จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 497 ข้าชอบเจ้า

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 497 ข้าชอบเจ้า

ฮ่องเต้มองไปทางซวนอ๋องที่อยู่ไม่ไกล ขอเพียงไม่ใช่คนโง่ก็สามารถดูออกว่าซวนอ๋องปฏิบัติต่อหยุนถิงแตกต่างออกไป มิเช่นนั้นด้วยนิสัยที่ไม่ชายตามองผู้หญิงของเขา จะให้ความสำคัญกับหยุนถิงเป็นพิเศษได้อย่างไร

เพียงแต่ว่าจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงรักใคร่ชอบพอซึ่งกันและกัน ซวนอ๋องจะมีความคิดอย่างไร ก็เป็นไปไม่ได้

ฮ่องเต้ก็เคยเป็นหนุ่มมาก่อน ย่อมความเข้าความจนใจของความรักที่ไม่สมหวังเป็นธรรมดา

“ซวนอ๋องอายุไม่น้อยแล้วจริงๆ แต่เรื่องการแต่งงานของเขาก็ให้เขาตัดสินใจเองเถอะ!” ฮ่องเต้ตรัสอย่างราบเรียบ

โม่เหลิ่งเหยียนเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของเขา ยิ่งเป็นที่พึ่งของเขา สาเหตุที่แคว้นต้าเยียนสงบสุขมากเช่นนี้ ล้วนเป็นเพราะโม่เหลิ่งเหยียนทั้งนั้น ถึงแม้ซวนอ๋องจะถูกขนานนามว่าเป็นเทพสงคราม แต่กลยุทธ์และความกล้าหาญของเขาไม่สามารถเทียบซวนอ๋องได้เลย

โม่เหลิ่งเหยียนเป็นคนกระหายเลือดและโหดเหี้ยม เวลาบ้าคลั่งขึ้นมาไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น กับศัตรูแล้วยิ่งโหดร้ายทารุณ ดังนั้นสี่แคว้นถึงได้หวาดกลัวเขามาก หากเขาไม่ได้โหดเหี้ยม ทำให้คนหวาดกลัวเช่นนี้ ฉายาเทพสงครามแห่งแคว้นต้าเยียนต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน

และโม่เหลิ่งเหยียนก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ฮ่องเต้พึงพอใจอย่างมาก

เขาก็กลัวเช่นกันว่าโม่เหลิ่งเหยียนจะมีอำนาจสูงกลบนาย ตอนนี้ชาวโลกหวาดกลัวเขาราวกับพญายมในนรก สำหรับฮ่องเต้แล้วกลับเป็นเรื่องที่ดี

“ฝ่าบาททรงปรีชาญาณ นิสัยของซวนอ๋องเกรงว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้าใกล้ อีกไม่กี่วันก็เป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว เหตุใดฝ่าบาทถึงไม่จัดงานเลี้ยงขึ้นมา ให้ลูกหลานตระกูลผู้ดีมีเงินในเมืองหลวงมาเข้าร่วม หากซวนอ๋องมีคนที่ชอบจริงๆมันจะไม่ดียิ่งกว่าหรอกหรือ” หลิ่วเฟยเสนอแนะ

“ความคิดนี้ไม่เลว หาได้ยากที่เจ้าทำเพื่อซวนอ๋องเช่นนี้ เรื่องนี้มอบหมายให้เจ้าเป็นคนจัดการ!” ฮ่องเต้ตรัสอย่างพึงพอใจ

“ขอบพระทัยฝ่าบาท หม่อมฉันจะไม่ทำให้ทรงผิดหวังแน่นอน!”

ฮ่องเต้พาหลิ่วเฟยจากไปแล้ว เพลงของหยุนถิงก็ร้องจบแล้วเช่นกัน รู้สึกถึงสายตาที่อยู่ด้านหลัง ในตอนที่หันกลับไปมอง ก็ไม่มีเงาร่างของซวนอ๋องนานแล้ว

“ถิงเอ๋อร์ เรากลับไปพักผ่อนเถอะ” จวินหย่วนโยวเสนอแนะ

ตั้งแต่นาทีที่โม่เหลิ่งเหยียนปรากฏตัว จวินหย่วนโยวก็สังเกตเห็นแล้ว เพียงแต่ไม่ได้บอกหยุนถิงเท่านั้น

“ตกลง” หยุนถิงรู้สึกเหนื่อยแล้วจริงๆ ถูกจวินหย่วนโยวประคองลุกขึ้นมา ทั้งสองคนก็กลับไป

หลังเที่ยงคืน ฝนก็ตกลงมา

“ถ้าอย่างไรให้คนไปช่วยหยุนไห่เทียนกับซูชิงโยวกลับมาดีไหม?” จวินหย่วนโยวเสนอแนะ

“ว่ากันว่ายามตกทุกข์ได้ยากจะได้เห็นความจริงใจ รออีกหน่อยแล้วกัน แต่สามารถส่งร่มไปให้พวกเขา” หยุนถิงเรียกหลิงเฟิงมาทันที

จวินหย่วนโยวนึกว่าที่นางพูดถึงคือร่มกระดาษน้ำมัน ในตอนที่เห็นหยุนถิงหยิบร่มสีดำขนาดใหญ่ออกมาจากมิติ รู้สึกประหลาดใจมาก

“ถิงเอ๋อร์ อันนี้คือ?”

“นี่คือร่มชายหาด แต่ก็สามารถกันฝนได้ด้วย” หยุนถิงสอนวิธีการใช้ให้หลิงเฟิงพอสังเขป หลิงเฟิงรีบยกร่มออกไปทันที

และหยุนไห่เทียนกับซูชิงโยวที่อยู่ในหลุมลึกทางด้านนี้ ทั้งสองคนกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ จู่ๆฝนก็ตกลงมา เสื้อผ้าบนร่างกายของทั้งสองคนก็เปียกโชกไปหมด

หยุนไห่เทียนรีบถอดเสื้อคลุมตัวนอกของตัวเองให้ซูชิงโยวทันที “เจ้าคลุมเอาไว้ก่อน เท้าของเจ้าได้รับบาดเจ็บถ้าหากเป็นหวัดอีกมันจะไม่ดี”

ซูชิงโยวอยากจะปฏิเสธ แต่รู้สึกเวียนหัวอย่างมาก ร่างกายก็รู้สึกหนาว และทรมานอย่างยิ่ง “ขอบคุณแม่ทัพหยุนมาก”

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ จู่ๆเหนือศีรษะก็ไม่มีฝนแล้ว เมื่อตั้งใจฟังบริเวณโดยรอบยังเป็นเสียงเคลื่อนไหวของน้ำฝนที่หยดลงพื้น แต่กลับมีเพียงที่ที่พวกเขาอยู่ไม่มีหยดน้ำฝน คนฉลาดอย่างหยุนไห่เทียนก็เดาอะไรออกมาได้ทันที

“ถิงเอ๋อร์เป็นเจ้าใช่ไหม หรือว่าเป็นคนของจวินหย่วนโยว รีบช่วยเราออกไปเดี๋ยวนี้ อาการบาดเจ็บที่เท้าของคุณหนูซูร้ายแรงมาก บวกกับโดนฝนตัวร้อนนิดหน่อยแล้ว มันอันตรายมากนะ พวกเจ้าเหลวไหลเช่นนี้ ต่อไปจะให้คุณหนูซูสู้หน้าคนอย่างไร!” หยุนไห่เทียนคำรามด้วยความโกรธ

หลิงเฟิงที่อยู่เหนือศีรษะย่อมได้ยินอยู่แล้ว เขาก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าสุขภาพของซูชิงโยวจะแย่ขนาดนี้ รีบกลับไปรายงานทันที

ทันทีที่หยุนถิงได้ยินว่าซูชิงโยวตัวร้อน ก็ให้องครักษ์ลับช่วยคนออกมาทันที

ซูชิงโยวกับหยุนไห่เทียนถูกช่วยออกมาจากหลุมลึก สีหน้าของหยุนไห่เทียนเย็นชาเคร่งขรึม “ข้าจะคิดบัญชีกับพวกเจ้าในภายหลัง!” ขณะที่กล่าวไปก็อุ้มซูชิงโยวขึ้นมาในแนวนอนและไปหาหยุนถิง

ไหนเลยที่หยุนถิงจะนอนหลับลงอีก เห็นพี่ใหญ่วิ่งเข้ามาด้วยความโกรธ รีบจับชีพจรให้ซูชิงโยวทันที

“ถิงเอ๋อร์เจ้าทำเหลวไหลเช่นนี้ได้อย่างไร หากคุณหนูซูเป็นอะไรไป เจ้าจะให้ข้าอธิบายกับซูโหวเย่อย่างไร!” หยุนไห่เทียนตะคอก

ครั้งนี้เขาโกรธแล้วจริงๆ

หยุนถิงยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ก็เพราะอยากจะสร้างโอกาสให้พี่ใหญ่กับชิงโยวไม่ใช่หรือ ท่อนไม้อย่างพี่ในสายตามีแค่กองทัพเท่านั้น เมื่อไหร่ถึงจะได้สร้างครอบครัวสักที ข้าเป็นห่วงพี่แทนท่านพ่อ ครั้งนี้เป็นความผิดของข้าเอง!”

“เจตจำนงของลูกผู้ชายคือการรับใช้ชาติ ข้าจะหลงใหลในเรื่องความรักหนุ่มสาวได้อย่างไร!” หยุนไห่เทียนกล่าวอย่างเย็นชา

ถึงแม้ซูชิงโยวจะไม่สบาย แต่ก็ยังมีสติสัปชัญญะ ได้ยินหยุนไห่เทียนกล่าวเช่นนี้ รู้สึกเศร้าเสียใจอย่างมาก

“เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของหยุนถิง เป็นเพราะข้าชอบท่าน ดังนั้นจึงอยากให้หยุนถิงช่วย หากแม่ทัพหยุนจะตำหนิ ก็ตำหนิข้าเถอะ!” ซูชิงโยวเอ่ยปาก

หยุนไห่เทียนชะงักงัน ขมวดคิ้วแน่นมากยิ่งขึ้น

คิดไม่ถึงว่าซูชิงโยวจะบอกว่าชอบเขา นี่มันเป็นไปได้อย่างไร

“พอได้แล้วพี่ใหญ่ ชิงโยวชอบท่าน ข้าก็หวังว่านางจะได้เป็นพี่สะใภ้ของข้า ดังนั้นข้าถึงได้จับคู่ให้พวกท่านเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ท่านโกรธ เหตุการณ์ในคืนนี้เป็นความผิดของข้าเอง จะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว!” หยุนถิงรับประกัน

“ข้า ข้าแค่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้” ชั่วขณะหนึ่งหยุนไห่เทียนถึงกับทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย

“เสื้อผ้าของแม่ทัพหยุนเปียกหมดแล้ว กลับไปเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่า หากท่านล้มป่วยขึ้นมา ใครจะปกป้องความปลอดภัยของฝ่าบาท!” จวินหย่วนโยวที่ไม่พูดอะไรมาตลอดเอ่ยปากขึ้นมา

“ใช่ ความปลอดภัยของฝ่าบาทสำคัญที่สุด คุณหนูซูก็รบกวนเจ้าแล้ว!” หยุนไห่เทียนกล่าวจบก็หันหลังจากไป ฝีเท้าดูลนลานเล็กน้อย

หยุนถิงรีบป้อนยาให้ซูชิงโยวทันที แล้วก็รักษาบาดแผลที่เท้าของนาง จวินหย่วนโยวเป็นผู้ชายไม่สะดวก ดังนั้นจึงกลับไปที่เรือนอย่างรู้ตัวเอง

“หยุนถิงขอโทษด้วย เพราะข้าทำให้เจ้าถูกแม่ทัพหยุนดุ” ซูชิงโยวรู้สึกผิดอย่างมาก

“กับข้ายังจะเกรงใจอะไร นิสัยของพี่ใหญ่ข้าก็แย่อย่างนี้แหละ ทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บไปด้วยเลย สองสามวันนี้เจ้าอย่าเพิ่งเดินก่อน พักฟื้นให้ดีๆ” หยุนถิงก็กระดากอายเช่นกัน

“เจ้าพูดเช่นนี้ ข้ายิ่งกระดากอายเข้าไปใหญ่ อย่างไรเสียก็เป็นเพราะข้าที่ก้าวล่วงไป”

หยุนถิงเห็นดังนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก ช่วยใส่ยาให้นาง หยิบเสื้อผ้าสะอาดของตัวเองออกมาหนึ่งชุด ให้ซูชิงโยวเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ถึงได้ให้คนส่งนางกลับไปที่เรือนของตัวเอง

จวินหย่วนโยวเดินออกมาจากด้านใน “ถิงเอ๋อร์ วันหน้าอย่ายุ่งเรื่องของหยุนไห่เทียนอีก!”

“เพราะอะไร?”

“เพราะข้าคิดว่า ในใจของหยุนไห่เทียนมีคนที่ชอบแล้ว!” จวินหย่วนโยวตอบ

หยุนถิงตะลึงงัน “เรื่องมันเป็นอย่างไร ทำไมข้าไม่เคยได้ยินพี่ใหญ่พูดถึงมาก่อน?”

“สามปีก่อนในตอนที่หยุนไห่เทียนสู้รบกับแคว้นเทียนจิ่ว ได้ยินมาว่าตอนนั้นหยุนไห่เทียนถูกคนทรยศหักหลัง ถูกแม่ทัพหญิงของศัตรูจับเป็น และขังหยุนไห่เทียนเอาไว้ในกระโจมของนางหนึ่งคืน

คืนนั้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนฟ้าสางวันรุ่งขึ้น ทหารของแคว้นต้าเยียนลอบโจมตีศัตรู และแฝงตัวเข้าไป ประสานงานกันจากภายในภายนอกกับหยุนไห่เทียน เอาชนะศัตรูได้ในที่สุด

ต่อมาทุกคนถึงได้รู้ว่า หยุนไห่เทียนใช้แผนซ้อนแผน เพียงแต่ว่าแม่ทัพหญิงคนนั้นไม่เต็มใจอย่างมาก หลังจากนั้นก็สู้รบกับหยุนไห่เทียนหลายครั้งหลายหน ถึงแม้จะเป็นผู้หญิง แต่สติปัญญาและแผนการไล่เลี่ยกับหยุนไห่เทียน

ตอนนั้นทุกคนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อย่างไรเสียพวกเขาสองคนก็เป็นศัตรูกัน ต่างก็มีฮ่องเต้ที่ภักดีของตนเอง ผ่านเหตุการณ์ในวันนี้ข้าถึงได้คาดเดาอย่างใจกล้า” จวินหย่วนโยวตอบ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท