จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 753 หากเจ้าอยากแต่งงาน ข้าพร้อมแต่งทุกเมื่อ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 753 หากเจ้าอยากแต่งงาน ข้าพร้อมแต่งทุกเมื่อ

“ได้เลย รอคำพูดนี้ของท่านพ่อตานี่ล่ะ” โม่ฉือชิงยินดียิ่งนัก รีบตามแม่ทัพเฒ่าโม่เข้าไปทันที

พ่อบ้านยกน้ำชาขนมมาวาง จากนั้นถอยไปด้านข้างอย่างนอบน้อม

“ท่านพ่อตา ข้าอยากรีบแต่งโม่หลานเข้าจวนโดยเร็ว ข้าชอบนางมาหลายปีแล้ว กว่านางจะรับปากมันไม่ง่ายเลย ข้ากลัวนางเปลี่ยนใจ!” โม่ฉือชิงพูดอย่างกระอักกระอ่วน

“เฉินอ๋องพูดถูกต้องแล้ว ไม่แค่เจ้ากลัวนางเปลี่ยนใจ ข้าก็กลัวนางเปลี่ยนใจเช่นกัน นังหนูนี่ชอบอาวุธมาแต่เล็ก หายากนักที่จะมีคนชอบนาง ยอมแต่งงานกับนาง รีบเลือกฤกษ์งามยามดีที่เร็วที่สุดจัดงานแต่งงานเสียเลย!” แม่ทัพเฒ่าโม่ยิ่งร้อนใจกว่าโม่ฉือชิงเสียอีก

“ฮะฮะ ขอบคุณท่านพ่อตายิ่งนักที่เข้าใจ” โม่ฉือชิงซาบซึ้งยิ่งนัก

“ข้าต่างหากควรจะขอบคุณเจ้า ข้ายังนึกว่านังหนูนี่ต้องโดดเดี่ยวเดียวดายไปจนตายแล้ว เพราะนิสัยนางน่ะหาบุรุษชอบยาก พ่อบ้าน เจ้ารีบไปตามชินเทียนเจียนมาเลย ข้าพอคุ้นเคยกับเขาอยู่บ้าง จะให้เขาคิดหาฤกษ์งามยามดีที่เร็วที่สุดในการแต่งงาน เอาให้เร็วเลย!” แม่ทัพเฒ่าโม่สั่งการ

“ขอรับ นายท่าน!”

โม่ฉือชิงโดนแม่ทัพเฒ่าโม่ทำเช่นนี้เข้าไป เริ่มกระอักกระอ่วนละ “ท่านพ่อตา ข้าปรึกษากับโม่หลานแล้ว แต่งงานพร้อมกับพี่ชายรองไปเลยแล้วกัน การแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างแคว้นต้าเยียนและแคว้นเป่ยลี่ ต้องเป็นฤกษ์งามยามดีที่ดีที่สุดแน่นอน”

“เช่นนั้นก็ต้องหลังปีใหม่สิ ไม่ได้ ช้าเกินไป ทางที่ดีแต่งกันเสียก่อนปีใหม่นี่แหละ ข้าเองก็จะได้บรรลุความปรารถนาไปหนึ่งเรื่อง เรื่องนี้จะล่าช้าไปหลังปีใหม่ได้อย่างไรกัน พ่อบ้านรีบไปเลย” แม่ทัพเฒ่าโม่ร้อนใจไม่ไหว

“ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้” พ่อบ้านรีบไปจัดการทันที

“ลูกเขย ตอนนี้พวกเรามาปรึกษากันเรื่องรายละเอียดพิธีแต่งงาน รายชื่อแขกเหรื่อดีหรือไม่?” แม่ทัพเฒ่าโม่เสนอ

“ดีเลย!”

ทั้งสองคนจับเข่าคุยกันขึ้นมาทันที และยังให้คนรับใช้ทั้งหมดหยิบพู่กันกระดาษมาจดด้วย

ไม่นาน พ่อบ้านก็กลับมา “นายท่าน ข้าน้อยถามชินเทียนเจียนแล้ว เขาบอกว่าอีกสิบวันให้หลังจะเป็นฤกษ์งามยามดี ก็ได้ก่อนปีใหม่พอดี!”

“ได้ งั้นก็แต่งงานกันในอีกสิบวันให้หลัง!” แม่ทัพเฒ่าโม่เคาะโต๊ะสรุปทันที

“ฟังท่านพ่อตาละกัน”

จวบจนฟ้ามืด โม่ฉือชิงถึงออกจากจวนแม่ทัพ เขารีบเข้าวัง ไปขอสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้ทันที

ฮ่องเต้พอได้ยินว่าโม่หลานรับปากแล้ว ก็ดีใจนัก น้องสี่คนนี้สนิทสนมรักใคร่กับเขาตั้งแต่เล็ก ย่อมหวังว่าเขาจะได้มีคนรักอยู่เคียงคู่ไปด้วยกันอยู่แล้ว

“ข้าพระราชทานสมรสให้น่ะได้ แต่เจ้าต้องเอาอำนาจในการควบคุมจัดการของการค้าของราชวงศ์แห่งแคว้นต้าเยียนกลับไป อย่ามาเหลือความยุ่งเหยิงกองใหญ่ให้ข้าจัดการอย่างนั้น ข้าไม่ว่างมาจัดการให้เจ้า!” ฮ่องเต้พูดหน้าตึง

โม่ฉือชิงรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ตนวู่วามไปจริงๆ รีบยอมรับผิดโดยดี “เสด็จพี่สั่งสอนถูกต้องแล้ว ก่อนหน้านี้น้องคิดไม่รอบคอบเอง ต่อไปน้องจะต้องหาเงินให้เสด็จพี่มากๆ เติมท้องพระคลังให้เต็ม ให้เสด็จพี่ไม่มีความกังวลใดๆอีก!”

“พอใช้ได้!” ฮ่องเต้พอใจมาก รีบพระราชทานสมรสให้ทันที ประกาศแก่ใต้หล้า

โม่ฉือชิงออกจากวัง วิ่งไปจวนซื่อจื่ออีก

พอได้ยินว่าจะให้หยุนถิงมาจัดการงานแต่งงานให้ จวินหย่วนโยวไม่ยอมทันที “ซื่อจื่อเฟยไม่ว่าง ลูกสองคนยังดูแลแทบไม่ทันเลย ไหนเลยจะมีเวลามาวุ่นวายเรื่องพวกนี้ให้เจ้า!”

“จวินหย่วนโยวเจ้าพูดอะไรน่ะ ชาตินี้ข้าก็แต่งงานแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เจ้าจะนิ่งดูดายได้อย่างไร ตอนแรกของหยุนถิงกับเจ้าน่ะ ข้าออกแรงไม่น้อยนะ” โม่ฉือชิงถลึงตามองมาอย่างเดือดดาล

“งั้นรึ?” จวินหย่วนโยวย้อนถาม

จวินหย่วนโยวไม่ได้ลืมเลยว่า ตอนแรกโม่ฉือชิงกลั่นแกล้งเขาไว้ไม่น้อยเลย มักชอบว่าร้ายเขาต่อหน้า อย่านึกว่าตนไม่รู้

โม่ฉือชิงยิ้มกระดาก “จวินหย่วนโยวเจ้าอย่ามาใจแคบสิ เอาคนพวกนั้นของเจ้าให้ข้ายืมใช้หน่อย ชีวิตคนเราน่ะยากนักที่จะได้แต่งงานกับคนที่ตนรัก เจ้าจะไม่ยินดีกับข้าหน่อยรึ”

“ยินดีด้วย!”

“ไม่เผลอเลยสักนิด” โม่ฉือชิงบ่น

“เจ้าแต่งงาน ข้าเผลอ มันเหมาะสมรึ?” จวินหย่วนโยวย้อนถาม

“ไม่ค่อยเหมาะสมจริงๆ”

“เอาล่ะพวกเจ้าสองคน เฉินอ๋องโปรดวางใจเถอะ โม่หลานเป็นสหายของข้า ข้าจะไปช่วยดูแลทางด้านนาง เจ้าจัดการทางเจ้าเองก็ได้แล้ว” หยุนถิงปลอบ

ในที่สุดพวกเขาสองคนก็แต่งงานกัน ตนเองดีใจกับโม่หลานและโม่ฉือชิงนัก

“ได้เลย รอเจ้าพูดคำนี้แหละ จวินหย่วนโยว เจ้าหัดเรียนกับหยุนถิงเสียบ้าง งกเหลือเกิน” โม่ฉือชิงบอกอย่างทระนง ทิ้งไว้หนึ่งคำก็หนีเลย

อยู่ต่อนานอีกหน่อย เขากลัวจวินหย่วนโยวจับตนโยนออกจากจวนซื่อจื่อ

ฮ่องเต้พระราชทานสมรส คนทั่วทั้งเมืองหลวงแคว้นต้าเยียนต่างรู้กันหมด เฉินอ๋องกับคุณหนูใหญ่โม่แต่งงานกัน ทุกคนพากันแสดงความยินดีกับพวกเขา

วันต่อมา หยุนถิงพาลูกทั้งสอง จวินหย่วนโยวก็ตามไปด้วยเช่นกัน ฉินจิ้งอี๋พาลูกมา ซูชิงโยวก็พาลูกมาด้วย ต่างพากันไปจวนแม่ทัพ

จวนแม่ทัพมีแม่ทัพเฒ่าโม่ โม่ฉีเฟิง โม่หลาน บุรุษร่างโตสองคนไหนเลยจะรู้เรื่องแต่งงาน

ดังนั้นญาติสนิทมิตรสหายที่มาช่วยได้ก็มากันหมด เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต หยุนถิงช่วยจัดการเต็มที่

“ตัวอักษร “มงคล”นี่ข้าตัดยังไงก็ตัดไม่ดีน่ะ?” หยุนหลีมองดูกระดาษแดงในมือซึ่งเป็นใบที่ห้าแล้ว โดนนางตัดเจนเละตุ้มเป๊ะไปหมด

“ข้าช่วยเจ้าเอง!” เสวี่ยเชียนโฉวรับกรรไกรมา เริ่มตัด ไม่นานตัวอักษร”มงคล”ที่สวยงามและเรียบร้อยก็ตัดเสร็จแล้ว

“ท่านอา ท่านเก่งมากเลย ตัดสิ่งนี้เป็นด้วย” หยุนหลีชมเชย

“เมื่อครู่เรียนมาตอนที่พวกซื่อจื่อเฟยตัดน่ะ”

“เร็วขนาดนี้ เก่งกาจนัก พี่หญิงโม่หลานจะแต่งงานแล้ว เมื่อไหร่ข้าจะได้แต่งงานล่ะ?” หยุนหลีเบ้ปาก

“หากเจ้าอยาก ข้าพร้อมแต่งทุกเมื่อเลย!” เสวี่ยเชียนโฉวพูดขึ้นมา

หยุนหลีแก้มแดงทันที “ท่านอา อย่าเล่นสิ!”

“ไม่ได้เล่น ข้าจริงจังนะ” เสวี่ยเชียนโฉวทำหน้าจริงจัง

คราวนี้หยุนหลีเริ่มกระดากละ “ข้าไปดูหน่อยสิว่าด้านในมีอะไรให้ช่วยไหม” พูดจบก็วิ่งเข้าไปเลย

เสวี่ยเชียนโฉวจะตามเข้าไป โดนหยุนถิงสกัดไว้ “เจ้าอุทยานเสวี่ยอย่าเร่งรัดเกินไปนัก นิสัยหยุนหลีน่ะปล่อยตัวจนเคยชินแล้ว หากเร่งรัดมากเกินไป จะได้ผลตรงกันข้ามนะ”

“ซื่อจื่อเฟยพูดถูกต้องแล้ว” เสวี่ยเชียนโฉวล้มเลิกที่จะเข้าไปข้างใน

“เจ้าอุทยานเสวี่ยกับหยุนหลีต่างมีใจให้กัน ต้องได้แต่งงานกันแน่” ซูชิงโยวปลอบ

คนโง่ยังดูออกเลยถึงความรักที่เสวี่ยเชียนโฉวมีต่อหยุนหลี หยุนหลีเองก็พึ่งพาเสวี่ยเชียนโฉวมาก ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันทีไรก็หวานจนเลี่ยน พวกนางไม่อยากสนใจยังทำไม่ได้เลย

“ไม่รีบร้อน หยุนหลียังเล็ก ท่านพ่ออยากเก็บนางไว้หลายปีหน่อย เพราะท่านพ่ออายุมากแล้ว อยากให้มีลูกสาวอยู่ข้างกาย รอซูเอ๋อร์แต่งงานแล้ว ก็ถึงตาหยุนหลีแล้วล่ะ” หยุนถิงอธิบาย

“หยุนซู นางเอาแต่ยุ่งกับร้านเนื้อย่างทั้งวัน ไหนเลยจะมีเวลาแต่งงาน หยุนถิง เจ้าต้องจัดการให้ซูเอ๋อร์นะ” ซูชิงโยวบอกอย่างเป็นห่วง

“วางใจเถอะ นางมีคนในใจแล้ว รออีกแค่หนึ่งปี” หยุนถิงตอบ จากนั้นก็เล่าเรื่องสัญญาหนึ่งปีของหยุนซูกับซุนฟั่งออกมา

ทำเอาทุกคนทั้งตกใจและยินดี “คิดไม่ถึงเลยว่าหยุนซูเงียบๆ จะหาคู่ครองให้ตนได้แล้ว ไม่เลวเลยจริงๆ”

“หวังว่าซุนฟั่งคนนั้นจะผ่านการทดสอบ ไม่ทำให้ซูเอ๋อร์ผิดหวังนะ”

พวกเขาคุยเล่นกัน ต่างดีใจกับหยุนซูทั้งนั้น

มีเพียงเสวี่ยเชียนโฉว ไม่พอใจเล็กน้อย ซุนฟั่งนี่โง่หรือไม่ ทำไมต้องบอกว่าหนึ่งปี บอกครึ่งปีมิได้รึ?

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท