The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1015 – สวนที่หก

ตอนที่ 1015 - สวนที่หก

“สำนักช่างสวรรค์จงฟัง!เป้าหมายพวกเราเปลี่ยนแล้ว ตอนนี้พวกเราต้องจับตัวจ้าวสวนและบังคับให้นางเปิดประตูเคลื่อนย้ายให้เรา!”
ศิษย์พี่ใหญ่สั่งด้วยเสียงหนักแน่น
พวกเขาไม่มีทางออกอื่นวิบัติบุพผากำลังจะมาถึงแล้ว ตรงหน้าพวกเขาคือเมืองที่เต็มไปด้วยบุพผา มีเพียงการจับตัวจ้าวบุพผาเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขามีโอกาสรอด
ด้วยหุ่นเชิดอสูรเนรมิตรที่มี…ถือว่ายังเป็นไปได้ที่พวกเขาจะจับตัวจ้าวสวน
จ้าวสวนหน้าหมอง
“หุ่นเชิดของพวกมนุษย์รึ?คิดว่าจะจับข้าได้สินะ? ฝันไปเถอะ!”
ตู้ม!
จ้าวสวนซัดมือขึ้นฟ้าเงากลีบบุพผาร่วงหล่นไปยังหุ่นเชิดคางคก  พลังอสูรเนรมิตรในเงากลีบบุพผามีพลังสั่นสะเทือนไปทั้งฟ้าแต่จะกลีบมีพลังมหาศาลซ่อนอยู่
คนสำนักช่างสวรรค์กลั้นหายใจพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเมื่อเห็นกลีบบุพผาที่พร้อมจะบดขยี้พวกเขา พวกเขาไม่กล้าขัดขืนต่อหน้าพลังนี้
หุ่นเชิดคางคกดูเหมือนกำลังจะแตกสลายไปจากพลังอสูรเนรมิตรในเวลานั้นเอง คางคกเตะเท้ากระโจนไปข้างหน้าราวกับสายฟ้า
เกิดรอยแยกมิติมากมายจากการปะทะและหุ่นเชิดก็หายไปในรอยแยกมิติในพริบตาเดียว
กลีบบุพผาดาวพลาดเป้าเมื่อมันไปถึงจุดที่คางคกเคยอยู่ พื้นที่นั้นได้กลายเป็นเส้นทางน้ำแข็งเย็นยะเยือกในทันที
คลื่นพลังความเย็นแผ่ไปถึงเหล่าคนสำนักช่างสวรรค์พวกเขาเริ่มป้องกันตัวเองด้วยพลังชีวิต รักษาร่างกายไม่ให้กระทบความเย็นที่มีพลังอสูรเนรมิตร นอกจากยู่หลิง ทุกคนที่สัมผัสกับมันจะตายในทันที การต่อสู้ระหว่างอสูรเนรมิตรมิใช่สิ่งที่คนนอกจะแทรกแทรงได้
ฉั่วะ!
รอยแยกมิติเปิดที่ด้านหลังจ้าวสวนลิ้นยาวขนาดใหญ่พุ่งออกมาเร็วปานสายฟ้า ลิ้นยาวนี้มีพลังมิติจึงเคลื่อนย้ายไปยังหลังจ้าวสวนพอดีและเข้ารัดนาง
จ้าวสวนหงุดหงิด
“น่ารำคาญ!”
ชายเสื้อยาวของนางขาดเป็นชิ้นเล็กๆ แขนเรียวเปล่งแสงสีเขียวงดงาม มันเปลี่ยนจากแขนมนุษย์เป็นชิ้นใบไม้ที่ยาว แหลมคม และเรียวกว่า
ใบไม้เหล่านี้มีพลังระดับอสูรเนรมิตรมันเข้าฟัดสวนลิ้นสีแดงเลือด คางคกเลือกกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดสีเขียวพุ่งออกมาจากรอยแยกมิติ รอยแยกปิดลง หุ่นเชิดคางคกน่าจะถูกทำลายไปแล้ว
เมื่อจ้าวสวนดึงแขนกลับรอยแยกมิติขนาดยักษ์ได้เกิดขึ้นที่เหนือศีรษะของนาง ปากโลหิตยื่นออกมมาจากรอยแยกมิติเข้างับจ้าวสวน มันพ่นของเหลวสีขาวออกมา มันคือพิษเข้มข้นที่กัดกร่อนมิติและสร้างรอยแยกมิติเหล่านี้
ซือหยูมองพิษที่น่าสะพรึงกลัวถ้าหากใครสัมผัสพิษนี้จะตายก่อนที่ทรายดาราทางช้างเผือกจะกำจัดมัน!
จ้าวสวนเบ้ปากนางพูดด้วยความโกรธ Aileen-novel
“พวกเจ้าทำข้าโมโหแล้วนะ!”
บุพผาเหนือศีรษะหมุนวนห่างสามสิบศอกหยดของเหลวหยดลงมาจากบุพผา เกิดเป็นพิรุณโค้งล้อมรอบกายจ้าวสวน
เมื่อพิษหยดลงบนม่านพิรุณหยดพิษได้ระเหยหายไป ไม่เหลือแม้แต่หยดเดียวที่ถึงตัวจ้าวสวน
ไม่นานจากนั้นก็มีรากงอกออกมาจากเท้าของนางมันเข้าผ่านรอยแยกมิติไป
หุ่นเชิดคางคกกำลังจะดึงหัวกลับแต่ก็กรีดร้องออกมาเมื่อถูกรากแทงทะลุตัวจากภายในจำนวนรากนั้นเยอะจนนับไม่ได้ รากเหล่านี้ยังเติบโตจากรูขุมขนของหุ่นเชิดคางคกด้วย
ซือหยูมองดูภายในด้วยเนตรวิญญาณและพบว่าภายในหุ่นเชิดนั้นเต็มไปด้วยรากแทงจนพรุนอวัยวะภายในของมันมองไม่เห็นอีกแล้ว
ปั้ง!
เหล่ารากเข้าระเบิดหุ่นเชิดจากภายในสู่ภายนอกหุ่นเชิดอสูรเนรมิตรถูกทำลายโดยจ้าวสวนอย่างง่ายดาย
แต่ในตอนนั้นเองก็เกิดเรื่องประหลาดเศษชิ้นส่วนคางคกที่กระจายในกลางอากาศแต่ละชิ้นได้สัมผัสกัน มันรวมตัวเป็นโซ่เข้าพัดรอบตัวจ้าวสวน
จ้าวสวนไม่ทันระวังและถูกโซ่รัดเอาไว้พอจะออกแรงต้านโซ่ก็รัดแน่นขึ้น มันกักขังทั้งร่างกายและพลังของนางเอาไว้
เหล่าคนสำนักช่างสวรรค์ดีใจจนแทบคลั่ง
“มันคือหุ่นเชิดแปลงร่างอันดับหนึ่งของจริง!”
ศิษย์พี่ใหญ่อุทานหุ่นเชิดที่ถูกหญิงสาวตระกูลบูรพาทำลายไปนั้นเทียบไม่ได้กับหุ่นตัวนี้เลย
การจับตัวจ้าวสวนได้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคาดคิดมาก่อน
“อ๊าาา!ข้าจะไม่มีวันอภัยให้พวกเจ้า!”
จ้าวสวนขัดขืนด้วยพลังทั้งหมดที่มีแต่นางก็มิอาจสลัดตัวออกจากโซ่ได้
หลานสายชักสีหน้านางตะโกน
“ปล่อยท่านยายเดี๋ยวนี้นะ!”
นางรีบวิ่งไปนางพยายามจะช่วยจ้าวสวนให้หลุดจากพันธนาการ  ศิษย์พี่ใหญ่ตะคอก
“ไปลงนรกซะ!”
ฟึ่บ!
เศษชิ้นส่วนได้กลายเป็นโซ่เส้นใหม่เข้ารัดหลานสาวอีกครั้ง
อั่ก!
โลหิตสีเขียวพุ่งออกมาจากปากนางร่างของนางแตกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยพลังมหาศาล นางแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี แต่ถึงอย่างนั้นนางก็มิใช่มนุษย์ นางบาดเจ็บสาหัสแทนที่จะตาย
“ใครที่กล้าเข้ามาใกล้จะถูกฆ่าอย่างไม่มีข้อยกเว้น!”
ศิษย์พี่ใหญ่โบกมือเรียกโซ่มาที่มือเขาฟาดโซ่และเกิดเส้นรอยแยกมิติขึ้นเป็นทาง
เหล่าอสูรบุพผาและนางไม้ที่พยายามจะมาช่วยจ้าวสวนต้องถอยกลับด้วยความสะพรึงกลัวไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มากกว่านี้
“ว่ากันว่าหากจับตัวจ้าวสวนได้จะมีรางวัลพิเศษในคราสุดท้ายข้าไม่แน่ใจว่าข่าวลือเป็นเรื่องจริงหรือไม่”
ศิษย์พี่ใหญ่ยิ้มมองจ้าวสวนหัวจรดเท้าด้วยความตื่นเต้น
เขาไม่มั่นใจว่าจะสยบจ้าวสวนได้จ้าวสวนแต่ละคนคือสิ่งที่เซียนมณีสร้างเองกับมือ เหล่าจ้าวสวนแต่ละสวนจะแตกต่างกันและแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตธรรมดา แน่นอนว่าแต่ละคนจะมีพลังพิเศษต่างกันด้วย
แต่จ้าวสวนบุพผามิได้แสดงพลังพิเศษมาก่อนที่จะถูกจับตัวมันไม่ตรงกับข่าวลือเท่าใดนัก
ข่าวลือเรื่องการจับตัวจ้าวสวนนั้นมีมานานแล้วมีคนกล่าวว่าถ้าหากจับตัวจ้าวสวนทั้งห้าคนได้และนำมารวมตัวกัน สวนที่หกที่ไม่มีใครรู้จักจะเปิดออก! มันคือสวนที่มีเฉพาะในตำนานเล่าขาน มีคนกล่าวว่าที่นั่นมีสมบัติสุดยอดของเซียนมณีอยู่
ผู้เข้าแดนมณีที่ผ่านภัยพิบัติทั้งห้าได้มีอยู่น้อยมากการจับตัวจ้าวสวนทั้งห้าย่อมเป็นเรื่องยาก แล้วจะมีหวังเปิดสวนที่หกหรือ?
“ข้าให้พวกเจ้าผ่านประตูเคลื่อนย้ายได้แต่อย่าทำร้ายใครในสวนบุพผา!”
จ้าวสวนหยุดขัดขืนแล้ว
ศิษย์พี่ใหญ่ยิ้ม
“เจ้าคิดว่ายังมีอำนาจต่อรองกับข้าอยู่อีกเรอะ?ข้าได้ยินว่าเมืองสวนบุพผามีน้ำผึ้งร้อยบุพผาที่ปรุงจากราชาบุพผาดาวเป็นเวลาหมื่นปี ให้ผลอันมหัศจรรย์ต่อจิตใจและการเรียนรู้ หยดเดียวจะทำให้บรรลุสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นเป็นสิบเท่าในเวลาอันสั้น มันคือโอสถเทพของคนที่ไม่บรรลุวิชา!”
“จ้าวสวนจงส่งมันมา เจ้ามีหลานเก้าคน ข้าจะปล่อยหนึ่งคนในทุกร้อยหยดที่เจ้าให้ ถ้าหากเจ้าไม่ยอมก็อย่าหาว่าข้าไร้ปรานี!”
ศิษย์พี่ใหญ่แววตาดุร้าย
เขาไม่สังเกตเห็นเลยว่ามีแสงสีแดงอ่อนกำลังลอยรอบตัวจ้าวสวนมันกำลังเข้าล้อมตัวเขาอย่างไร้ซุ่มเสียง

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท