญาณของฉันไปเอาน้ำให้คุณหรือไง”
หนานกงเยี่ยเหมือนเพิ่งตื่นจากการละเมอ เขาเบิกตาโต มองไปที่เหลิ่งรั่วปิงแล้วมองแขนตนเอง จากนั้นก็ปล่อยตัวเธอ สีหน้าของเขาเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เห็นได้ชัดว่าเขายังโกรธเรื่องเมื่อวาน
เหลิ่งรั่วปิงสงสัยว่าเมื่อคืนเขาคงถูกผีสิง ผ่านไปแค่คืนเดียวเปลี่ยนเป็นคนละคน แต่ตอนนี้เธอไม่อยากถือสาเขา เหลิ่งรั่วปิงรินน้ำแล้วยื่นไปที่เตียง “คุณหนานกง น้ำค่ะ”
หนานกงเยี่ยนอนพิงหัวเตียงด้วยสีหน้านิ่งๆ เขาแทบไม่ปรายตามองเธอ ยื่นมือออกมารับแก้วน้ำแล้วดื่ม จากนั้นยื่นกลับมาให้เธอด้วยสีหน้าเย็นชา
เหลิ่งรั่วปิงเบะปาก เธอวางแก้วน้ำเอาไว้บนโต๊ะ จากนั้นซุกตัวเข้าไปในผ้าห่ม ซบลงที่แขนของเขา “อย่าโกรธเลยนะคะ เมื่อวานฉันคิดว่าคุณจะทิ้งฉัน ฉันก็เลยพูดออกไปก่อนเพื่อที่จะได้รักษาหน้าตนเองเอาไว็”
หนานกงเยี่ยตัวแข็งทื่อ เห็นได้ชัดว่าเขาคิดไม่ถึงแม้แต่น้อย ผู้หญิงที่หยิ่งทระนงอย่างเหลิ่งรั่วปิงจะเป็นฝ่ายอ้อนเขา เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเขาพอจำได้บ้าง อย่างน้อยเขารู้ว่าเธอเป็นคนอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา คิดไปคิดมาอันที่จริงเธอก็ดีกับเขาอยู่ จู่ๆ ความโมโหของเขาก็หายไปเหมือนถูกเครื่องดูดฝุ่นดูดออกไปจนหมด ไม่อยากโกรธเธอแล้ว
แต่ว่า เขาเองก็เป็นคนที่ทะนงตน ไม่สามารถยอมลดศักดิ์ศรีทันที “ใช่ ผมอยากทิ้งคุณ”
เหลิ่งรั่วปิงกรอกตาสีนิลของเธอไปมา แล้วเอาคางของตนเองไปเกยบนแขนของเขา “ใช่หรอคะ แล้วทำไมเมื่อคืนถึงต้องทำสัญญาแบบนั้นด้วย”
คิ้วหนาของหนานกงเยี่ยสั่นเทาเล็กน้อย เขาหันไปมองเธอ “ผมสัญญาอะไร”
“ฮ่าๆๆ…” เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะเบาๆ เธอยิ้มตาหยี แล้วหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ใต้หมอนออกมา
มองดูสิ่งที่เธอทำ หนานกงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม น้อยครั้งมากที่เธอจะดูขี้เล่นแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนตกอยู่ในหลุมพราง
เป็นจริงตามนั้น หนึ่งวินาทีถัดมาเขาก็ได้ยินคำพูดที่ทำให้ตนอยากจะถอนหายใจยาวๆ “อ่อ เหลิ่งรั่วปิง ผมจะให้เช็คไม่ระบุจำนวนคุณวันละหนึ่งใบทุกวัน”
คำพูดนี้เขาเป็นคนพูด? ทำไมคำพูดแบบนี้ถึงออกมาจากปากเขาได้ แต่ว่า เขาเป็นคนพูดประโยคนี้จริงๆ!
ทำไมเสียงของเขาถึงดูปัญญาอ่อนแบบนี้ เป็นเสียงงุ้งงิ้งเหมือนเสียงเด็ก อย่างไม่รู้ตัว หน้าของหนานกงเยี่ยแดงระเรื่อ เขาถึงกับทำตัวไม่ถูก
หนานกงเยี่ยเม้มกัดฟัน พยายามนึกว่าทำไมตนเองถึงสัญญาอะไรแบบนี้ลงไป แต่เขากลับนึกไม่ออกแม้แต่น้อย หันไปมองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความตกใจ ซึ่งเธอกำลังเงยหน้าขึ้นมองเขา จู่ๆ หนานกงเยี่ยก็หัวเราะ เหมือนคลื่นที่ถูกลมซัด “เหลิ่งรั่วปิง เมื่อคืนคุณฉวยโอกาสตอนผมเมาแล้วแอบทำอะไรบางอย่างใช่ไหม”
เหลิ่งรั่วปิงแกล้งทำเป็นไม่พอใจ “ที่แท้คุณหนานกงเป็นผู้ชายที่เหล้าเข้าปากแล้วชอบขี้โม้ใช่ไหมคะ พอสร่างเมาก็เบี้ยวอีก ไม่รู้จริงๆ ว่าคุณเคยใช้ไม้นี้หลอกผู้หญิงมาแล้วกี่คน เฮ้อ ช่างเถอะค่ะ ฉันไม่ถือสาหรอก”
หนานกงเยี่ยโมโหทันที เขาเชยคางเหลิ่งรั่วปิงขึ้นมา “ผมเป็นคนแบบนั้นหรอ คนอย่างผมหนานกงเยี่ยเวลาต้องใช้วิธีหลอกผู้หญิง?”
“เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญค่ะ”
หนานกงเยี่ย “…”
“โอเคๆ งั้นผมขอถามคุณหน่อย ทำไมผมต้องสัญญาอะไรแบบนี้ด้วย แล้วตอนสัญญามีข้อแรกเปลี่ยนอะไรไหม”
“มีค่ะ ฉันต้องไม่เลิกกับคุณ ขอแค่ฉันเป็นผู้หญิงของคุณ คุณก็จะให้เช็คไม่ระบุจำนวนฉันวันละหนึ่งใบทุกวัน”
“…” หนานกงเยี่ยเงียบไม่ยอมตอบ ในใจของเขารู้สึกลังเลขึ้นมา จากความกลัวการจากไปของเธอ มีความเป็นไปได้ที่เขาจะทำสัญญาบ้าๆ แบบนี้ในตอนขาดสติ แต่เขาไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะขาดเหตุผลถึงขั้นนี้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ได้ ทว่าเสียงที่เธออัดไว้เป็นเสียงของเขาจริงๆ
มองไปที่เหลิ่งรั่วปิงอีกครั้ง สีหน้าของเธอนิ่งเฉย ทำให้คนอ่านไม่ออก ริมฝีปากของเธอ เหมาะแก่การจูบเท่านั้น ไม่เหมาะในการพูด เพราะเธอสามารถพูดโกหกได้อย่างแนบเนียน อีกทั้งยังพูดหน้าตายอีกด้วย
หลังจากผ่านไปนานครู่หนึ่ง หนานกงเยี่ยหัวเราะ เขาตบหน้าเหลิ่งรั่วปิงเบาๆ เม้มกัดฟัน “ครับๆ ผมทำตามที่สัญญาเอาไว้ตอนนี้เลย โอเค?”
“คุณอย่าฝืนตัวเองเลยค่ะ ฉันเองก็ไม่ใช่คนจริงจังอะไรขนาดนั้น ฉันถือว่าคนเมาชอบขี้โม้แล้วกัน…”
เหลิ่งรั่วปิงอยากจะแกล้งเขาอีกสักหน่อย แต่หนานกงเยี่ยกลับมองมาที่เธอด้วยสายตาเย็นชา เธอรีบกลืนคำพูดประโยคหลังลงท้องทันที ช่างเถอะ ในเมื่อตนเองเป็นฝ่ายได้เปรียบแล้วก็อย่าแกล้งเขาเลย!
หนานกงเยี่ยเซ็นเช็คอย่างรวดเร็ว ยื่นไปตรงหน้าเหลิ่งรั่วปิง “ต่อให้เป็นสิ่งที่ผมพูดโอ้หลังเมาเหล้า ผมก็จะรักษาสัญญา”
เหลิ่งรั่วปิงยิ้มแล้วรับเช็คมา “คุณหนานกงพูดไหนคำนั้น นับถือ!นับถือ!” พูดจบ เหลิ่งรั่วปิงเดินลงจากเตียงเพื่อไปล้างหน้าแปรงฟัน วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เธออยากไปเจอเวินอี๋
“เดี๋ยวก่อน” เสียงของหนานกงเยี่ยลอยมา “คุณลืมเงื่อนไขการให้เช็คไม่ระบุจำนวนเงินไปแล้วหรอ”
เหลิ่งรั่วปิงหันหน้ามาด้วยความตะลึง “อะไรคะ”
หนานกงเยี่ยหัวเราะในลำคอ “คุณบอกว่าเงื่อนไขคือการเป็นผู้หญิงที่ดีของผมไม่ใช่หรอ ในเมื่อเป็นผู้หญิงของผม ผมก็ควรมีภารกิจให้ทำ หื้ม?”
“ภารกิจ?” เหลิ่งรั่วปิงเดาออกว่าเขาอยากให้เธอทำอะไร แต่เธอก็ยังแกล้งถามออกไป
“ภารกิจ?” หนานกงเยี่ยแสยะยิ้มแล้วเดินมาหาเหลิ่งรั่วปิง “ความจำของคุณแย่ขนาดนี้เชียว บริการผู้ชายไม่เป็นหรอครับ”
เหลิ่งรั่วปิงหน้าแดงระเรื่อ ผู้ชายที่ไม่มีอารมณ์ขันอย่างหนานกงเยี่ย มีน้อยมาก “คุณหนานกงเยี่ย คุณมันขี้โกง!”
“ฮ่าๆๆ…” หนานกงเยี่ยหัวเราะ เขากระตุกยิ้มมุมปาก ล็อคตัวเหลิ่งรั่วปิงเอาไว้ในอ้อมกอด แล้วจูบเธออย่างเอาแต่ใจ เธอเป็นคนพูดเก่งมาก หลอกให้เขาเซ็นเช็คไม่ระบุจำนวนเงินให้ทุกวัน แต่จากนิสัยกล้าเรียกเงินครั้งละจำนวนมากๆ อย่างเธอ รายจ่ายของเขาในวันข้างหน้าต้องบานแน่ๆ สิ่งที่ต้องจ่ายด้วยเงินมากขนาดนี้ เขาต้องดื่มด่ำกับริมฝีปากคู่สวยของเธอ
เสียงเงียบลง เหลิ่งรั่วปิงนอนอยู่บนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า หน้าตาของเธอในตอนนี้เหมือนถูกเอาเปรียบ ทางด้านหนานกงเยี่ยกลับดูอารมณ์ดี เขาตบไหล่เธอเบาๆ แล้วพูดขึ้น “ยังไม่ตื่นนอนอีก คุณจะขี้เกียจไปถึงไหนครับ”
เหลิ่งรั่วปิงก้มหน้ามองดูรอยแดงเล็กใหญ่บนตัว เธอหันไปมองหนานกงเยี่ยด้วยความโมโห “ฉันต้องไปหาเวินอี๋ คุณทำให้ฉันกลายเป็นแบบนี้แล้วจะไปหาเธอได้ยังไง”
หนานกงเยี่ยยิ้มแล้วอุ้มเธอไปในห้องน้ำ เขาเปิดน้ำให้เธอ พูดโวยวายใหญ่โตซึ่งไม่เหมือนนิสัยของเขาเลย “คุณเจอเวินอี๋บ่อยเกินไปหรือเปล่า หื้ม? เธอมีแฟน คุณเองก็มีแฟน พวกคุณช่วยอยู่กับผู้ชายของตนเองหน่อยไม่ได้หรอ พอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็เอาแต่ไปหาเวินอี๋ คุณไม่ได้อยู่กับผมมากี่สัปดาห์แล้ว หื้ม?