ตอนที่ 234 เหลิ่งรั่วปิงหนีไปแล้ว
“ฉันใจร้ายเหรอคะ คนที่บ้านแตกสาแหรกขาดไม่ใช่คุณ คุณไม่มีวันเข้าใจความเจ็บปวดของฉันหรอกค่ะ” เหลิ่งรั่วปิงดึงนิ้วมือของหนานกงเยี่ยที่ล็อกเอวเธอเอาไว้ออกทีละนิ้ว “ถ้าคุณยอมเซ็นใบหย่าให้ฉัน ฉันจะขอบคุณคุณมาก”
“ใบหย่า คุณอย่าเพ้อฝันเลย” คำพูดทุกคำของหนานกงเยี่ยหนักแน่นมาก
เหลิ่งรั่วปิงรู้แต่แรกแล้วว่าหนานกงเยี่ยไม่มีวันปล่อยเธอไป และยิ่งไม่มีวันเซ็นใบหย่าให้เธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ดึงดัน เพียงแค่ยืนนิ่งๆ เพื่อรอเวลาเท่านั้น
ร่างกายของหนานกงเยี่ยผ่านการฝึกฝนมามากมาย ปณิธานของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่า เวลาที่เหลิ่งรั่วปิงคาดการณ์เอาไว้ เขาไม่ได้นอนหลับไปเพราะฤทธิ์ยา แต่กลับยืดเยื้ออยู่กับเธอ มือใหญ่พันธนาการเอวบางของเธอเอาไว้ เหมือนเหล็กที่ล็อกไว้
หนานกงเยี่ยหัวเราะในลำคอ “ที่รัก เหมือนว่ายาของคุณจะไม่มีผลกับผม”
เมื่อแกะมือของเขาไม่ได้ เหลิ่งรั่วปิงก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่เปล่าประโยชน์อีก เธอทำร้ายเขาเพราะต้องการหลุดพ้นจากพันธนาการไม่ได้ “ยาชนิดนี้เป็นยาชนิดพิเศษขององค์กรฉัน ฤทธิ์ยาไม่ได้อ่อนลงเรื่อยๆ ในทางกลับกันฤทธิ์ยาจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ความพยายามของคุณแข็งแกร่งมาก แต่ฤทธิ์ยาก็ยังไม่ออกฤทธิ์เต็มประสิทธิภาพ
หนานกงเยี่ยขยับเข้ามาใกล้ ประทับจูบลงบนแก้มและใบหูของเธอ “อยู่กับผม ได้ไหมครับ”
คำพูดนี้ เต็มไปด้วยความอ้อนวอน เหลิ่งรั่วปิงได้ฟัง หัวใจปวดร้าว น้ำตารื้นขึ้นมา “คุณหนานกงเยี่ย ฉันทำไม่ได้ค่ะ”
หนานกงเยี่ยไม่ขอร้องอีก เพราะเขารู้ดี ขอร้องมากไปกว่านี้ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจเธอได้ ดังนั้นเขาจึงโมโหมาก กัดไปที่ซอกคอของเหลิ่งรั่วปิงอย่างแรง มองดูคราบเลือดที่คอของเธอ มองดูใบหน้าที่ย่นเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด กัดฟันกรอด “เหลิ่งรั่วปิง ผมไม่มีวันให้คุณไปจากผม ถ้าคุณกล้าไป ผมจะพลิกแผ่นดินเพื่อตามหาคุณ”
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่รอเวลาเงียบๆ การจากลาครั้งนี้อาจจะเป็นการลาจากกันตลอดชีวิต เป็นการตัดขาดความรู้สึกที่มีให้กัน วันข้างหน้าเธอจะฆ่าพ่อของเขาหนานกงจวิ้นด้วยมือตนเอง เพื่อแก้แค้น ถ้าหนานกงเยี่ยไม่โกรธแค้นเธอ เธอกับเขาก็จะเป็นแค่คนแปลกหน้า แต่ถ้าหนานกงเยี่ยโกรธแค้นเธอทั้งสองก็จะเป็นศัตรูกัน
นาฬิกาตรงผนัง เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขศูนย์ หนานกงเยี่ยยังคงมีสติดี แต่เรี่ยวแรงของเขาเหลือน้อยมาก เหลิ่งรั่วปิงแกะมือของเขาออกอย่างง่ายดาย
วินาทีที่เธอลุกขึ้น เขาคว้าข้อมือของเธอกะทันหัน เสียงอ้อนวอนไร้เรี่ยวแรง “เหลิ่งรั่วปิง ได้โปรด อย่าไปเลยนะครับ”
เหลิ่งรั่วปิงสูดลมหายใจเข้า กลั้นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดกลับไป แกะนิ้วมือของเขาออกทีละนิ้ว “คุณหนานกงเยี่ย ดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
หลังจากนั้น เธอห่มผ้าให้เขา หยิบโทรศัพท์ของเขาไป พร้อมกับตัดสายโทรศัพท์ภายในของวิลล่า เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินออกไป
หนานกงเยี่ยมองเหลิ่งรั่วปิงเดินออกไป และมองดูประตูที่ปิดลง นัยน์ตาของเขาเปี่ยมด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง มือทั้งสองไร้เรี่ยวแรง กำหมัดไม่ได้ ความปรารถนาอันแรงกล้าทำให้เขายังคงประคองสติเอาไว้ไม่หลับไป
เหลิ่งรั่วปิงเดินลงไปชั้นล่าง ใช้โทรศัพท์ของหนานกงเยี่ยส่งข้อความให้บอดี้การ์ด บอกให้พวกเขาทุกคนมารวมตัวกันที่สวนดอกไม้หลังวิลล่า
หลังจากบอดี้การ์ดตอบกลับ เธอนั่งเงียบๆ สองสามนาที จากนั้นลุกขึ้น เดินออกไปจากวิลล่าโดยไม่มีอะไรมาขัดขวาง พร้อมทั้งหายไปในยามค่ำคืน
เหลิ่งรั่วปิงเดินออกมาจากวิลล่า พร้อมกับโทรหาหมาป่าสีเทา “คุณหมาป่าสีเทา ฉันออกมาจากวิลล่าหย่าเก๋อเรียบร้อยแล้วค่ะ”
หมาป่าสีเทาดีใจมาก “อืม นางฟ้ารัตติกาล หลินมั่นหรูอยู่แถวนั้น ผมจะสั่งให้เธอไปรับทันที”
วางสาย หมาป่าสีเทารีบสั่งการหลินมั่นหรูทันที ในเวลาเดียวกันเขาก็รายงานสถานการณ์ให้ซือคงอวี้รู้
คืนนี้ ซือคงอวี้นอนไม่หลับทั้งคืน เขารอข่าวจากหมาป่าสีเทาตลอดเวลา หลังจากรู้ว่าเหลิ่งรั่วปิงออกมาจากวิลล่าหย่าเก๋อ เขาดีใจมาก รีบโทรหาเหลิ่งรั่วปิงทันที “รั่วปิง!”
เหลิ่งรั่วปิงหยุดชะงัก แล้วเดินต่อไป “เจ้าวิหาร”
“อืม” ซือคงอวี้ตอบรับสั้นๆ เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นพูดขึ้น “คุณบอกผมที ครั้งนี้คุณจะกลับมาแล้วจริงๆ”
“ค่ะ”
“ไม่หนีอีกแล้ว?”
“ใช่ค่ะ”
ซือคงอวี้เงียบไปสองวินาที “อาเธอร์อยู่ในคุก เมื่อไหร่ที่คุณมาถึงซีหลิง ผมจะปล่อยเขาออกมา แต่ถ้าคุณหนี อาเธอร์ต้องตาย!”
“รับทราบค่ะ”
ซือคงอวี้ “เยี่ยม ผมรอคุณกลับมานะ”
“ค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณดาวเทียมติดตามตัวฉันได้ ฉันจะทำลายซิมนี้ทิ้งแล้ว เจ้าวิหารมีคำสั่งอะไรเพิ่มเติมไหมคะ” เสียงของเหลิ่งรั่วปิงเคล้าไปด้วยความเจ็บปวด
ซือคงอวี้กลั้นความเศร้าในใจเอาไว้ “…ระวังตัวหน่อย”
เขาเสียใจมาก เหลิ่งรั่วปิงไม่อยากกลับมาหาเขา เรื่องนี้เขารู้ดี แต่ไม่เป็นไร เวลาที่เหลือหลังจากนี้ เขาจะรักเธอให้มากๆ
หลังจากวางสาย เหลิ่งรั่วปิงทำลายซิบการ์ด ทิ้งไว้ข้างทาง เงยหน้าขึ้นมองดวงดาวบนท้องฟ้า ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความคิดต่างๆ ใบหน้าของหนานกงเยี่ยกลายเป็นดวงดาวมากมาย เปล่งแสงระยิบระยับบนท้องฟ้า เสียงของเขาดังขึ้นที่ข้างหูราวกับลมที่พัดปลิว เขาเป็นผู้ชายที่สลักอยู่ในหัวใจของเธอ เธอไม่อาจลืมหนานกงเยี่ยได้ง่ายๆ
เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับถูกเปิดเผย หมาป่าสีเทาสั่งให้หลินมั่นหรูรอฟังคำสั่งตรงตรอกซอยที่อยู่ห่างจากวิลล่า หลินมั่นหรูขุ่นเคืองใจมาก แต่เธอก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง รอรับเหลิ่งรั่วปิงด้วยความจำยอม ไปเจอกับหมาป่าสีเทาที่ชาญเมืองตะวันตก จากนั้นกลับซีหลิงพร้อมกัน
เธอสิ้นหวังมาก เหลิ่งรั่วปิงกลับซีหลังครั้งนี้ เธอก็จะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อยแล้ว
รู้สึกหงุดหงิดมาก เธอลงจากรถยืนพิงตรงประตูรถแล้วสูบบุหรี่ พ่นควันบุหรี่ออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ผู้หญิงสวยเหมือนดอกไม้ ยืนพิงประตูรถยนต์พ่นควันบุหรี่ มองอย่างไรก็เป็นภาพที่งดงาม
ได้รับคำสั่งจากหมาป่าสีเทา หลินมั่นหรูทิ้งบุหรี่ด้วยความโมโห เหยียบขยี้บุหรี่อย่างแรง ขณะที่เธอกำลังจะขึ้นรถ ร่างที่คุ้นเคยปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน
ถนนในตอนกลางดึก รถสีขาวคันหรูปรากฏขึ้นมา ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งคนขับคือชายในชุดสูททำมือสีขาว ใบหน้าหล่อเหลา บุคลิกโดดเด่น มองอย่างไรก็เหมือนเจ้าชาย เพียงแต่เจ้าชายคนนี้ เวลานี้ดูหงุดหงิดมาก ขณะขับรถก็หมุนพวงพาลัยอย่างไม่ใส่ใจ เขาขับรถช้ามาก
หลินมั่นหรูสวมชุดวอร์มสีดำและหมวกแก๊ป ผมยาวสลวยปล่อยลงมา บดบังใบหน้าของเธอ หากไม่มองอย่างละเอียดคงดูไม่ออกว่าเป็นเธอแน่นอน
มองดูรถของถังเฮ่าที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หลินมั่นหรูเข้าสู่ความสับสน ถ้าตอนนี้เธอรีบเข้าไปหลบในรถ ถังเฮ่าไม่มีวันรู้ว่าเป็นเธอแน่นอน แต่ว่า เธออยากจะหาเรื่องเขาขึ้นมากะทันหัน
ด้วยเหตุนี้ หลินมั่นหรูจึงถอดหมวกแก๊ปด้วยความตั้งใจ สะบัดผม หันหน้าไปยังรถของถังเฮ่า
ถังเฮ่าที่เดิมทีไม่ได้ใส่ใจสิ่งรอบตัว วินาทีที่เห็นหลินมั่นหรู ม่านตาหดเล็ก จอดรถเทียบข้างท้างอย่างรวดเร็ว แล้วลงจากรถ “เสี่ยวหรู!”
แต่ราวกับหลินมั่นหรูไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น เธอเปิดประตูรถ แล้วขับออกไป
ถังเฮ่ารีบกลับไปที่รถ สตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วขับตามรถของหลินมั่นหรูอย่างรวดเร็ว
ถนนในตอนกลางดึก รถคันสีดำและสีขาว กำลังเล่นเกมตามล่า
หลินมั่นหรูมองรถคันสีขาวผ่านกระจกมองหลัง มุมปากของเธอแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอไม่ได้เปลี่ยนทิศทาง ขับตรงไปยังวิลล่าหย่าเก๋อ เธอจะล่อให้ถังเฮ่าไปรับเหลิ่งรั่วปิง
เหลิ่งรั่วปิงเดินตรงไปเรื่อยๆ เธอเห็นรถของหลินมั่นหรูจากที่ไกลๆ แววตาเย็นยะเยือก สำหรับเธอแล้ว หลินมั่นหรูไม่ใช่เพื่อน เพราะผู้หญิงคนนี้ต้องการเอาชีวิตเธอตลอดเวลา
รถจอดตรงหน้าเหลิ่งรั่วปิงกะทันหัน หลินมั่นหรูพูดด้วยความกังวล “รีบขึ้นรถเร็วเข้า มีคนตามฉันมา”
เหลิ่งรั่วปิงหันไปมองรถด้านหลัง นัยน์ตาของเธอเย็นยะเยือกทันที “หลินมั่นหรู ถ้าอยากตายหรือไง ถึงได้ไปยุ่งกับถังเฮ่า”
“หยุดพูดจาไร้สาระ รีบขึ้นรถ เธอคิดว่าฉันอยากหรือไง” หลินมั่นหรูพูดเร่งอย่างเหลืออด
รถของถังเฮ่าขับมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เหลิ่งรั่วปิงไม่มีเวลาคิดมากแล้ว เปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว พุ่งตัวเข้าไปนั่งบนรถยนต์
หลินมั่นหรูเหยียบคันเร่ง ขับรถออกไป
ถึงแม้จะอยู่ห่างกันมาก แต่ถังเฮ่าเห็นชัดว่าเป็นเหลิ่งรั่วปิง ด้วยความฉลาดของเขา เดาทุกอย่างได้ทันที เดิมทีคิดว่าครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เหลิ่งรั่วปิงและหนานกงเยี่ยรักกันหวานชื่น เธอคงล้มเลิกความคิดที่จะไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าเหลิ่งรั่วปิงจะหนีตอนกลางดึกแบบนี้
ถังเฮ่าขับรถตามพวกเธอไปด้วย พร้อมกับโทรหาหนานกงเยี่ย มีแค่เสียงรอสายเท่านั้นแต่กลับไม่มีคนรับ ถังเฮ่าเป็นกังวลมาก ท้ายที่สุดสุดปลายสายก็มีคนรับ แต่คนที่รับกลับเป็นพ่อบ้านของวิลล่าหย่าเก๋อ “คุณชายถัง ผมเป็นพ่อบ้านของวิลล่าหย่าเก๋อครับ ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ของคุณชายเยี่ยหล่นอยู่ในห้องรับแขกตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงหลับไปแล้วครับ คุณชายถังมีธุระด่วนอะไรรึเปล่าครับ”
เสียงของถังเฮ่าเต็มไปด้วยความกังวล “เหลิ่งรั่วปิงหนีไปแล้ว พ่อบ้านรีบไปดูหนานกงเยี่ยในห้องนอนเร็วเข้า ดูว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”
พ่อบ้านตกใจมาก รู้ดีว่าเรื่องนี้ใหญ่แค่ไหน วิ่งขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว เข้าไปในห้องหนานกงเยี่ย
หนานกงเยี่ยในตอนนี้ ไม่ได้อยู่บนเตียง หลังจากเหลิ่งรั่วปิงออกไป เขากลัวตนเองจะเผลอนอนหลับ ดังนั้นจึงกัดนิ้วมือของตนเองอย่างแรง เพื่อประคองสติเอาไว้ จากนั้นรวบรวมแรงทั้งหมดกลิ้งลงจากเตียง คลานไปที่ประตูทีละนิดๆ จากเตียงถึงประตู ระยะห่างสั้นๆ สำหรับเขาในตอนนี้ มันกลับไกลห่าง ใช้เวลาอยู่นานก็ไปไม่ถึงสักที
เห็นพ่อบ้านวิ่งเข้ามา ในหน้าซีดเซียวของหนานกงเยี่ยคลายยิ้ม
“คุณชายเยี่ย คุณเป็นอะไรไปครับ” พ่อบ้านถามด้วยความเป็นห่วง พยุงตัวหนานกงเยี่ยขึ้นมานั่ง “คุณชายเยี่ย เป็นอะไรไปครับ ให้ผมตาหมอไหมครับ”
“ฉันไม่เป็นไร แค่โดนวางยาสลบเท่านั้น” หนานกงเยี่ยเหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว เสียงของเขาไร้เรี่ยวแรง “โทรตามก่วนอวี้ บอกให้เขาส่งคนไปตามเหลิ่งรั่วปิง อย่าให้เธอออกไปจากเมืองหลงเด็ดขาด”
“อ่อ ครับ” พ่อบ้านพยักหน้า ยื่นโทรศัพท์ให้กับหนานกงเยี่ย “คุณชายเยี่ยครับ คุณชายถังเห็นคุณผู้หญิงครับ มีเรื่องอยากจะพูดกับคุณชาย”
หนานกงเยี่ยรับโทรศัพท์มาอย่างรวดเร็ว โทรไปที่เบอร์ของถังเฮ่า “ถังเฮ่า เหลิ่งรั่วปิงอยู่ไหน”
ถังเฮ่า “อยู่ในรถคันสีดำ องค์กรของรั่วปิงส่งคนมารับเธอ ดูเหมือนกำลังมุ่งหน้าไปยังชาญเมืองตะวันตก ฉันเดาว่าที่นั่นน่าจะเป็นเครื่องบินจอดรอเอาไว้”
หนานกงเยี่ยกัดฟันกรอด “ถังเฮ่า ฉันขอร้อง แกต้องช่วยฉันหยุดเธอให้ได้”
ถังเฮ่า “ฉันจะทำสุดความสามารถ แต่ฉันคิดว่าพวกนั้นต้องเตรียมกำลังคนเอาไว้แล้ว ฉันคนเดียวคงหยุดเธอไม่ได้ แกรีบส่งคนมา”
“ได้” หนานกงเยี่ยวางสาย โทรหาก่วนอวี้ทันที “ก่วนอวี้ นายรีบส่งคนของเราไปหยุดเหลิ่งรั่วปิงที่ชาญเมืองตะวันตกเดี๋ยวนี้เลย ต้องหยุดเธอเอาไว้ให้ได้”
ก่วนอวี้ชะงัก เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นทันที พูดเสียงหนักแน่น “ครับ!”