จอมนางข้ามพิภพ บทที่358 ต่อไปไม่ว่าจะไปที่ใด ข้าก็จะไปเป็นเพื่อนเจ้า
สีหน้าของโม่ฉือหานมืดครึ้มกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง เขารู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ขัดขวาง
ตั้งแต่วินาทีที่เขาเขียนหนังสือหย่าร้าง เขาก็รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์เสียใจภายหลังแล้ว
“จวินหย่วนโยวเจ้าจำสิ่งที่เจ้าพูดในวันนี้ไว้ให้ดี หากครั้งต่อไปเจ้าทำให้หยุนถิงต้องได้รับบาดเจ็บอีก ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะแย่งคนคืนมา!” น้ำเสียงเศร้าหมองของโม่ฉือหานเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
จวินหย่วนโยวที่เดินออกไปห้า หกเมตรนั้น มือที่อุ้มหยุนถิงไว้กำแน่น และไปอย่างไม่หันมอง “ข้าจะไม่ให้โอกาสนี้กับเจ้าอย่างแน่นอน!”
ส่วนฟ่านเสี่ยรั่วที่อยู่ข้างๆก็ตกตะลึงยิ่งนัก ท่านอ๋องตกหลุมรักหยุนถิงจริง ๆแล้ว เป็นไปได้อย่างไร
เขาเกลียดหยุนถิงที่สุดไม่ใช่หรือ ทำไมเรื่องมันถึงกลายเป็นแบบนี้?
ฟ่านเสี่ยรั่วยังไม่เข้าใจ จู่ๆโม่ฉือหานก็หันมามองนาง ด้วยสีหน้าที่น่ากลัวและโกรธ ยกมือขึ้นและตบหน้าฟ่านเสี่ยรั่ว
“เพียะ!”
“อ๊าก!” ฟ่านเสี่ยรั่วกรีดร้อง และเอามือปิดแก้มที่เจ็บปวดของนางโดยจิตใต้สำนนึก และมองดูโม่ฉือหานอย่างไม่น่าเชื่อ “ท่านอ๋อง เหตุใดท่านจึงตบข้า?”
“ทำไมข้าถึงตบเจ้า เจ้าไม่รู้หรือ?” โม่ฉือหานตะโกนด้วยความโกรธ
ตั้งแต่เห็นหยุนถิงได้รับบาดเจ็บจากในหอเหวินหยวน โม่ฉือหานก็กดจุดที่ทำให้ขยับตัวไม่ได้ของนางเอาไว้แล้ว ตามหลักการแล้วต่อให้เลือดไหลแต่ก็คงไม่มากเช่นนี้ เพราะจากหอเหวินหยวนมายังจวนหลีอ๋องก็ยังระยะทางหนึ่งอยู่ แต่เมื่อกี้หยุนถิงพูดว่าบาดแผลเจ็บ สายตานั้นว่างเปล่าและไร้ชีวิตชีวา เห็นได้ชัดว่าถูกปลุกด้วยความเจ็บปวด ไม่ได้ตื่นมาเพราะสมองปลอดโปร่งจริงๆ
บวกกับที่ฟ่านเสี่ยรั่วทำยาจินชวงตกลงบนพื้นนั้น ฉลาดเยี่ยงโม่ฉือหานก็ต้องเดาออกได้อยู่แล้ว
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ฟ่านเสี่ยรั่วผู้ซึ่งอ่อนโยน สง่างาม และใจกว้างอยู่เสมอนั้น กลับถือโอกาสตอนหยุนถิงหมดสติไป และทำร้ายบาดแผลของนาง ความคิดชั่วร้ายเช่นนี้ โม่ฉือหานไม่มีวันยอดเด็ดขาด
ฟ่านเสี่ยรั่วถูกกล่าวหาอย่างกะทันหัน ก็รู้สึกร้อนตัวยิ่งนัก หรือว่าท่านอ๋องรู้ที่ข้ากดบาดแผลของหยุนถิงในเมื่อครู่นั้นแล้ว?
เป็นไปไม่ได้ เขาหันหลังอยู่ชัดๆ
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ท่านอ๋องโปรดพูดออกมาอย่างชัดเจน?” ฟ่านเสี่ยรั่วไม่ยอมรับ
ใบหน้าที่เย็นชาและเคร่งขรึมของโม่ฉือหาน ฉายแววผิดหวัง “เสี่ยรั่ว เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก เด็กๆนำฟ่านเสี่ยรั่วไปขังไว้ในลาน กักขังบริเวณเป็นเวลาสามเดือน ห้ามนางออกไปโดยไม่มีคำสั่งของข้า! ”
“ท่านอ๋อง ท่านปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?” ฟ่านเสี่ยรั่วร้องไห้อย่างน้อยใจ
“ข้าไม่ได้หย่ากับเจ้าก็ถือเป็นการเมตตาต่อเจ้าที่สุดแล้ว เรื่องในวันนี้ห้ามมีอีก มิฉะนั้นข้าจะไม่ให้อภัยอย่างง่ายดายอีกแน่!” โม่ฉือหานตะโกนด้วยความโกรธ หันหลังและจากไป
ฟ่านเสี่ยรั่วทรุดลงบนพื้น ท่านอ๋องรู้แล้วจริงด้วย ใช่ คนที่ฉลาดและมีไหวพริบเยี่ยงท่านอ๋องนั้น ทำไมตัวเองถึงข่มอารมณ์ที่จะไปกดบาดแผลของหยุนถิงไว้ไม่ได้ ในขณะนี้ฟ่านเสี่ยรั่วเสียงใจภายหลังยิ่งนัก
ในเวลาเดียวกัน ฟ่านเสี่ยรั่วก็เกลียดหยุนถิงมากยิ่งขึ้น ถูกท่านอ๋องเขียนหนังสือหย่าร้างแล้ว ยังจะมายั่วยวนท่านอ๋องอีก ช่างน่ารังเกียจจริงๆ ไม่ช้าก็เร็วนางจะทำให้ในสายตาของท่านอ๋องมีเพียงนางผู้เดียว
ทางนี่ จวินหย่วนโยวอุ้มหยุนถิงกลับไปที่จวนซื่อจื่อ และรีบท่านลั่วมารักษาให้นางทันที
ท่านลั่วตรวจสอบอย่างละเอียด “นังหนูนี้ถูกวางยาโยวหรันสั่น สิ่งของนั้นไร้สีและไร้กลิ่นแต่สามารถทำให้คนหมดแรงได้อย่างรวดเร็ว น่ากลัวกว่ายาสลายกำลัง แต่ไม่มีผลข้างเคียงอื่นๆ ต่อร่างกาย ไม่ต้องห่วง ไม่นานก็คงฟื้นแล้ว”
จากนั้นจวินหย่วนโยวก็ค่อยโล่งใจลง มองดูหยุนถิงที่หมดสติ รู้สึกใจปวดร้าวยิ่งนัก
ทั้งหมดเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของเขา หอเหวินหยวนธรรมดาๆอันหนึ่งกลับยังซ่อนคนที่ลอบสังหารหยุนถิงเอาไว้ด้วย ใครกันที่คำนวณได้ขนาดนี้ เลือกตอนที่ตัวเองไม่ได้อยู่กับหยุนถิง แถมเลือกเวลาได้แม่นยำเช่นนี้?
นอกประตู หลงยีเข้ามา “ซื่อจื่อ หอเหวินหยวนถูกควบคุมไว้หมดแล้ว และผู้ที่ลอบสังหารซื่อจื่อเฟยก็ถูกจับไว้หมดแล้ว แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนกินพิษยาฆ่าตัวตายกันหมด ไม่มีใครรอดชีวิตเลย”
ดวงตาที่มืดทึบของจวินหย่วนโยวหรี่ลงเล็กน้อย สีหน้าเย็นชา ออร่ารอบกายเย็นยะเยือกไปหมด ชั่วร้ายและอันตราย
“เจ้าไปสอบสอบด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม กล้าแตะต้องซื่อจื่อเฟย ข้าจะให้เขาตายทั้งเป็น” จวินหย่วนโยวออกคำสั่ง
“ขอรับ!” หลงยีรีบไปทำทันที
ทันทีที่องครักษ์เงามังกรได้ยินว่าซื่อจื่อเฟยเกิดเรื่องขึ้น ต่างก็ออกตัวกันหมด รวมทั้งองครักษ์ลับและองครักษ์ของจวนซื่อจื่อด้วย และล้อมหอเหวินหยวนเอาไว้อย่างมิดชิด และออกประกาศจับกุมคนที่น่าสงสัยทั่วทั้งเมือง
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป คนเหล่านั้นก็ถูกจับได้ทั้งหมด รวมทั้งคนที่ซ่อนตัวเอาไว้ก็ถูกจับตัวได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากำลังของจวนซื่อจื่อนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
เพียงแต่ว่าคนเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะมีการเตรียมพร้อมไว้นานแล้ว ต่างก็กัดยาพิษในปากและฆ่าตัวตายไป
ส่วนโม่เหลิ่งเหยียนได้ยินว่าหยุนถิงเกิดเรื่อง ก็รีบมาในทันที แต่เมื่อถึงประตูจวนซื่อจื่อ โม่เหลิ่งเหยียนกลับไม่ได้เข้าไป
หยุนถิงมีจวินหย่วนโยวปกป้องเอาไว้ เขายังมีอะไรต้องกังวล แต่กลับเป็นผู้ที่ลอบสังหารหยุนถิงต่างหาก ดังนั้นโม่เหลิ่งเหยียนจึงหันกลับและตรงไปที่หอเหวินหยวน
ต่อให้ศพ เขาก็จะหาเบาะแสให้ได้ และจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นครั้งที่สองอีก
เดิมทีศพของมือสังหารเหล่านั้นจะถูกกองทหารหลวงส่งไปยังสุสานระเกะระกะ โม่เหลิ่งเหยียนขัดขวางเอาไว้โดยตรง ให้คนส่งไปที่ผู้ชันสูตรศพ และสั่งให้ผู้ชันสูตรศพทำการชันสูตรอย่างละเอียดเป็นพิเศษ
เซวียนอ๋องออกคำสั่ง ผู้ชันสูตรศพก็ไม่กล้าขัดขืนโดยธรรมชาติ ล้วนตรวจสอบอย่างละเอียด
ส่วนหยุนถิงในจวนซื่อจื่อก็ตื่นขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน โชคดีที่ดาบสั้นนั้นไม่มีพิษ มิฉะนั้นคงแย่แน่เลย
หยุนถิงที่ลืมตาขึ้น มองดูสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย และจวินหย่วนโยวที่อยู่ข้างๆ นางรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
จวินหย่วนโยวเห็นหยุนถิงตื่นขึ้นมา ก็ดีใจมาก “ถิงเอ๋อร์ เจ้าฟื้นแล้วหรือดีมากเลย ข้าจะให้คนไปเชิญท่านลั่วมาทันที”
หยุนถิงยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด หลิงเฟิงที่อยู่นอกประตูก็รีบไปเชิญคนในทันที
“คราวนี้เป็นเพราะข้าประมาทไป ต่อไปเจ้าไปที่ใด ข้าก็จะไปเป็นเพื่อนเจ้าด้วย” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างโทษตัวเอง
“ซื่อจื่อ จะโทษท่านได้อย่างไร ใครก็คิดไม่ถึง ดูเหมือนว่าเป็นเพราะข้าล่วงเกินคนมากเกินไป” หยุนถิงพูดปลอบโยน
“ผู้คนในคราวนี้ล้วนเป็นหน่วยกล้าตายทั้งหมด หลังจากถูกจับตัวก็กินยาพิษฆ่าตัวตายกนหมด และไม่มีผู้รอดชีวิต แต่ข้าได้ให้หลงยีไปสืบสวนแล้ว เชื่อว่าคงจะมีเบาะแสในไม่ช้า” จวินหย่วนโยวอธิบาย
หยุนถิงขมวดคิ้ว คราวนี้คนพวกนี้ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน ใครกันแน่ที่อยากเอาชีวิตของนางมากเช่นนี้?
“อย่าคิดมาก ทุกอย่างมีข้า ไม่ต้องกังวล สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้รักษาบาดเจ็บให้หายก่อน” จวินหย่วนโยวพูดอย่างปวดใจ
“อืม ฟังที่ซื่อจื่อพูด”
“ทำไมโม่ฉือหานถึงช่วยเจ้า?” จวินหย่วนโยวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงถามออกมา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยุนถิงก็ยิ่งสับสนมากนัก “ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน ตอนนั้นข้าถูกใครแอบโจมตีแล้วไปชนเข้ากับกำแพง ก็บังเอิญชนโดนกำแพงห้องรับรองพิเศษที่อยู่ข้างๆพอดี แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นโม่ฉือหาน ตอนนั้นข้ายังนึกว่าเขาจะซ้ำเติมข้า ต่อยข้าหมักหนึ่ง แต่คิดไม่ถึงว่าเขากลับช่วยข้าเอาไว้ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรของเขา”
จวินหย่วนโยวมองดูท่าทางที่สับสนของหยุนถิง และนึกถึงสิ่งที่โม่ฉือหานพูดก่อนออกจากจวนหลีอ๋อง เกรงว่านางเองก็ไม่รู้เลยว่าโม่ฉือหานหวั่นไหวต่อนางแล้ว
แน่นอน จวินหย่วนโยวก็ไม่มีวันบอกหยุนถิง
หยุนถิงก็คิดไม่เข้าใจ โม่ฉือหานผู้ที่เกลียดตัวเองมากเช่นนั้น เหตุใดถึงออกมือช่วยตัวเอง?