ตอนที่ 91 สุนัขเลีย
“เฮ้ อย่าพูดเลย เนื้อนี่ไม่ต้องพูดถึง! มันไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เลยแม้แต่น้อย มันมีแต่กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์” หลิงเซียวกล่าวชมขณะกิน
ซูเหยา และ หลิว รั่วเหยียน พยักหน้าไม่หยุด
พวกเธอพยักหน้าและยัดเนื้อหมูเข้าไปในปากอย่างรวดเร็ว
เหล่าคนดูในห้องถ่ายทอดสดเต็มไปด้วยความคับข้องใจ
” เมื่อเห็นหลิงเซียวกินอย่างเอร็ดอร่อยเช่นนั้น ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันเข้าห้องถ่ายทอดสดผิด”
“แล้วการถ่ายทอดสดรอบคัดเลือกล่ะไปไหน? ทําไมจู่ๆถึงกลายเป็นรายการอาหารไปได้?”
“พวกเขาได้กินเนื้อสัตว์วิญญาณ แต่ฉันทําได้เพียงมองอย่างหิวโหย ช่างเหนื่อยใจจริงๆ!”
” หลิงเซียวเป็นปีศาจหรือไง? เมื่อเห็นเขากินวันนี้ฉันคงลดน้ําหนักไม่ได้แล้ว”
หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลิงเซี่ยวและอีก 5 คนก็นํามือมากุมท้องของพวกเขาด้วยความพึงพอใจ
แต่ละคนนอนหงายอยู่บนพื้นโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีกต่อไป
หม้อไฟหมูขนเหล็กมันอร่อยและมีกลิ่นที่หอมมากจนทําให้พวกเขาควบคุมตัวเองไม่ได้
“ไม่เพียงแค่อร่อยเท่านั้น แต่มันยังช่วยพัฒนาการฝึกฝนให้ก้าวหน้าขึ้นอีกด้วย ฉันรู้สึกถึงพลังชีวิตและพลังวิญญาณที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น”
” แม้ว่ามันจะเพิ่มขึ้นเพียงสองหรือสามจุดต่อมื้อ แต่มันก็ดีมากแล้ว”
“ไม่จําเป็นต้องฝึกฝน เพียงแค่กินอาหารรสเลิศก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ “หลิว รั่วเหยียน มีสีหน้ายินดี
ส่วนที่เหลือพยักหน้าและยิ้ม
” จริงสิ แล้วส่วนที่เหลือจะทําอย่างไรกับมันดี?” ซูเหยาชี้ไปที่หมูขนเหล็กที่อยู่ด้านข้าง
ตอนนี้หมูขนเหล็กเหลืออยู่เพียงหัวหมู ส่วนร่างกายและแขนขาถูกหลิงเซียวและคนอื่นๆ กินไปจนหมดแล้ว
หลิงเซียวคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “ถอดเขี้ยวและกีบของมันออก ทั้งสองชิ้นนี้เป็นวัตถุดิบในการตีเหล็กที่ดี”
“ส่วนที่เหลือก็ไม่ต้องสนใจแล้ว ฉันคาดว่าอาหารของเราคงจะเพียงพอสําหรับหนึ่งหรื อสองวัน”
ซูเหยาและคนอื่นๆพยักหน้า
แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกเสียดาย แต่พวกเขาก็ทําอะไรไม่ได้
หากพวกเขายังคงฝืนกินต่อไป พวกเขาจะต้องกินจนอ้วกออกมาแน่
จากนั้นพวกเขาก็ร่วมมือกันถอดเขี้ยวและกีบของหมูขนเหล็กออกและแขวนไว้กับ กระเป๋าเป้สะพายหลังของชายหนุ่มทั้งสองคน
ชายหนุ่มหัวสนามหญ้าไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้และยังพูดยกยออีกว่า ” พี่หลิง ทักษะการต่อสู้ของฉันไม่สามารถเทียบกับพี่ได้ แต่ฉันยังมีแรงกายอยู่บ้าง”
“ถ้ามีของอะไรก็ให้ฉันถือเถอะ ถือว่าเป็นการเบาแรงพี่”
“หนุ่มน้อย ผู้มีอนาคตสดใส!” หลิงเซียวตบเขาอย่างปลื้มปิติ
แน่นอนว่าการมีน้องชายเพิ่มมาคนหนึ่งและยังเป็นสุนัขเลียอีกมันช่างรู้สึกดีจริงๆ
ชายหนุ่มหัวสนามหญ้า กระตือรือร้นในการเป็นเลียสุนัขมากขึ้น ” ที่ฉันสามารถอยู่กลุ่มเดียวกับพี่หลิงได้ ฉันรู้สึกว่าฉันอาจจะใช้โชคทั้งชีวิตของฉันหมดไปแล้วแต่ฉันก็ไม่เสียใจเลย!”
“อย่าว่าแต่โชคทั้งชีวิตเลย ต่อให้ต้องใช้โชคทั้งสิบชาติ ฉันก็ไม่เสียใจ”
จากนั้นทั้งสองก็เข้าสู่โหมดพูดยกยอกันไปมา
ซูเหยา และ หลิว รั่วเหยียน ไม่ได้พูดอะไร เพราะแม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้เป็นสุนัขเลีย แต่การกอดต้นขาทองคําอย่างหลิงเซียวพวกเธอก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน
อย่างน้อยในแง่ของความปลอดภัยก็ชนะทีมส่วนใหญ่แล้ว
ส่วนชายหัวกลม ก็อยากจะเป็นเสียหมาเหมือนกัน! ให้โอกาสฉันได้พูกหน่อยได้ไหม!
ในตอนนั้นเอง ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 5 คนที่มีบาดแผลเต็มตัวก็วิ่งหนีมายังทีมของหลิงเซียวจากระยะไกล
ชายหนุ่มที่วิ่งนําหน้าสุดเมื่อเห็นหลิงเซียวและคนอื่นๆ พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
บางทีอาจเป็นเพราะเขาตื่นเต้นเกินไป ปากของเขาจึงตะโกนอย่างติดอ่าง ” ช่วย ช่วย.. ช่วยด้วย”