The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1040 – ผ้าพันคอติดกลิ่น

ตอนที่ 1040 - ผ้าพันคอติดกลิ่น

   พอจบสิบวันทุกคนจะถูกส่งกลับมาที่ชั้นแรก พอกลับมาเจอกันอีก เราจะพยายามใช้แก้วกับคะแนนให้ดีที่สุดเพื่อสำนักของเรา 

  ปิงหวูชิงสรุป

   คำถามสุดท้าย 

  ซือหยูลูบคาง

   จ้าวชั้นแต่ละชั้นมีพลังต่างกันแค่ไหน? 

  การลดความเร็วของเวลาคือเงื่อนไขหนึ่งที่เป็นความยากในหอวิชาและพลังของจ้าวชั้นก็นับเป็นอีกปัจจัยเช่นกัน

   ถามได้ดี 

  ปิงหวูชิงชมเชย

  ซือหยูเงี่ยหูฟังศิษย์ในคนอื่นเองก็เช่นกัน

   เพราะข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน 

  ซือหยูพูดไม่ออก

  ปิงหวูชิงทิ้งช่วงสักระยะก่อนจะพูด   ข้าได้ข้อมูลจากคนอื่นมาน้อยนักมันดีอยู่แล้วที่เรารู้มากขนาดนี้ เจ้ายังไม่พอใจอะไรอีก? 

   ฮ่าเจ้าแค่ยอมรับว่าเจ้าคุยกับคนอื่นไม่เป็นเท่านั้น ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากไปได้ 

  ปิงหวูชิงหัวเราะอย่างน่ากลัว

   เจ้าคิดว่ามันง่ายอย่างที่เจ้าคิดรึ?พวกคนแปลกหน้าระแวงดินแดนพรสวรรค์ ไม่ต้องพูดถึงพวกมีดสวรรค์ ช่างสวรรค์ กับเขตกลาง พวกมันทำเหมือนกับว่าเราเป็นโจร 

   สำนักใกล้เคียงเราก็น่าห่วงตำหนักเมฆาม่วงยังรวมตัวกันไม่ได้แม้จะมาที่เดียวกันกับพวกเรา พวกนั้นเข้าใจหอวิชาดีกว่าเรามาก แต่พวกนั้นไม่ยอมบอกอะไรเราแม้แต่นิดเดียว! เรื่องที่ข้าบอกเจ้าคือสิ่งที่ข้าแอบได้ยินมา ถ้าหากถามตรง ๆ ก็จะไม่มีใครบอกอะไรเราเลย 

  ซือหยูส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ

   จริงรึ?ไหนข้าขอลองดูหน่อย!     เจ้ารึ?เวลากำลังจะหมดแล้ว ไม่ง่ายแน่ไม่ว่าจะกับสำนักไหน 

  ปิงหวูชิงไม่คิดเลยว่าซือหยูจะหาข้อมูลเรื่องหอวิชามาได้ไม่มีใครจะยอมบอกข้อมูลให้กับศัตรูอยู่แล้ว จริงไหม?

   ใครบอกว่าข้าจะแอบฟังพวกเขา? 

  ซือหยูหัวเราะและบินไปที่ยอดหอคอย

  ในขณะที่ทุกคนจ้องมองทางเข้าชั้นแรกการกระทำของซือหยูนั้นน่าสงสัยมาก

   พี่น้องทั้งหลายข้าคือซือหยูเซี่ยน ศิษย์ตำหนักโลหิตแห่งดินแดนพรสวรรค์ ข้ามาที่นี่เพื่อขอน้ำใจพวกท่านชี้แนะรายละเอียดของหอคอยต่อข้า หากรู้สิ่งใดโปรดมีน้ำใจบอกข้าด้วยเถิด 

  ซือหยูพูดอย่างสุภาพ

  เหล่าผู้คนงุนงงไม่นานหลังจากนั้นเขาก็จ้องซือหยูเหมือนเห็นเขาเป็นคนโง่

   เจ้าบ้าเอ้ย! 

   ถ้าข้าบอกอะไรเจ้าก็เรียกข้าว่าไอ้โง่ได้เลย! 

   ตลกสิ้นดีใครที่บอกข้อมูลกับเขาจะต้อง… 

  ปิงหวูชิงกับศิษย์ในคนอื่นหน้าแดงด้วยความอับอาย

  บัดซบช่างน่าละอายนัก!

  พวกเขาคิดจะสะบั้นกระบี่ใส่ซือหยูเพื่อสะบั้นความสัมพันธ์ฉันท์คนร่วมสำนัก

   แน่นอนว่าข้าจะไม่ทิ้งน้ำใจพวกท่านให้สูญเปล่านี่คือผ้าพันคอของแม่นางตงฟาง หากคำตอบทำให้ข้าพอใจ สิ่งนี้จะกลายเป็นของเจ้า 

  ซือหยูหยิบผ้าพันคอออกมา

  เหล่าคนที่มองเขาด้วยความเหยียดหยามชักสีหน้าหลายคนอยากที่จะได้ผ้าผันคอผืนนั้น

  ตงฟางเถียนเฟิงแตะผ้าพันคอที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของนางด้วยความสับสนนางงุนงงอย่างมาก   เมื่อไหร่….ข้าให้ผ้าพันคอของข้ากับเจ้าไปตั้งแต่ตอนไหน? 

  ตงฟางเถียนเฟิงย่อมต้องไม่พอใจอยู่แล้วที่ถูกคนอื่นอ้างชื่อตัวเอง

  ซือหยูยิ้มให้นาง

   เจ้าลืมไปแล้วหรือแม่นางตงฟาง? หลังจากเราสนุกกันเมื่อคืน เจ้าใช้ผ้าพันคอนี้เช็ดเหงื่อเจ้าแล้วทิ้งเอาไว้ 

  ตงฟางเถียนเฟิงตกตะลึงเดี๋ยวก่อน สนุกกันเมื่อคืนที่เขาพูดถึงมันหมายความว่ายังไงกัน?

  แต่ก่อนที่นางจะโต้แย้งนางก็เห็นใบหน้าเข้าอกเข้าใจของเหล่ายอดฝีมือใกล้หอคอย

  เจ้าสารภาพเองถึงสองครั้งจะแปลกอะไรเล่าหากทิ้งผ้าพันคอไปสักผืน?

  เมื่อพวกเขาได้ยินว่ามีผ้าพันคอที่มีกลิ่นของตงฟางเถียนเฟิงเพราะนางใช้ทำความสะอาดตัวนางคนก็เก็บความร้อนรุ่มไม่ได้อีกต่อไป   ฮ่าๆ ยังไงเรื่องหอคอยก็ไม่ใช่ความลับอยู่แล้ว น้องซือ ข้าจะบอกเจ้าเอง! 

  จ้าวเทวะระดับเจ็ดคนหนึ่งที่หน้าเป็นหลุมบ่อพูดเขาแต่งตัวเหมือนกับขอทาน

   คางคกเหวินเจ้าเทียบกับข้าในเรื่องความรู้ไม่ได้หรอก! เรื่องสำคัญเช่นนี้ต้องเป็นหน้าที่ข้า! 

   ไร้ยางอาย!คนโสโครกอย่างเจ้าจะคู่ควรเรอะ? น้องซือ ผ้าพันคอกลิ่นเหงื่อนั่…อะแฮ่ม ผ้าพันคอผืนนั้นน่ะ ข้ารู้สึกว่ามันกวักมือเรียกข้านะ 

   บางทีเราอาจได้รู้ความหมายของโลกใบนี้จากผ้าพันคอนั่นอาจได้รู้ซึ้งถึงวิถีแห่งการบ่มเพาะ! น้องซือ ข้าหวังว่าเจ้าจะสนับสนุนข้า มาแลกเปลี่ยนความรู้กันเถอะ! 

  …

  ดูจากเสียงตอบรับของเหล่าบุรุษแล้วช่างน่าประทับใจ

  ด้วยเหตุนี้ซือหยูจึงได้ข้อมูลเกี่ยวกับหอคอยอย่างง่ายดายโดยไม่น่าเชื่อ เขามีข้อมูลมากเสี่ยยิ่งกว่าสำนักส่วนใหญ่เสียอีก

  สุดท้ายผ้าพันคอก็ตกเป็นของชายหนุ่มคนหนึ่งผ้าพันคอของนภาจรัสมีเจ้าของแล้ว

   เจ้าไปเอาผ้าพันคอมาจากไหน?ข้าเคยเห็นมันมาก่อนนะ! 

  ปิงหวูชิงจ้องมองผ้าพันคอ ไอรีนโนเวล

  ซือหยูยักไหล่

   เจ้าก็ต้องเคยเห็นสิมันคือผ้าที่ข้าใช้เช็ดเท้ายังไงล่ะ! 

  ปิงหวูชิงอึ้ง

   เอาเถอะข้าได้ข้อมูลเรื่องหอคอยมามากทีเดียว มันไม่ต่างจากที่เจ้าบอกมาเท่าใดนัก แต่มีข้อมูลบางอย่างที่สำคัญที่เจ้าไม่รู้อยู่ด้วย 

  ซือหยูไม่รอช้าก่อนจะบอกสิ่งที่ได้รู้

   เรื่องแรกจ้าวหอทุกชั้นจะมีพลังระดับเดียวกัน!    ปิงหวูชิงตกใจมาก

   เป็นไปได้ยังไง?ถ้าจ้าวหอมีพลังเท่ากัน แล้วมันจะต่างอะไรในสามสิบชั้นแรก? 

   จ้าวหอคนเดียวกันเวลาช้าลงเทียบเท่ากัน ความยากเท่ากัน ผ่านชั้นเดียวก็ไม่ต่างจากผ่านชั้นสามสิบ 

   เจ้าฟังก่อนนี่คือเรื่องที่สอง คือมันมีเวลาจำกัด ในสามสิบชั้นแรก ยิ่งเจ้าขึ้นไปมากเท่าใด เวลาในการเอาชนะจะยิ่งจำกัดมากขึ้นเรื่อย ๆ! 

   เช่นหากเจ้าเอาชนะจ้าวชั้นแรกในหนึ่งชั่วโมง ในชั้นที่สองเจ้าจะเหลือเวลาสี่สิบห้านาทีในการเอาชนะ จะเหลือครึ่งชั่วโมงในชั้นที่สาม เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ พอถึงชั้นสามสิบ เจ้าอาจจะเหลือเวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจ นี่คือความยากของหอคอย! 

  ปิงหวูชิงใบหน้าวิตก

   ถ้าเช่นนั้นเราก็มองโลกในแง่ดีเกินไปแล้วหอคอยสามสิบชั้นแรกไม่ต่างกับข้ามน้ำเชี่ยวเลย 

  ซือหยูพยักหน้า

   ใช่ยังมีอีกเรื่องที่ต้องระวัง หอคอยไม่สามารถป้องกันวิบัติตำราและวิบัติวิชาได้ ระหว่างที่ผ่านหอคอย เราอาจต้องรับมือกับวิบัติเหล่านั้นด้วย 

  ศิษย์ในขมวดคิ้วแน่นบัดซบ นี่มันยากกว่าที่พวกเราคิดเป็นร้อยเท่า!

  ถ้าพวกเขาคาดว่าจะผ่านด้วยคะแนนหกสิบตอนนี้มันก็ลดลงมาเหลือสิบหกแล้ว!

   นี่คือรายละเอียดทั้งหมด 

  ซือหยูพูดและยืนขึ้น

   เงื่อนไขมันยากลำบากไปกันเถอะทุกคน! 

  …

  หลังจากบอกข้อมูลให้ทุกคนแล้วภาพลักษณ์ของซือหยูต่อศิษย์ในนั้นดีขึ้นมาก พวกเขามองซือหยูเป็นคนใหม่แล้ว   ผูกมิตรกับสองนภาจรัสได้ในวันเดียวหึหึ พวกเราทำได้แค่ริษยาความนิยมของศิษย์น้องซือแล้ว! 

   จากที่ข้าคิดศิษย์น้องซือได้ป่าวประกาศเกียรติยศของเจี๋ยนอู๋เชิงในวันนี้แล้ว การได้สตรีที่สองแห่งตระกูลบูรพามาครองนั้นพิสูจน์ได้ดี การขึ้นเป็นวีรบุรุษครั้งนี้ไม่ทำให้เจี๋ยนอู๋เชิงผิดหวัง เขาคือคนสมบูรณ์แบบที่จะเป็นแบบอย่างแก่พี่น้องในตำหนักโลหิต! 

   เขายังคิดอ่านได้รวดเร็วคนเฉลียวฉลาดเช่นนี้ใช้กลไม้ใดก็ย่อมเพิ่มโอกาสจับปลาได้มาก เราควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง! 

   ในสำนักเขามีปิงหวูชิง พอมานอกสำนัก เขามีตงฟางเถียนเฟิง เขายิ่งใหญ่ทั้งในและนอก เรื่องเช่นนี้ควรมีคนอื่นได้รับรู้ 

   ข้าเห็นด้วย! 

   บ้าที่สุด! 

  ศิษย์สตรีหน้าแดงด้วยความโกรธกับสิ่งที่ซือหยูเคยได้รับในอดีต   ศิษย์น้องเราเป็นบุรุษที่มีพลังมหาศาลมีเกียรติและยิ่งใหญ่! ใยพวกเจ้าถึงเคยพูดจาเช่นนั้นกับเขากัน? 

   บอกข้ามาพวกเจ้าเป็นสายลับจากศัตรูหรือไม่? 

  เหล่าชายหนุ่มตะลึงพวกนางหมายถึงความยิ่งใหญ่ของผ้าพันคอติดกลิ่นหรือยังไง?

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท