จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 553 เจ้าจะหึงหวงข้าไหม

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 553 เจ้าจะหึงหวงข้าไหม

ฮูหยินเฒ่าฟู่ขมวดคิ้ว“ทำไมท่านถึงดื่มมันล่ะ นั่นเป็นซุปที่ตุ๋นให้เหอเหล่า ตอนนี้ร่างกายของเขาอ่อนแอต้องได้รับการบำรุง!”

เมื่อท่านลั่วได้ยิน สีหน้าก็บูดบึ้งอย่างยิ่ง“ตอนนี้เขากินได้ดื่มได้ อ่อนแออะไรกัน ข้าต่างหากที่อ่อนแอ โอ้ยข้าปวดหัวจังเลย ต้องเป็นเพราะหลังจากกลับมาจากหอเทพเซียนไม่ได้พักฟื้นดีๆแน่เลย!”

ฮูหยินเฒ่าฟู่กลอกตามองเขาครู่หนึ่ง“ท่านกลับมาหนึ่งเดือนแล้ว กินอาหารอุดมสมบูรณ์ทุกวัน คนทั้งคนก็อ้วนขึ้นมาแล้ว ยังอ่อนแออยู่”

“ข้าคืออ้วนฉุไม่ได้หรือ?”

“ได้ เช่นนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหยุดกินอาหารอุดมสมบูรณ์ กินธัญพืชแทน!”

ท่านลั่วโกรธอย่างยิ่ง“นี่เจ้าทารุณกรรมข้าหรือ?”

“ท่านหาเรื่องทารุณตัวเองต่างหาก”

“เจ้านี่มันน่าโมโหจริงๆ ข้าจะหนีออกจากบ้าน!” ท่านลั่วกำลังจะจากไปด้วยความโมโห

“เจ้าไปเถอะ เจ้าไปแล้วข้ามาดูแลฮูหยินเฒ่าฟู่ได้พอดี!” จู่ๆตาเฒ่าเหอก็โพล่งออกมาคำหนึ่ง

ทีนี้ท่านลั่วไม่ไปแล้ว“ฝันไปเถอะ ตาแก่อย่างเจ้ายังคิดจะครอบครองบ้านคนอื่นโดยพลการ อย่าฝันไปเลย”

“พูดเช่นนี้ไม่ไปแล้วหรือ?”

“ไม่ไป ให้ตายอย่างไรก็ไม่ไป!”

“เฮ้อ ทำไมเจ้าถึงไม่ไปแล้วล่ะ ข้ายังหวังให้เจ้าจากไปอยู่เลย เช่นนี้ก็ไม่มีใครมาแย่งซุปไก่ข้าดื่มแล้ว” ตาเฒ่าเหอทอดถอนใจ

เขาจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าท่านลั่วชอบฮูหยินเฒ่าฟู่ เพียงแต่สองคนนี้ล้วนติดอยู่กับขนบธรรมเนียมของสังคม ถึงแม้จะรักชอบกันและกัน แต่กลับไม่สามารถก้าวข้ามมันไปได้ ด้วยเหตุนี้ตาเฒ่าเหอถึงได้จงใจยั่วยุท่านลั่ว

“ยังอยากจะดื่มซุปไก่ ฝันไปเถอะ ข้าจะไปปล่อยไก่ในครัวพวกนั้นให้หมด ไม่ให้เจ้าได้เห็นแม้แต่ขนไก่เส้นเดียว!” ท่านลั่วกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่แล้วทันทีที่หันหลังก็เห็นหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวที่อยู่ไม่ไกลออกไป

“ท่านลั่วนี่ท่านกำลังจะไปไถ่ชีวิตให้ไก่หรือ?” หยุนถิงจงใจหยอกล้อเขา

ท่านลั่วแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี“นังเด็กบ้า มาแล้วก็ไม่รู้จักบอกสักคำ ถึงกับมาหัวเราะเยาะข้าพร้อมกับเจ้าหนูจวิน”

“ถ้าหากบอกไป ก็ไม่ได้เห็นแล้วไม่ใช่หรือ” หยุนถิงหัวเราะออกมาเบาๆ

“เจ้ายังหัวเราะออกมาได้อีก รีบเอาตัวตาเฒ่าเหอออกไป เอาแต่กินดื่มอย่างเดียวงานการไม่ทำเห็นแล้วขัดหูขัดตา!” ท่านลั่วกล่าวออกมาด้วยความโมโห

ตาเฒ่าเหอกับฮูหยินเฒ่าฟู่เห็นว่าจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงมา ก็เดินเข้ามาทันที

“ทำไมวันนี้จวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยถึงมีเวลาว่างมาหาข้าได้ รีบเข้ามานั่งในเรือนเร็ว พ่อบ้านไปชงชา!” ฮูหยินเฒ่าฟู่เอ่ยปาก

“ขอรับ!” พ่อบ้านไปจัดการทันที

“ผ่านทางมา ถิงเอ๋อร์บอกว่าคิดถึงฮูหยินเฒ่า ก็เลยเข้ามาเที่ยวหา!” จวินหย่วนโยวอธิบาย

ฮูหยินเฒ่าฟู่รู้สึกดีใจอย่างยิ่ง“รบกวนซื่อจื่อเฟยคิดถึงยายแก่อย่างข้า ขอบคุณมาก!”

“ฮูหยินเฒ่าไม่ต้องเกรงใจเช่นนี้ เรียกข้าว่าหยุนถิงก็พอ” หยุนถิงตอบ

“ตกลง หยุนถิง”

“ขอบคุณที่ซื่อจื่อเฟยช่วยชีวิตเอาไว้ บุญคุณอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะตอบแทนได้ วันหน้าหากมีอะไรให้รับใช้ก็เอ่ยปากได้เลย!” ตาเฒ่าเหอกล่าวด้วยความซาบซึ้ง

เขานึกว่าตัวเองตายไปแล้ว แต่แล้วเมื่อลืมตาขึ้นมาก็อยู่ที่แคว้นต้าเยียนแล้ว แถมยังเป็นคฤหาสน์ของฮูหยินเฒ่าฟู่ แล้วก็ยังเห็นท่านลั่วอีก อย่าให้พูดเลยว่าตาเฒ่าเหอรู้สึกตกตะลึงแค่ไหน

หลังจากที่ถามท่านลั่วถึงได้รู้ว่า ที่แท้คนของหยุนถิงก็แอบส่งตัวเองมาที่แคว้นต้าเยียน ตาเฒ่าเหออดที่จะมองหยุนถิงอีกครู่หนึ่งไม่ได้

สวมชุดกระโปรงยาวสีขาวเรียบหรูทั้งชุด สง่างามมีสติปัญญา คิ้วและตางดงามน่าทึ่ง เป็นความงามที่มีแรงโจมตีอย่างมาก ทำให้คนมองแว๊บเดียวก็ไม่สามารถละสายตาไปได้

โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยคู่นั้น เฉือนคมเล็กน้อย หยิ่งยโสเล็กน้อย ความสูงส่งและไม่ถ่อมตนที่เผยออกมาจากภายใน ไม่สามารถเพิกเฉยได้เลย

“ผู้อาวุโส ท่านจ้องมองซื่อจื่อเฟยของข้าเช่นนี้ ไม่เหมาะสมกระมัง!” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างเย็นชา

ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่หอเทพเซียน ตาเฒ่าเหอช่วยจับชีพจรให้กับจวินหย่วนโยว และเคยช่วยพวกเขาปลอมตัว ดังนั้นจวินหย่วนโยวถึงได้เรียกเขาว่าผู้อาวุโส

ตาเฒ่าเหอกระแอมไอด้วยความกระอักกระอ่วน“ล้วนเป็นเพราะเซวียนเอ๋อร์พูดข้างหูข้าตลอดเวลา บอกว่าหยุนถิงแห่งแคว้นต้าเยียนเก่งกาจเพียงใด ดังนั้นข้าถึงได้อยากรู้อยากเห็น”

หยุนถิงเอ่ยปาก“ซื่อจื่อ ท่านทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว ตาเฒ่าเหอขอบคุณท่านมาก!”

ตาเฒ่าเหอชะงักงัน จากนั้นก็ตอบสนองกลับมา“ไม่ต้องเกรงใจ นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ข้าสามารถทำได้ ในชีวิตนี้ข้าเกลียดการข่มขู่ของคนอื่นที่สุด ดังนั้นถึงได้แอบลงมือลงไปในเม็ดยา”

“พวกเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่น่ะ?” ท่านลั่วถามด้วยความงุนงง

“เจ้าเดาสิ!” ตาเฒ่าเหอกล่าวอย่างได้ใจ

“อายุเท่าไหร่กันแล้ว ยังเจ้าเดาสิอีก ใครมันจะไปสนใจอยากเดา!” ท่านลั่วกล่าวด้วยความรังเกียจ มุ่งหน้าไปที่ห้องโถงโดยตรง

จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงเดินเข้าไป พ่อบ้านยกชามาเรียบร้อยแล้ว หยุนถิงกลับไม่ได้ดื่ม“ฮูหยินเฒ่า ในจวนของท่านครื้นเครงจริงๆ!”

“ใช่แล้ว ตั้งแต่เหล่าเหอมาแล้ว คนบางคนก็หึงหวงทั้งวัน ดังนั้นก็เลยครื้นเครงขึ้นมา!” ฮูหยินเฒ่าฟู่หัวเราะออกมาเบาๆ

“ใครหึงหวงกัน ข้าไม่อยากจะสนใจเขาเลยด้วยซ้ำ!” ท่านลั่วเบะปาก

“ประตูของจวนซื่อจื่อเปิดตลอดเวลา หากท่านลั่วอยากกลับไป เรือนไผ่หลังลานยังเก็บเอาไว้ให้ท่านตลอด!” หยุนถิงจงใจหยอกเขา

ท่านลั่วมองไปทางฮูหยินเฒ่าฟู่โดยสัญชาตญาณ“ข้าอยู่ที่นี่มีความสุขดี ยังไม่กลับไปอยู่ในเร็วๆนี้!”

มุมปากของจวินหย่วนโยวยกขึ้นสูง“ดูท่าท่านลั่วหาบ้านเจอแล้ว”

“พูดไร้สาระอะไรกันน่ะ ไอ๊หยายาต้มที่ข้าเคี่ยวคงจะไหม้ไปหมดแล้ว ไม่คุยกับพวกเจ้าแล้ว ข้าต้องรีบไปดูหน่อยแล้ว!” ท่านลั่วลุกขึ้นมาก็วิ่งไปอย่างรวดเร็ว

“เพื่อที่จะได้อยู่ต่อ ท่านลั่วหาข้าอ้างวิ่งหนีเป็นแล้ว!” หยุนถิงหัวเราะออกมาเบาๆ

พวกเขาคุยกันต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจากไปหยุนถิงจับชีพจรให้ตาเฒ่าเหอ แล้วก็ทิ้งขวดยาให้เขาอีกสองสามขวด ถึงได้จากไป

จนกระทั่งพวกเขาจากไปแล้ว ท่านลั่วก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมา

“คิดไม่ถึงว่าท่านลั่วจะรู้สึกถึงวิกฤต น่าสนุกจริงๆ!” หยุนถิงกล่าวล้อเล่น

“เขาชอบฮูหยินเฒ่าฟู่มาหลายปี ตอนนี้ตาเฒ่าเหอปรากฎตัว ย่อมต้องเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว”

“ท่านพี่ วันหน้าท่านจะหึงหวงข้าหรือไม่?” หยุนถิงจงใจหยอกเขา

จวินหย่วนโยวคว้านางเข้าไปในอ้อมแขน“ไม่ต้องวันหน้า ตอนนี้ก็หึง!” ขณะที่พูดไป ก็ก้มหน้าจูบหยุนถิง

หยุนถิงรีบหยุดเขาทันที“อย่าก่อกวนสิ นี่มันกลางถนนนะ คนอื่นกำลังมองดูอยู่”

“เช่นนั้นก็กลับไปจูบ!” จวินหย่วนโยวอุ้มหยุนถิงขึ้นมาก็เดินกลับไปโดยตรง

ถึงแม้เขาจะเดินเร็วมาก แต่กลับมั่นคงมาก

หยุนถิงเขินอายจนใบหน้าแดงก่ำในชั่วพริบตา เจ้าหมอนี้ช่างเป็น “สัตว์ร้าย” จริงๆ

ทางด้านนี้ ตรงหัวมุมของถนนบางสายด้านนอกบ่อนพนัน เฟิ่งหยวนถูกคนซ้อมจนหน้าฟกช้ำดำเขียว เจ็บปวดจนกรีดร้องโหยหวน

“เจ้าสารเลวหน้าบากหลิว ถึงกับกล้าให้คนซ้อมข้า ข้าจะให้ท่านพ่อข้าสับเจ้าเป็นชิ้นๆในภายหลัง!”

หน้าบากหลิวพาพี่น้องสิบกว่าคนโอบล้อมเขาเอาไว้“คุณชายเฟิ่งท่านเป็นคนจะยืมเงินข้าเอง ตอนนี้เสียไปสี่แสนตำลึงแล้ว คืนเงิน ดอกเบี้ยทบต้น อย่างไรก็ต้องหนึ่งล้านตำลึง!”

เมื่อเฟิ่งหยวนได้ยินก็เดือดพล่านเป็นไฟ“เงินพวกนั้นเจ้าเป็นคนจะให้ข้าเองแท้ๆ!”

“ข้าให้เจ้า เจ้าก็เอาหรือ ทั่วทั้งเมืองหลวงใครบ้างไม่รู้ว่าเงินของข้าหน้าบากหลิวเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยสูง วันนี้หากไม่คืนเงิน ก็ทิ้งชีวิตเอาไว้!” หน้าบากหลิวกล่าวอย่างเย็นชา

ลูกน้องสิบกว่าคนทั้งเตะทั้งต่อยเฟิ่งหยวนอีกครั้ง เฟิ่งหยวนเจ็บปวดจนไม่มีความโอหังเมื่อครู่นี้อีก ร้องขอความเมตตาทันที“ข้าคืนเงิน ข้าคืนยังไม่ได้หรือ?”

“เฉียบขาด พรุ่งนี้เวลานี้เจ้าส่งเงินมาที่นี่ หากกล้าคดโกงหลอกลวง ผลที่ตามมาเจ้าก็น่าจะรู้!” หน้าบากหลิวกล่าวอย่างเย็นชา

“ได้ ได้ ข้าจะต้องส่งมาอย่างแน่นอน!” เฟิ่งหยวนหนีไปอย่างล้มลุกคลุกคลาน

“พี่ใหญ่ หากพรุ่งนี้เขาไม่ส่งเงินมาล่ะ?”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท