จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 477 ซื่อจื่อเฟยของข้า ใครกล้าลงโทษ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 477 ซื่อจื่อเฟยของข้า ใครกล้าลงโทษ

ฮูหยินกั๋วโก๋พูดจาเจ็บแสบ ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด

หยุนถิงเลิกคิ้วหันมามอง พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเขาเป็นแค่เพื่อนปกติของข้า อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้ข้าเท่านั้นเอง สมองฮูหยินกั๋วโก๋มีปัญหาหรือเปล่า

ทั่วทั้งเมืองปลูกกระทั่งแคว้นต้าเยียน ล้วนเป็นแผ่นดินของฮ่องเต้ หรือฮูหยินกั๋วโก๋ กำลังสงสัยความสามารถในการปกครองของฮ่องเต้ หรือคิดว่าฮ่องเต้ไม่มีความสามารถในการปกครองต้าเยียน?

พูดเยือกเย็น ทำให้สีหน้าฮูหยินกั๋วโก๋ย่ำแย่อย่างมาก

“เจ้าอย่าคิดเบี่ยงเบนความหมายของข้า ข้าไม่ได้หมิ่นประมาทฮ่องเต้ และก็ไม่ได้สงสัยในความสามารถของฮ่องเต้”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เป็นเพราะฮูหยินกั๋วโก๋ คิดอยากที่จะยั่วยุให้เกิดข้อพิพาทระหว่างสองแคว้น หรือตั้งใจอยากที่จะสร้างเรื่องบาดหมางระหว่างจวนซื่อจื่อกับจวนองค์หญิงใหญ่ หรือจะเอาเป็นไส้ศึกที่แคว้นเทียนจิ่วส่งมา ตั้งใจสร้างความสะเทือนใจ” หยุนถิงพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

“หุบปาก ข้าไม่ใช่ไส้ศึกอะไร ข้ากับองค์หญิงใหญ่เป็นเพื่อนสนิทกัน ตระกูลพื้นเพดี ตอนที่ข้าแต่งงานไปยังแคว้นเทียนจิ่ว ฮ่องเต้พระราชทานงานแต่งงานด้วยตนเอง เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสงสัยข้า?” ฮูหยินกั๋วโก๋พูดขึ้นมาอย่างโกรธจัด

“ฮูหยินพูดน่าขำจริงๆ พ่อของข้าเป็นหยุนเฉิงเซี่ยง แต่งงานกับซื่อจื่อเพราะรักใคร่กัน หรือข้าไม่ใช่ตระกูลพื้นเพดีหรือ หากไม่ใช่เพราะเจ้าพูดจาไม่ให้เกียรติ ข้าจะพูดกับเจ้าเช่นนี้ได้อย่างไร”

ยิ่งไปกว่านั้น ลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้วก็เหมือนดั่งน้ำที่สาดออกไป เจ้าแต่งงานไปอยู่แคว้นเทียนจิ่วนานหลายปี ถูกล้างสมองแล้วก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ยังไงคนอกตัญญูมีให้เห็นอยู่แล้วอย่างมากมาย

ข้าเคารพให้เกียรติองค์หญิงใหญ่ ถึงได้มาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิด หากเป็นคนอื่นมาเชิญข้า ข้ายังจะไม่มา องค์หญิงใหญ่ยังไม่ถือสาที่ข้ามาช้า เจ้าเป็นคนอื่นมีสิทธิ์อะไรมาต่อว่า หรือคิดว่าจะเป็นประมุขจวนองค์หญิงใหญ่

หยุนถิงพูดขึ้นมาตรงๆ ด้วยน้ำเสียงเฉียบคม ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด

ฮูหยินกั๋วโก๋โกรธโมโหจนสีหน้าขาวซีด เส้นเลือดบนหน้าผากเต้นกระตุก พร้อมพูดขึ้นว่า “ชั่วช้า หยุนถิงเจ้าพูดเกินไปแล้ว” พูดเสร็จ ก็ยกมือขึ้นมาจะฟาดตบหยุนถิง

“ดนหาที่ตาย” จวินหย่วนโยวจะฟาดตบลงไป

“หยุดเดี๋ยวนี้” เสียงอันน่าเกรงขามเสียงหนึ่งพูดดังขึ้นมา องค์หญิงใหญ่สวมชุดฝ่ายในสีแดงเข้ม หรูหราสง่างาม เดินมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ทุกคนล้วนมาร่วมงานฉลองวันเกิดของข้า ล้วนเป็นคนกันเอง ข้าไม่อยากให้งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของข้าถูกทำลายเสียแบบนี้ สีหน้าองค์หญิงใหญ่สงบนิ่งเรียบเฉย แต่น้ำเสียงกลับแฝงไปด้วยความเย็นชา”

“องค์หญิงใหญ่พูดถูก” ฮูหยินกั๋วโก๋รีบถวายความเคารพ แล้วก็หุบปากยังไม่พอใจ

หยุนถิงคว้าดึงแขนจวินหย่วนโยวที่กำลังจะลงมือไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “องค์หญิงใหญ่พูดถูก วันนี้ถึงแม้ สุขภาพของข้าไม่ดี แต่ก็ยังจำวันเกิดขององค์หญิงใหญ่ได้ ตั้งใจเอายาเสริมความงามมาให้ เพราะกลั่นยาเสร็จช้า ดังนั้นจึงมาช้า ขอองค์หญิงใหญ่อย่าได้ถือสา” พูดเสร็จ ก็ล้วงเอาขวดเซรามิกสีขาวออกมาจากในแขนเสื้อ

เดิมสีหน้าองค์หญิงใหญ่ที่โกรธโมโห ฉายแววยินดี ฝีมือทางการแพทย์ของหยุนถิง ทั่วทั้งสี่แคว้นต่างรู้ดี แม้แต่เสด็จพี่ก็ชื่นชม ผลิตภัณฑ์ดูแลความงามและผิวพรรณของนางที่วางขายในหอชุนเฟิง มียอดขายต่อวันไม่ต่ำกว่าหมื่น ยาลูกกลอนของนางนั้นล้ำค่าอย่างมาก

“ซื่อจื่อเฟยเกรงใจไปแล้ว เช่นนี้ข้าก็จะรับไว้” องค์หญิงใหญ่ยื่นมือไปรับไว้

“ขอบคุณที่องค์หญิงใหญ่ไม่รังเกียจ”

“เข้าไปนั่งเถอะ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้ว” องค์หญิงใหญ่เดินตรงเข้าไป

หยุนถิงมองดูจวินหย่วนโยวแวบหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นว่า “ซื่อจื่ออย่าโกรธโมโหเพราะสตรีแบบนี้ นางไม่คู่ควร”

จวินหย่วนโยวเลิกคิ้ว ผงกหัวเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้” ทั้งสองคนเดินตามเข้าไป นั่งอยู่ด้านข้างโม่ฉือชิง

“หยุนถิง เจ้าเก่งจริงๆ มีแต่เจ้าแหละที่กล้าเถียงกับคนแบบนี้ สะใจจริงๆ” โม่ฉือชิงพูดชมขึ้นมา

“คนไม่ทำอะไรข้า ข้าก็ไม่ทำอะไรใคร” หยุนถิงพูดตอบ

“พูดได้ดีจริงๆ”

ในระหว่างที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน ซวนอ๋องเดินเข้ามาจากข้างนอก วันนี้เขาสวมชุดผ้าแพรสีดำ ดูเท่ห์สุขุม หน้าตาหล่อเหลา คิ้วตาได้รูป ร่างกายสูงใหญ่ รอบกายแฝงไปด้วยรัศมีห่างเหินเยือกเย็น ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้

ซวนอ๋องทำความเคารพองค์หญิงใหญ่ มอบของขวัญ พูดคุยสักพักแล้วก็มานั่งลง

บังเอิญอย่างมาก ที่นั่งของซวนอ๋องอยู่ด้านข้างจวินหย่วนโยวพอดี

ศัตรูในความรักเห็นหน้ากัน ต่างไม่พอใจกัน จวินหย่วนโยวรีบเอื้อมมือไปโอบกอดไหล่หยุนถิงไว้ ประกาศความเป็นเจ้าของ

โม่เหลิ่งเหยียนเพียงแค่ขยิบตา ไม่ได้พูดอะไร หันไปผงกหัวเพื่อเป็นการทักทายหยุนถิง แล้วค่อยๆนั่งลงตรงที่นั่ง

ฮูหยินกั๋วโก๋ที่อยู่ตรงข้าม จับจ้องมองดูทุกอย่าง ในใจครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

งานเลี้ยงเริ่มแล้ว ทุกคนดื่มทานพูดคุยกัน หญิงสาวมากมายต่างแสดงฝีมือการแสดงของตนเอง เป่า ดึง ดีด ร้องรำล้วนมีทุกอย่าง คึกคักยิ่งนัก

หยุนถิงมองดูกับข้าวบนโต๊ะที่มันเยิ้ม แล้วรู้สึกคลื่นไส้ แต่ก็ไม่อยากให้ใครรู้ จึงกินเพียงพวกผลไม้

“ทำไมคุณหนูหยุนไม่กิน หรือคิดว่าอาหารจวนองค์หญิงไม่ดีหรือกลัวถูกวางยาพิษ?” ฮูหยินกั๋วโก๋พูดขึ้นอย่างแปลกๆ

หยุนถิงหันไปมองอย่างสงสัย พร้อมพูดขึ้นว่า “หรือฮูหยินกั๋วโก๋ เติบโตมากับการดื่มแล้วทะเลหรือ?”

ทุกคนต่างหันไปมองอย่างไม่เข้าใจ ฮูหยินกั๋วโก๋เองก็อึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “น้ำทะเลเค็มขนาดนั้น ไม่สามารถดื่มได้?”

“ในเมื่อไม่ใช่ งั้นเจ้ายุ่งเรื่องมากมายขนาดนี้ทำไม ข้ากินอะไรดื่มอะไรเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า ซื่อจื่อยังไม่ยุ่งกับข้าเลย เจ้าถือว่าเจ้าเป็นใคร” หยุนถิงพูดออกมาตรงๆ

ฮูหยินกั๋วโก๋โกรธจัดอย่างมาก เหลือบมองดูคนที่เพิ่งแสดงเสร็จ แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าคุณหนูหยุนเคยเต้นแสดงในเทศกาลดอกท้อ ทำไมวันนี้ไม่เต้นให้ทุกคนได้ดูเป็นบุญตา?”

ดวงตาคู่งามของหยุนถิงฉายแววเยาะเย้ย พร้อมพูดขึ้นมายังไม่พอใจว่า “ไม่เต้น”

“ทำไม เจ้าจะไม่ไว้หน้าองค์หญิงใหญ่เลยหรือ?” ฮูหยินกั๋วโก๋ตั้งใจถามขึ้นมา

“ข้าไว้หน้าองค์หญิงใหญ่อยู่แล้ว แต่เจ้าไม่คู่ควร องค์หญิงใหญ่เป็นองค์หญิงใหญ่ของแคว้นต้าเยียนเรา แต่เจ้าเป็นภรรยาเฉิงเซี่ยงฝ่ายซ้ายของแคว้นเทียนจิ่ว รบกวนฮูหยินกั๋วโก๋จดจำสถานะของตนเองด้วย อย่าเอาชื่อองค์หญิงใหญ่มาอ้างทุกครั้งไป ไม่อย่างนั้นหากฮ่องเต้ระแวงว่าข้ากับองค์หญิงใหญ่ร่วมมือกัน ข้อหาร่วมมือกับศัตรูและกบฏหรืออะไรทำนองนั้น งั้นองค์หญิงใหญ่ก็จะแย่นะ” หยุนถิงพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าองค์หญิงใหญ่ นางให้ฮูหยินกั๋วโก๋คนนี้หุบปากไปนานแล้ว คิดว่าตนเองเป็นใครกัน กล้าชี้พูดวิจารณ์นางอย่างสะเพร่า

“หยุนถิง เจ้ากล้าใส่ร้ายข้า ข้ากับองค์หญิงใหญ่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก จะคิดทำร้ายองค์หญิงใหญ่ได้อย่างไร เจ้าอย่าคิดหาเรื่อง องค์หญิงใหญ่ ท่านจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ข้า หยุนถิงใส่ร้ายหาว่าท่านคิดกบฏ ขอองค์หญิงใหญ่ลงโทษนางด้วย” ฮูหยินกั๋วโก๋โกรธจัดอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะมีจวินซื่อจื่ออยู่ด้วย นางจัดการสั่งสอนหยุนถิงไปนานแล้ว

“ซื่อจื่อเฟยของข้า ใครกล้าลงโทษ” จวินหย่วนโยวปกป้องคนของตนเองอย่างเผด็จการ

คำพูดประโยคเดียว บรรยากาศทั่วทั้งงานเลี้ยงเยือกเย็นลงทันที

เขาจะต้องทำให้ฮูหยินกั๋วโก๋กับองค์หญิงใหญ่รู้ว่า ผู้หญิงของเขา ไม่มีใครแตะต้องได้

สีหน้าองค์หญิงใหญ่ก็ยำแย่ลง นางรู้สึกค่อนข้างเสียใจที่เชิญฮูหยินกั๋วโก๋มาด้วย สตรีโง่เขลาคนนี้กล้าคิดหาเรื่องหยุนถิง ไม่เท่ากับดนหาที่ตายหรือ

โม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่ทางนี้สีหน้าเรียบเฉย ปลายนิ้วมือเรียวขาวลูบไล้แก้วเหล้า ไม่ทำอะไรเลย รอดูเรื่องสนุก

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท