รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 696 หลี่จิ่วเต้า ‘หวังว่าที่นี่จะเป็นรังปลามังกร!’

บทที่ 696 หลี่จิ่วเต้า 'หวังว่าที่นี่จะเป็นรังปลามังกร!'

บท​ที่​ 696 ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ ‘หวัง​ว่า​ที่นี่​จะเป็นรัง​ปลา​มังกร​!’

“สวรรค์​ นี่​ต้อง​เป็น​ตัวตน​ระดับ​ใด​กัน​แน่​!”

“ร่าง​จริง​มิได้มา​เยือน​ ลำพัง​ร่าง​ระเบียบ​ยัง​น่า​พรั่นพรึง​ถึงเพียงนี้​ กระทืบเท้า​เบา​ ๆ จักรพรรดิ​เซียน​ทั้งหมด​ก็​กลายเป็น​หมอก​เลือด​เลย​หรือ​!”

สิ่งมีชีวิต​ใน​ภพ​เซียน​ต่าง​สะท้าน​เหลือแสน​ หวาดผวา​ถึงขีดสุด​

แม้ว่า​ร่าง​ของ​ท่าน​ผู้​นั้น​อันตรธาน​ไป​นาน​แล้ว​ กระนั้น​พวกเขา​ก็​มิอาจ​สงบใจ​ลง​ได้​ ราวกับ​มีเกลียวคลื่น​ซัดสาด​ จน​พวกเขา​ใกล้​จะตาย​ด้วย​ความ​ตะลึง​เต็มที​!

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​พวกเขา​ได้​เห็น​ภาพร่าง​นี้​ รวมถึง​ผู้นำ​ของ​แต่ละ​ตระกูล​ แต่ละ​เผ่า​ แต่ละ​ลัทธิ​ ก็​เป็นครั้งแรก​สำหรับ​พวกเขา​ทั้งสิ้น​

ทว่า​สำหรับ​บรรดา​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​กลับ​มิใช่เช่นนั้น​

พวกเขา​มิได้​เพิ่ง​เคย​พบ​ครั้งแรก​ หาก​แต่​เป็นการ​พบ​ครั้ง​ที่สอง​

ครานั้น​ ท่าน​ผู้​นี้​มาจาก​นอก​ภพ​เซียน​ พลัง​สยดสยอง​ที่​ปกคลุม​อยู่​นอก​ภพ​เวียน​ประหนึ่ง​เด็ก​ที่​เห็น​พ่อ​ทูนหัว​ พริบตาเดียว​ก็​หด​พลัง​ทั้งหมด​กลับ​ไป​ มิกล้า​ปล่อย​ให้​รั่วไหล​ออกมา​สัก​เสี้ยว​ ไม่กล้า​กีดขวาง​ท่าน​ผู้​นี้​เลย​

สิ่งมีชีวิต​ตน​อื่น​ใน​ภพ​เซียน​ไม่รู้สึก​ถึงเหตุการณ์​นี้​ แต่​พวกเขา​รู้สึก​!

ยาม​พลัง​น่า​พรั่นพรึง​นอก​ภพ​เซียน​หดกลับ​ไป​ พวกเขา​ก็​เกิด​ความรู้สึก​ พา​กัน​มอง​ไป​ทาง​ทิศ​นั้น​ เพราะ​อยาก​ทราบ​ว่า​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​ที่นั่น​

จากนั้น​ พวกเขา​ก็ได้​เห็น​ท่าน​ผู้​นี้​!

แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไม่เห็น​รูปโฉม​ของ​ท่าน​ผู้​นี้​

อันที่จริง​ พวกเขา​มอง​เพียง​ปราด​เดียว​ก็​เบน​สาย​ตากลับ​ไป​ ท่าน​ผู้​นี้​สูงส่งเกินไป​ พวกเขา​ไฉน​เลย​จะกล้า​มอง​นาน​ มอง​เพียง​แวบเดียว​ก็​เกือบ​เอาชีวิต​พวกเขา​แล้ว​ พวกเขา​เห็น​เพียง​เลือนราง​เท่านั้น​

ทว่า​ผู้นำ​และ​ประมุข​ของ​แต่ละ​ตระกูล​ แต่ละ​เผ่า​ แต่ละ​ลัทธิ​คิด​ว่า​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​พวกเขา​ได้​เห็น​ท่าน​ผู้​นี้​ ส่วน​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​คิด​ว่า​พวกเขา​เห็น​ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​

แต่​จริง ๆ​ แล้ว​ เป็นการ​เข้าใจ​ที่​ผิด​ทั้งหมด​

ผู้นำ​และ​ประมุข​ของ​แต่ละ​ตระกูล​ แต่ละ​เผ่า​ แต่ละ​ลัทธิ​มิได้​พบพาน​เป็นครั้งแรก​ หาก​แต่​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​

บรรดา​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​ก็​มิได้​พบพาน​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ หาก​แต่​เป็น​ครั้ง​ที่สาม​

เพียงแต่​พวกเขา​ไม่รู้ตัว​เท่านั้น​

ครานั้น​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​พา​ซ่างกวน​อิ๋ง​บุก​ไป​ยัง​ตระกูล​และ​ลัทธิ​ต่าง ๆ​ เพื่อ​ขอ​ ‘ยืม​’ วิชา​ ‘ยืม​’ ประสบการณ์​ฝึก​ตน​จาก​แต่ละ​ตระกูล​ แต่ละ​เผ่า​ แต่ละ​ลัทธิ​ให้​ซ่างกวน​อิ๋ง​

แต่​ถึงคราว​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​กลับ​ ก็​เคย​สั่งให้​ห้วงเวลา​ย้อนกลับ​จนถึง​ช่วง​ที่​เขา​มิเคย​ปรากฏตัว​

ผู้นำ​และ​ประมุข​ของ​แต่ละ​ตระกูล​ แต่ละ​เผ่า​ แต่ละ​ลัทธิ​ และ​บรรดา​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​ก็​ลืมเลือน​เหตุการณ์​ครั้งนั้น​ไป​ด้วย​

จะว่า​ลืมเลือน​คง​มิได้​

เพราะ​สำหรับ​ผู้นำ​และ​ประมุข​ของ​แต่ละ​ตระกูล​ แต่ละ​เผ่า​ แต่ละ​ลัทธิ​ และ​บรรดา​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​ เหตุการณ์​นั้น​ไม่เคย​เกิดขึ้น​มาก่อน​

ภาพ​เมื่อ​ครั้ง​เขา​มาเยือน​ภพ​เซียน​น่ากลัว​เกินไป​ สร้าง​แผลใจ​ให้​กับ​บรรดา​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​อย่าง​มาก​

พวกเขา​รู้ดี​ว่า​เมื่อ​ตัวเอง​อยู่​เบื้องหน้า​ตัวตน​ระดับ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​นั้น​ พวกเขา​เป็น​เพียง​เศษสวะ​ ไม่มีค่า​อัน​ใด​ ตัวตน​ระดับ​นี้​ สามารถ​ริดรอน​พลัง​ของ​พวกเขา​ได้​ใน​วาจา​เดียว​

หารู้ไม่​ พวกเขา​เคย​ประมือ​กับ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​มาแล้ว​ และ​ใน​ตอนนั้น​ อีก​ฝ่าย​ก็​ริดรอน​พลัง​ของ​พวกเขา​ไป​ทั้งหมด​ด้วย​วาจา​เดียว​จริง ๆ​

ทว่า​น่าเสียดาย​ ครานั้น​ พวกเขา​ไม่เห็น​รูปโฉม​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ มิฉะนั้น​ ยาม​บุรุษ​ผู้​นี้​เข้ามา​ ‘ยืม​’ วิชา​ พวกเขา​ไฉน​เลย​จะกล้า​ประมือ​กับ​อีก​ฝ่าย​ คง​กลัว​จน​ปัสสาวะ​ราด​ไป​นาน​แล้ว​

“ทุกท่าน​อย่าง​เกร็ง​ไป​ นำ​ศพ​มังกร​ทั้งหมด​มานี่​”

ลั่วสุ่ย​เหิน​เข้ามา​ เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​อ่อน​บาง​

“จะไป​เดี๋ยวนี้​!”

“รอ​สักครู่​!”

บรรดา​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​เหล่านี้​ไฉน​เลย​จะกล้า​ขัดขืน​ ต่าง​พา​กัน​ออกคำสั่ง​ให้​คนใน​ตระกูล​นำ​ศพ​มังกร​ที่​สะสมไว้​มานี่​ ซ้ำยัง​บอก​ให้​คนใน​ตระกูล​ขน​ศพ​มังกร​ใน​สถานที่​นี้​มาให้​หมด​

พวกเขา​ยัง​รอด​มาได้​นับว่า​โชค​ดีมาก​แล้ว​!

‘นี่​ก็​เพราะ​มิได้​อยู่​ใน​อาณาจักร​ท้องถิ่น​ แต่​อยู่​ที่​ภพ​เซียน​หรือ​’

ต้าเต๋อ​คิดในใจ​

คุณชาย​เคย​อวยพร​เขา​ ยาม​เขา​เผชิญ​อันตราย​ จะมีพลัง​แห่ง​วิถี​สวรรค์​จุติ​ลงมา​เพื่อ​คุ้มครอง​เขา​

แต่​นั่น​เป็น​เพียง​พลัง​ที่​ใช้คุ้มครอง​เท่านั้น​ ไม่มีทาง​เป็น​ฝ่าย​จู่โจมก่อน​

ทว่า​ครั้งนี้​แตกต่าง​ออก​ไป​อย่าง​เห็นได้ชัด​

ครั้งนี้​ไม่มีพลัง​วิถี​สวรรค์​อัน​ใด​ สิ่งที่​ปรากฏ​ออกมา​นั้น​เหมือน​เป็น​พลัง​กฎระเบียบ​บางอย่าง​ที่​ถัก​ทอ​เป็น​ภาพร่าง​คุณชาย​ ซ้ำยัง​เป็น​ฝ่าย​บุก​โจมตี​ ทำร้าย​บรรดา​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​จน​กลายเป็น​หมอก​เลือด​ บาดเจ็บสาหัส​

หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ พลัง​นั้น​เพียงแต่​กระเทือน​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​แห่ง​ตระกูล​เซียว​ออก​ไป​เท่านั้น​ ไม่มีทาง​โจมตี​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​แห่ง​ตระกูล​เซียว​ และ​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​ตน​อื่น​ ๆ

เขา​รู้สึก​ว่า​อาจ​เกี่ยวข้อง​กับ​ที่​เขา​มิได้​อยู่​ใน​อาณาจักร​ท้องถิ่น​ หาก​แต่​อยู่​ที่​ภพ​เซียน​

‘หรือ​อาจ​เพราะ​พลัง​แห่ง​คำ​อวยพร​นั้น​วิ​วัฒนา​จน​ ‘ยกระดับ​’!’

ต้าเต๋อ​คิด​ขึ้น​ใน​ใจอีกครั้ง​

ทว่า​ไม่นาน​เขา​ก็​เลิก​คิด​ ฝีมือ​ของ​คุณชาย​เกิน​กว่า​ที่​เขา​จะจินตนาการ​ออก​ เขา​รู้​เพียง​ว่า​เขา​จะไม่เป็นไร​ก็​พอแล้ว​!

“พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ เกิด​อัน​ใด​ขึ้นกับ​ท่าน​กัน​แน่​”

เขา​เดิน​มาอยู่​ข้าง​กาย​พระ​อา​มิตา​ภะพุทธเจ้า​และ​ถามออก​ไป​

ก่อนหน้านี้​ เขา​เอ่ย​ว่า​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​หลง​ใน​นารี​ ดำ​ดิ่ง​จน​ไม่อาจ​หลุดพ้น​ แท้จริง​แล้ว​เขา​เพียง​เอ่ย​เล่น​ไป​อย่างนั้น​

เขา​รู้​ใน​ความแน่วแน่​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ดี​ ท่าน​คือ​พระเถระ​ผู้​มีพลัง​ยิ่งใหญ่​ เปี่ยม​ด้วย​สติปัญญา​ ไม่มีทาง​หลง​ใน​นารี​

“ข้า​เลือกไม่ได้​”

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ส่ายหน้า​เบา​ ๆ เล่า​ชีวิต​หลัง​เข้า​มาถึงภพ​เซียน​

เขา​เลือกไม่ได้​จริง ๆ​ ตั้งแต่​มาถึงภพ​เซียน​ ก็​ถูก​ตระกูล​กู่​ชิงตัว​ไป​ ต่อมา​ ถูก​ลง​ผนึก​ของ​ตระกูล​กู่​ ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​ล้วน​ต้อง​เชื่อฟัง​ตระกูล​กู่​

“เป็น​เช่นนี้​นี่เอง​!”

ต้าเต๋อ​เข้าใจ​ทุกอย่าง​แจ่มแจ้ง

ขณะเดียวกัน​ เขา​ผิดหวัง​ใน​ภพ​เซียน​มาก​ ภพ​เซียน​มิได้​งดงาม​อย่าง​ที่​คิด​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​ล้วน​อยู่​ใน​ความ​อลหม่าน​ โหดร้าย​ยิ่งกว่า​ข้างนอก​นั่น​เสีย​อีก​

“พวก​เจ้าอาลัยอาวรณ์​ใน​พระผู้เป็นเจ้า​ของ​เรา​ปานนี้​เชียว​หรือ​ ป่านนี้​แล้ว​ยัง​ไม่คลาย​ผนึก​ให้​พระผู้เป็นเจ้า​ของ​เรา​อีก​”

ต้าเต๋อ​มอง​ผู้นำ​ตระกูล​กู่​พลาง​กล่าว​

ผู้นำ​ตระกูล​กู่​มิได้​ตอบ​อัน​ใด​ หาก​แต่​หัน​มอง​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​ท่าน​หนึ่ง​ใน​ตระกูล​กู่​ของ​พวก​นาง​

จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​ท่าน​นั้น​มอง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​อย่าง​มีความหมาย​ สุดท้าย​ก็​ถอนหายใจ​อย่าง​หมด​เรี่ยวแรง​พลาง​กล่าว​ “คลาย​เสีย​…”

“เจ้าค่ะ​!”

ผู้นำ​ตระกูล​กู่​ตอบ​เสียง​นอบน้อม​ ก่อน​จะเดิน​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ คลาย​ผนึก​ทั้งหมด​ใน​ตัวพระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ออก​และ​ถอน​กลับ​ไป​

“อา​มิตา​พุทธ​!”

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​พนมมือ​ พยักหน้า​ให้​ผู้นำ​ตระกูล​กู่​

“มีเรื่องราว​อยู่​นะ​นี่​…”

ต้าเต๋อ​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​กว้าง​ เห็น​สายตา​ยาม​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​แห่ง​ตระกูล​กู่​ผู้​นั้น​ทอด​มอง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​

“ตระกูล​กู่​ไม่เคย​รับ​บุรุษ​ แม้กระทั่ง​อสูร​พาหนะ​ที่​เลี้ยงดู​ก็​เป็น​ตัวเมีย​กัน​ทั้งสิ้น​ แต่กลับ​เอาจริงเอาจัง​ปาน​นั้น​เมื่อคราว​ชิงตัว​พระผู้เป็นเจ้า​ของ​เรา​ ไม่สนใจ​สิ่งที่​ต้อง​เสีย​สักนิด​ เป็น​เพราะอะไร​”

เขา​มอง​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​แห่ง​ตระกูล​กู่​ มุมปาก​ยก​ยิ้ม​ประหลาด​ “เจ้าสยบ​ให้​กับ​เสน่ห์​ชายชาตรี​ใน​ตัว​พระผู้เป็นเจ้า​ของ​เรา​ใช่หรือไม่​ ชอบ​พระผู้เป็นเจ้า​ของ​เรา​ใช่หรือไม่​”

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​หัน​มอง​จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​แห่ง​ตระกูล​กู่​ผู้​นั้น​เช่นกัน​ สายตา​เจือ​ไว้​ด้วย​ความ​ใคร่รู้​

เขา​ก็​อยากรู้​ความจริง​เหมือนกัน​

จักรพรรดิ​เซียน​อาวุโส​แห่ง​ตระกูล​กู่​ผู้​นี้​เป็นหนึ่ง​ใน​บรรพชน​ผู้ก่อตั้ง​ตระกูล​กู่​ สถานะ​สูงส่ง

จาก​ที่​เขา​สืบมา​ ที่​ใน​อดีต​ตระกูล​กู่​ชิงตัว​เขา​อย่าง​ไม่คำนวณ​ถึงผลลัพธ์​ปาน​นั้น​ ล้วน​เป็น​เพราะ​คำสั่ง​จาก​บรรพชน​ท่าน​นี้​

ส่วน​ที่ว่า​เหตุใด​บรรพชน​ท่าน​นี้​ถึงต้อง​ชิงตัว​เขา​โดย​ไม่สน​สิ่งอื่น​ใด​นั้น​ จน​ป่านนี้​เขา​ยัง​มิทราบ​

บรรพชน​ตระกูล​กู่​ผู้​นี้​มิได้​เอ่ย​วาจา​ มอง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​อยู่​อย่างนั้น​เนิ่นนาน​ สุดท้าย​ นาง​มอง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​พลาง​กล่าว​ “เจ้าลืม​ข้า​ไป​แล้ว​จริง ๆ​ หรือ​”

“ท่าน​หมายความว่า​อย่างไร​”

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ขมวดคิ้ว​ ใน​อดีต​พวกเขา​เคย​เป็น​สหาย​มาก่อน​หรือ​

“นั่นสิ​นะ​ เจ้าจำข้า​ได้​ที่ไหน​ เจ้าฝักใฝ่​ทางธรรม​มาโดยตลอด​นี่​!”

จู่ ๆ บรรพชน​ตระกูล​กู่​ก็​หัวเราะ​ราวกับ​เสียสติ​ แล้ว​เล่า​เรื่องราว​ทั้งหมด​ที่ผ่านมา​

ข่าวลือ​เกี่ยวกับ​ตระกูล​กู่​ใน​ภพ​เซียน​นั้น​ไม่ผิด​ ทุกอย่าง​คือ​ความจริง​

ตระกูล​กู่​ชิงชังบุรุษ​ทุก​ผู้​เพราะ​เคย​มีบรรพชน​ท่าน​หนึ่ง​ต้อง​เสียใจ​เพราะ​ความรัก​จริง ๆ​ และ​บรรพชน​ท่าน​นั้น​ก็​คือ​นาง​

ผู้​ที่​ทำให้​นาง​เสียใจ​ก็​คือ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​!

“อะไร​นะ​!”

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​สะท้าน​ไป​ทั้งตัว​ คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​เขา​เคย​มีอดีต​เช่นนี้​ด้วย​ ทว่า​เหตุใด​เขา​ถึงจำมิได้​เลย​เล่า​?

“ยาม​นั้น​ เรา​ทั้งคู่​ยัง​อ่อนเยาว์​ รักใคร่ชอบพอ​กัน​ วาด​ฝัน​ถึงอนาคต​อยู่​เต็ม​ทรวง​…”

บรรพชน​ตระกูล​กู่​ตกอยู่ในภวังค์​ความทรงจำ​

ครานั้น​พิศวง​ลางร้าย​ยัง​ไม่ปะทุ​ ภพ​เซียน​ยัง​ไม่มีอยู่​ นาง​กับ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​น้อย​ ๆ ที่​ไร้​ชื่อเสียง​

พวกเขา​โตมา​ด้วยกัน​ ฝึกฝน​ด้วยกัน​ ซ้ำยัง​นัดแนะ​วัน​วิวาห์​ไว้​เรียบร้อย​ รอ​ให้​พวกเขา​บำเพ็ญ​จน​สำเร็จ​เมื่อใด​จะแต่งงาน​กัน​ทันที​

ทว่า​วันหนึ่ง​ จู่ ๆ พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ก็​เปลี่ยนไป​

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ราวกับ​กลายเป็น​คนละ​คน​ เทศนา​ธรรม​แก่​นาง​ ซ้ำยัง​บอกลา​นาง​ เอ่ย​ว่า​นับแต่นี้ไป​ เขา​จะบำเพ็ญ​ธรรม​ไป​ตลอดกาล​ ไม่มีกิเลส​อื่น​ใด​ใน​ใจอีก​

สิ่งใด​หรือ​คือ​ธรรม​?

นาง​ไม่รู้​ เพราะ​นั่น​เป็นครั้งแรก​ที่​นาง​ได้ยิน​

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​จากไป​ง่าย ๆ​ เช่นนั้น​ ไม่มีข่าวคราว​ นาง​สืบเสาะ​อยู่​หลาย​ครา​ก็​ไร้ผล​

ต่อมา​ นาง​ยัง​สืบหา​สิ่งที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ ‘ธรรม​’ ทว่า​มิมีผู้ใด​รู้​ว่า​ ‘ธรรม​’ คือ​อะไร​

กาลเวลา​ล่วงเลย​ผ่าน​ไป​อย่าง​ยาวนาน​ นาง​บำเพ็ญ​จน​มีความสำเร็จ​ กลายเป็น​จักรพรรดิ​เซียน​ กระนั้น​ยัง​ไม่มีข่าวคราว​ใด​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​

เรื่อง​นี้​กลายเป็น​บาดแผล​ใน​ใจนาง​ไป​ตลอดกาล​ และ​ทำให้​นาง​เข้าใจ​ว่า​ คำสาบาน​ของ​บุรุษ​นั้น​เชื่อ​มิได้​ นาง​ชิงชังใน​ตัว​บุรุษ​เป็น​ที่สุด​ และ​ไม่ต้องการ​ให้​สมาชิก​สตรีเพศ​ใน​ตระกูล​ของ​นาง​ต้อง​ประสบ​ชะตากรรม​เดียว​กับ​นาง​

นาง​ค่อย ๆ​ เปลี่ยน​ตระกูล​กู่​เป็น​ตระกูล​สตรี​

ต่อมา​ ความ​พิศวง​ลางร้าย​ปะทุ​ ภพ​เซียน​ถูก​ก่อ​ตั้งขึ้น​ นาง​จึงพา​คนใน​ตระกูล​มายัง​ภพ​เซียน​

เดิม​คิด​ว่า​คง​ไม่ได้​พบ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​อีก​ แต่​นาง​คิดไม่ถึง​เลย​ ว่า​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​จะมายัง​ภพ​เซียน​!

แต่ไหนแต่ไร​ นาง​เคย​คิด​ว่า​หาก​ได้​พบ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​อีกครั้ง​ จะเฉือน​เนื้อ​เลาะ​กระดูก​บุรุษ​ใจทราม​อย่าง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​เสีย​

ทว่า​ยาม​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ปรากฏตัว​จริง ๆ​ นาง​กลับ​หักใจ​มิได้​เลย​

“อา​มิตา​พุทธ​”

พระ​อา​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ทอดถอนใจ​ นี่​หรือ​คือ​ชาติก่อน​ของ​เขา​

ก่อนหน้านี้​ เขา​ไม่เคย​รู้เรื่อง​นี้​มาก่อน​เลย​

นับแต่​เขา​จำความได้​ ธรรมะ​ก็​สลัก​อยู่​ใน​หัว​ของ​เขา​ สิ่งที่​สลัก​มาด้วย​ยังมี​นาม​ ‘พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​’

หลังจากนั้น​ เขา​ก็​ก้าว​สู่เส้นทาง​บำเพ็ญ​ธรรม​

‘อาตมา​ใน​ชาติก่อน​ ตรัสรู้​กะทันหัน​อย่างนั้น​หรือ​’ เขา​คิดในใจ​

‘ธรรมะ​มาจาก​แห่งหน​ใด​กัน​แน่​ เหตุใด​ถึงเลือก​อาตมา​’

สีหน้า​ของ​เขา​เคร่งเครียด​ นี่​เป็นเรื่อง​ที่​กวนใจ​เขา​อยู่​ตลอด​

ผู้​คนใน​ใต้​หล้า​ล้วน​เข้าใจ​ว่า​เขา​คือ​ผู้สร้าง​ธรรมะ​ ทว่า​ความจริง​หา​ใช่เช่นนั้น​ไม่ เขา​เป็น​เพียง​ผู้​เผยแผ่​ธรรมะ​ ‘พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​’ นั้น​เป็น​ผู้อื่น​ บางที​ เส้นทาง​บำเพ็ญ​ธรรม​ของ​เขา​อาจ​ช่วย​ย้อนรอย​ชาติก่อน​ของ​เขา​ได้​

ปริศนา​เยอะ​เกินไป​ เหตุใด​จู่ ๆ เขา​ใน​ชาติก่อน​ถึงตรัสรู้​ แล้ว​ธรรมะ​มาจาก​ที่ใด​ ใน​ช่วงเวลา​ที่​เขา​ไม่รู้เรื่อง​ เกิด​อัน​ใด​ขึ้นกับ​เขา​

ธรรมะ​นี้​มิได้​ธรรมดา​อย่าง​ที่​คิด​…

“ชีวิต​คนเรา​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ ต่าง​มีเส้นทาง​ของ​ตนเอง​ บางที​เหตุผล​ที่​ข้า​เกิด​มาก​็เพื่อ​เผยแผ่​ธรรมะ​ ความ​จนใจ​นั้น​มีอยู่​เต็มไปหมด​ ไฉน​เลย​จะสมหวัง​ไป​เสีย​ทุกสิ่ง​ อย่า​ได้​มีความ​ยึดติด​ใน​ใจมาก​นัก​ ความผิด​บาป​มากมาย​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ต่าง​เกิด​จาก​ความ​ยึดติด​ใน​ใจ…”

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​มอง​บรรพชน​ตระกูล​กู่​พลาง​กล่าว​

เขา​ฝักใฝ่​ใน​ธรรม​ ไม่อาจ​รับ​สิ่งอื่น​เข้ามา​ไว้​ใน​ใจได้​อีก​ แม้จะได้รับ​รู้เรื่องราว​ต่าง ๆ​ ใน​ชาติก่อน​แล้ว​ หัวใจ​ธรรม​ของ​เขา​ก็​ไม่เปลี่ยน​ ยัง​ต้องการ​บำเพ็ญ​ธรรม​ให้​ถึงที่สุด​

ต้าเต๋อ​ด้าน​ข้าง​มิได้​พูดจา​ เขา​ไป​จาก​ตรงนั้น​เงียบ ๆ​ ให้โอกาส​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ได้​สนทนา​กับ​บรรพชน​ตระกูล​กู่​เป็น​ส่วนตัว​

แต่ละ​ตระกูล​ แต่ละ​ลัทธิ​ต่าง​ลงมือ​ได้​รวดเร็ว​ ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ พวกเขา​ก็​นำ​ศพ​มังกร​ที่เก็บ​สะสมไว้​ใน​แต่ละ​ตระกูล​ แต่ละ​ลัทธิ​ออกมา​ ทั้ง​ยัง​ขน​ศพ​มังกร​ทุก​ตัว​ใน​แดน​แกนกลาง​มาที่นี่​ด้วย​

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​สนทนา​กับ​บรรพชน​ตระกูล​กู่​อยู่​ตลอด​ ต้าเต๋อ​ไม่รู้​ว่า​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​สนทนา​เรื่อง​ใด​กับ​บรรพชน​ตระกูล​กู่​

ทว่า​ใน​สายตา​ของ​เขา​ บรรพชน​ตระกูล​กู่​ยัง​ปล่อยวาง​มิได้​ สายตา​ที่​ทอด​มอง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ยังคง​เต็มไปด้วย​ความเคียดแค้น​!

ที่จริง​คิด​แล้วก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​

บรรพชน​ตระกูล​กู่​แค้น​ใจมานาน​จน​ประเมิน​มิได้​ ความชิงชัง​ระดับ​นี้​ไฉน​เลย​จะหาย​ไป​ได้​ง่าย ๆ​…

“ไป​กัน​เถิด​”

ลั่วสุ่ย​เรียก​ต้าเต๋อ​ จะกลับกัน​แล้ว​

“รอ​ก่อน​!”

ต้าเต๋อ​ตอบกลับ​ลั่วสุ่ย​ ก่อน​จะวิ่ง​ไปหา​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​และ​ถาม “พระผู้เป็นเจ้า​จะไป​กับ​ข้า​ด้วย​หรือไม่​ หาก​ไม่ไป​ ภายหลัง​พระผู้เป็นเจ้า​คง​ออกจาก​ภพ​เซียน​ได้​ยาก​แล้ว​”

ด้านนอก​ภพ​เซียน​มีพลัง​น่า​พรั่นพรึง​ปกคลุม​ หาก​ครั้งนี้​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ไม่ไป​กับ​เขา​ คง​ยาก​จะออกจาก​ภพ​เซียน​ได้​อีก​

“อาตมา​เกิด​มาเพื่อ​ธรรมะ​ ทุกหน​แห่ง​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ล้วน​เป็นแดน​แห่ง​พุทธศาสนา​ ต่าง​ต้องการ​ให้​อาตมา​เผยแผ่​ธรรมะ​ ที่นี่​ก็​เช่นกัน​ พวก​เจ้ากลับ​ไป​เถิด​ อาตมา​จะอยู่​ที่นี่​”

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​กล่าว​

เขา​รู้ดี​ว่า​หาก​ไม่ไป​ตอนนี้​ ต่อไป​คง​ยาก​จะไป​จาก​ภพ​เซียน​ได้​แล้ว​

ภพ​เซียน​มิใช่แดน​สุขาวดี​ ภายหน้า​อาจ​อลหม่าน​ยิ่งกว่า​นี้​ การ​ที่​เขา​อยู่​ใน​ภพ​เซียน​ต่อ​มิใช่ทางเลือก​ที่​ฉลาด​นัก​

กระนั้น​เขา​ก็​ยัง​ตัดสินใจ​อยู่​ที่​ภพ​เซียน​ เผยแผ่​ธรรมะ​

“ก็ได้​”

ต้าเต๋อ​มิได้​เอ่ย​อัน​ใด​ไป​มากกว่า​นี้​ ยอมรับ​การตัดสินใจ​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ เขา​กลับ​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​พวก​ลั่วสุ่ย​ แล้วไป​จาก​ภพ​เซียน​ด้วยกัน​

“ใช่ท่าน​หรือไม่​”

ใน​สถาน​ที่หนึ่ง​ของ​ภพ​เซียน​ ซ่างกวน​อิ๋ง​คุกเข่า​ที่​พื้น​ด้วย​ความเลื่อมใส​ โขก​ศีรษะ​ให้​ร่าง​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ไม่หยุด​

‘ท่าน​วางใจ​ได้​ ข้า​จะพยายาม​ฝึกฝน​ ไม่ให้​ความช่วยเหลือ​ที่​ท่าน​มอบให้​ต้อง​เสียเปล่า​!’

นาง​เอ่ย​ใน​ใจอย่าง​ขึงขัง​

ดินแดน​หยิน​ เหยียน​โจว​ แดน​ทักษิณ​ทิศ​ ท่ามกลาง​เทือกเขา​ที่​เชื่อม​ยาว​ต่อไป​เรื่อย ๆ​

ภายใน​ป่าไผ่​ที่​เขียวขจี​ทุก​ฤดู​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​มือถือ​ขวาน​ ตัด​ไผ่​ออกมา​ไม่น้อย​

เขา​นับ​ดู​แล้ว​ จำนวน​ของ​ไผ่​เหล่านี้​กำลังดี​ ทำไม้​ตกปลา​ให้​พวก​ห​ลิง​อิน​ได้​คนละ​ก้าน​

“เอ็น​ตกปลา​ไม่เป็นปัญหา​สำหรับ​พวก​ห​ลิง​อิน​ อีก​อย่าง​ มีลั่วสุ่ย​อยู่​ด้วย​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​คลี่​ยิ้ม​ มัด​ไผ่​รวม​ไว้​ด้วยกัน​ แล้ว​แบก​ไผ่​เหล่านั้น​ไป​จาก​ที่นี่​

‘ทะเลสาบ​แห่ง​นั้น​ดู​ไม่เลว​จริง ๆ​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​จะตกปลา​มังกร​ขึ้น​มาได้​หรือไม่​…’ เขา​คิดในใจ​

‘ฮ่า ๆ ข้า​หวัง​ให้​ใน​ทะเลสาบ​นี้​มีแต่​ปลา​มังกร​ เช่นนั้น​ ลั่วสุ่ยคง​มี ‘ขนม​’ ให้​กิน​จน​พอ​ใน​การ​เดินทาง​หลังจากนี้​’

‘หาก​เป็นรัง​ปลา​มังกร​จริง​ ทุกคน​ตกปลา​เป็น​กัน​หมด​แล้ว​ จะตกปลา​มังกร​ที่นี่​ไป​จน​เกลี้ยง​หรือเปล่า​!’

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​หัวเราะ​ร่วน​

ท่ามกลาง​อวกาศ​ นาวา​โบราณ​ลำ​หนึ่ง​แล่น​ผ่าน​ดวงดาว​ต่าง ๆ​ อย่าง​รวดเร็ว​

“ใกล้​ถึงแล้ว​ ถึงเวลา​นั้น​ ทุกคน​ตั้งสติ​ ความหวัง​ของ​เผ่า​ปลา​มังกร​ของ​เรา​อยู่​ที่นั่น​!”

หัวหน้า​เผ่า​ปลา​มังกร​เอ่ย​ด้วย​แวว​ตาลุ​กวาว​

ศึก​แย่งชิง​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​นี้​ มัน​มั่นใจ​ว่า​จะมีผล​เก็บเกี่ยว​ เผ่า​ปลา​มังกร​ของ​พวก​มัน​จัก​ต้อง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​ได้​แน่​!

มัน​ตื้นตัน​จน​หัวเราะ​ออกมา​เสียงดัง​ คล้าย​ว่า​มองเห็น​อนาคต​อัน​เฟื่องฟู​เจิดจ้า​ของ​เผ่า​ปลา​มังกร​แล้ว​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท