ตอนที่ 256 ทุกอย่างที่คุณทำเพื่อขโมยหัวใจของผม
ห้องเจ้าหญิงทั้งสองห้องล้วนอยู่บนชั้นสาม ประตูห้องอยู่ติดกัน
ตอนที่เห็นห้องเจ้าหญิงที่โทนสีห้องเป็นสีชมพู เหลิ่งรั่วปิงอดหัวเราะไม่ได้ “คุณหนานกงเยี่ย ถึงแม้ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงทั้งสองคน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องตกแต่งห้องเจ้าหญิงถึงสองห้องนี่คะ พวกลูกๆ ยังเด็กอยู่เลย ต้องอยู่ห้องเดียวกันจะได้รักและสนิทสนมกัน”
หนานกงเยี่ยยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ “นอนห้องเดียวกันก็ได้ ส่วนอีกห้องเก็บเอาไว้ตอนตั้งครรภ์รอบที่สอง”
เหลิ่งรั่วปิงหันไปตีหนานกงเยี่ยด้วยความโมโห “คุณหนานกงเยี่ย คุณเห็นฉันเป็นเครื่องตั้งครรภ์หรือไงคะ คลอดท้องแรกเสร็จยังต้องท้องสองต่อเลย?”
หนานกงเยี่ยยิ้มแล้วจับมือเหลิ่งรั่วปิงเอาไว้ มองด้วยสายตาลุ่มลึก “ไม่ใช่แบบนั้นครับ หลังจากคลอดท้องแรกเสร็จ คุณไม่ต้องท้องแล้ว” ทุกครั้งที่เห็นเธอคลื่นไส้รุนแรง อาเจียนออกมามากมาย เขาคิดด้วยความปวดใจ หลังจากคลอดท้องแรกเสร็จ ก็จะไม่ให้เหลิ่งรั่วปิงท้องแล้ว
เหลิ่งรั่วปิงหุบยิ้ม “คุณหนานกงเยี่ย ถึงแม้ฉันจะบอกว่าตนเองปล่อยวางความแค้นแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันลืมมันนะคะ ฉันยังคงเกลียดพ่อของคุณมาก คุณจะว่าอะไรฉันไหม”
หนานกงเยี่ยลูบจับผมยาวสลวยของเธอ “ไม่ครับ” ก้มหน้าลงเล็กน้อย เอาหน้าผากชนกัน “ที่รักครับ ผมติดค้างคุณตั้งมากมาย ผมจะว่าอะไรคุณได้ยังไง” ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกสงสาร “ผมเป็นคนทำให้คุณท้อง บีบบังคับให้คุณกลับมา คุณไม่เกลียดผม ผมก็ดีใจมากแล้วครับ”
หนานกงเยี่ยกอดเหลิ่งรั่วปิงด้วยความปวดใจ “ผมรู้ครับ ถึงแม้คุณจะปล่อยวางความแค้นแล้ว พ่อของผมก็ไม่หยุดทำร้ายคุณ ผมมันแย่เอง ที่ไม่เคยมอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับคุณ ดังนั้น คุณอยากทำอะไร ผมล้วนตามใจคุณทุกอย่าง”
เบอร์โทรศัพท์จากมหาสมุทรทางใต้โทรเข้าเครื่องเหลิ่งรั่วปิง เขารู้แล้ว ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่พ่อของเขา ตอนนี้เขาคงจะบินไปมหาสมุทรทางใต้แล้วฆ่าหนานกงจวิ้นทิ้งอย่างไม่ลังเล เขาจะไว้ชีวิตคนที่อยากจะเอาชีวิตเหลิ่งรั่วปิงตลอดเวลาได้อย่างไร
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้น “คุณหนานกงเยี่ย ฉันอยากจะรื้อถอนคฤหาสน์หนานกง”
หนานกงเยี่ยยิ้มแล้วจับแก้มของเหลิ่งรั่วปิง “ตอนนี้ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของคุณ คุณอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
เหลิ่งรั่วปิงต้องการรื้อถอนคฤหาสน์หนานกง ไม่ได้แค่เพื่อทำให้หนานกงจวิ้นโมโห แต่เพื่อเก็บกวาดคนที่เป็นอันตรายซึ่งแอบแฝงอยู่ในนั้น คนในคฤหาสน์หนานกง มีคนของหนานกงจวิ้นรวมอยู่ด้วย ถ้าไม่จัดการคนพวกนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตามย่อมมีภัยต่อเธอ
หนานกงเยี่ยเองก็เข้าใจข้อนี้ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะทำอะไร เขาล้วนยอมทุกอย่าง
เหลิ่งรั่วปิงไม่ใช่คนอ้อยอิ่ง เธอสั่งให้รื้อถอนคฤหาสน์หนานกงอย่างรวดเร็ว
รื้อถอนคฤหาสน์หนานกง ทำให้อวี้หลานซีไม่มีที่อยู่ ถึงแม้ตอนนี้เธอกำลังคบกับก่วนอวี้ แต่ถ้ายังไม่แต่งงานแล้วเข้าไปอยู่ในวิลล่าของก่วนอวี้ สำหรับอวี้หลานซีที่ได้รับการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่สมควร
“พวกนายสองคนไปจดทะเบียนสมรสกันเถอะ” มองดูก่วนอวี้และอวี้หลานซีที่ความรักกำลังหวานชื่น หนานกงเยี่ยจึงค่อยๆ เปลี่ยนมุมมองความคิดที่มีต่ออวี้หลานซี อยากให้พวกเขาได้แต่งงานกันในเร็ววัน
“แต่ว่า…”อวี้หลานซีลำบากใจเล็กน้อย “พ่อบุญธรรมยังไม่อนุญาตเลยนะคะ”
สายตาของหนานกงเยี่ยกวาดมองไปที่อวี้หลานซีช้าๆ “ถ้าเขาไม่อนุญาต คุณจะทำยังไง”
อวี้หลานซีเม้มกัดริมฝีปาก ไม่รู้จะตอบยังไง เธอหันไปมองก่วนอวี้ แล้วก้มหน้าลง
หนานกงเยี่ยมองก่วนอวี้ “นายอยากจะแต่งงานกับอวี้หลานซีไหม”
ก่วนอวี้พยักหน้า “แน่นอนครับ” เขาอยากจะแต่งงานกับเธอมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว
“หลานซี” หนานกงเยี่ยหันไปมองอวี้หลานซี “คุณบอกผมมาตามตรง คุณอยากแต่งงานกับก่วนอวี้ไหม”
อวี้หลานซีตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “แน่นอนค่ะ” ตั้งแต่วินาทีที่ก่วนอวี้เอาตัวมาบังกระสุนให้เธอ เธอก็รู้ใจตัวเองแล้ว เธอจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปพร้อมกับเขา
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา ไปจดทะเบียนสมรสกันเถอะ” หนานกงเยี่ยพูดเสียงหนักแน่น “ความคิดเห็นของพ่อไม่สำคัญ พ่อน่าจะพักรักษาตัวบนเกาะ ไม่มีวันมาที่เมืองหลงแล้ว”
ก่วนอวี้และอวี้หลานซีมองหน้ากัน พวกเขาล้วนเป็นคนฉลาด เข้าใจในสิ่งที่หนานกงเยี่ยพูด
ก่วนอวี้จับมืออวี้หลานซี “ครับ ผมจะทำตามที่คุณชายเยี่ยบอกครับ”
อวี้หลานซีมองหนานกงเยี่ยด้วยความซาบซึ้ง “เยี่ย ขอบคุณที่คุณทำให้เราสองคนสมหวังนะคะ” ก่อนหน้านี้เธอทำเรื่องเลวร้ายมากมาย เธอไม่เคยคาดหวังว่าวันหนึ่งหนานกงเยี่ยจะเปิดใจยอมรับเธออีก
หนานกงเยี่ยคลายยิ้มบางๆ “ทั้งคุณและก่วนอวี้โตมาพร้อมกับผม เป็นญาติเป็นคนสนิทของผม เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วไป ผมมีความสุขกับตอบจบนี้”
ภายใต้การสนับสนุนของหนานกงเยี่ย อวี้หลานซีและก่วนอวี้ไปจดทะเบียนสมรส พร้อมทั้งย้ายเข้าไปอยู่ในวิลล่าลี่จิ้ง สิ่งนี้ทำให้หนานกงเยี่ยรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ทั้งสองคนล้วนเป็นคนที่เขารักและสนิทสนมที่สุด จบลงอย่างมีความสุขแบบนี้ ทำให้เรื่องเลวร้ายทั้งหมดหายไปราวกับควันบุหรี่ ทั้งสองยังคงเป็นคนสำคัญของเขา
คฤหาสน์หนานกงใช้เวลาสองวันก็กลายเป็นลานกว้าง คนงานทั้งหมดในคฤหาสน์ถูกกำจัดไปจนหมด สำหรับหนานกงเยี่ยและเหลิ่งรั่วปิง นี่เป็นการกำจัดอันตรายออกไป
อาการแพ้ท้องคลื่นไส้อาเจียนของเหลิ่งรั่วปิงค่อยๆ ดีขึ้นแล้ว เธอเริ่มรู้สึกเบื่อ ไม่อยากเสียเวลาในทุกวันไปกับการกินและนอนแบบนี้อีก เธออยากหาอะไรทำ แน่นอนว่าสิ่งที่เธอต้องการจะทำก็คือเกี่ยวกับการออกแบบอาคาร ถึงแม้หลายเดือนที่ผ่านมานี้จะมีอุปสรรคมากมาย แต่เธอไม่เคยลืมความฝันของตน
เหลิ่งรั่วปิงเปิดประตูห้องช้าๆ ยืนมองหนานกงเยี่ยที่กำลังตั้งใจอ่านเอกสาร “ที่รักคะ ฉันอยากไปทำงาน”
เหลิ่งรั่วปิงในวันนี้ แต่งตัวสบายๆ กระโปรงผ้าฝ้ายสีขาวตัวยาว ช่วงเอวผูกด้วยผ้าสีฟ้าบางๆ สวมรองเท้าแตะ ผมดำยาวสลวยของเธอปล่อยยาวสยาย ผิวขาวราวกับผิวเด็ก เผยออกมาเล็กน้อยระหว่างผมยาวสลวยและคอเสื้อ ทำให้เธอดูสวยน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือออร่าของเธอ ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ มีออร่าความอ่อนโยนแผ่ออกมาจากภายในสู่ภายนอก ทำให้คนห้ามไม่ได้อยากเข้าไปใกล้ อยากทะนุถนอมเธอ
หนานกงเยี่ยเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารช้าๆ มองหญิงสาวที่สวยเย้ายวน เขาใจลอยไปครู่หนึ่ง เหลิ่งรั่วปิงสวยมาก ความสวยของเธอในตอนนี้ทำให้คนใจเต้นมากกว่าเดิม
แววตาของหนานกงเยี่ยเคลือบไปด้วยความอ่อนโยน ริมฝีปากของเขาคลายยิ้มโดยไม่รู้ตัว ทิ้งเอกสารในมือ ยืนขึ้นแล้วเดินไปช้อนตัวเหลิ่งรั่วปิง เขาพาเธอกับไปนั่งบนเก้าอี้ วางเธอไว้บนตักของตน “เบื่อเหรอครับ”
“อื้ม” เหลิ่งรั่วปิงพยักหน้า “เบื่อมากค่ะ! เอาแต่กินกินนอนนอนทั้งวัน ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นหมูแล้ว”
นิ้วมือของหนานกงเยี่ยวาดอยู่บนแก้มของเธอ เหลิ่งรั่วปิงมีแก้มมากกว่าเมื่อก่อน เวลาบีบแก้มนุ่มๆ นั้นสนุกมือมาก “แต่ว่า ตอนนี้คุณเป็นเจ้านาย งานของคุณคือการดูรายงานและรับงานเท่านั้น”
เหลิ่งรั่วปิงยิ้มแล้วเอามือจับคอเสื้อของเขา “หึ ฉันเป็นแค่เจ้านายตัวเปล่า แค่ได้เซ็นสัญญาโอนย้ายตำแหน่งเท่านั้น ไม่มีฝ่ายกฎหมายเป็นพยาน คุณเป็นคนควบคุมทุกอย่าง อีกทั้งฉันยังไม่รู้ด้วยว่าตนเองมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ถ้าวันไหนคุณขโมยสัญญาไป ฉันก็ไม่มีอำนาจอะไรแล้ว”
ถูกต้อง ธุรกิจของตระกูลหนานกงมีเยอะมาก สัญญายกทรัพย์สินทั้งหมดมีประมาณสิบกว่านั้น เธอไม่มีเวลาและอารมณ์ไปอ่าน
เหลิ่งรั่วปิงเป็นคนบอกเองจะไม่ไปที่ฝ่ายกฎหมาย เพราะไม่มีความจำเป็น สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ที่เหลิ่งรั่วปิงต้องการสัญญาฉบับนี้ เป็นไปตามที่หนานกงเยี่ยคาดเดา เธอแค่อยากระบายความแค้นของตน ทำให้ตนรู้สึกผิดน้อยลง ไม่อย่างนั้นการแต่งงานกับลูกชายของศัตรู ทั้งยังมีลูกกับเขา เธอจะไม่รู้สึกละอายใจต่อพ่อของตนได้ยังไง
“ฮ่าๆๆ…” หนานกงเยี่ยหัวเราะร่า “ผมโง่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ สัญญาฉบับเดียวรั้งภรรยาของผมเอาไว้ได้ นี่เป็นสิ่งที่ผมต้องการ ผมจะขโมยกลับมาได้ยังไงครับ” ริมฝีปากเย้ายวนประทับลงบนริมฝีปากชมพูระเรื่อของเธอ ลมหายใจอุ่นๆ รินรดบนใบหน้าของเธอ “อีกอย่าง ผมหนานกงเยี่ยไม่เคยขโมยของใครมาก่อน คุณต่างหากที่เป็นหัวขโมยมืออาชีพ”
เหลิ่งรั่วปิงเลิกคิ้วด้วยความไม่พอใจ “ฉันขโมยอะไรคะ”
หนานกงเยี่ยยิ้ม รอยยิ้มของเขามีเสน่ห์อย่างมาก จับมือเล็กๆ ของเหลิ่งรั่วปิงมาวางบนหน้าอกซ้ายของตน “คุณขโมยหัวใจของผม ตั้งแต่วันแรกที่คุณมาเมืองหลง ทุกอย่างที่คุณทำเพื่อขโมยหัวใจของผม”
ถูกต้อง แค่เธอกะพริบตา หรือหายใจ ล้วนดึงดูดเขา สำหรับหนานกงเยี่ย เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขโมยหัวใจ
คำพูดประโยคนี้เลี่ยนมาก เหลิ่งรั่วปิงรู้สึกขนลุกไปหมด แต่กลับมีความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งตัวของเธอ แก้มของเหลิ่งรั่วปิงแดงระเรื่อ “คุณยิ่งอยู่ก็ยิ่งปากหวาน”
หนานกงเยี่ยยิ้ม มือเรียวยาวลูบผมของเธอด้วยความปรารถนา “ตอนนี้คุณกำลังท้อง ทำงานหนักไม่ได้ คุณแค่ดูแลตัวเองและลูกในท้องให้ดีก็พอ ไว้รอลูกคลอดค่อยคิดเรื่องงานนะครับ”
เหลิ่งรั่วปิงเบ้ปาก “แต่ไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้นี่คะ ฉันจะทำงานออกแบบ คุณหาโปรเจคมาให้ฉันทำด้วย”
น้ำเสียงของหนานกงเยี่ยอ่อนโยน ทว่าเด็ดขาด “ไม่ได้” เมื่อไรที่เธอทำงานออกแบบ ก็นั่งทำงานวันหนึ่งสิบกว่าชั่วโมง ทั้งยังต้องเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา เขาไม่ยอม
ถ้าเป็นเหลิ่งรั่วปิงคนเดิม ต้องโมโหกับความเผด็จการของเขาอย่างแน่นอน เพราะเธอเป็นคนต้องการความเป็นอิสระ แต่ว่าตอนนี้ เธอเรียนรู้ที่จะอ้อนเขา “ที่รักคะ”
คำว่าที่รัก เธอพูดเสียงหวาน หนานกงเยี่ยสั่นเทาเล็กน้อย แววตาของเขาเริ่มสั่นคลอน
เหลิ่งรั่วปิงยิ้มแล้วจูบเขาเบาๆ “ที่รัก คุณให้ฉันทำโปรเจคที่ไม่เร่งด่วนสิคะ ฉันจะทำงานและพักผ่อนให้ดี ไม่มีวันปล่อยให้ตัวเองทำงานหนักแน่นอนค่ะ”
หนานกงเยี่ยยังคงไม่ยอม ร่างกายของเขาบีบรัด ขอเพียงเธอพยายามอีกสักหน่อย เขาต้องยอมแน่ๆ
เหลิ่งปรั่วปิงถลึงตา “นี่ ตอนนี้คุณเป็นพนักงานของฉันนะคะ เจ้านายจะทำอะไรยังต้องคอยดูสีหน้าของคุณด้วยเหรอ ถ้าขืนคุณยังทำตัวแบบนี้อีก ระวังฉันจะหักเงินเดือน!”
“ฮ่าๆๆ…” หนานกงเยี่ยหัวเราะ “ครับๆ ทำตามที่คุณต้องการก็ได้” เขายื่นมือไปหยิบเอกสารที่เสียบเอาไว้ “นี่คือโปรเจค‘สวนจินกั่ง’ เป็นที่ที่บริษัทหนานกงเพิ่งประมูลได้ มีแผนที่จะสร้างสวนสนุกขนาดใหญ่ ต้องการให้สิ่งก่อสร้างในสวนสนุกพิเศษและโดดเด่น และแสดงความเป็นสากลออกมา เป้าหมายคือพัฒนาเป็นสวนสนุกที่ดีที่สุดในโลก”
หนานกงเยี่ยพลิกเอกสาร แสดงให้เหลิ่งรั่วปิงดู “โปรเจคนี้ไม่รีบ คาดการณ์ว่าจะเริ่มก่อสร้างในอีกสี่ปีข้างหน้า คุณค่อยๆ ออกแบบนะครับ”