บทที่ 695 สัตว์โลกย่อมทุกขัง สัตว์โลกย่อมทุกขัง เฮ้อ!
ตกตะลึงนิ่งค้าง ทั่วบริเวณล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึง!
ผู้อาวุโสจักรพรรดิเซียนตระกูลกู่ชะงักค้าง ผู้อาวุโสจักรพรรดิเซียนจากกองกำลังอื่น ๆ เองก็ชะงักค้างไปเล็กน้อยเช่นเดียวกัน
สถานการณ์…ไม่ควรดำเนินไปเช่นนี้สิ!
ต้าเต๋อเป็นสหายกับพวกลั่วสุ่ย ตอนนี้ชีวิตของต้าเต๋ออยู่ในกำมือของพวกเขา พวกลั่วสุ่ยไม่ควรเอ่ยวาจาออกมาอย่างไร้ความกลัวเกรงเช่นนี้ แต่ต้องวิตกกังวลและยอมเจรจากับพวกเขา
ทว่าตอนนี้กลับเกิดเรื่องอันใดขึ้น?
อ้ายฉานกลับตะโกนยั่วยุให้พวกเขาสังหารต้าเต๋อ!
มีเรื่องเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ…พวกเขาจับผิดไป!
‘แสร้งปล่อยเพื่อจับ! จะต้องเล่นแง่ใส่พวกเราโดยการแสร้งปล่อยเพื่อจับอย่างแน่นอน!’
‘คิดจะหลอกลวงพวกเราอย่างนั้นหรือ?’
จักรพรรดิเซียนอาวุโสเอ่ยเยาะเย้ยภายในใจ พวกเขาไม่เชื่อว่าอ้ายฉานต้องการให้พวกเขาสังหารต้าเต๋อตามคำพูดจริง ๆ
จะเป็นไปได้อย่างไร!
ถึงกลับมาที่นี่ด้วยกัน ความสัมพันธ์จะย่ำแย่ถึงปานนั้นได้อย่างไร?
ถึงแม้ต้าเต๋อผู้นี้จะเป็นที่เกลียดชังของคนอื่น แต่ก็จะต้องไม่เกลียดชังถึงระดับนี้อย่างแน่นอน
“แม่นางน้อยระวังคำพูดของเจ้าเสีย! ไม่อย่างนั้น หากบังเอิญเผลอทำสหายเจ้าได้เลือดคงแย่ไม่น้อย”
จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวเอ่ย “ไม่นานมานี้ข้ามีปัญหาเกี่ยวการฝึกฝนเล็กน้อย มือข้างนี้มักจะควบคุมไม่ค่อยได้เสียด้วยสิ ตอนนี้มือของเขาก็เริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้แล้ว”
เมื่อเขาพูด มือข้างที่วางบนไหล่ของต้าเต๋อก็เริ่มสั่นขึ้นมา พลังที่ไม่อาจอธิบายได้หลั่งไหลออกมาเป็นระยะ ๆ
นี่เป็นการข่มขู่อย่างไม่ต้องสงสัย
น่าเสียดายที่อ้ายฉานก็ยังคงไม่สนใจ
“นี่ ท่านจะลงมือไม่ลงมือ! ข้าบอกให้ท่านฆ่าเขาเสียเลย มัวลีลาอันใดอยู่กัน? หรือว่าแก่จนอ่อนแอถึงขั้นสังหารคนไม่ได้แล้ว?”
อ้ายฉานตะโกนต่อ “เช่นนั้นก็เปลี่ยนคนอายุน้อยกว่ามาสังหารเขาทิ้งเสีย! อย่าเอาแต่พูด ไม่ลงมือทำเสียที ไม่เช่นนั้นข้าจะดูแคลนท่านแล้วนะ!”
นี่มันอันใดกัน!
ใบหน้าจักรพรรดิเซียนอาวุโสแปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มทันที
อ้ายฉานผู้นี้ดูเหมือนไม่ได้ขู่ขวัญเล่นละครตบตาหรือเล่นอุบายแสร้งปล่อยเพื่อจับแต่อย่างใด ดูจากท่าทางของนางแล้วราวกับตั้งหน้าตั้งตารอให้ต้าเต๋อตายจริง ๆ!
เขาพูดไม่ออก อดเหลือบไปมองทางต้าเต๋อไม่ได้ คนผู้นี้เป็นตัวอันใดกัน ขนาดพวกเดียวกันก็ต้องการจะสังหารเขา!
“อามิ…ต้าเต๋อฝอ! ข้าพระพุทธผู้ไร้เกศา! อ้ายฉานเจ้าช่างใจร้ายยิ่งนัก ต้องการให้ข้าตาย! ข้าโกรธเจ้าแล้ว!”
ต้าเต๋อมองไปทางอ้ายฉานแล้วตะโกนออกมา “อ้ายฉานเจ้าพูดเช่นนี้แล้ว ครั้งหน้าหากเจ้าตกอยู่ในอันตราย ข้าก็จะไม่ช่วยเหลือเจ้า ทั้งยังจะช่วยซ้ำเติมด้วย!”
“เจ้าโล้นน้อย เจ้าพูดผิดแล้ว ไม่ใช่แค่พี่อ้ายฉานที่อยากเห็นเจ้าตาย พวกข้าเองก็อยากเห็นเจ้าตายเช่นกัน!”
“ใช่แล้ว ๆ! จะว่าไปแล้ว พวกท่านที่อยู่ตรงนั้นมัวรออันใดอยู่ ไม่ลงมือเสียที! พวกท่านเห็นเจ้าโล้นน้อยนั่นแล้วไม่รู้สึกรำคาญบ้างหรือ! รีบตบ ๆ เขาให้ตายเสีย!”
จู้จื่อและเด็กคนอื่น ๆ ต่างก็ตะโกนออกมาพร้อมกัน
พวกเขาเล่นกับอ้ายฉานมาตั้งแต่เด็กจนโต ย่อมต้องเข้าข้างอ้ายฉานเป็นธรรมดา
นี่มันอันใดกัน!
เหล่าจักรพรรดิเซียนอาวุโสหลายคนต่างตกอยู่ในความยุ่งเหยิง การข่มขู่ในครั้งนี้ของพวกเขาดูเหมือน...จะไม่ได้ผล?
“เด็กน้อยเหล่านั้นล้วนไม่รู้ความ แม่นางเล่า ท่านคิดเห็นเช่นไร?”
จักรพรรดิเซียนอาวุโสเบนสายตาไปหาลั่วสุ่ย ภายในใจคิดว่าอ้ายฉานกับเด็กคนอื่น ๆ อาจขัดแย้งกับต้าเต๋อ ทำให้ไม่สนใจความเป็นตายของต้าเต๋อ แต่ผู้ใหญ่อย่างลั่วสุ่ยไม่น่าจะทำตัวไม่สนใจความเป็นตายของต้าเต๋อได้!
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคิดผิดอีกครั้ง
“ไม่มีการเจรจาอันใดทั้งนั้น พวกเจ้าเอ่ยอยากสังหาร ก็จงสังหารเสีย”
ลั่วสุ่ยเอ่ยเสียงเรียบ
นางอยู่ข้างกายคุณชายมาโดยตลอด รู้ดีเป็นอย่างยิ่งว่าคุณชายมองต้าเต๋อในแง่ดีถึงเพียงใด ทั้งยังเคยเอ่ยออกมาหลายครั้งว่า ในอนาคตต้าเต๋อจะต้องเติบโตขึ้นมาเป็น ‘ฝอ’ ที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
ตัวตนของคุณชายคือสิ่งใด หนึ่งคำกำหนดความเป็นตาย หนึ่งคำเพิกเฉยต่อกาลและมิติ หนึ่งคำฟ้าดินสดับรับฟัง เช่นนั้นแล้วจักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวจะสามารถสังหารต้าเต๋อได้อย่างไร…
นางไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด แม้จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวจะผลาญแก่นกำเนิดชีวิตของตนเอง ก็ยังไม่อาจทำร้ายต้าเต๋อได้
นางไม่มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของต้าเต๋อเลยแม้แต่น้อย
กลับกัน หากเหล่าจักรพรรดิเซียนอาวุโสเหล่านี้ต้องการจะลงมือสังหารต้าเต๋อจริง ๆ จักพรรดิเซียนอาวุโสเหล่านี้เกรงว่าจะต้องประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่เสียเอง
“หยุดเถิด พวกเจ้าข่มขู่พวกข้าเช่นนี้ไม่ได้หรอก”
หลิงอินเองก็ทะยานขึ้นมาด้านข้างลั่วสุ่ย มองไปทางจักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวด้วยความสงบนิ่ง
“เป็นเช่นนั้นจริง”
เซี่ยเหยียนเองก็ตามมาพร้อมกล่าวอย่างเรียบเฉย
“นี่มัน…ไม่ได้ผลจริงหรือ!?”
เส้นเลือดบนหน้าผากของจักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวกระตุก ภายในใจเต็มไปด้วยโทสะ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนต้าเต๋อทะยานมาหาพวกเขา ไม่มีผู้ใดพยายามห้ามหรือรั้งต้าเต๋อเอาไว้ เพราะพวกลั่วสุ่ยไม่มีผู้ใดเลยที่เป็นห่วงความเป็นตายของต้าเต๋อ!
เขามองต้าเต๋ออย่างเกลียดชัง หัวใจและปอดราวกับใกล้จะระเบิดออกมา
เดิมทีคิดว่าต้าเต๋อจะกลายมาเป็นเบี้ยในมือพวกเขา สามารถใช้เป็นไพ่ตายได้ แต่ความจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เห็นได้ชัดว่าต้าเต๋อเป็นเพียงผู้ที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีประโยชน์อันใดแม้แต่น้อย!
“สัตว์โลกย่อมทุกขัง สัตว์โลกย่อมทุกขัง เฮ้อ!”
พระอมิตาภะพุทธเจ้าถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางท่องออกมา ต้าเต๋อถูกทิ้งเช่นนี้ ย่อมนับเป็นทุกขัง สร้างความเศร้าโศกเป็นอย่างยิ่ง
สีหน้าท่าทางของจักรพรรดิเซียนอาวุโสคนอื่น ๆ ก็แปลกประหลาดเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน
อ้ายฉานและเด็กคนอื่นพอว่า ไม่สนใจชีวิตของต้าเต๋อก็แล้วไปเถิด สามารถเข้าใจได้ว่าพวกนางยังเด็กนัก แต่ลั่วสุ่ยกับผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ยังคงพูดเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าต้าเต๋อไม่มีค่าแต่อย่างใด…
แผนการของพวกเขาที่จะนำต้าเต๋อมาใช้ข่มขู่ไม่สำเร็จ ทั้งยังล้มเหลวไม่เป็นท่า
“เจ้าดูเสียว่าตนเองเป็นสิ่งใดกันแน่? ทุกคนล้วนเกลียดชังเจ้า ต่างต้องการใช้เจ้าตายเร็วยิ่งขึ้น เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออันใดกัน!”
จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวยิ่งมองต้าเต๋อก็ยิ่งโกรธมากขึ้นจนต้องสบถสาปแช่งออกมา
“ไร้สาระ!”
ต้าเต๋อถลึงตาจ้องกลับไปยังจักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียว “ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ยังเด็กยิ่งกว่าตาแก่อย่างเจ้า! อย่างไรเสียข้าก็ยังอยู่ในช่วงวสันตฤดู*[1]!”
อยู่ในช่วงวสันตฤดู?
ช่วงวสันตฤดูบ้าบออันใดกัน!
เด็กน้อยที่ไม่มีผมแม้สักเส้น จะเอาวสันตฤดูมาจากที่ใดกัน!
หลังจากได้ยินคำพูดของต้าเต๋อ จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวก็พลันโกรธยิ่งกว่าเดิม
เขายกมือที่จับไหล่ต้าเต๋อขึ้นมาตบไปที่หัวโล้น ๆ ทันที!
“ข้าจะทำกุศลโดยการส่งเจ้าไปตามทางเดินเอง จะได้กำจัดความรำคาญให้ทุกคน!”
เขายิ้มเหยียดหยัน ฝ่ามือนั้นเต็มไปด้วยประกายแสงน่าหวาดกลัว หากเขาตบโดนหัวต้าเต๋อเข้าจริง ๆ ต้าเต๋อจะต้องกลายเป็นก้อนเนื้ออย่างแน่นอน!
ระหว่างนี้ เขายังลอบสังเกตการเคลื่อนไหวของพวกลั่วสุ่ย
เขายังไม่อยากเชื่อว่าพวกลั่วสุ่ยจะไม่สนใจความเป็นตายของต้าเต๋อจริง ๆ!
เหล่าจักรพรรดิเซียนคนอื่น ๆ ก็ต่างพากันมองดูด้วยสายตาเย็นชา พวกเขาเองก็ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของพวกลั่วสุ่ย ไม่สนใจจริง ๆ หรือ? พวกเขาไม่เชื่อ!
“หยุด!”
พระอมิตาภะพุทธเจ้าตะโกนออกมา เขาต้องการเข้าไปหยุดยั้ง ทว่ายังไม่ทันได้เคลื่อนไหว ก็มีพลังระเบิดออกมากักขังเขาเอาไว้ อย่าว่าแต่จะลงมือเลย กระทั่งพูดเขาก็ทำไม่ได้!
ทว่าสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับจักรพรรดิเซียนอาวุโสทั้งหลายก็คือ พวกลั่วสุ่ยนั้นยังคงไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด!
อ้ายฉานกับพวกเด็ก ๆ ยังตบมือร้องว่าดีเสียด้วยซ้ำ!
ต้าเต๋อได้รับความชื่นชอบเอ็นดูจากคุณชายเป็นอย่างมาก กระทั่งเอ่ยปากเป็นพรปกป้องเขาเอาไว้ เช่นนั้นแล้ว จักรพรรดิเซียนตระกูลเซียวจะสังหารต้าเต๋อได้อย่างไร?
เหอ เหอ เกรงว่ากระทั่งยอดฝีมือสูงสุดในแดนบรรพโกลาหลก็ยังไม่สามารถแตะต้องต้าเต๋อได้!
อ้ายฉานและเด็กคนอื่น ๆ ก็ตระหนักได้ถึงจุดนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงเฉยเมยเป็นอย่างมาก
หากไม่ได้เป็นเช่นนี้ พวกอ้ายฉานก็คงไม่แสดงท่าทางแบบนี้ แม้อ้ายฉานกับต้าเต๋อจะไม่ถูกกัน แต่ก็ล้วนเป็นแค่การทะเลาะกันตามประสามิตรภาพอันดีงามระหว่างเด็ก ๆ ถ้าหากชีวิตของต้าเต๋อตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ อย่างไรเสียอ้ายฉานก็จะต้องเข้าไปช่วยต้าเต๋อแบบไม่คิดชีวิตตัวเอง
พวกลั่วสุ่ยเองก็เช่นเดียวกัน!
ฟังดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่น แต่ถ้าหากมีใครคนใดในหมู่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอันตรายระดับความเป็นตายจริง พวกเขาก็พร้อมเข้าไปช่วยเหลืออย่างไม่คิดชีวิต นับได้ว่าพวกเขาต่างมีความสัมพันธ์ระดับที่สามารถมอบความเป็นตายให้กันได้!
‘ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่ลงมือช่วยเหลือจริง ๆ’
จักรพรรดิเซียนผู้อาวุโสคิดขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน เขาคิดว่าพวกลั่วสุ่ยเพียงแค่กำลัง ‘เล่นพนัน’ กับพวกเขาอยู่ เขารู้สึกว่าพวกลั่วสุ่ยไม่ได้ไร้เยื่อใยถึงเพียงนั้น!
และขอเพียงแค่พวกลั่วสุ่ยเอ่ยปาก พวกเขาก็จะมีช่องท่างในการเจรจา!
มือของเขาเปี่ยมด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวค่อย ๆ เคลื่อนเข้าหาหัวของต้าเต๋อ
ทว่าเมื่อมือของเขากำลังจะสัมผัสโดนหัวของต้าเต๋อ ก็พลันเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้น!
ตู้ม!
ความว่างเปล่าพลันเกิดแรงสะเทือนหนัก กฎเกณฑ์อันเกินกว่าจะคิดจินตนาการถึงพุ่งออกมาจากบนท้องฟ้าเหนือพวกเขา ทำให้ดินแดนแกนกลางเดือดพล่านขึ้นทันที เสียงระเบิดดังสะเทือนเลือนลั่นทั่วท้องนภา!
ภาพอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้เกิดขึ้นที่ดินแดนแกนกลาง ก่อนจะแผ่กระจายไปทั่วภพเซียนอย่างรวดเร็ว ปกคลุมทั่วทั้งภพเซียนในพริบตาเดียว!
แรงกดดันอย่างถึงที่สุดกระเพื่อมออกมาระลอกแล้วระลอกเล่า สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในภพเซียนต่างตื่นตกใจหวาดผวา พากันทรุดลงไปกับพื้นอย่างไม่อาจต้านทาน!
จักรพรรดิเซียนอาวุโสเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ขนบนร่างกายของพวกเขาลุกชัน ภายในใจสัมผัสได้ถึงความอันตรายเป็นอย่างยิ่ง!
“เหตุใดจึงรู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง…”
ประมุขตระกูลเซียวสั่นสะท้านไปทั้งตัว เขารู้สึกว่าฉากที่พบเห็นนั้นช่างดูคุ้นเคยอยู่บ้าง!
ความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงกับเขาเท่านั้น จักรพรรดิเซียนอาวุโสคนอื่น ๆ เองก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้างเช่นเดียวกัน
ในไม่ช้า พวกเขาก็เข้าใจว่าความรู้สึกคุ้นเคยนี้มาจากที่ใด
เหนือศีรษะของพวกเขาขึ้นไป ปรากฏแหล่งกำเนิดของพลังกดดันมหาศาล ที่ตรงนั้นมีเงาร่างหนึ่งค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมา
นี่คือร่างอันคลุมเครือที่สร้างขึ้นมาจากกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทันทีที่ปรากฏขึ้นก็แผ่ลมหายใจสูงสุดออกมา ชวนให้หัวใจสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ไม่อาจหาญกล้าเข้าไปยั่วยุแม้แต่น้อย!
“เป็นคนผู้นั้น!”
“พวกเขาเกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นหรือ?!”
จักรพรรดิเซียนอาวุโสทั้งหมดต่างหวาดกลัว แม้ร่างจะพร่าเลือนไม่อาจเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน แต่พวกเขาก็สามารถจำได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น นี่คือตัวตนที่ไร้ผู้เทียบเคียง กระทั่งจักรพรรดิเซียนก็เป็นเพียงแค่เศษธุลีเบื้องหน้าของคนผู้นี้ เพียงแค่หนึ่งวาจาก็ทำให้พลังทั้งหมดของจักรพรรดิเซียนสูญสิ้นลงได้!
พวกเขาต่างรีบพากันหนีด้วยความอลหม่านอย่างไร้ความลังเล ถ้าหากรู้ตั้งแต่แรกว่าพวกลั่วสุ่ยเกี่ยวข้องกับคนผู้นั้น แม้ว่าพวกเขาจะถูกตีจนตายก็ไม่กล้าตีพวกลั่วสุ่ยกลับโดยเด็ดขาด
อันที่จริงพวกเขาควรจะคิดถึงเรื่องนี้ได้ตั้งนานแล้ว พลังในร่างกายของลั่วสุ่ยนั้นเหนือชั้นไม่ธรรมดา ห่างไกลจากนิรันดร์เป็นอย่างยิ่ง พลังเช่นนี้จะสามารถปรากฏขึ้นโดยบังเอิญได้อย่างไร พวกเขาควรจะคิดเรื่องนี้ให้ได้เร็วกว่านี้!
พวกเขาต่างหนีอย่างสุดชีวิต ทว่าน่าเสียดาย ภายใต้เงื้อมมือของเงาพร่าเลือนนี้ พวกเขาหนีให้ตายอย่างไรก็ไร้ประโยชน์!
เพียงแค่ร่างพร่าเลือนย่ำเท้าลงอย่างแผ่วเบา พลังอันไร้ขอบเขตก็ถูกปลดปล่อยออกมาทันที ไล่ตามเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหมดไป!
เผละ!
เลือดสาดกระเซ็นทุกหนแห่ง ไม่มีจักรพรรดิเซียนอาวุโสผู้ใดรอดพ้น ร่างกายต่างระเบิดออกกลายเป็นหมอกละอองโลหิต
ต้องใช้เวลานานเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาจึงสามารถรวบรวมร่างกายขึ้นมาใหม่ได้
อีกทั้งลมหายใจของพวกเขาก็อ่อนแอลงเป็นอย่างมาก ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส!
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เลือนหายไปกลับสู่ความสงบ กฎเกณฑ์ทั้งหมดถอยกลับ ร่างที่เลือนรางก็จางหายไป
ความตื่นตะหนกปรากฏขึ้นในใจของสิ่งมีชีวิตทุกตนในภพเซียน!
[1] วสันตฤดู (当春) หมายถึง ช่วงวัยที่ความรักผลิบาน เทียบแล้วก็ประมาณเป็นช่วงวัยแรกรุ่น