“ท่านเจ้าข้า หลังจากที่พระชายากลับมาในวันนั้น ฮูหยินฉินก็ไปค้นตำหนักของอนุหลัวทันที และพบน้ำตาลแดงหนึ่งไห ตามที่อนุหลัวเล่า พระชายาได้นำมันมาจากพระราชวังพร้อมมอบให้กับนางดื่มเพื่อซ่อมแซมร่างกาย”
“หลังจากที่ฮูหยินฉินนำน้ำตาลไป นางก็ดื่มมันทุกวัน พระสนมดูสุนทรีเป็นอย่างมากในช่วงสามสี่วันที่ผ่านมา จนกระทั่งบ่ายวันนี้ ฮูหยินฉินตกใจตื่นหลังจากบรรทมพร้อมขับไล่เหล่าทาสของนางออกจากตำหนักโดยไม่ทราบสาเหตุ”
“เมื่อเห็นดังนั้นฉินชิงเหยียนจึงรีบปลอบใจนางทันที จากนั้นทุกคนในจวนจึงรับรู้ว่า มีสิ่งผิดปกติบนร่างกายของฮูหยินฉิน นางจึงไม่สามารถแสดงให้ผู้ใดเห็นได้”
หมี่โม่หรู่ใช้นิ้ววนรอบถ้วยชาด้วยความสบายใจ “สิ่งผิดปกติงั้นหรือ?”
ฉินปู้เข่อใส่ยาพิษเรื้อรังให้แก่ฮูหยินฉินหรือไม่? นางรู้ว่าพิษบางชนิดไม่ได้เป็นอันตรายมากนัก และเมื่อพิษนั้นปะทุก็จะทำให้เกิดผื่นขึ้นทั่วร่างกาย
“เอ่อ…” อู๋เหินกล่าวด้วยความกระอักกระอ่วน “ว่ากันว่าฮูหยินฉินมีขนปกคลุม ราวกับว่าผมของนางหนาขึ้น”
“เจ้าหมายถึงขนทั่วร่างกายใช่หรือไม่?” หมี่โม่หรู่ยกมือหยุดอีกฝ่ายก่อนจะกล่าว
หลังมือของเขามีขนสั่น โปร่งแสง เส้นขนบางแทบมองไม่เห็น
“ขอรับ ทั่วแขน ขา รวมถึงใบหน้า มีขนปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของนาง ขนเหล่านั้นมีขนาดยาวกว่าสิบสองนิ้ว มีสีดำเช่นเดียวกับผม เมื่อมองดูทั่วทั้งร่างราวกับลิงขนดำพ่ะย่ะค่ะ”
“ฮ่า ๆ” เมื่อจินตนาการตามคำบอกเล่า หมี่โม่หรู่ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ แน่นอนว่านี่เป็นฝีมือของฉินปู้เข่อ
“นี่หรือคือสาเหตุที่ทำให้ขนของฮูหยินฉินยาวขึ้น?” หมี่โม่หรู่ถามพลางชี้ไปยังไหน้ำตาลที่วางบนผ้าฝ้ายตรงหน้าเขา
“พ่ะย่ะค่ะ เพราะท่านอ๋องกำชับไว้ คนในตำหนักจึงให้ความสนใจกับอาหารการกินและชีวิตประจำวันของฮูหยินฉินเป็นอย่างมากในทุกวันนี้”
องครักษ์มองไปยังไหน้ำตาลดำปลูกขนบนผ้าฝ้ายพร้อมกล่าว “ท่านอ๋องต้องการให้กระหม่อมเรียกซือต๋ามาดูหรือไม่ขอรับ?”
“อืม เรียกมาเร็วเข้า”
ครั้งก่อน ฉินปู้เข่อแอบหยิบไข่เป็ดเค็มออกมาสองฟอง แต่กลับไม่มีเรื่องราวที่นำมาสู่ปัญหาเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้น้ำตาลดำปลูกขนแปลกประหลาดถูกนำมาไว้ในมือของฮูหยินฉินโดยตรง แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องพบกับปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน
หนึ่งในสี่ชั่วยามต่อมา ซือต๋าและหมี่โม่หรู่จ้องมองไปยังน้ำตาลทรายแดงตรงหน้าด้วยสีหน้าที่ราวกับกำลังจ้องมองศัตรู
“กระหม่อมจะทำการละลายน้ำตาลก่อนจึงจะสามารถใช้เข็มได้”
ซือต๋าเทน้ำตาลดำปลูกขนลงในภาชนะที่เตรียมไว้อย่างเชื่องช้า น้ำตาลดำปลูกขนขนาดเล็กละลายในน้ำอย่างรวดเร็ว หลังจากคนด้วยช้อนเพียงแผ่วเบาราวสองสามครั้ง น้ำตาลดำปลูกขนก็ละลายในน้ำจนหมด
ซือต๋าใช้เข็มลงตรวจสอบพิษ
ไม่มีสิ่งผิดปกติใด
“ให้กระหม่อมลองดื่มดูดีไหมขอรับ?” ซือต๋าสูดลมหายใจลึกพร้อมบอกหมี่โม่หรู่ “หากกระหม่อมมีขนดกจนน่าละอาย โปรดหาภรรยาให้กระหม่อมด้วย”
“รีบดื่มเถิด!” หมี่โม่หรู่กล่าวอย่างใจร้อน
ทุกอย่างในตอนนี้ขึ้นอยู่กับซือต๋า ความสำเร็จหรือล้มเหลวที่กำลังจะเกิดตรงหน้าขึ้นอยู่กับเขา ทุกคนจะสามารถรู้ความจริงทั้งหมดได้จากการจิบของเขา
ซือต๋าหยิบถ้วยที่ใช้ละลายน้ำตาลขึ้นชิมรส “หวาน นี่คือน้ำตาล”
ลิ้นของเขาได้รับการฝึกฝนในกองสมุนไพรตั้งแต่ยังเด็ก โดยทั่วไปเขาสามารถบอกสมุนไพรที่มีอยู่ในยาต้มธรรมดาได้หลังจากที่จิบ
ซือต๋ายกถ้วยขึ้นลิ้มรสอีกครั้งโดยสกัดกั้นให้รสชาติยังคงค้างอยู่ในลำคอ “ยาหลักสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผมคือขิงแห้งและหม่อนขาว รสชาติของพืชเหล่านี้ค่อนข้างแรง การเติมน้ำตาลจำนวนมากจะช่วยกลบรสชาติ แต่ไม่สามารถกลบกลิ่นได้ ทว่าในถ้วยนี้กลับมีเพียงกลิ่นของน้ำตาล ไร้ซึ่งยาหรือสมุนไพรอื่น”
“ไม่มียาหรือสมุนไพรอื่นผสมอยู่งั้นหรือ?” หมี่โม่หรู่ขมวดคิ้วถาม
“กระหม่อมต้องรอดูหลังดื่มจนหมดไปสักพักขอรับ” ซือต๋ากล่าวพร้อมดื่มน้ำตาลที่เหลือในถ้วยจนหมด จากนั้นจึงพับแขนเสื้อขึ้นเพื่อรอให้ขนตามร่างกายของเขางอกขึ้นมา
“นี่ ดื่มน้อยไปหรือเปล่า? เหตุใดไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย?”
“อยากรู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น?” เสียงอันเย็นชาของฉินปู่เข่อดังขึ้นจากหน้าประตู