จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 481 ต่อไปข้าไม่มีหน้าไปพบเจ้าแล้ว
สีหน้าของผู้หญิงลนลานขึ้นมาทันที แต่กลับแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง “คุณหนูหยุน ท่านจำคนผิดแล้ว ไม่ใช่ข้า!”
“ถึงเจ้าจะไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร ทหาร ไปตามองค์หญิงใหญ่มา นางจะต้องรู้จักเจ้าแน่!” หยุนถิงพึมพำเสียงเย็นออกมาประโยคหนึ่ง
“ไม่เอา อย่า!” ผู้หญิงห้ามปรามขึ้นมาอย่างไม่ครุ่นคิด ในแววตามีแววโหดเหี้ยมพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง มืออีกข้างล้วงมีดสั้นออกมากะทันหัน แล้วก็แทงมาที่หยุนถิงเลย
เพียงแต่นางยังไม่ทันจะแตะต้องโดนตัวหยุนถิง ก็ถูกจวินหย่วนโยวและโม่เหลิ่งเหยียนสองคนที่ลงมือพร้อมกัน สองฝ่ามือซัดจนตัวลอยออกไป ร่างกายไปชนเข้ากับเตาที่อยู่ข้าง ๆ เต็ม ๆ แล้วล้มลงไปบนพื้นแล้วกระอักเลือดออกมา
ฮูหยินกั๋วโก๋เจ็บจนสีหน้าขาวซีด ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ บาดแผลทั้งใหม่และเก่าแน่นอนว่าฮูหยินกั๋วโก๋ต้องแบกรับไม่ไหว
“ข้าคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรหลุดลอดออกไปแน่ ตกลงเจ้าดูข้าออกได้อย่างไรกัน?”
เมื่อกี้องครักษ์ได้ยินความเคลื่อนไหวทางนี้ ก็รีบมารายงานกับองค์หญิงใหญ่ องค์หญิงใหญ่ที่เร่งรีบมาพอมาถึงประตู ก็ได้ยินเสียงฮูหยินกั๋วโก๋เข้าพอดี
องค์หญิงใหญ่ไม่ได้เดินเข้าไป กลับยืนอยู่ที่หน้าประตู นางเองก็อยากรู้ พื้นที่ขององค์หญิงใหญ่กว้างใหญ่ขนาดนี้ แล้วก็มีคนค้นหากันมากมาย แต่ทำไมหยุนถิงถึงหาฮูหยินกั๋วโก๋เจอได้ นี่มันแค่บังเอิญจริง ๆ หรือ?
หยุนถิงจ้องมองไปที่ฮูหยินกั๋วโก๋ที่อยู่บนพื้นอย่างดูถูก “พูดได้แค่ว่าเจ้าโชคร้าย ข้าอยากกินขนมเปี๊ยะพอดี ก็เลยคิดว่าจะมาเอาในครัวสักหน่อย แต่ปรากฏว่ามาพบเห็นเจ้าเข้าพอดี
พอข้าบอกกับเจ้ามาจะเอาขนมเปี๊ยะ ขนมเปี๊ยะจานนั้นก็วางอยู่ตรงนั้น แต่เจ้ากลับข้ามผ่านไปหาที่ชั้นวาง เรื่องนี้ก็เปิดโปงความน่าสงสัยของเจ้าได้แล้ว
ถ้าเจ้าเป็นแม่ครัวของห้องครัวใหญ่จริง ๆ เรื่องใหญ่อย่างงานเลี้ยงวัดเกิดในจวนองค์หญิงใหญ่ เมนูอาหารและตำแหน่งการจัดวางทุกอย่างจะต้องจดจำได้แม่นยำอยู่แล้ว แต่ทำไมถึงหาขนมเปี๊ยะจานหนึ่งไม่เจอล่ะ
ถ้าเป็นเพราะว่าเมนูอาหารมากเกินไป แล้วจดจำไม่ได้ก็มีความเป็นไปได้ แต่แม่ครัวต้องเด็ดผัก ทำอาหารทุกวัน จึงใช้งานมือเยอะที่สุด ดังนั้นมือก็ต้องหยาบกระด้าง
ถึงแม้เจ้าจะใส่ชุดแม่ครัวอยู่ บนใบหน้ายังมีคราบขี้เถ้า และทรงผมก็เปลี่ยนไปแล้ว แต่เจ้ากลับลืมมือคู่นี้ไป หรือบางทีเจ้าอาจจะไม่มีเวลามากด้วยซ้ำ ก็เลยถูกข้าจับได้ไงล่ะ!”
ในดวงตาเรียวขององค์หญิงใหญ่ที่อยู่หน้าประตูมีแววชื่นชมพาดผ่านไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าหยุนถิงจะเป็นคนจิตใจละเอียดลออเช่นนี้
“ฮา ฮา คิดไม่ถึงจริง ๆ แผนการที่ข้าคิดแล้วคิดอีก จะมาถูกเจ้ามองออกซะได้!” ฮูหยินกั๋วโก๋หัวเราะเสียงเย็นแล้วพูดขึ้นมา
องค์หญิงใหญ่ก้าวเดินเข้าไป “ฮูหยินกั๋วโก๋ ข้าคิดว่าข้าปฏิบัติกับเจ้าดีแล้วนะ ทำไมเจ้าต้องทำเช่นนี้ด้วย?”
น้ำเสียงที่เย็นชา แฝงไว้ด้วยความผิดหวัง และเสียใจ ฟังดูหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
พอฮูหยินกั๋วโก๋เห็นองค์หญิงใหญ่มา สีหน้าก็ละอายใจขึ้นมา “องค์หญิงใหญ่ท่านฟังข้าพูดก่อน หยุนถิงเป็นคนใส่ร้ายข้าทั้งนั้น ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์นะ”
“ถ้าเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ๆ ทำไมถึงไม่อยู่ในห้องรับรองแขก แต่กลับวิ่งมาที่ห้องครัว แถมยังเปลี่ยนเป็นชุดแม่ครัวอีก?” หยุนถิงถามแย้งกลับไป
ฮูหยินกั๋วโก๋มีสีหน้าตกตะลึง แต่ตีให้ตายนางก็ไม่ยอมรับหรอก “ตอนที่ข้าตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในห้องรับรองแขก แต่ว่าปวดท้องขึ้นมาพอดี ก็เลยลุกมาเข้าห้องน้ำ”
“จากนั้นตอนที่กลับมา ก็เห็นองครักษ์ปิดล้อมลานทั้งหมดไว้ บอกว่าจะมาจับตัวข้า ข้าก็เลยลนลานขึ้นมาทันที ดังนั้นก็เลยเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมา องค์หญิงใหญ่ได้โปรดเชื่อข้าด้วย!”
“ช่างน่าขำจริง ๆ ถ้าเจ้าไม่ได้ทำผิดแล้วเจ้าจะหนีทำไม เมื่อกี้มีคุณชายท่านหนึ่งที่มีเลือดเต็มตัววิ่งไปหาองค์หญิง บอกว่าพบเห็นเจ้าตรงนอกประตู และบอกว่าเจ้าขโมยของขององค์หญิงใหญ่ไป!” หยุนถิงพูดชัดถ้อยชัดคำทุกคำ
“เจ้าพูดจาไปเรื่อยอะไร ข้าไม่พบเห็นใครเลยสักคน!” ฮูหยินกั๋วโก๋โต้แย้งกลับไป พอพูดเสร็จถึงพบว่าตัวเองเผลอหลุดปากออกไปแล้ว อยากจะเก็บกลับคืนก็ไม่ทันการเสียแล้ว
คำพูดประโยคเดียว ก็เท่ากับสารภาพออกไปเองแล้ว
“องค์หญิงใหญ่ ท่านได้ยินใช่หรือไม่” หยุนถิงพูดขึ้นมา
องค์หญิงใหญ่มีความโกรธพุ่งสูงขึ้นมา แต่กลับอดกลั้นความโกรธเอาไว้ “ฮูหยินกั๋วโก๋ ข้ารู้ว่าที่เจ้าทำแบบนี้ ต้องไม่ใช่ความต้องการของตัวเอง มีใครข่มขู่เจ้าอยู่ใช่ไหม ขอแค่เจ้าส่งมอบของออกมา ข้าก็จะยื่นมือไปช่วยเจ้าได้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร!”
ฮูหยินกั๋วโก๋คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงใหญ่จะใจกว้างเช่นนี้ จึงยิ่งรู้สึกละอายมากขึ้น
“ขออภัยจริง ๆ องค์หญิงใหญ่ เพราะองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเทียนจิ่วเอาชีวิตลูกชายข้ามาเป็นตัวประกัน ให้ข้ามาขโมยตราสัญญาลักษณ์ไปให้ องค์หญิงใหญ่ได้โปรดช่วยลูกชายด้วย!” ฮูหยินกั๋วโก๋พูดขึ้นมาอย่างละอายใจ
“เจ้าวางใจเถอะ ขอแค่เจ้ายอมเอาตราสัญญาลักษณ์ออกมาให้ข้า ข้าก็จะเรียกตัวทหารกล้าในชายแดนทางใต้มา แล้วให้พวกเขาช่วยลูกชายของเจ้ากับเจ้าที่แคว้นเทียนจิ่ว!” องค์หญิงใหญ่พูดขึ้นมาอย่างให้การรับประกัน
“ขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่ ข้าเป็นคนทำผิดต่อท่านเอง!” ฮูหยินกั๋วโก๋ร้องห่มร้องไห้แล้วก็ลุกขึ้นมาจากพื้น แล้วเดินไปที่เตาไฟด้านข้าง และเอาตราสัญญาลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ในนั้นออกมา
หยุนถิงคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าฮูหยินกั๋วโก๋จะเอาตราสัญญาลักษณ์ซ่อนไว้ในที่แบบนี้ ถึงนางจะให้คนมาค้นหา ก็คงไม่มีทางคิดว่าจะเป็นตรงนั้นหรอก
คนที่อยู่ในครัวก็คงคิดไม่ถึงเช่นกัน ถ้าเกิดมาจุดไฟขึ้นมา คาดว่าตราสัญญาลักษณ์อันนี้คงจะถูกเผาไปพังไปแน่ ผู้หญิงคนนี้นี่โหดร้ายมากจริง ๆ
ตาเรียวขององค์หญิงใหญ่หรี่ตาลง ยื่นมือมารับไปแล้วก็เปิดออก ผลปรากฏว่า ด้านในเป็นตราสัญญาลักษณ์ของตัวเองจริง ๆ
“องค์หญิงใหญ่ข้าเป็นคนทำผิดต่อท่านเอง ต่อไปนี้ข้าคงไม่มีหน้ามามองหน้าท่านแล้ว” ฮูหยินกั๋วโก๋พูดขึ้นมาอย่างละอายใจ
สีหน้าขององค์หญิงใหญ่กลายเป็นเยือกเย็นและโหดเหี้ยมขึ้นมา ตาเรียวมืดมนอย่างลึกซึ้ง แหลมคมดูอันตราย “เจ้าแน่ใจนะว่าไม่มีหน้ามาพบหน้าข้าแล้ว!”
ฮูหยินกั๋วโก๋ยังตั้งสติกลับมาไม่ได้ องค์หญิงใหญ่ก็ดึงปิ่นปักผมที่อยู่บนหัวออกมาทันที แล้วแทงไปที่หน้าอกของฮูหยินกั๋วโก๋เลย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาเร็วมาก พอฮูหยินกั๋วโก๋ตั้งสติขึ้นมาได้ ตรงหน้าอกก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แล้วเลือดแดงสด ๆ ก็ไหลลงมาตามปิ่นปักผมอันนั้น หยดลงไปบนพื้น มองแล้วดูน่ากลัวมาก
“องค์หญิงใหญ่ ท่าน ทำไมท่านถึง……”
“ข้าเห็นว่าเจ้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ถึงได้ยอมให้เจ้ามาสามหาวแบบนี้ในงานเลี้ยงวันเกิด แต่เจ้ากลับจิตใจต่ำทราม อกตัญญูไม่สำนึกในบุญคุณ มาขโมยตราสัญญาลักษณ์ของข้า
ตราสัญญาลักษณ์นี่เสด็จพ่อเป็นคนมอบให้ข้า เป็นเครื่องคุ้มกายสิ่งเดียวที่เสด็จพ่อมอบให้ข้า ถ้าสูญเสียตราสัญญาลักษณ์นี้ไป ก็เท่ากับว่าข้าต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ไปด้วย
ถ้าใครกล้ามาคิดอะไรกับตราสัญญาลักษณ์ ข้าจะต้องทำให้เหมือนตายทั้งเป็นแน่นอน ถึงจะเป็นเจ้าก็เช่นกัน เจ้าเป็นคนอยากจะรนหาที่ตายเองอย่ามาโทษว่าข้าไม่มีเยื่อใยเลย!” องค์หญิงใหญ่พูดไปอย่างสวยงาม ไม่ไว้หน้ากันเลยสักนิด
ฮูหยินกั๋วโก๋ล้มลงไปกับพื้นทั้งตัว ร่างกายกระตุกขึ้นปากพึมพำไปว่า “ลูกชาย ลูกชายของแม่……”
จากนั้น ก็หมดลมไป
“ทหาร เอาศพฮูหยินกั๋วโก๋ไปแขวนไว้ที่ประตูเมือง ให้ตากแดดเดือนหนึ่ง ถ้าใครกล้าเอาลงมา ข้าจะไม่มีทางปล่อยตัวไปแน่!” องค์หญิงใหญ่ออกคำสั่งไป
นางจะให้ทุกคนรู้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้ากล้ามาคิดอะไรกับตราสัญญาลักษณ์ นางจะไม่มีปล่อยไปง่าย ๆ แน่
“พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์สองนายรีบวิ่งเข้ามา ลากศพของฮูหยินกั๋วโก๋ออกไป
หยุนถิงตกตะลึงไปเลย เมื่อกี้องค์หญิงใหญ่ยังพูดจาลึกซึ้ง เข้าอกเข้าใจผู้อื่น เห็นอกเห็นใจเป็นอย่างมาก เพียงครู่เดียวก็โหดเหี้ยมและเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ และฆ่าฮูหยินกั๋วโก๋ไปโดยที่ตาไม่กะพริบเลยสักนิด ถึงว่าล่ะซื่อจื่อบอกให้ตัวเองอยู่ห่าง ๆ องค์หญิงใหญ่ไว้หน่อย
เพื่อตราสัญญาลักษณ์แล้ว นางไม่เห็นแก่ความรู้สึกใด ๆ เลย ถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายทำเพราะไม่มีทางเลือก คนแบบนี้จิตใจเด็ดเดี่ยว เด็ดขาด โหดเหี้ยม เป็นเพื่อนที่มีผลประโยชน์ร่วมกันนั้นได้อยู่ แต่ไม่อาจคบหากันอย่างลึกซึ้งได้
“วันนี้ต้องขอบคุณคุณหนูหยุนมาก ข้าตามหาตราสัญญาลักษณ์กลับมาได้แล้ว ข้าจะตอบแทนอย่างงามแน่นอน! แต่เรื่องในวันนี้ ข้าไม่อยากให้ผู้อื่นรู้เรื่อง ขอให้ทุกท่านช่วยเก็บไว้เป็นความลับให้ข้าด้วยนะ” องค์หญิงใหญ่พูดขึ้นมาอย่างเชื่องช้า