จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 739 มีข้าอยู่จะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่739 มีข้าอยู่จะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน

ประโยคเดียว ทำเอาทั่วทั้งร้านเนื้อย่างตกตะลึงกันหมด โดยเฉพาะคนที่รับประทานอาหารอยู่ที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง ต่างก็ตกใจกลัวจนถอยออกไปอย่างไกลเลย

แต่พวกเขาก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นทุกคนจึงไม่ได้จากไป เพียงแค่มุงดูอยู่ในไม่ใกล้ไม่ไกล

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่าจะตายเพราะกินเนื้อย่างจริง?” หนึ่งในผู้มุงดูคนหนึ่งพูด

“เป็นไปไม่ได้ ร้านเนื้อย่างของคุณหนูสามเปิดมานานขนาดนี้แล้ว ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย ต้องเป็นเพราะคนคนนี้มีปัญหาอย่างแน่นอน”

“เขากินเนื้อย่างไปถึงได้เป็นแบบนี้ หากเจ้าจะบอกว่าเนื้อย่างนี้ไม่มีปัญหา ข้าไม่เชื่อ”

“งั้นเจ้าก็กินเหมือนกันนี่นา ทำไมไม่เห็นเจ้าเป็นไร?”

ฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ดุเดือดของผู้คน ผู้จัดการร้านก็ตั้งสติได้ในทันที “เด็กๆ ไปเชิญหมอมา แจ้งให้คุณหนูสาม คนอื่นๆห้ามเข้าใกล้”

บ่าวรับใช้ชายสองสามคนรีบมาในทันที กั้นอยู่ตรงหน้าของผู้มุงดูเหล่านั้น เว้นที่ว่างหนึ่งออกมา

หยุนซูที่อยู่ในหลังลานได้ยินเช่นนี้ ก็รีบมาทันที เมื่อเห็นคนที่นอนน้ำลายฟูมปากอยู่บนพื้น หยุนซูเองก็ตกตะลึงยิ่งนัก

“เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ไปหาพี่ใหญ่ข้าเร็ว” หยุนซูพูด

“ขอรับ!” บ่าวรับใช้ชายคนหนึ่งรีบไปทันที

คนที่ล้มลงกับพื้นชักไปทั้งตัว พูดไม่ออก และน้ำลายฟูมปาก ทำเอาคนดูตกใจกลัวกันหมด

หยุนซูไม่รู้ทักษะทางการแพทย์ ก็ไม่กล้าไปขยับเขาไปมั่ว กลัวตัวเองจะยิ่งช่วยยิ่งยุ่ง บรรยากาศในร้านเนื้อย่างตึงเครียดยิ่งนัก คนอื่นๆจะไปมีอารมณ์กินเนื้อย่างได้อย่างไร ต่างก็มุงมาดูกันหมด

ท่ามกลางฝูงชนนอกร้าน สาวใช้ขององค์หญิงห้าเห็นฉากนี้ มุมปากมีความได้ใจ คราวนี้คุณหนูซูตายแน่เลย

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ คนเยอะจัง เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เสียงหนึ่งที่สงสัยดังขึ้น

ทุกคนต่างก็หลีกทางให้ และหยุนซูที่กำลังรีบร้อนก็เห็นชายในชุดคลุมสีฟ้า หน้าตาหล่อเหลา สง่างามกำลังเดินเข้าไปอย่างอยากรู้อยากเห็น

ข้างหลังเขา ตามด้วยหมอหลวงคนหนึ่ง

“เสียนอ๋อง?” หยุนซูขมวดคิ้ว

เขามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร

“เสด็จแม่ของข้าป่วยหนัก ข้าได้เชิญหมอหลวงไปรักษาให้เสด็จแม่ บังเอิญผ่านมาที่นี่จึงมาดูหน่อย มีอะไรต้องการให้ข้าช่วยบอกมาได้เลย!” เสียนอ๋องพูดอย่างถ่อมตนและมีมารยาท

“โปรดท่านอ๋องให้หมอหลวงท่านนี้ช่วยรักษาด้วย คนคนนี้กินของที่ร้านข้า จู่ๆก็เกิดเรื่องขึ้น ข้าได้ให้คนไปเชิญพี่ใหญ่ของข้าแล้ว แต่ก่อนนางจะมาถึงก็ยังต้องใช้เวลาหน่อย หมอหลวงโปรดช่วยด้วย!” หยุนซูคำนับทันที

“คุณหนูซูเกรงใจเกินไปแล้ว หมอหลวงหวัง เจ้าไปดูหน่อย!” เสียนอ๋องกล่าว

“พ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงหวังรีบวิ่งไปทันที และทำการตรวจดูให้คนคนนั้น

เมื่อทุกคนเห็นเสียนอ๋องกับหมอหลวงหวังอยู่ ก็รู้สึกโล่งใจในทันที ต่างก็มุงเข้ามาดู

“คุณหนูสามไม่ต้องเป็นห่วง ทักษะทางการแพทย์ของหมอหลวงหวังนั้นยอดเยี่ยม ต้องไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน” เสียนอ๋องพูดปลอบโยน

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” หยุนซูกังวลยิ่งนัก อยู่ดีๆทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้

หมอหลวงหวังทำการตรรจและรักษาให้คนคนนั้น หลังจากตรวจเสร็จแล้วก็จับชีพจร จากนั้นจึงค่อยพูดว่า “คนคนนี้อาหารเป็นพิษ บวกกับตัวเขาเองก็เป็นโรคลมบ้าหมูอยู่แล้ว ถึงได้ชักแบบนี้ ข้าจะทำการฝังเข็มให้เขา หากช้ากว่านี้เกรงว่าอาจเสียชีวิตได้”

ทุกคนตกตะลึง “อาหารเป็นพิษ นั่นก็เป็นเพราะกินเนื้อย่างนะสิ?” คนหนึ่งพูด

หมอหลวงหวังก็บอกแล้ว ทีนี้ทุกคนต่างก็หันไปมองเนื้อย่างบนโต๊ะด้วยความสงสัย

สีหน้าของหยุนซูแย่มาก นางก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ ทีนี้อธิบายไม่ชัดเจนแล้ว

“ข้าเชื่อคุณหนูซู ร้านเนื้อย่างของนางเปิดในเมืองหลวงนานขนาดนี้แล้ว แถมยังมีสาขาอื่นอีกหลายที่ ไม่เคยได้ยินว่ามีเรื่องอาหารเป็นพิษเลย ข้าจะพิสูจน์ให้พวกเจ้าเห็นเดี๋ยวนี้เลย เมื่อครู่คนคนนั้นกินโต๊ะ?” เสียนอ๋องถาม

“เรียนเสียนอ๋อง โต๊ะนี้!” ผู้จัดการร้านที่อยู่ข้างๆพูดทันที

เสียนอ๋องเดินไปที่โต๊ะนั้น และบ่าวรับใช้ชายก็ยื่นตะเกียบคู่ใหม่ให้อย่างมีไหวพริบ เสียนอ๋องกินเนื้อย่างที่เหลืออยู่บนโต๊ะ และเทชานมในกาชานมดื่มไปหนึ่งชาม

“หากมีปัญหาจริง ข้ากินของที่เหมือนกับเขาไปแล้ว ก็คงต้องเป็นแบบเดียวกับเขาแน่นอน หากข้าไม่เป็นไร ก็แสดงว่าเนื้อย่างนี้ไม่มีปัญหา” เสียนอ๋องกล่าวอย่างเคร่งขรึม

ทุกคนมองไปที่เสียนอ๋อง โดยไม่ปล่อยสีหน้าใดๆบนใบหน้าของเขาไป

“ข้าว่าเสียนอ๋องพูดถูก เมื่อครู่ข้าก็นั่งอยู่ข้างคนคนนี้ หลังคนคนนี้เกิดเรื่องแล้วของบนโต๊ะก็ไม่มีใครเคยแตะต้องเลย” คนคนหนึ่งพูด

“ข้าก็สามารถเป็นพยานได้ เมื่อครู่ข้าดูไว้ตลอด ไม่มีใครเคยมาแตะต้องจริง”

คนมุงดูต่างก็แสดงว่าเห็นด้วย ต่างก็อยากรู้ว่าเสียนอ๋องจะเป็นอะไรหรือไม่

“หลีกไปให้หมด!” เสียงเย็นชาดังมา นอกฝูงชน หยุนถิงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เย็นชา

ทุกคนต่างก็หลีกไป ทักษะทางการแพทย์ของซื่อจื่อเฟยเป็นที่รู้ในทั่วทั้งสี่แคว้น มีนางอยู่คงต้องสืบได้อย่างชัดเจนแน่นอน

“พี่ใหญ่ เจ้ามาแล้วดียิ่งนัก คนคนนี้กินเนื้อย่างไปก็กลายเป็นสภาพเช่นนี้แล้ว เจ้ารีบดูหน่อยว่าเขาเป็นอะไร?” หยุนซูรีบร้อนมาก

“อย่ากังวลไปเลย มีข้าอยู่ไม่เป็นเลยแน่นอน” หยุนถิงนั่งยองลงและตรวจดูทันที

“ซื่อจื่อเฟย!” เสียนอ๋องกล่าว

“ขอบคุณเสียนอ๋องที่ช่วยพิสูจน์ ซาบซึ้งยิ่งนัก” ตอนอยู่นอกฝูงชนหยุนถิงก็ได้ฟังอย่างคร่าวๆแล้ว ดังนั้นก็ย่อมต้องรู้เรื่องที่เสียนอ๋องกินเนื้อย่างและชานมอยู่แล้ว

“ซื่อจื่อเฟยเกรงใจเกินไปแล้ว”

“ซื่อจื่อเฟย คนคนนี้อาหารเป็นพิษจริงๆ กระหม่อมได้ทำการฝังเข็มให้เขาแล้ว และจะตื่นมาในไม่ช้า เพียงแต่ว่าสาเหตุที่ถูกพิษนั้นยังสืบหาไม่เจอ!” หมอหลวงหวังบอกสถานการณ์ให้เข้าใจอย่างสั้นๆ

“ลำบากหมอหลวงหวังแล้ว” หยุนถิงตรวจดูคนคนนั้นอย่างละเอียด จับชีพจร ดูตาของเขา และตรวจดูฟองขาวที่เขาพ่นออกมา

“พี่ใหญ่ เขาเป็นอย่างไรบ้าง?” หยุนซูถาม

“ไม่ต้องสืบแล้ว คนคนนี้กินหญ้าหลันซิงเข้าไป แม้ว่าสมุนไพรนี้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เมื่อเจออาหารร้อนก็จะทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตในระยะสั้น ทำให้คนอาเจียนและเป็นลม

คนผู้นี้กินหญ้าหลันซิงก่อน จากนั้นก็กินเนื้อย่างที่ร้อนมากๆ ถึงได้น้ำลายฟูมปาก ทำให้ทุกคนคิดว่าเขาถูกวางยาพิษ” หยุนถิงอธิบาย หยิบเข็มเงินบนแขนของคนคนนั้น และแทงเข้าจุดฝังเข็มหลายจุดบนตัวเขา

ในชั่วพริบตา คนที่หมดสติและชักอย่างเจ็บปวดนั้น ก็มีการตอบสนองและลืมตาขึ้นในทันที

“ที่แท้อย่างงี้นี่เอง ทักษะทางการแพทย์ของซื่อจื่อเฟยยอดเยี่ยมเหนือผู้อื่นยิ่งนัก กระหม่อมนับถือ!” หมอหลวงหวังนับถือยิ่งนัก

“หมอหลวงหวังชมเกินไปแล้ว” หยุนถิงตอบ

คนคนนั้นตื่นขึ้นมาและมองดูรอบๆ เมื่อเห็นหยุนถิง ก็ตกใจกลัวจนหน้าซีด “ซื่อ ซื่อจื่อเฟย”

“บอกมา ใครสั่งให้เจ้ากินหญ้าหลันซิงล่วงหน้า จากนั้นก็แสร้งทำเป็นถูกวางยาพิษแล้วใส่ร้ายหยุนซู?” เสียงของหยุนถิงเย็นชา ทำเอาคนฟังรู้สึกตกใจกลัวยิ่งนัก

“ไม่มีใคร ข้ากินเนื้อย่างนี้ถึงเกิดเรื่องซื่อจื่อเฟยต่อให้ท่านจะมีอำนาจมากเพียงใด ก็ไม่ควรละเลยให้คุณหนูซูฆ่าคนเป็นผักเป็นปลา!” คนคนนั้นถึงจะตายก็ไม่ยอมรับ

“เจ้าพูดเพ้อเจ้อ พี่ใหญ่ของข้ามิใช่คนเช่นนั้น” หยุนซูโต้กลับ

“ซูเอ๋อร์ ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งเหล่านี้กับเขา ในเมื่อคนบางคนหาเรื่องใส่ตัวเอง งั้นข้าก็จะทำให้เขาได้สมความปรารถนา เจ้ารอดูละครก็ได้แล้ว” หยุนถิงทำเสียงเชอะอย่างเย็นชา

“ซื่อจื่อเฟย คนเอามาแล้วขอรับ!” นอกฝูงชน ซูนฟั่งจับคนสองสามคนมา?

เมื่อหยุนซูเห็นคนในนอกฝูงชน ตัวแข็งทื่อ “เจ้ามาได้อย่างไร?”

“รู้ว่าเจ้าถูกคนใส่ร้ายรังแก ข้าก็ย่อมต้องขอคืนความยุติธรรมให้กับเจ้า มีข้าอยู่จะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปแน่นอน ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องล้วนถูกข้าจับมาหมดแล้ว ซื่อจื่อเฟยท่านมาจัดการสถานการณ์ทั้งมวล!” ซูนฟั่งพูดและให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำคนเหล่านั้นมา ในนั้นก็มีสาวรับใช้ข้างกายขององค์หญิงห้า

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท