จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 633 ของที่สามีข้าป้อนนั้นอร่อยยิ่งนัก

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่633 ของที่สามีข้าป้อนนั้นอร่อยยิ่งนัก

หยุนถิงก็ยื่นแขนออกไปกอดจวินหย่วนโยวกับลูก ครอบครัวสี่คนกอดกันอย่างมีความสุข

“ท่านพ่อ ท่านแม่” จวินเสี่ยวเทียนเรียก

“ท่านพ่อ ท่านแม่!” จวินเสี่ยวเหยียนกล่าวตาม

เมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขของลูกทั้งสอง หัวใจของจวินหย่วนโยวก็อบอุ่น ดีใจ และตื่นเต้น

“พ่ออยู่นี่ เสี่ยวเทียน เสี่ยวเหยียนงามยิ่งนัก เสี่ยวเทียนเหมือนข้า เสี่ยวเหยียนเหมือนเจ้า ในอนาคตลูกชายและลูกสาวของพวกข้าต้องหน้าตาดียิ่งนัก” จวินหย่วนโยวพูดชมเชย

“แน่นอนอยู่แล้ว ท่านกับข้าหน้าตาดีขนาดนี้ ลูกที่คลอดออกมาก็คงไม่เลวไปถึงไหนแน่นอน” หยุนถิงกล่าวอย่างได้ใจ

“ถิงเอ๋อร์พูดถูก”

จวินหย่วนโยวดูแลเด็กทั้งสองและเล่น ส่วนหยุนถิงก็มองดูอยู่ข้างๆ

ฉากพ่อลูกสามคนที่มีความสุขเช่นนี้ ทำให้หยุนถิงพอใจยิ่งนัก

ตอนทานอาหารกลางคืน ฮูเอ๋อเลี่ยให้ผู้คนจัดโต๊ะเป็นแถวยาว ด้านบนนั้นวางอาหารเอกลักษณ์ของชนเผ่าไว้มากมาย แถมยังใช้หม้อใบใหญ่ใส่มาด้วย

โดยเฉพาะกลิ่นของแพะย่างและเนื้อย่าง ทำเอาท่านลั่วหิวยิ่งนัก

“ขอบคุณสามีของจี๋ญ่าที่ให้สิ่งของมากมายแก่พวกข้า ทุกคนยกแก้วชามขึ้นพร้อมกัน เพื่อแสดงความขอบคุณ” ฮูเอ๋อเลี่ยยกชามใบใหญ่ขึ้น

ขณะที่จวินหย่วนโยวกำลังจะยกมันขึ้นมา ท่านลั่วที่อยู่ข้างๆก็ห้ามไว้”เจ้าหนูจวินร่างกายของเจ้าดื่มสุราไม่ได้”

“ไม่เป็นไร แค่ชามเดียว” หาถิงเอ๋อร์กับลูกเจอข้าดีใจยิ่งนัก ขอบคุณทุกคนที่ดูแลภรรยาและลูกของข้า ข้าขอดื่มหมดชามแสดงความเคารพ” จวินหย่วนโยวยกขึ้นมาแล้วจะดื่ม

แต่หยุนถิงกลับรับชามนั้นมา”สุขภาพของสามีข้าไม่ค่อยดี และไม่เหมาะที่จะดื่มสุรา ชามนี้ข้าดื่มแทนเขา” พูดจบก็ยกหัวขึ้นดื่มจนหมด

ทันใดนั้นฮูเอ๋อเลี่ยจึงค่อยตระหนักได้ว่า และรีบขอโทษ”คุณชายขอโทษด้วย ข้าไม่รู้ว่าเจ้าดื่มสุราไม่ได้ ตรงนี้มีนมแพะต้มสด เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนชอบดื่มที่สุดแล้ว เจ้าดื่มอันนี้” จากนั้นก็ยื่นเหยือกนมแพะมาให้

จวินหย่วนโยวรับมา”ขอบคุณ”

“คุณชายเกรงใจเกินไปแล้ว ทุกคนรีบเริ่มกินกันเถอะ” ฮูเอ๋อเลี่ยพูดอย่างกล้าหาญตรงไปตรงมา

หยุนถิงเข็นจวินหย่วนโยวออกไป”ซื่อจื่อที่นี่ไม่ได้มีธรรมเนียมปฏิบัติเยอะแยะอะไรขนาดนั้น ท่านดื่มได้ก็ดื่ม ดื่มไม่ได้ก็ไม่ต้องดื่ม ไม่มีใครมาตำหนิท่าน ทุกคนต่างก็เรียบง่ายเป็นกันเองยิ่งนัก

“อืม”

“ลองกินแพะย่างนี้ดูเร็ว นี่เป็นอาหารที่ป้าซางชำนาญที่สุดแล้ว” หยุนถิงใช้ดาบสั้นกรีดเนื้อชินหนึ่งแล้วยื่นมา

จวินหย่วนโยวเอื้อมมือไปรับแล้วกินดูหนึ่งคำ”อืม รสชาติดีมากจริง!”

คนอื่นๆต่างก็กินและดื่มกันใหญ่ ยากนักที่องครักษ์ลับจะได้มาในเผ่าสักครั้ง ในอดีตไปในเผ่าก็เพื่อไปทำภารกิจ จะไปมีอารมณ์ชิมของอร่อยได้อย่างไร ครั้งนี้เรียกได้ว่าได้กินอย่างอิ่มอกอิ่มใจเลย

ท่านลั่วถือเหยือกสุราไว้ กินไปด้วยดื่มไปด้วย สบายยิ่งนัก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางครึ่งเดือนนั้นไม่ได้เสียเปล่าเลย คุ้มค่ากับการกินนี้ยิ่งนัก

“แพะย่างทั้งตัวนี้อร่อยยิ่งนัก เหมือนกันที่ซื่อจื่อเฟยทำเลย” รั่วจิ่งกินไปด้วยพูดไปด้วย

“ ฝีมือการทำอาหารนี้ต้องเป็นซื่อจื่อเฟยสอนพวกเขาแน่” หลิงเฟิงก็กินอย่างเร็ว

รั่วจิ่งหยิบเนื้อแพะมาแล้วห่อด้วยผ้าเช็ดหน้า ทำเอาหลงยีขมวดคิ้ว”รั่วจิ่งเจ้าทำอะไร?”

“เอากลับไปให้หลันซานชิมดู นางคงไม่เคยกินได้กินมาก่อนแน่” รั่วจิ่งตอบ

“ไอ้โง่ รอเจ้าเอากลับไป เนื้อแพะก็เน่าแล้ว อีกอย่างซื่อจื่อเฟยกลับไปแล้ว แค่ทำธรรมดาๆก็มีอาหารอร่อยๆเต็มโต๊ะแล้ว ยังจำเป็นให้ต้องเจ้าเอากลับมาจากในเผ่าอีกหรือ” หลงซานโต้กลับ

รั่วจิ่งยิ้มอย่างเขินอาย”พูดถูก” จากนั้นเขาก็นำเนื้อแพะออกมาแล้วกินเอง

หยุนถิงรู้สึกขบขันรั่วจิ่งยิ่งนัก”รั่วจิ่งกับหลันซานเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

“ก็เหมือนเดิม ตั้งแต่เจ้าเกิดเรื่อง ทุกคนต่างก็เป็นห่วงมาก ตามหาไปทั่ว ไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่น หลันซานเจ้าดูคนไม่ผิดจริงๆ ร้านขายยาทุกแห่งในเมืองหลวงล้วนถูกนางบริหารจัดการอย่างเป็นระเบียบอย่างดี” จวินหย่วนโยวตอบ

“คิดไม่ถึงว่าหลันซานจะเก่งขนาดนี้ ดูเหมือนว่าข้าต้องรีบกลับไปแล้ว มิฉะนั้นคงต้องพลาดงานแต่งงานของพวกเขาไปอย่างแน่นอน” หยุนถิงหัวเราะ

“ท่านพ่อ กิน!” จวินเสี่ยวเทียนยกกระดูกชิ้นใหญ่ขึ้นมาแล้วยื่นให้

จวินหย่วนโยวรู้สึกสะเทือนใจมาก แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบกินของมันๆ แต่ก็รีบรับมาทันที”ขอบคุณเสี่ยวเทียน พ่อชอบกินที่สุดแล้ว” จากนั้นก็กัดคำใหญ่ไปหนึ่งคำต่อหน้าลูกชาย

เมื่อจวินเสี่ยวเหยียนเห็นเช่นนี้ ก็หยิบจานน้ำจิ้มแล้วยื่นมาให้”ท่านพ่อ กิน!”

เมื่อเห็นพริกสีแดงบนจาน จวินหย่วนโยวขมวดคิ้ว แต่ก็ยิ้มและตอบว่า”เสี่ยวเหยียนเด็กดียิ่งนัก ขอบคุณ พ่อก็ชอบกิน”

เมื่อคนอื่นเห็นฉากนี้ ต่างก็อยากหัวเราะแต่ก็ไม่กล้าหัวเราะ ทันใดนั้นก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจซื่อจื่อยิ่งนัก ลูกสาวคนนี้ทำให้พ่อต้องขายขี้หน้ายิ่งนัก

หยุนถิงกำลังจะห้าม จวินหย่วนโยวก็กินไปนิดเดียว”อร่อย สิ่งที่เสี่ยวเหยียนให้กับพ่อนั้นอร่อยมากเลย”

“ฮ่าฮ่า—–” จวินเสี่ยวเหยียนดีใจยิ่งนัก

“ข้ามาดูเสี่ยวเหยียนเอง พวกเจ้ารีบก่อนตอนยังร้อนๆ” ป้าซางมาแล้วอุ้มจวินเสี่ยวเหยียนไป

“งั้นข้ามาดูแลเสี่ยวเทียน ” ป้าจั๋วหม่าก็มาอุ้มจวินเสี่ยวเทียนไป

หยุนถิงรู้ว่าทุกคนอยากให้นางกับสามีอยู่ด้วยกันเยอะๆ เพราะพวกเขาไม่ได้เจอกันมาสองปี

“ถิงเอ๋อร์ เจ้ากินอันนี้ อันนี้อร่อย” จวินหย่วนโยวใช้ตะเกียบคีบเนื้อชิ้นหนึ่งมาแล้วส่งไปที่ข้างปากของหยุนถิง

หยุนถิงอ้าปากกิน”อืม อร่อย ของที่สามีข้าป้อนนั้นอร่อยยิ่งนัก”

“งั้นก็กินเยอะหน่อย” จวินหย่วนโยช่วยหยุนถิงคีบอาหารต่อ

หยุนถิงก็ไม่เกรงใจ กินจนหมดเลย

คนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆต่างก็อิจฉายิ่งนัก ความสัมพันธ์ของจี๋ญ่ากับสามีนางดียิ่งนัก สามีของนางก็ดีมากเลย ยังป้อนข้าวให้จี๋ญ่าด้วย ว่าแล้วสามีของคนอื่นดีกว่า

เมื่อฮูเอ๋อเลี่ยเห็นเช่นนี้ ก็รู้สึกดีใจแทนจี๋ญ่า

เมื่อสองปีก่อน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจี๋ญ่านั้น ได้ช่วยฮูเอ๋อเลี่ยเอาไว้ ฮูเอ๋อเลี่ยซาบซึ้งยิ่งนัก เห็นจี๋ญ่าเป็นผู้มีพระคุณ ครอบครัว น้องสาว

เห็นนางท้องโตแถมอยู่ตัวคนเดียวก็รู้สึกสงสารยิ่งนัก ดังนั้นฮูเอ๋อเลี่ยจึงดูแลจี๋ญ่าดีอย่างพิเศษ แถมยังอยากช่วยนางครอบครัวของนาง เพียงแต่ว่านางจำไม่ได้จึงไม่มีวิธีหา

แต่ตอนนี้เห็นสามีนางดีกับนางเช่นนี้ ฮูเอ๋อเลี่ยก็วางใจแล้ว

อาหารมื้อหนึ่งหยุนถิงไม่ได้ใช้ตะเกียบเลย ล้วนเป็นจวินหย่วนโยวป้อนนางกิน

หลังจากกินและดื่มจนอิ่มแล้ว หยุนถิงเห็นว่าลูกทั้งสองกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน จึงไม่ได้รบกวน เข็นจวินหย่วนโยวแล้วไปทุ่งหญ้าในข้างๆแล้วดูดาว

“ท่านพี่ ดาวในชนเผ่านั้นสวยมาก พวกข้าไปดูกัน!” หยุนถิงกล่าว

“อืม!” จวินหย่วนโยวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

ท้องฟ้าเหนือเผ่านั้นมืดมาก เหมือนผ้าสีดำหนา ๆ แต่งแต้มด้วยจุดแสง ดาวที่ท้องฟ้าอยู่เต็มบนท้องฟ้านั้นสว่างไสวและส่องแสงระยิบระยับ ทำเอาคนดูรู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก

จวินหย่วนโยวไม่ได้ดูท้องฟ้ายามค่ำคืนมาเป็นเวลาสองปีแล้ว ก่อนหน้านี้หยุนถิงหายตัวไป เขาเหมือนกับคนไร้วิญญาณ วันๆเอาแต่คิดถึงและเป็นห่วงหยุนถิง จะไปมีอารมณ์ดูดาวได้อย่างไร

ขณะนี้เมื่อเห็นดาวที่สว่างไสวเช่นนี้ จวินหย่วนโยวก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนักเขาเอื้อมมือไปดึงถิงเอ๋อร์เข้าอ้อมแขน ให้นางนั่งบนตักของตัวเอง

“อ๊ายย ซื่อจื่อไม่ได้ ขาของท่าน——” หยุนถิงพูดอย่างกังวล

“ไม่เป็นไร หากน้ำหนักแค่นี้ของเจ้าก็ยังแบกรับไม่ไหว ยังจะเป็นสามีของเจ้าได้อย่างไร” จวินหย่วนโยวพูดพร้อมกอดหยุนถิง”ถิงเอ๋อร์ ข้าคิดถึงเจ้ามาก”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ หยุนถิงก็รู้สึกสะเทือนใจและปลื้มใจเป็นอย่างมาก สบกับตาที่มืดทึบของจวินหย่วนโยว “ท่านพี่ ข้าก็คิดถึงท่านเหมือนกัน”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท