The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1039 – หมาดำไร้เจ้าของ

ตอนที่ 1039 - หมาดำไร้เจ้าของ

  ปี้หลิงเทียนพิจารณาคำขอของซือหยู

   ตำราหยินของม่อจือเต๋านั้นเนื้อหากว้างขวางลึกซึ้งหากน้องซือปรารถนาจะบ่มเพาะไปพร้อมกับข้า ข้าก็ยิ่งกว่าเต็มใจ ข้าให้ฉบับคัดลอกได้ 

   แต่น้องซือข้อสองที่เจ้าต้องการน่ะไร้เหตุผล! เทียนหยูเป็นของมีดสวรรค์ ส่งนางให้เจ้าคือการทำลายชื่อเสียงของเรา ข้าไม่มีสิทธิ์ตัดสินเรื่องนั้น 

  ซือหยูหัวเราะอย่างเย็นชา

   ข้าจะต้องการตัวนางไปทำไม?นางมันก็แค่เศษขณะที่พ่ายแพ้กระบี่พวกนั้น ตำหนักโลหิตไม่ต้องการนำขยะมาใช้ใหม่ พวกเรายินดีนักที่พวกเจ้าเห็นนางเป็นดั่งสมบัติ 

  เทียนหยูละอายใจและแค้นนางมองซือหยูอย่างดุร้าย!

   โอ้?เช่นนั้น เจ้าจะเอ่ยถึงนางทำไมกัน?    ปี้หลิงเทียนถาม

  ซือหยูจ้องเทียนหยูและพูดช้าๆ

   ข้าแค่อยากให้นางตอบคำถามข้านางหวังว่านางจะตอบอย่างจริงใจ 

  คำถามรึ?ปี้หลิงเทียนคิดและพยักหน้าเบา ๆ

   เทียนหยูจงตอบให้ดีที่สุด 

  เทียนหยูไม่พอใจมาก

   ว่ามา! 

   เทียนเหรินเหยาเป็นอย่างไรบ้าง?นี่คือคำถามของข้า 

  แววตาซือหยูดูเศร้าหมองเทียนเหรินเหยาคือหนึ่งในห้าอสูรแห่งเขาอสูรคนเดียวที่มิอาจรู้เป็นตายร้ายดี เทียนเหรินเหยาอาจจะตายไปแล้วก็ได้

  เทียนหยูตัวแข็งทื่อไปเล็กน้อยนางตอบด้วยความลังเล

   ข้าไม่รู้จักเขา    ซือหยูพยักหน้า

   เอาเถอะข้าอยากถามแค่นั้น 

  ปี้หลิงเทียนมองเทียนหยูด้วยความงุนงง

   เช่นนั้นเราก็พักได้รอจนกว่าหอวิชาจะเปิด 

  เขายกมือโยนสร้อยหยกที่มีตำราหยินให้ซือหยู

   ข้าต้องการตรวจดูกับต้นฉบับ 

  ซือหยูปัดสร้อยหยกกลับไป

  ปี้หลิงเทียนรับสร้อยหยกกลับพร้อมยิ้มเขาบีบมันเป็นเสี่ยง ๆ และคัดลอกอีกฉบับ

  ดูเหมือนว่าฉบับก่อนจะไม่ใช่แบบสมบูรณ์

  มีเพียงการอ่านจากต้นฉบับเท่านั้นจึงจะแน่ใจได้ว่าสร้อยหยกใหม่นั้นมีเนื้อหาอยู่ครบถ้วนอย่างที่ซือหยูต้องการเขาเอนกายกับหอคอยพร้อมกับพวกคนตำหนักโลหิต

   นี่ทำไมเจ้าถึงถามเทียนหยูเรื่องเทียนเหรินเหยาล่ะ? 

  ปิงหวูชิงถามด้วยความสงสัย

  ซือหยูเอนกายกับกำแพงหอคอย

   มันเป็นแค่ความคิดหนึ่งแต่ตอนนี้ข้ามั่นใจแล้ว 

   เรื่องอะไรกัน? 

  ปิงหวูชิงมองซือหยูด้วยดวงตาสดใสไม่กระพริบ

  ซือหยูตอบอย่างเคร่งเครียด

   ข้าจะไม่บอกเจ้าหรอก 

   ไปตายซะ! 

  นางชกแขนซือหยู

  เป๊าะ!

   นังบ้าเจ้าจะไม่โหดร้ายไปหน่อยเรอะ? กระดูกข้าหักแล้ว! 

   ไสหัวไปหอวิชากำลังเปิดแล้ว! 

  เหล่ายอดฝีมือถูกเสียงประหลาดรบกวนและหันไปมองพวกเขาเข้ามารวมตัวจนเต็มฟ้า  นับจำนวนคร่าวๆ ได้ถึงหมื่นคน

  เหล่ายอดฝีมือมาที่นี่เกินครึ่งหากรวมกันอาจมีมากกว่าสองหมื่นคน

   พวกยอดฝีมือเยอะอย่างกับสุนัข! 

  ซือหยูบ่น

   เจ้าเรียกใครว่าสุนัข? 

  ปิงหวูชิงจ้องเขาอย่างไม่พอใจ

   โฮ่ง! 

  เสียงสุนัขเห่าดังขึ้นมา

  เมื่อหันไปมองทั้งคู่เห็นสุนัขสีดำนั่งอยู่ที่หน้าประตูหอวิชา

   ปลอกคอหมาใครหลวมล่ะ? 

  ซือหยูเหลือบมองรอบๆ

   หึหึใครจะกล้าล่ามหมาของปู่เจ้ากันล่ะ? 

  จู่ๆ ก็มีเสียงถากถางออกมาจากปากสุนัข

   หึพูดภาษามนุษย์รึ? นี่ไม่ใช่ในนิยายนะ! นิยายที่ว่าหมาเสียเจ้าของไปแล้วไม่ได้กลับบ้าน มารักคนที่กำลังสิ้นหวังที่สุด ข้าไม่ได้ฉลาดนัก แต่ข้าจะลองทำดีนำความอบอุ่นมาสู่โลกสักครั้ง 

  ซือหยูพูด

  เขายื่นมือจับสุนัขตัวดำแต่สิ่งที่ผุดขึ้นมาในใจคืออาหารจานอร่อย แม้แต่เทพเจ้ายังประทับใจเนื้อสุนัขต้ม

  สุนัขดำแยกเขี้ยว

   ความอบอุ่นบัดซบน่ะสิ!เจ้ากำลังคิดถึงเนื้อสุนัขใช่ไหม? ใช่ไหม? 

  ซือหยูสีหน้าหม่นหมอง

   เจ้าเข้าใจผิดแล้วชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้าเจ้าเป็นมังสวิรัติ 

   ไสหัวไป! 

  สุนัขดำคำรามและวิ่งหายไปในหมอกควันมันหายไปอย่างไร้ร่องรอย

   ซือหยูเซี่ยนเจ้าพูดกับใครกัน? 

  ปิงหวูชิงฝ่าฝูงคนมาหาเขา  ซือหยูยักไหล่

   สุนัขหลงทางน่ะข้ากำลังชี้ทางสว่างให้มัน 

   สุนัขสีดำรึ? 

  ปิงหวูชิงงงงวยนางส่ายหน้าและพูด

   หอวิชากำลังจะเปิดอย่าไขว้เขว เราจะต้องพยายามขึ้นหอคอยไปให้ได้ 

  ซือหยูไม่ค่อยรู้เรื่องหอวิชามากนัก

   ข้างในนั้นเป็นยังไงหรือ? 

  ปิงหวูชิงถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง

   ข้าลืมไปว่าเจ้าเพิ่งมาถึงและยังไม่รู้เรื่องหอวิชา 

  คนอื่นมาถึงก่อนซือหยูพวกเขาได้รับข้อมูลรายละเอียดเรื่องหอวิชาจากยอดฝีมืออื่นมาแล้ว

   หอคอยจะแบ่งเป็นร้อยชั้นแต่ละชั้นจะมีจ้าวชั้นหนึ่งคนที่มีพลังมาก! 

   เจ้าจะเก็บสะสมคะแนนได้จากการเอาชนะจ้าวชั้นเจ้าจะได้แก้วของจ้าวชั้นที่ตายไป! 

   เรื่องที่สองเราจะถูกแยกโดดเดี่ยวเมื่อเข้าไปในหอคอย! เรื่องที่สาม เวลาด้านในหอคอยจะช้ากว่าปกติ ในสามสิบชั้นแรก เวลาจะช้ากว่าโลกภายนอกสามในสิบเท่า สามสิบชั้นต่อไปจะช้าลงอีกสามในสิบเท่า อีกสามสิบชั้นจะช้าลงสองเท่า 

   ในสามสิบชั้นสุดท้ายเวลาในแต่ละชั้นจะช้ากว่าเดิมเป็นเท่าตัว! วิชาการเคลื่อนไหวของเราจะถูกจำกัดอย่างรุนแรง 

  ซือหยูทึ่งเมื่อได้ฟังสองเรื่องแรกนั้นแปลกใหม่สำหรับเขา แต่เรื่องสุดท้ายนั้นฟังดูน่าตกใจ มีพลังเวลาอยู่ด้านในหอวิชาด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับสิ่งที่มีพลังเวลานอกจากตัวเขา

   ข้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ 

  ปิงหวูชิงถอนหายใจแม้ว่านางจะเบื่อ นางก็อธิบายอย่างอดทน   หลังจากจ้าวชั้นพ่ายแพ้แก้วจะหล่นมาจากพวกเขา แก้วเหล่านั้นคือสมบัติที่เซียนมณีเป็นผู้ออกแบบ พวกมันคล้ายกับแหวนมิติและเก็บสมบัติได้มากมาย 

   มูลค่าของสมบัติในแก้วแต่ละชั้นจะเทียบเท่ากับจำนวนชั้นยิ่งเจ้าไปสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีของล้ำค่าในแก้วมากขึ้น! และกับจ้าวชั้นทุกคนที่เจ้าเอาชนะ เจ้าจะเก็บสะสมเป็นคะแนน จำนวนคะแนนจะใช้กับแก้วที่ตอบสนองได้ 

  ปิงหวูชิงอธิบาย

   ถ้าเช่นนั้นเราก็ควรจะเก็บคะแนนเพื่อใช้แก้วในชั้นที่ร้อยสินะ? 

  ซือหยูถาม

  ปิงหวูชิงกลอกตาหาเขา

   ฝันไปเถอะ!ตั้งแต่อดีตจนถึงวันนี้ จำนวนยอดฝีมือที่ผ่านร้อยชั้นนับได้ด้วยมือเดียว! สุดท้ายคนเหล่านั้นก็กลายเป็นราชาเก้าเขต!     นภาจรัสอย่างฮั่นเฟยยังถือว่าโชคดีเลยถ้าไปถึงชั้นเก้าสิบมันคือขีดจำกัด! 

  ดูเหมือนว่าการได้แก้วในชั้นที่หนึ่งร้อยจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน

   แต่เจ้าพูดถูกเรื่องนึงนั่นคตือเราต้องเก็บคะแนน! แก้วในชั้นล่างไม่มีอะไรน่าสนใจนัก อย่าเปลืองคะแนนกับของพวกนั้น! 

   เราต้องเก็บคะแนนทั้งหมดและสุดท้ายในตอนที่หอวิชาจะปิด เราจะได้มารวมตัวกันอีกครั้ง ทุกคนจะแสดงแก้วแต่ละชั้นที่ได้มาและใช้พร้อมกัน 

  อย่างเช่นถ้ามีคนไปถึงชั้นสิบและเก็บได้ห้าสิบห้าคะแนน จากตำนวนคะแนนที่ได้ พวกเขาจะมีโอกาสใช้แก้วของชั้นห้าสิบห้าได้

  แม้เขาจะไปไม่ถึงชั้นห้าสิบห้าก็ไม่จำเป็นหากมีผู้แข็งแกร่งจากสำนักเดียวกันไปถึงชั้นเจ็ดสิบ เขาจะมีแก้วส่วนเกินจากห้าสิบห้าชั้นแรก เขาจะให้แก้วเหล่านั้นเป็นของขวัญกับอีกคนได้ มันคือสถานการณ์ที่ไม่มีใครได้ใครเสีย!    อย่างนี้นี่เองแล้วหอวิชาจะเปิดนานเท่าไหร่ล่ะ? 

  ซือหยูถาม

  ปิงหวูชิงตอบ

   จากบันทึกในอดีตมันจะเปิดสิบวันในแต่ละครั้ง 

   แล้วถ้าจัดการทุกชั้นได้ในสิบวันจะขึ้นหอคอยใหม่เป็นรอบที่สองได้ไหม? 

  ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวซือหยู

  ปิงหวูชิงผงะหลัง

   เจ้าจะเพ้อไปกันใหญ่แล้ว!ตามทฤษฎีน่ะเป็นไปได้ แต่จากเวลาที่จำกัดมันก็คงจำเป็นไปไม่ได้ ราชาเขตในอดีตยังทำไม่ได้เลย 

  ซือหยูตาเป็นประกายแน่ใจรึว่าเขาจะทำสิ่งที่ราชาเก้าเขตล้มเหลวสำเร็จไม่ได้?

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท