จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 398 ข้าไม่จริงจังแค่กับเจ้าเท่านั้น
ซ่างกวนหรูที่อยู่บนเตียงสีหน้าซีดขาว อ่อนแรงสุดขีด มองไปทางคนที่อยู่ข้างหน้าอย่างถากถาง “หรือว่าฝ่าบาทไม่รู้ว่า เมื่อหนอนพิษกู่นี่เข้าสู่ร่างกายแล้วนอกเสียจากพระองค์สวรรคต มิเช่นนั้นก็ไม่มีวิธีกำจัดได้”
“นังแพศยา สมควรตายนัก ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้!”
“หากฝ่าบาทฆ่าข้า พระองค์ก็ไม่รอดเช่นกัน!” ซ่างกวนหรูกล่าวอย่างเย็นชา
“น่าชิงชังนัก ผู้หญิงที่ใจดำอำมหิตอย่างเจ้าต้องการอะไรกันแน่?” เป่ยจิ่วฉิงกล่าวด้วยความโกรธ
เขานี่มันหลงใหลในความงามจนหลงลืมทุกสิ่งจริงๆ ทำไมถึงได้ไปชอบผู้หญิงที่โหดเหี้ยมอำมหิตอย่างซ่างกวนหรูคนนี้ได้ เมื่อหนอนพิษกู่นี่กำเริบเมื่อไร่ก็ทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าตายทั้งเป็น นาทีนี้เป่ยจิ่วฉิงรู้สึกเกลียดชังซ่างกวนหรูมากจริงๆ
อยากจะฆ่าแต่กลับฆ่าไม่ได้ ได้แต่อดกลั้นเอาไว้ นี่มันน่าชิงชังยิ่งนัก
“ขอฝ่าบาทโปรดคุ้มครองความปลอดภัยของข้า คืนตำแหน่งหรูเฟยของข้า เกียรติยศและความโปรดปรานที่ควรมีก็ห้ามขาดแม้แต่อย่างเดียว ข้าเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ต้องการเพียงใช้ชีวิตด้วยความเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งตลอดชีวิตเท่านั้น นอกจากนี้ส่งคนออกไปตามหาท่านพ่อของข้า และช่วยเขากลับมา ขอฝ่าบาทโปรดช่วยให้สมปรารถนาด้วย!” ถึงแม้ปากซ่างกวนหรูจะขอร้องให้สมปรารถนา แต่น้ำเสียงกลับไม่มีเจตนาอ้อนวอนเลย
ตอนนี้เป่ยจิ่วฉิงต้องขอร้องนาง ซ่างกวนหรูย่อมไม่กลัวอยู่แล้ว
สีหน้าของเป่ยจิ่วฉิงมืดมนและโหดเหี้ยม จ้องมองไปทางซ่างกวนหรูด้วยความโกรธ “ตกลง ข้ารับปากเจ้า!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” มุมปากของซ่างกวนหรูยกขึ้นมาอย่างได้ใจเล็กน้อย
“เช่นนั้นตอนนี้เจ้ารีบหยุดการทรมานของหนอนพิษกู่ในร่างกายของข้าที ข้าปวดหัวจะตายอยู่แล้ว!”
“เพคะ” ปากของซ่างกวนหรูพึมพำอะไรทันที ไม่นานนักอาการปวดหัวของเป่ยจิ่วฉิงก็หายไปแล้วจริงๆ
“เจ้าทำตัวเองดีๆเถอะ” เป่ยจิ่วฉิงทิ้งเอาไว้ประโยคหนึ่ง หันหลังก็จากไปเลย
เขาเพิ่งจะออกจากประตู ก็ให้คนไปเรียกตัวไท่จื่อมาเข้าเฝ้าทันที จากนั้นก็ส่งคนสนิทไปหาวิธีกำจัดหนอนพิษกู่ที่ดินแดนแห่งหนานเจียง
“ฝ่าบาท พระองค์จะส่งคนไปตามหาซ่างกวนเจิ้นจริงหรือ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะถูกคนของซวนอ๋องลักพาตัวไป?” กงกงคนสนิทสอบถาม
“หาบ้าอะไร พ่อลูกที่จิตใจโฉดชั่วเสมือนหมาป่าทำร้ายข้าอย่างอนาถขนาดนี้ ข้าเก็บซ่างกวนหรูเอาไว้ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น รอให้ข้ากำจัดหนอนพิษกู่นี่ไปได้เมื่อไหร่ จะต้องฆ่านังผู้หญิงที่โหดเหี้ยมคนนี้ให้ได้ ส่วนความเป็นความตายของซ่างกวนเจิ้นข้าไม่สนใจหรอก!” เป่ยจิ่วฉิงกล่าวด้วยความโกรธ
“ฝ่าบาททรงปราดเปรื่องยิ่งนัก!”
จวนไท่จื่อ
เป่ยหมิงฉี่ได้ยินว่าฮ่องเต้ถูกซ่างกวนหรูวางหนอนพิษกู่แม่ลูก นัยน์ตาสีดำเย็นชาเคร่งขรึม เขาคิดไม่ถึงว่าซ่างกวนหรูจะโหดเหี้ยมขนาดนี้
สองสามวันมานี้เขาเตรียมการเรื่องการวางแผนและจัดการบริหารของราชสำนักและแคว้นเป่ยลี่ หากจวินหย่วนโยวลงมือจริงๆ เกรงว่าจะกระทบถูกรากฐานของแคว้นเป่ยลี่ ดังนั้นเป่ยหมิงฉี่จึงต้องเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า
เขารู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของหยุนถิงอยู่เหนือคนทั่วไป บางทีนางอาจจะสามารถขจัดหนอนพิษกู่ได้ แต่เป่ยหมิงฉี่ก็รู้ว่าหยุนถิงไม่มีทางให้ความช่วยเหลือ อย่างไรเสียเสด็จพ่อก็เป็นคนฆ่าพ่อแม่ของจวินหย่วนโยว
ดังนั้นเป่ยหมิงฉี่ไม่ได้ไปพบเป่ยจิ่วฉิง แต่ส่งคนไปตามหาคนที่สามารถแก้พิษกู่ทันที
ทางด้านนี้ ซ่างกวนเจิ้นถูกตีสลบและลักพาตัวไป หลังจากที่ตื่นขึ้นมาคนทั้งคนรายล้อมอยู่กับสิ่งของที่ลื่นๆเนื้อๆ ซ่างกวนเจิ้นสะดุ้งตื่นในทันใด
ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นมาและเห็นทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าชัดเจน คนทั้งคนก็หวาดกลัวจนขนหัวลุกในชั่วพริบตา ตื่นตระหนกตกใจอย่างมาก
เขาถึงกับถูกคนโยนลงไปในกองงูในบ่อลึก ข้างในมีงูตัวเล็กตัวใหญ่หลายร้อยตัว เวลานี้คนทั้งคนของเขาถูกงูเหล่านั้นพันรอบเอาไว้ เหลือไว้เพียงศีรษะเท่านั้นที่โผล่ออกมา งูนับไม่ถ้วนที่อยู่ตรงหน้าแลบลิ้นแผล็บๆใส่เขา สิ่งนี้ทำให้ซ่างกวนเจิ้นตกใจจนเหงื่อเย็นไหลท่วมตัวทันที ตกใจจนสีหน้าซีดขาว
“ตกลงเป็นใครกันแน่ จับตัวข้ามาทำไม ไม่ว่าพวกเจ้ามีเงื่อนไขอะไร ข้าล้วนรับปากทั้งนั้น ขอเพียงพวกเจ้าปล่อยข้าไป ใครก็ได้!” ซ่างกวนเจิ้นตะโกนเสียงดัง
ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความสั่นเทาเล็กน้อย ไหนเลยยังใช่ซ่างกวนเฉิงเซี่ยงที่สุขุมเยือกเย็น แม้ในช่วงเวลาวิกฤตคนนั้นอีก เขาในเวลานี้ตื่นตระหนกตกใจ หวาดกลัวไม่สิ้นสุด ด้วยกลัวว่างูเหล่านั้นจะกลืนกินเขาเข้าไป
ตรงปากบ่อ เงาร่างหนึ่งมองลงมา เมื่อซ่างกวนเจิ้นเห็นคนที่มาชัดเจน สีหน้าซีดขาวมากยิ่งขึ้น ริมฝีปากบางก็ยังไร้สีเลือด “จวินซื่อจื่อ!”
เขาน่าจะคิดได้นานแล้วว่า ด้วยวิธีการของจวินหย่วนโยวไม่มีคนที่เขาไม่สามารถแตะต้องได้ เหตุผลที่ยังปล่อยให้ตัวเองอยู่รอดอีกสองสามวัน เกรงว่าอาจเป็นเพราะเขาคงจะมีจุดประสงค์อื่นกระมัง
“ถูกต้อง ข้าเอง! เล่าเหตุการณ์ที่ฆ่าพ่อแม่ข้า และผู้ที่ส่วนเกี่ยวข้องในตอนนั้นมาเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นเจ้าก็ตายด้วยปากของงูพิษเหล่านี้เถอะ!” จวินหย่วนโยวกล่าวด้วยความโกรธแค้น
ซ่างกวนเจิ้นตัวแข็งทื่อทันที จวินหย่วนโยวรู้แล้วจริงๆ แต่ถ้าหากตัวเองพูดออกมาจริงๆ เกรงว่าจวินหย่วนโยวคงจะให้งูพิษพวกนี้กินตัวเองทันทีแน่
“ในเมื่อจวินซื่อจื่อถามเช่นนี้ ก็แสดงว่าสืบอะไรได้แล้ว ข้ายินดีเล่าเหตุการณ์ในตอนนั้นให้ท่านฟัง แต่ท่านจะต้องปล่อยข้าไป!” ซ่างกวนเจิ้นกล่าวถาม
“ฮึ เจ้าไม่มีสิทธิมาต่อรองกับข้า!” จวินหย่วนโยวทิ้งเอาไว้ประโยคหนึ่ง และหันหลังจากไป
ซ่างกวนเจิ้นฟังเสียงความเคลื่อนไหวข้างนอก ตอนแรกนึกว่าจวินหย่วนโยวเพียงแค่จงใจขู่เขาเท่านั้น แต่แล้วภายหลังก็ไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวอีกเลยจริงๆ เขาตื่นตระหนกไปอย่างสิ้นเชิง รีบตะโกนขึ้นมาทันที
จวินหย่วนโยวที่อยู่ไม่ไกลออกไปย่อมได้ยินอยู่แล้ว แต่กลับไม่ได้สนใจ พาหยุนถิงเดินออกไป
ที่นี่คือภูเขาแห้งแล้งในเขตชานเมืองของแคว้นเป่ยลี่ ถึงแม้ซ่างกวนเจิ้นจะตะโกนจนคอแหบคอแห้งก็ไม่มีใครได้ยิน และไม่มีคนมาช่วยเขา
ที่เชิงเขา จวินหย่วนโยวจูงมือหยุนถิงเดินลงมา
“ซื่อจื่อ ท่านปล่อยเขาเอาไว้แบบนั้น ไม่สนใจแล้วหรือ?” หยุนถิงถาม
“การโจมตีคนต้องโจมตีไปที่จิตใจก่อน ซ่างกวนเจิ้นเป็นขุนนางมานานหลายปี สับปลับเจ้าเล่ห์ หากไม่บีบเขาจนถึงจุดหนึ่ง เขาจะไม่ยอมสารภาพง่ายๆ ถึงแม้จะสารภาพก็ไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง ไม่รีบร้อน ปล่อยเขาเอาไว้สองสามวันค่อยว่ากัน รอให้เขายืนหยัดต่อไปไม่ไหวก็จะรับสารภาพเอง” จวินหย่วนโยวอธิบาย
หยุนถิงยังอดที่จะชูนิ้วโป้งขึ้นมาไม่ได้ “ซื่อจื่อ ท่านนี่มันเก่งกาจจริงๆ โหดพอสมควร ต่อไปข้าอย่าได้ล่วงเกินท่านเด็ดขาด มิเช่นนั้นท่านจะไม่ทรมานข้าด้วยวิธีต่างๆหรอกหรือ”
จวินหย่วนโยวหัวเราะออกมาเบาๆ “สำหรับเจ้าไม่มีทางหรอก เว้นแต่บนเตียงเท่านั้น”
แก้มของหยุนถิงแดงก่ำขึ้นมาในชั่วพริบตา กล่าวอย่างตำหนิ “ซื่อจื่อ ท่านจะจริงจังหน่อยไม่ได้หรือ?”
“ข้าไม่จริงจังแค่กับเจ้าเท่านั้น”
“ห้ามวุ่นวาย ภูเขาที่แห้งแล้งนี้ดูรกร้าง วัชพืชเติบโตขึ้นทุกที่ แต่เมื่อครู่ข้าเห็นยาสมุนไพรที่ล้ำค่าอยู่ในนั้นไม่น้อย ข้าอยากเข้าไปเก็บสมุนไพร” หยุนถิงกล่าว
“ตกลง ข้าไปกับเจ้า”
“ไม่ต้องแล้วซื่อจื่อ ท่านรอข้าข้างล่างก็พอ ข้าอยากกินไก่ขอทาน ท่านอบด้วยตัวเอง ข้ากับหลงเอ้อขึ้นเขาก็พอแล้ว” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ได้ เช่นนั้นข้าให้หลิงเฟิงไปล่าไก่มาสองตัว อบเอาไว้รอเจ้า” จวินหย่วนโยวรู้ว่าหยุนถิงเป็นห่วงสุขภาพของตนเอง ไม่ได้ดึงดันอีก
“เช่นนั้นซื่อจื่อท่านต้องอบให้ดีๆนะ นี่คือเครื่องปรุง ใส่ยี่หร่าเยอะๆหน่อย” หยุนถิงหยิบเครื่องปรุงออกมาจากมิติ และยื่นมาให้
จวินหย่วนโยวรับไป และก็กำชับอีกสองสามคำ ส่งองครักษ์เงามังกรห้าคนขึ้นไปบนภูเขาพร้อมกับหยุนถิง
ช่วงเวลานี้ทุกคนได้เรียนรู้ยาสมุนไพรกับซื่อจื่อเฟยไปไม่น้อย เพื่อให้พวกเขาสะดวกในการช่วยเหลือตัวเองหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นตอนที่ออกไปปฏิบัติภารกิจ
ไม่ช้าหยุนถิงก็หายาสมุนไพรเจอต้นหนึ่ง เอาให้คนอื่นๆดูโดยเฉพาะ ทุกคนรีบหาต้นที่เหมือนกันทุกประการทันที
เดินเข้าไปในป่าลึกตลอดทาง ทันใดนั้นหยุนถิงที่กำลังค้นหาอย่างละเอียดก็เห็นข้างหน้ามีรอยเลือดไม่น้อย สีหน้าของหยุนถิงเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ทุกคนระวังตัวด้วย!”
หลงเอ้อและคนอื่นๆวิ่งเข้ามาทันที ปกป้องหยุนถิงเอาไว้ข้างหลัง เดินไปข้างหน้าตามรอยเลือดนั่น
แต่แล้วสุดท้ายก็เห็นกองวัชพืชที่อยู่ใต้ไหล่เขา มีเด็กนอนจมกองเลือดอยู่คนหนึ่ง
หยุนถิงกำลังจะเดินเข้าไป หลงเอ้อขวางนางเอาไว้ทันที “ซื่อจื่อเฟยระวังเป็นกับดัก!”