จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 392 เจ้าถึงกับกล้าทำกับข้าเช่นนี้

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 392 เจ้าถึงกับกล้าทำกับข้าเช่นนี้

อ๋องเก้าวิ่งหนีไปจากหอฝูหยวน ขึ้นรถม้าของตัวเอง มุ่งหน้าไปยังพระราชวัง รีบแจ้งข่าวนี้ให้กับเสด็จพ่อทันที

เป่ยจิ่วฉิงที่กำลังกลัดกลุ้มหวาดหวั่น ได้ยินคำพูดนี้ คนทั้งคนสีหน้าซีดขาวทันที “เจ้า เจ้าไม่ได้ฟังผิดไปจริงหรือ?”

“เสด็จพ่อ เรื่องแบบนี้กระหม่อมจะฟังผิดได้อย่างไร หากไม่ใช่กระหม่อมตอบสนองได้เร็ว วิ่งหนีเร็วมากพอ เกรงว่าเวลานี้กระหม่อมคงกลายเป็นศพไปแล้ว สมัยก่อนเสด็จพ่อเคยทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อผู้อื่นใช่ไหม ไม่เช่นนั้นทำไมเขาถึงตามมาล้างแค้นท่านถึงที่ล่ะ?” อ๋องเก้าถามด้วยความสงสัย

ในใจของเป่ยจิ่วฉิงเต้นตึกตักขึ้นมา คาดเดาอะไรได้รางๆ คนทั้งคนก็ยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก

“เรื่องที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม ออกไปเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว” เป่ยจิ่วฉิงกล่าวอย่างเหนื่อยล้า

“พ่ะย่ะค่ะ!” อ๋องเก้าคำนับด้วยความเคารพนบนอบและเดินออกไป ตอนออกจากพระราชวังสั่งให้องครักษ์เป็นร้อยนายมาคุ้มกันตนเองโดยเฉพาะ ด้วยกลัวว่าคนกลุ่มนั้นจะดักซุ่มโจมตีตนเอง

ทางด้านนี้ อ๋องเก้าเพิ่งจะเดินออกไป เป่ยจิ่วฉิงก็นั่งไม่ติดแล้ว สีหน้าเย็นชาเคร่งขรึม คิ้วขมวดกันเป็นก้อน สั่งให้องครักษ์ไปจับคนที่หอฝูหยวนทันที

ตอนที่องครักษ์ไปถึง ก็ไม่มีร่องรอยของหยุนถิงจวินกับหย่วนโยวนานแล้ว

องครักษ์รีบกลับไปรายงานทันที เป่ยจิ่วฉิงยิ่งสงสัยและเป็นกังวลมากขึ้น ในเมื่ออีกฝ่ายให้อ๋องเก้านำคำพูดกลับมา แสดงให้เห็นว่าต้องการจะล้างแค้นตนเอง

หรือว่าจะเป็นจวินหย่วนโยว นอกจากเขาแล้วเป่ยจิ่วฉิงคิดไม่ออกว่ายังมีใครที่กล้าโอหังและกำเริบเสิบสานที่แคว้นเป่ยลี่อีก

เพียงแต่ว่าเขารู้เหตุการณ์ในตอนนั้นได้อย่างไร หรือว่าซ่างกวนเจิ้นจะทรยศตนเอง?

เป่ยจิ่วฉิงยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นได้นี้ เขาสั่งให้คนไปเรียกหลิ่วผินมาทันที

แต่ไหนแต่ไรมาหลิ่วผินผู้นี้อ่อนโยนสง่างาม เอาใส่ใจแทบทุกอย่าง หน้าตาไม่ได้งดงามน่าทึ่งเหมือนกับซ่างกวนหรู แต่เป็นคนฉลาดมาก ช่วยแก้ไขปัญหายากให้ฮ่องเต้บ่อยๆ นี่ก็คือสาเหตุที่ว่าทำไมเป่ยจิ่วฉิงให้ความสำคัญกับนาง

และพ่อแม่ของหลิ่วผินเสียชีวิตไปนานแล้ว ตระกูลมารดาก็ยิ่งไม่มีอิทธิพลอะไร ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่านางจะก่อความวุ่นวายให้กับราชสำนักและวังหลัง

เป่ยจิ่วฉิงรีบเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสองสามวันมานี้ออกมาทันที “หลิ่วผินเจ้าช่วยวิเคาะห์ให้ข้า ว่าข้าควรจะทำเช่นไร?”

หลิ่วผินคำนับอย่างเคารพนบนอบ “ฝ่าบาทยังไม่ทราบ หม่อมฉันก็ยิ่งไม่ทราบแล้ว วังหลังไม่สามารถยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมืองได้”

“สำหรับข้า เจ้าเป็นข้อยกเว้น ข้าอนุญาตให้เจ้าพูดถึงได้”

“เช่นนั้นหม่อมฉันก็ขอพูดหน่อยแล้วกัน หากมีตรงไหนที่พูดผิดไป ขอฝ่าบาทโปรดอย่าลงโทษ! หม่อมฉันคิดว่า ฝ่าบาทสามารถส่งมอบคุณหนูหรูและซ่างกวนเฉิงเซี่ยงออกไป

ซวนอ๋องคือเทพสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งสี่แคว้น เมื่อคืนก็โจมตีแคว้นเป่ยลี่อีก หากเขาต้องการสังหารฝ่าบาทจริงๆ ก็จะไม่ส่งจดหมายฉบับนั้นมาแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็ยังคงเป็นการปกป้องฝ่าบาทกับแคว้นเป่ยลี่

ซวนอ๋องนำกำลังทหารมาถึงเมือง ดังนั้นเพื่อฝ่าบาท เพื่อแคว้นเป่ยลี่ ส่งพ่อและลูกสาวคู่นี้ออกไปคือวิธีที่ดีที่สุด และยังเป็นการลดความเสียหายของแคว้นเป่ยลี่ให้น้อยที่สุดเช่นกัน

เพียงแต่ว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานหรูเฟยเช่นนี้ เกรงว่าฝ่าบาทจะตัดใจไม่ลง หากฝ่าบาทนำกำลังทั้งหมดมาเสี่ยงเพื่อหรูเฟย เช่นนั้นแคว้นเป่ยลี่กับแคว้นต้าเยียนก็มีแต่ต้องเปิดศึกกันแล้ว

ถึงแม้จะเปิดศึก แคว้นเป่ยลี่ของเราประเทศมั่นคงกำลังทหารแข็งแกร่งก็ไม่กลัวแคว้นต้าเยียนเช่นกัน หม่อมฉันกลัวแต่ว่าหากซวนอ๋องลอบโจมตีเข้ามาในตำหนักบรรทมของฝ่าบาทอีก เกรงว่าจะไม่ใช่จดหมายหนึ่งฉบับแล้ว” หลิ่วผินวิเคาะห์

ทั้งไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าตัวเองหึงหวง แต่กลับกล่าวถึงประเด็นสำคัญที่อยู่ข้างใน

เป่ยจิ่วฉิงฟังพร้อมกับพยักหน้าซ้ำๆ “หลิ่วผินกล่าวถูกต้องแล้ว สิ่งสำคัญในตอนนี้ก็คือการปกป้องข้ากับแคว้นเป่ยลี่ก่อน จดหมายฉบับนี้คือคำเตือนของซวนอ๋อง ครั้งหน้าจะเป็นศีรษะของข้า ในเมื่อเขาสามารถส่งจดหมายมาได้ ครั้งหน้าก็สามารถดาบมาได้ ข้าไม่กล้าเสี่ยงหรอก”

“ฝ่าบาททรงปราดเปรื่องยิ่งนัก ในเมื่อซ่างกวนเฉิงเซี่ยงเป็นภัยคุกคามสำหรับพระองค์ พระองค์สามารถยืมมือของซวนอ๋องกำจัดเขาไปซะ อีกฝ่ายคิดว่าจะแก้แค้นฝ่าบาทแล้ว เช่นนั้นก็ย่อมล่วงรู้เหตุการณ์ในตอนนั้นแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้เก็บหรือไม่เก็บซ่างกวนเฉิงเซี่ยงก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน” หลิ่วผินกล่าวอย่างราบเรียบ

“ฮ่าๆ สมกับที่เป็นหญิงงามที่เฉลียวฉลาดรู้ใจคนของข้าจริงๆ เด็กๆ ให้รางวัล!” เป่ยจิ่วฉิงพอพระทัยอย่างยิ่ง

“ขอบพระทัยฝ่าบาท” หลิ่วผินรับรางวัลแล้วก็จากไป

เป่ยจิ่วฉิงออกราชโองการทันที จับตัวหรูเฟยกับซ่างกวนเฉิงเซี่ยงและส่งไปให้ซวนอ๋อง

ซ่างกวนเจิ้นกำลังดื่มชาอยู่ในบ้านของตัวเอง ก็ถูกองครักษ์พาตัวไป เขาไม่ได้ต่อต้าน ยิ่งไม่ได้ประหม่าหวาดกลัว ตรงกันข้ามกลับเฉยเมยอย่างยิ่ง

เขารู้อยู่แล้วว่าช้าเร็วตัวเองต้องมีวันนี้ โชคดีที่เขาเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว คิดว่าทางด้านหรูเอ๋อร์คงจะทำสำเร็จแล้ว

และซ่างกวนหรูยังไม่ตื่น นางถูกคนปลุกให้ตื่น

“หรูเฟยเหนียงเหนียง เมื่อครู่ฝ่าบาทมีคำสั่งให้ปลดท่านจากตำแหน่ง และให้องครักษ์พาตัวท่านไป!” สาวใช้เอ่ยปาก

ซ่างกวนหรูชะงักงัน จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นมาอย่างถากถางเล็กน้อย เป่ยจิ่วฉิงคนนี้ช่างเป็นคนสารเลวจริงๆ เมื่อครู่นี้ยังร่วมรักกับตัวเองอย่างพลิกฟ้าคว้าฝนอยู่เลย จู่ๆก็เปลี่ยนท่าทีไม่เห็นแก่อะไรทั้งนั้น ใจของเขาช่างโหดเหี้ยมจริงๆ

ซ่างกวนหรูไม่ร้องไห้และไม่โวยวาย แต่มองไปทางองครักษ์ “ข้าต้องการพบฝ่าบาทเป็นครั้งสุดท้าย”

“ฝ่าบาททรงตรัสแล้วว่า จะไม่พบท่าน เชิญหรูเฟย ไม่สิ คุณหนูหรูไปกับเราเถอะ!” หัวหน้าองครักษ์นายหนึ่งกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก

เขาก็คือพี่ชายของอวี๋เหม่ยเหริน ตระกูลอวี๋ที่อยู่ดีๆท่านพ่อก็ถูกลดตำแหน่งเพราะซ่างกวนหรู น้องสาวก็ยิ่งถูกลดฐานะ เดิมทีอวี๋เทายังคิดจะรอโอกาสสับซ่างกวนหรูเป็นหมื่นๆชิ้นให้ได้ คิดไม่ถึงว่าโอกาสจะมาเร็วขนาดนี้

ครั้งนี้ เขาจะต้องล้างแค้นให้ท่านพ่อกับน้องสาวให้ได้

ซ่างกวนหรูมองไปทางเขาอย่างดูหมิ่น “เจ้าเป็นใครกัน ถึงได้กล้ามาพูดเช่นนี้กับข้า”

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นหรูเฟยจริงหรือ ฝ่าบาทโปรดปรานเจ้าก็แค่รู้สึกว่ามันสดใหม่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ตอนนี้ฝ่าบาทหมดใจในตัวเจ้าและยังจะส่งมอบเจ้าให้กับซวนอ๋องอีกด้วย เจ้ายังจะได้ใจอะไรอีก” ขณะที่อวี๋เทากล่าวไป ก็ตบลงมาอย่างแรงสองฉาก

“อ๊า!” เสียงกรีดร้องของซ่างกวนหรูดังมา คนทั้งคนล้มลงไปกับพื้น เจ็บจะตายอยู่แล้ว “ไอ้สารเลว เจ้าถึงกับกล้าปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้!”

“ถึงแม้ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้ ฝ่าบาทก็ไม่มองเจ้าอีกหรอก ดังนั้นรีบไปเลยดีกว่า มิเช่นนั้นข้าไม่ถือสาที่จะส่งศพไปให้กับซวนอ๋อง” อวี๋เทากล่าวอย่างดูหมิ่น

ซ่างกวนหรูโมโหแทบตาย แต่กลับไม่กล้าพูดอะไรมาก มือที่อยู่ในแขนเสื้อจู่ๆก็หยิกไปที่รอยแดงบนข้อมืออย่างแรง ทันใดนั้นทั่วทั้งร่างกายก็เจ็บปวดแทบตาย เหมือนกับถูกแมลงเป็นพันเป็นหมื่นตัวกัดแทะ เจ็บปวดทรมานอย่างยิ่ง

ซ่างกวนหรูสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง อดกลั้นไม่ให้ตัวเองส่งเสียงออกมา

และเป่ยจิ่วฉิงที่อยู่ตำหนักด้านข้างจู่ๆก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย คนทั้งคนกระตุกขึ้นมา เจ็บปวดอย่างยิ่ง ขันทีคนสนิทตกใจแทบแย่ เรียกตัวหมอหลวงมาทันที

แต่แล้วเมื่อบรรดาหมอหลวงทั้งหมดเร่งมาตรวจวินิจฉัยและรักษาฝ่าบาท แต่กลับยังไม่สามารถหาสาเหตุได้

เป่ยจิ่วฉิงโกรธจัด ความรู้สึกที่เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ทำให้เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น เขาไม่อยากถูกทรมานต่อไปเช่นนี้อีก ร่างกายที่ดีๆอยู่จู่ๆทำไมถึงรู้สึกทรมานเช่นนี้

จากนั้นนางกำนัลคนหนึ่งก็เดินเข้ามา “ฝ่าบาท หรูเฟยเชี่ยวชาญเรื่องการนวด บางทีนางอาจจะสามารถลองดูได้ ถ้าอย่างไรพระองค์ทรงเรียกตัวหรูเฟยดีไหมเพคะ?”

“หรูเฟย ข้าจะส่งนางออกไปอยู่แล้ว เรียกตัวนางมาทำไมกัน อีกอย่างแม้แต่หมอหลวงยังจนปัญญา นางจะมีวิธีอะไรได้” ฮ่องเต้ตรัสอย่างเย็นชา

“ฝ่าบาท ในเมื่อหมอหลวงยังจนปัญญา ไฉนถึงไม่ลองดูเล่า หากนางสามารถทำให้ความเจ็บปวดของพระองค์ทุเลาลงได้ เช่นนั้นก็ยังพอมีประโยชน์ที่จะเก็บเอาไว้ได้ หากทำไม่ได้ ค่อยส่งไปให้ซวนอ๋องก็ยังไม่สาย” ขันทีคนสนิทเสนอแนะ

เป่ยจิ่วฉิงคิดทบทวนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จึงให้คนไปพาตัวหรูเฟยมาทันที

ซ่างกวนหรูได้ยินข่าวนี้ ดวงตาคู่สวยมีความได้ใจแว๊บผ่านไปเล็กน้อย

อวี๋เทาโมโหจะตายอยู่แล้ว ซ่างกวนหรูผู้นี้คือสนมปีศาจล่มแคว้นจริงๆด้วย ฝ่าบาทกำลังจะส่งนางไปให้ซวนอ๋องอยู่แล้ว เหตุใดจู่ๆถึงต้องการจะพบนางอีก?

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท