ปีเตอร์ดูเหมือนจะหลงลืมพลังของตนไปแล้ว เขาสารภาพรักกับผู้หญิงที่เขาชอบแล้วด้วยซ้ำ
ผลลัพธ์นั้นไม่เลว
เขานัดเดตกับผู้หญิงชื่อว่าเกว็น
ทว่า…
ขณะที่กำลังจะออกไป สไปเดอร์แมนก็เห็นข่าวในโทรทัศน์
กรีนก็อบลินปรากฏตัวอีกแล้ว
เขาทำลายเมืองอย่างไม่ไยดี
ความตื่นตระหนกกระจายออกไปอย่างไม่อาจหยุดยั้ง ตำรวจก็ทำอะไรไม่ถูกเมื่อเผชิญกับความน่าสะพรึงกลัวของกรีนก็อบลิน เสียงร่ำไห้ดังระงมดังมาจากฝูงชน…
ชั่วขณะนั้น
จู่ๆ สไปเดอร์แมนก็นึกถึงบทสนทนาระหว่างเขากับลุง
“พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง”
ทันใดนั้นเขาจึงเปิดลิ้นชักซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่น มองไปยังชุดสไปเดอร์แมนซึ่งเขาไม่ได้ใส่มาเป็นเวลานาน
ขณะเดียวกัน
ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
ผู้หญิงซึ่งปีเตอร์นัดเดตมองดูนาฬิกาข้อมือบ่อยครั้ง สุดท้ายก็ส่งข้อความหาปีเตอร์อย่างทนไม่ไหว
ปีเตอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะวางชุดกลับไป
เขาอยากออกเดต
พล็อตเรื่องช่วงนี้สั้นมาก แต่ผู้ชมคล้ายกับรับรู้ได้ถึงการต่อสู้ภายในจิตใจของปีเตอร์
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทุกคนคิดว่าปีเตอร์จะไปออกเดตกับหญิงสาวคนโปรด ทันใดนั้นเองร่างสีแดงก็พุ่งออกมาจากหน้าต่างห้องนอนของเขา
สไปเดอร์แมนนั่นเอง!
สุดท้ายเขาก็ละทิ้งการออกเดต!
ชั่วขณะนั้น เสียงเชียร์ลั่นดังไปทั่วทั้งโรงฉาย!
แม้ว่าเขาจะวางแผนการเดตนี้ไว้นานแล้วก็ตาม
แม้ว่าเขาจะตั้งตารอช่วงเวลานี้มากก็ตาม
แม้ว่าเขาจะชอบผู้หญิงคนนี้มากก็ตาม
แต่กรีนก็อบลินทำลายเมือง ทำให้ผู้คนตกอยู่ในความสิ้นหวัง เขาจึงเลือกที่จะลุกขึ้นสู้
เรียบง่ายไหม?
เรียบง่ายสุดๆ !
สะใจไหม?
สะใจสุดๆ !
อารมณ์ของผู้ชมถูกปลดปล่อยโดยสมบูรณ์!
ในเวลานี้ รถไฟซึ่งถูกกรีนก็อบลินทำลายได้สูญเสียการควบคุมไปอย่างสิ้นเชิง
ขณะที่ผู้คนในรถไฟกำลังตกอยู่ในภาวะสิ้นหวัง สไปเดอร์แมนก็กระโดดลงมาจากท้องฟ้า
“นั่นเขา!”
“สไปเดอร์แมน!”
“สไปเดอร์แมนกลับมาแล้ว!”
“…”
ร่างสีแดงปรากฏตัวขึ้น!
ความคาดหวังปรากฏในแววตาของผู้คน เช่นเดียวกับผู้ชมหน้าจอฉาย!
แต่ว่า…
ยามที่ใยแมงมุมไม่อาจหยุดยั้งรถไฟซึ่งสูญเสียการควบคุมได้ และกำลังจะพลังทลายอย่างสูญเปล่า ความหวังในแววตาของผู้ชมก็กลับกลายเป็นความสิ้นหวังอีกครั้ง
จากมุมมองของสไปเดอร์แมน
เส้นทางนับไม่ถ้วน และความเร็วสูง
หน้ากากของเขาได้รับความเสียหายจากการสู้รบ
หลังจากนั้นเขาจึงถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง !
ไม่ทันไร
ร่างของสไปเดอร์แมน ก็ปรากฏขึ้นที่หัวรถไฟ
ท่ามกลางการจ้องมองด้วยความสิ้นหวังของทุกคน เขาใช้ใยแมงมุมคว้าตึกทั้งสองข้าง!
ขวับๆๆ !
ใยแมงมุมจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาอย่างหนาแน่นและรวดเร็ว คว้าอาคารสูงจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งสองด้าน พลังของรถไฟแทบฉีกร่างของสไปเดอร์แมนออกเป็นชิ้นๆ
เขาคิดจะหยุดรถไฟซึ่งเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยใช้ร่างกาย!
ภายใต้แรงกระตุ้นอันน่าสะพรึงกลัว
สไปเดอร์แมนกำใยแมงมุมนับไม่ถ้วนไว้ในมือ เสื้อข้าของเขาขาดวิ่น ตั้งแต่แขนเสื้อแผ่ขยายไปยังหน้าอก ขาของเขายึดกับรางรถไฟ ทว่ารางรถไฟแต่ละเส้นก็หักครึ่งพร้อมกับเกิดสะเก็ดไฟมากมาย!
รถไฟไม่ได้หยุดลง!
ผู้ชมทั้งโรงละครส่งเสียงอุทานออกมา!
ฉากนี้ชวนตกตะลึงเหลือเกิน!
ผู้ชมสั่นสะท้านไปตามกัน!
มีคนถึงกับร้องออกมาอย่างทนไม่ไหว!
เขาใช้แรงของตนเองขวางอยู่ด้านหน้ารถไฟ ความทนทานของใยแมงมุมแตะถึงขีดจำกัด และร่างกายของสไปเดอร์แมนก็แตะถึงขีดจำกัดเช่นเดียวกัน!
ประหนึ่งตั๊กแตนไปขวางรถ
เขาไม่ได้เลือกยอมแพ้
ผู้คนในรถม้าแทบทนดูต่อไปไม่ไหว นี่คือพลังที่สามารถฉีกร่างมนุษย์ได้เป็นสองซีก
รถไฟส่งเสียงดัง!
ชุดของสไปเดอร์แมนขาดกระจาย!
!ประกายไฟนับไม่ถ้วนพุ่งมาจากใต้ฝ่าเท้าของเขา!
เขาไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว การหยุดขบวนรถไฟนั้นเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง
ในที่สุด
รถไฟก็หยุดลง
ณ สุดขอบของท้องทะเล
ร่างกายของสไปเดอร์แมน ร่วงลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
มือยื่นออกมาจากรถ คว้าร่างของเขาซึ่งกำลังร่วงลง
เสียงดนตรีเงียบลง
เสียงในขบวนรถไฟเงียบลง
ผู้คนต่างยกมือขึ้นมา ยกสไปเดอร์แมนซึ่งหมดสติขึ้นเหนือศีรษะ แล้ววางเขาลงบนพื้นราบ
มีบางคนกำลังร่ำไห้
“เขาช่วยชีวิตพวกเรา”
“เขาช่วยชีวิตทุกคน”
“ทั้งที่เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง”
“อายุใกล้เคียงกับหลานชายฉันเลย”
“…”
ไม่ว่าจะเป็นคนชรา ผู้หญิง ผู้ชาย หรือเด็ก ทุกคนต่างมองไปยังสไปเดอร์แมน ในแววตาของทุกคนเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งและเจ็บปวด
ในที่สุดปีเตอร์ก็ตื่นขึ้น
มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง หยิบหน้ากากสไปเดอร์แมนซึ่งขาดหลุดรุ่ยมายื่นให้เขา
“ขอบคุณ”
เขาลุกขึ้น สวมหน้ากาก และออกจากรถไป
……
ทันใดนั้นหลงหยางก็ได้ยินเสียงสะอื้นอยู่ด้านข้าง
เขาหันไป จึงเห็นว่าเสี่ยวหู่ลูกชายกำลังร้องไห้ เขาจึงรีบยื่นกระดาษทิชชูให้
ภาพนี้สะเทือนใจเหลือเกิน เมื่อครู่แม้แต่เขาก็รู้สึกขนลุกเช่นกัน ไม่มีฉากสเปเชียลเอฟเฟ็กต์อลังการงานสร้าง มีเพียงร่างกายซึ่งขวางอยู่หน้ารถไฟ หยุดรถไฟด้วยราคาของร่างกายซึ่งถูกฉีกเพราะความเฉื่อย!
ความตื่นตระหนกของฉาก…
มาจากเสียงสะท้อนอันทรงพลังของความรู้สึก!
อีกด้านหนึ่ง
ผู้ช่วยเริ่มปลอบใจภรรยาซึ่งกำลังร้องไห้
สไปเดอร์แมนได้รับบาดเจ็บ
เขากลับไปรักษาอาการบาดเจ็บที่บ้าน แต่กลับยังต้องคอยปกปิดไม่ให้ป้ารู้ นั่นยิ่งทำให้ผู้ชมปวดใจ
อีกด้านหนึ่ง
การทำลายล้างของกรีนก็อบลินยังคงดำเนินต่อไป
กรีนก็อบลินถึงขั้นสร้างหุ่นเกราะพลังกลให้กับอันธพาลคนหนึ่งด้วย
ปรากฏว่าอันธพาลคนนี้ใช้หุ่นเกราะนี้สร้างความเสียหายไปทั่วทุกที่
ตำรวจรวบรวมกำลัง
ในเวลานี้มีเด็กคนหนึ่งพุ่งเข้าไป
เด็กคนนี้สวมชุดสไปเดอร์แมนขนาดย่อส่วน ร่างเล็กกระจิริดยืนขวางอยู่ด้านหน้าหุ่นเกราะนี้
อันธพาลในหุ่นเกราะตกตะลึง
แม่ของเด็กน้อยกรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง
ทว่าเด็กน้อยกลับทำท่าทางต่อสู้ มีผู้ชมบางคนจดจำได้ว่าเด็กคนนี้เคยได้รับความช่วยเหลือจากสไปเดอร์แมนมาก่อน
“ฮ่าๆๆๆ …”
อันธพาลในชุดเกราะหัวเราะลั่น ฉากนี้ออกจะตลกขบขันอยู่บ้าง
ทว่าผู้ชมกลับหัวเราะไม่ออก
แม้แต่เด็กคนนี้ก็ยังรู้ที่จะปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า แม้ว่าท่ามกลางผู้คนมากมาย เด็กคนนี้จะเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุดก็ตาม…
หุ่นเกราะปิดลง
อันธพาลกำลังจะฆ่าคนแล้ว
ในเวลานี้ หลายคนส่งเสียงร้อง
และแล้วร่างสีแดงก็กลับมาอีกครั้ง
สไปเดอร์แมนกลับมาแล้ว!!!
ในเวลานี้ ทุกคนผุดยิ้มออกมา
สไปเดอร์แมนได้สร้างความรู้สึกปลอดภัยให้กับผู้คนโดยไม่รู้ตัว
ในฉาก
แม้แต่ตำรวจซึ่งไม่ค่อยชอบใจสไปเดอร์แมนสักเท่าไหร่ ถึงกับผุดยิ้มออกมา…
“เฮ้ สไปเดอร์แมน ทำได้ดีมาก…ที่เหลือฉันรับไม้ต่อเอง…”
สไปเดอร์แมนเอ่ย ก่อนจะแตะมือกับเด็กน้อย หลังจากส่งอีก ฝ่ายกลับไปยังฝูงชน ส่วนตนเองบุกเข้าไป!
ผู้ชมบางคนคลี่ยิ้มทั้งที่ดวงตายังคงแดงก่ำ
ภาพของเด็กคนนี้ซึ่งสวมชุดสไปเดอร์แมนและยืนอย่างกล้าหาญต่อหน้าวายร้ายเรียกน้ำตาได้ดีทีเดียว
สไปเดอร์แมนมีอิทธิพลต่อผู้คนมากมายโดยไม่รู้ตัว
หลังจากนั้นเป็นฉากต่อสู้ทั้งหมด
เมื่อสไปเดอร์แมนเอาชนะหุ่นเกราะได้ กรีนก็อบลินก็ตามมาถึงแล้ว สงครามครั้งใหญ่อันน่าตกตะลึงเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย
สงครามในครั้งนี้กินเวลาไปแปดนาทีเต็มๆ
ฉากสเปเชียลเอฟเฟ็กต์เกือบทั้งหมดในภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำเสนอในฉากนี้
การออกแบบฉากสุดอลังการ!
การทำลายล้างอันตื่นตาตื่นใจ!
ทั้งสองฝั่งโรมรันพันตูอย่างไม่ออมมือ!
ผู้ชมรู้สึกสะใจเหลือเกิน!
เนื่องจากการหักมุมเหนือความคาดหมาย ท้ายที่สุดแล้วกรีนก็อบลินก็ตายด้วยน้ำมือของสไปเดอร์แมน แต่สไปเดอร์แมนก็สูญสิ้นพลังไป ล้มลงบนซากปรักหักพังหลังการต่อสู้
“จับเขาเลย!”
“จับสไปเดอร์แมนมา!”
เสียงของผู้บัญชาการตำรวจดังขึ้นด้วยความตื่นเต้นผ่านวิทยุสื่อสาร
“ขออภัยครับหัวหน้า เขาหนีไปแล้ว”
ตำรวจต่างมองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่ากำลังแสร้งทำไขสือ
สไปเดอร์แมนฟื้นขึ้นมา มองไปยังบรรดาตำรวจซึ่งเห็นเขาแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น กระวีกระวาดออกมาจากบริเวณนั้น
เขาสับสน
ทำไมตำรวจถึงไม่จับตน
ทันใดนั้นเอง โดยรอบก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น ฝูงชนกู่ร้อง
“สไปเดอร์แมน!”
“สไปเดอร์แมน!”
“สไปเดอร์แมน!”
ผู้บัญชาการตำรวจตวาดสั่นด้วยความเดือดดาล “เขาอยู่ข้างหลังพวกคุณไงล่ะ!”
ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดขยับตัว
แม้ว่าสไปเดอร์แมนจะอ่อนแรงมากจนใครก็จับเขาได้อย่างง่ายดายก็ตาม