จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 471 ชั่วชีวิตนี้จะแต่งงานกับนางคนเดียว

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 471 ชั่วชีวิตนี้จะแต่งงานกับนางคนเดียว

ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก ต่างพากันหันไปมองโม่เหลิ่งเหยียน

“เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” สีหน้าเจ้าบ้านตระกูลหานมืดมนไปหมด

“ข้าพูดว่า จะไม่มีทางแต่งงานกับหานยินยิน หากไม่ใช่เพราะคำนึงถึงบุญคุณที่ท่านเลี้ยงท่านแม่ของข้ามา ข้าไม่มีทางกลับมาในครั้งนี้

เป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลหาน เพื่อให้ได้แต่งงานกับข้า ใช้วิทยากลกับข้า การกระทำที่ต่ำทรามเช่นนี้ ช่างไร้ยางอายและเป็นที่เหยียดหยามที่สุด

ชั่วชีวิตนี้ข้ารักผู้หญิงเพียงคนเดียว และจะแต่งงานกับนางคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้นางตั้งครรภ์ลูกของข้า จึงถือว่าเป็นซวนเฟยของข้า” โม่เหลิ่งเหยียนโอบกอดหยุนถิงไว้อย่างเผด็จการ เพื่อเป็นการป่าวประกาศให้ทุกคนรู้

หยุนถิงถูกโม่เหลิ่งเหยียนโอบกอดไว้อย่างกะทันหัน ร่างกายแข็งทื่อ กลับไม่พูดไม่จา

โม่เหลิ่งเหยียนสัมผัสได้ถึงร่างกายหยุนถิงที่แข็งทื่อ แต่นางก็ไม่ได้ผลักเขาทิ้ง ภายในใจโม่เหลิ่งเหยียน รู้สึกดีใจและตื่นเต้น

นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาได้โอบกอดหยุนถิงอย่างเปิดเผย ทั้งๆที่รู้ว่านางร่วมแสดงละครกับเตนเองเท่านั้น แต่โม่เหลิ่งเหยียนก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น แม้แต่สายตาที่มองดูหยุนถิง ก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและรักใคร่

เจ้าบ้านตระกูลหานโกรธโมโหจัด พร้อมพูดขึ้นว่า “ยินยิน ที่เขาพูดเป็นความจริงหรือ เจ้าใช้วิทยากลกับเขาจริงๆหรือ?”

สีหน้าหานยินยินขาวซีด สายตาที่มองดูโม่เหลิ่งเหยียนนั้นอ่อนโยนเหมือนดั่งน้ำ ราวกับฝ่ามือที่ไร้ร่องรอย ตกบนใบหน้าของนางอย่างรุนแรง

ทุกครั้งที่โม่เหลิ่งเหยียนเห็นนาง ล้วนแสดงสีหน้าเย็นชา ราวกับภูเขาหิมะพันปี นางคิดว่าโม่เหลิ่งเหยียนเป็นคนสุขุมเลือดเย็น ไม่คิดเลยว่า เขาก็สามารถอ่อนโยนรักใคร่ผู้หญิงคนหนึ่ง

“เป็นไปไม่ได้ เจ้าทำลายวิทยากลของข้าไม่ได้”

นางฝึกฝนวิทยากลมาตั้งแต่เด็ก เป็นวัยรุ่นในตระกูลหานที่มีพรสวรรค์ที่สุด ลงมือไม่เคยพลาด ทำไมเวลาไม่ถึงสามวัน กลับเสื่อมประสิทธิภาพแล้ว

คำพูดของหานยินยิน เป็นการยอมรับอย่างไม่ต้องสงสัย

เจ้าบ้านตระกูลหานแสดงสีหน้าผิดหวัง เดิมเขาเขียนจดหมายเรียกโม่เหลิ่งเหยียนกลับมา เพื่อจะคุยกับเขาเรื่องแต่งงาน แล้วโม่เหลิ่งเหยียนก็ปฏิเสธ แต่หลังจากไปเจอหานยินยินแล้ว กลับตอบตกลง

ตอนนั้นเจ้าบ้านตระกูลหานก็แปลกใจ แต่ยินยินรักชอบโม่เหลิ่งเหยียนมานานหลายปี พวกเขาตกลงเป็นคู่ครองกัน เจ้าบ้านตระกูลหานก็ไม่คิดอะไรมาก

ตระกูลหานต้องการมีที่พึ่งที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง แต่เขาก็มีเวลาเหลือไม่มากแล้ว จึงยอมตอบตกลง

“ยินยิน ทำไมเจ้าเลอะเลือนขนาดนี้ ที่ใช้วิทยากลกับเหลิ่งเหยียน นี่เป็นความสุขทั้งชีวิตของเจ้านะ?” ผู้อาวุโสรองของตระกูลหานพูดขึ้นอย่างถอนหายใจ

“ยินยิน โม่เหลิ่งเหยียนมีอะไรดี เขาเป็นเหมือนดั่งท่อนไม้ที่ไม่นับญาติเป็นมิตรกับใคร?” หานเหล่าซานไม่เข้าใจ

“น้องสาว พี่ใหญ่ไม่เคยทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้ วันนี้ข้าจะฆ่าโม่เหลิ่งเหยียน คนสารเลวคนนี้แทนเจ้า” หว่างคิ้วหานมู่ชิงฉายแววเฉียบคม พร้อมพุ่งไปโจมตีโม่เหลิ่งเหยียน

มือของโม่เหลิ่งเหยียนคว้าจับมือหยุนถิงไว้แน่น มืออีกข้างหนึ่งตอบโต้อย่างรุนแรง

“อ้าก” เสียงหานมู่ชิงร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด ร่างกายถูกกระแทกลอยออกไป

สายตาคู่งามของหานยินยินฉายแววอำมหิต อาวุธลับในมือถูกยิงไปหาโม่เหลิ่งเหยียนอย่างรวดเร็ว

นางไม่มีทางยอมให้โม่เหลิ่งเหยียนมีผู้หญิงคนอื่นเด็ดขาด และยิ่งรับไม่ได้ถ้าเขาไม่แต่งงานกับตน ไม่ได้เด็ดขาด

หยุนถิงที่ถูกโม่เหลิ่งเหยียนปกป้องไว้ข้างหลัง สัมผัสได้ถึงแววสังหารทางด้านหลัง จึงรีบหยิบเอาเข็มในเส้นผมแล้วตอบโต้กลับไป

“ติงตัง” เข็มเงินสามเล่มกระแทกโดนลูกดอกสามดอกที่หานยินยินโยนมาพอดี ส่วนข็มเงินอีกเล่มพุ่งเข้ามายังตรงหน้าหานยินยิน

“อ้าก พี่ใหญ่ช่วยด้วย” หานยินยินรีบร้องขอความช่วยเหลือ

สีหน้าเจ้าบ้านตระกูลหานเยือกเย็น ประแจในมือบินลอยออกไป กระแทกโดนเข็มที่ห่างจากใบหน้าของหานยินยินเพียงนิ้วเดียว หล่นตกพอดี

หานยินยินตกใจจนสีหน้าขาวซีด ทั้งร่างกายเกือบล้มลงพื้น ยังดีที่หานเหล่าซานคว้าจับนางไว้

“ยินยิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ้านังท้องโตกล้าลอบทำร้ายยินยิน ทหาร จับตัวนางไว้”

“หากไม่ใช่เพราะคุณหนูหานแอบลอบทำร้ายซวนอ๋อง คิดอยากที่จะควบคุมเขาอีกครั้ง ข้าจะลงมือได้อย่างไร คิดไม่ถึงว่าตระกูลหานหนึ่งในแปดกระกูลใหญ่ จะกระทำเรื่องไร้ยางอายขนาดนี้” หยุนถิงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ

“นังเด็กไม่เจียมตัว กล้าเหยียดหยามตระกูลหาน วันนี้ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า” ผู้อาวุโสรองของตระกูลหานกำลังจะลงมือ

“เดี๋ยวก่อน” เจ้าบ้านตระกูลหานพูดห้ามขึ้นมาว่า “ยังอับอายขายหน้าไม่พออีกหรือ ยินยินรีบขอโทษเหลิ่งเหยียน”

“ข้าไม่ขอโทษ” หานยินยินปฏิเสธอย่างไม่แม้แต่จะคิด

“พัฟ” เสียงตบหน้าดังขึ้นมา เจ้าบ้านตระกูลหานลงมือด้วยตนเอง

หานยินยินเบิกตาโตอย่างตกตะลึง พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านปู่ ท่านตบหน้าข้า?”

“ตระกูลหานเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีสูงศักดิ์ยิ่งกว่าทุกอย่าง เจ้าใช้วิทยากลกับเหลิ่งเหยียน ก็ควรขอโทษเขา” เจ้าบ้านตระกูลหานพูดขึ้นมาอย่างโกรธโมโห

เพราะโกรธโมโหอย่างมาก เจ้าบ้านตระกูลหานไอขึ้นมาอย่างรุนแรง

“ไม่ ข้าไม่ผิด ข้าไม่ขอโทษเด็ดขาด” หานยินยินไม่ยอมสำนึกผิด

“เจ้า เจ้าเด็กคนนี้…..” เจ้าบ้านตระกูลหานสะเทือนใจ กระอักออกมาเป็นเลือด แล้วก็ล้มลงหมดสติไป

หยุนถิงมองเห็นบนใบหน้าหล่อเหลาของโม่เหลิ่งเหยียน เลิกขึ้นเล็กน้อย ยังไงเจ้าบ้านตระกูลหานก็ถือว่าเป็นท่านปู่ของเขา ถึงแม้การกระทำของตระกูลหานจะเกินเหตุไปหน่อย แต่เจ้าบ้านตระกูลหานยังถือว่าเป็นคนมีเหตุผล

“พี่ใหญ่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ผู้อาวุโสรองของตระกูลหานรีบพุ่งไปประคองเขาไว้

“พี่ใหญ่ เจ้ารีบสั่งคนไปตามหมอมา?” หานเหล่าซานเป็นห่วงอย่างมาก

หานมู่ชิงก็กังวล รีบไปตามหมอมา

หานยินยินตกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านปู่ ท่านปู่ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าขอโทษ ข้าจะขอโทษเดี๋ยวนี้”

“ข้าสามารถรักษาเจ้าบ้านตระกูลหานได้” หยุนถิงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชา

มือโม่เหลิ่งเหยียนที่โอบไหล่นางบีบเล็กน้อย สีหน้ายังคงเยือกเย็นเหมือนดั่งน้ำ

หานยินยินหันมามองอย่างขุ่นเคือง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าว่าเจ้าอยากทำร้ายท่านปู่ของข้าหรือเปล่า หากไม่ใช่เพราะเจ้า ท่านปู่ของข้าจะโกรธโมโหจนกระอักเลือดได้อย่างไร”

“คุณหนูหาน หัวสมองของเจ้าถูกลาถีบหรือ ที่ท่านปู่ของเจ้ากระอักเลือด เป็นเพราะเจ้าใช้วิทยากลกับโม่เหลิ่งเหยียน ทำให้ตระกูลหานอับอายขายหน้า เจ้าต่างหากที่เป็นตัวการ เจ้าไม่สำนึกยังใส่ร้ายข้า หากเจ้าบ้านตระกูลหานฟื้นขึ้นมาก็จะต้องโกรธตายเพราะเจ้า” หยุนถิงพูดแทงใจ อย่างไม่ปรานี

หานยินยินพูดขึ้นมาอย่างโกรธโมโหว่า “เจ้าดนหาที่ตาย” พูดเสร็จก็จะมาพุ่งโจมตี

“พอแล้ว ยินยิน เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ ยังไม่ถอยออกไป” ผู้อาวุโสรองของตระกูลหานพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา

ถึงหานยินยินจะไม่พอใจ แต่ก็ยอมถอยออกไป

“แม่นาง เมื่อกี้ที่ล่วงเกิน ล้วนเป็นความผิดของตระกูลหาน เจ้าสามารถช่วยพี่ใหญ่ได้จริงๆหรือ?” ผู้อาวุโสรองของตระกูลหานถามขึ้นมา

“พี่รอง แม้แต่เจ้าก็เลอะเลือนแล้วหรือ สตรีท้องโตคนนี้ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน จะให้นางรักษาพี่ชายใหญ่ได้อย่างไร?” หานเหล่าซานพูดขึ้นมา

“เจ้าสามารถรับอาวุธลับสามดอกของยินยินได้ ยังจะทำร้ายนาง?”

คำพูดประโยคเดียว ทำให้หานเหล่าซานพูดไม่ออก

เมื่อกี้องผู้อาวุโสหานมองเห็นชัดเจน เข็มนั้นเป็นเข็มที่ใช้ฝังเข็ม และทำจากเหล็กบริสุทธิ์ หากไม่มีฝีมือทางการแพทย์ จะใช้เข็มดีขนาดนี้ได้อย่างไร

“เจ้าบ้านตระกูลหานป่วยเกินเยียวยา หากเป็นหมอคนอื่นคงไม่มีทางช่วยได้แล้ว แต่หากข้าช่วย เขาสามารถมีชีวิตอีกหนึ่งถึงสองปีได้อย่างไม่มีปัญหา” หยุนถิงพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ

“แม่นาง พูดความจริงหรือ?”

“ฝีมือการรักษาของเจ้าเก่งกาจขนาดนี้เชียวหรือ?” หานเหล่าซานก็ตกใจอย่างมาก

สุขภาพร่างกายของเจ้าบ้านพวกเขารู้ดีแก่ใจ หมอบอกแล้วว่ามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงหนึ่งเดือน

“ข้าทำได้หรือไม่ พวกเจ้าถามโม่เหลิ่งเหยียนก็ได้” หยุนถิงตั้งใจพูดขึ้นมา

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท