จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 869 ข้าผิดไปแล้ว ข้าสมควรตี

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่869 ข้าผิดไปแล้ว ข้าสมควรตี

“คนโง่เขลาเยี่ยงเจ้าจะดูออกได้อย่างไร รีบพาข้าไปพบพี่ใหญ่ ข้าจะอธิบายให้พวกเจ้าเอง” วี่รั่วฉิงรีบพูด

แม้ว่าวี่หนานเสวียนจะสับสน แต่เขาเชื่อใจพี่รองคนนี้มาเสมอ

“พี่ใหญ่ถูกคุมขังในหลังเขาไม่ใช่หรือ?” วี่หนานเสวียนถาม

สาวรับใช้คนหนึ่งเดินผ่านพอดี และทำความเคารพอย่างเคารพทันที “คำนับคุณชายน้อย คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนก็ถูกจั๋วยีพากลับมาในลานของตัวเองแล้ว ว่ากันว่าป่วยหนัก ฮูหยินให้หมอรักษาให้นายอยู่เจ้าค่ะ”

“พี่ใหญ่ข้าป่วยนั้นหรือ เกิดอะไรขึ้น ทำไมข้าถึงไม่รู้?” วี่หนานเสวียนขมวดคิ้ว

ช่วงนี้เขายุ่งไปขุดวัตถุดิบที่หลังเขาอยู่ ก่อนหน้านี้ได้ยินหยุนเอ๋อร์บอกว่าอาหารอร่อยๆที่นางทำนั้นล้วนเป็นวัตถุดิบที่หามาจากหลังเขา ดังนั้นช่วงนี้วี่หนานเสวียนจึงอยู่แต่ในหลังเขา

เพียงแต่ว่าเขาหาทั่วทั้งหลังเขาจนหมดแล้ว ก็ไม่พบวัตถุดิบใดๆเลย

วี่หนานเสวียนถึงกับสงสัยเลยว่าหยุนเอ๋อร์โกหกเขา แต่น่าเสียดายที่เขาหาหยุนเอ๋อร์ไม่เจอ ช่วงนี้อีนังหนูนี้หายตัวไป ทำให้วี่หนานเสวียนรู้สึกคับข้องใจและโกรธยิ่งนัก เจ็บใจชะมัดเลย

แต่เขาไม่รู้เลยว่า หยุนเอ๋อร์ที่ว่านั้นก็คือหยุนถิงปลอมตัวเอง และยิ่งไม่รู้เรื่องที่วี่รั่วยีถูกทำร้ายที่หลังเขา

“คุณชายน้อยพวกข้ารีบไปดูคุณหนูใหญ่เถอะเจ้าค่ะ” ”วี่รั่วฉิงแสร้งทำเป็นน้ำเสียงของสาวรับใช้ เตือนเขา

“อืม!” วี่หนานเสวียนเดินตรงไปที่ลานของวี่รั่วยี วี่รั่วฉิงก็เดินตามไป

เพียงแต่ว่าเมื่อพวกเขาเห็นวี่รั่วยี ต่างก็ตกตะลึงกันหมด

วี่รั่วยีบนเตียงนั้นบนหน้าบนกายล้วนถูกพันด้วยผ้าพันแผลที่หนา ผ้าพันแผลสีแดงเปื้อนไปด้วยเลือด แดงจนรู้สึกสยดสยองสยองขวัญ คนทั้งคนนอนอยู่เช่นนั้น ไร้ชีวิตชีวา ไร้ความปรารถนาที่อยากมีชีวิตอยู่

“พี่ใหญ่ ทำไมหน้าของเจ้า ทำไมเจ้าถึงกลายเป็นสภาพเช่นนี้?” วี่หนานเสวียนตกตะลึง

วี่รั่วฉิงก็ตกตะลึงเช่นกัน “พี่ใหญ่ ใครทำเจ้า?”

วี่รั่วยีที่นอนอยู่บนเตียงนั้น เมื่อได้ยินเสียงสองเสียงที่คุ้นเคยนี้ ก็ลืมตาขึ้นเล็กน้อย และมองดูคนตรงหน้า ขอบตาแดงในทันที

“รั่วฉิง หนานเสวียน พวกเจ้ามาได้อย่างไร?” เสียงของวี่รั่วยีแหบแห้งและอ่อนแอ

“พี่ใหญ่เจ้าบอกข้ามาเร็ว ใครทำให้เจ้ากลายเป็นเช่นนี้ ต่อให้ตายข้าก็จะช่วยเจ้าล้างแค้นให้ได้!” วี่หนานเสวียนพูดด้วยความเคืองแค้น

วินาทีนี้ เขาเกลียดตัวเองยิ่งนัก ไม่มีเรื่องที่ทำอะไรที่หลังเขา พี่ใหญ่ถูกทำร้ายจนกลายเป็นสภาพเช่นนี้ เขากลับไม่รู้ด้วยซ้ำ

“หยุนถิง หยุนถิงเป็นคนทำลายเส้นเอ็นของข้า และทำให้ข้าเสียโฉม นางเป็นคนทำให้ข้าตายทั้งเป็น ต่อให้เป็นผีข้าก็จะไม่มีวันปล่อยนางไป!” วี่รั่วยีพูดอย่างโกรธเกรี้ยว เพราะโกรธมากเกินไป จึงส่งผลกระทบไปถึงบาดแผลบนใบหน้าของนาง ทำเอานางเจ็บจนน้ำตาไหลออกมา

วี่รั่วฉิงตกตะลึง “จะเป็นนางได้อย่างไร?”

“นางแสร้งปลอมตัวเป็นสาวรับใช้แล้วไปที่หลังเขา บอกว่าหนานเสวียนให้นางไปส่งขนม แต่กลับวางยาในขนม ทำให้ข้าบาดเจ็บถึงเช่นนี้” วี่รั่วยีกัดฟันด้วยความแค้น

“หยุนถิง สมควรตายยิ่งนัก กล้าใส่ร้ายข้า ข้าไม่เคยให้คนส่งของกินไปให้พี่ใหญ่เลย——” เมื่อพูดถึงตรงนี้ วี่หนานเสวียนก็ชะงักค้าง

เพราะจู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อไม่นานมานี้หยุนเอ๋อร์เสนอออกมาว่าจะไปส่งของกินให้พี่ใหญ่

นางหายตัวทุกครั้งก็หายไปหลายวันเลย แล้วทำของอร่อยๆกลับมา โดยบอกว่าเก็บมาจากหลังเขา แต่วี่หนานเสวียนไปหารอบๆหลังเขามาหลายวันก็ไม่พบอะไรเลย

หยุนเอ๋อร์ หยุนถิง

นึกกลัวในภายหลัง วี่หนานเสวียนตัวแข็งทื่อทันที หรือว่าหยุนเอ๋อร์เป็น——

วี่รั่วฉิงก็ตกตะลึงยิ่งนัก ทำไมหยุนถิงถึงทำร้ายพี่ใหญ่ เท่าที่นางรู้หยุนถิงไม่เคยทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ท่านแม่เป็นเพราะทำร้ายแม่และคนในตระกูลของหล่อน หรือว่าพี่ใหญ่ก็ทำเรื่องที่ผิดต่อหยุนถิงเช่นกัน?

“พี่ใหญ่เรื่องนี้ข้าจะช่วยเจ้าสืบให้ชัดเจนเอง หากเป็นหยุนถิงจริง ข้าจะช่วยเจ้าแก้แค้นอย่างแน่นอน ตอนนี้ข้ามีความลับที่สำคัญอย่างหนึ่งจะบอกพวกเจ้า

ฮูหยินเจ้าทะเลคนปัจจุบันไม่ใช่แม่ของพวกข้า แต่เป็นเซียวหลันปลอมตัว แม่ที่แท้จริงถูกนางขังไว้ในห้องลับเป็นเวลาหกปี และถูกทรมานจนตายทั้งเป็น” วี่รั่วฉิงนำเรื่องที่นางแอบเข้าไปในห้องลับและถูกเซียวหลันเห็นเข้าแล้วโยนนางลงทะเลนั้นเล่าออกมาให้หมด

วี่หนานเสวียนงุนงง “พี่รอง เจ้าหมายความว่า ท่านแม่ที่พวกข้าอยู่ด้วยกันในทุกวันนี้ เป็นของปลอมงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง ครั้งนี้ข้ากลับมาก็เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับพวกเจ้า” วี่รั่วฉิงตอบ

วี่รั่วยีไม่ได้มีความตกตะลึงและความแปลกใจเช่นวี่หนานเสวียน นางสงบมาก “ก่อนหน้านี้อูเหอจะเปิดโปงเซียวหลันต่อหน้าทุกคน แต่กลับถูกนางตั้งข้อหาและขังไว้ในคุกใต้ดิน ต่อมาข้าส่งไปคนตรวจสอบ แต่พบว่าเขาตายแล้ว ข้าจึงเกิดความสงสัย”

“แล้วพวกข้าควรทำอย่างไร รีบไปช่วยท่านแม่สิ” วี่หนานเสวียนพึ่งพูดจบ นอกลานก็ถูกผู้เฝ้าพิทักษ์ชั้นยอดหลายสิบคนล้อมรอบเอาไว้ทันที

“หรือว่าเซียวหลันรู้ว่าข้ากลับมาแล้ว?” วี่รั่วฉิงถามออกมาโดยสัญชาตญาณ

จากนั้นก็เห็นสาวรับใช้คนสนิทของเซียวหลันเดินเข้ามา “บ่าวคำนับคุณชายน้อย ฮูหยินมีเรื่องสำคัญจะหาคุณชายน้อย ให้บ่าวมาเชิญคุณชายน้อยไปโดยเฉพาะ”

สีหน้าของวี่หนานเสวียนแย่ยิ่งนัก จู่ๆก็ได้ยินข่าวที่น่าทึ่งเยอะขนาดนี้ สมองของเขาก็หมุนไม่ทันแล้ว

หันมองสาวรับใช้ วี่หนานเสวียนทำสีหน้าไม่พอใจ “ข้าก็จะเยี่ยมดูพี่ใหญ่ ไม่มีเวลาไป เจ้ากลับไปบอกท่านแม่ เดี๋ยวข้าจะไปพบนางเอง”

“ฮูหยินเห็นใจกับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของคุณชายน้อยกับคุณหนูใหญ่ เช่นนั้นบ่าวก็ไม่รบกวนแล้ว!” สาวรับใช้ก็รู้ตัวดี หันหลังจากไป ก่อนจากไปยังเหลือบมองวี่รั่วฉิงที่แต่งชุดสาวรับใช้

เพียงแต่ว่าเหล่าผู้เฝ้าพิทักษ์ในนอกลานนั้นกลับไม่ได้ถอยออกไป แต่กลับยืนตัวตรง แม้แต่ประตูก็ถูกกั้นเอาไว้

“ฮูหยินบอกว่าให้คุณชายน้อยกับคุณหนูใหญ่พูดคุยกันดีๆ พวกเจ้าดูไว้ดีๆละ” สาวรับใช้ทิ้งประโยคหนึ่งไว้ หันหลังและจากไป

วี่หนานเสวียนโกรธยิ่งนัก “พี่รอง ดูเหมือนว่าที่เจ้าพูดนั้นจะเป็นเรื่องจริง เซียวหลันคงรู้แล้วว่าเจ้ากลับมา ดังนั้นจึงส่งคนมาเฝ้าลานไว้ ทำไมนางไม่ฆ่าพวกข้าทิ้งโดยตรงเลย?”

“เพราะนางยังหาเหตุผลที่จัดการกับพวกข้าไม่ได้ เพราะพวกข้าสามคนเป็นลูกของฮูหยินเจ้าทะเล หากนางต้องจะลงมือกับพวกข้าจริง เกรงว่าคงจะทำให้คนอื่นสงสัย ดังนั้นตอนนี้จึงแค่กักขัง” วี่รั่วยีตอบ

“แล้วพวกข้าจะทำอย่างไร พวกข้าจะต้องมารอตายอยู่เช่นนี้จริงหรือ?” วี่หนานเสวียนตื่นตระหนก

ในฐานะลูกคนที่สาม ตั้งแต่เด็กก็มีพี่ใหญ่กับพี่รองคอยช่วยเหลือ จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาไม่รู้จริงๆเลยว่าควรทำอย่างไรดี

“รั่วฉิงเจ้าหาวิธีพาหนานเสวียนจากไป สภาพนี้ของข้าไปก็ไปไม่ได้ ข้าจะเป็นภาระของพวกเจ้าสองคนไม่ได้” วี่รั่วยีกล่าว

“จะได้ได้อย่างไร เจ้าเป็นพี่ใหญ่ของพวกข้า จะไปก็ไปด้วยกัน จะอยู่ก็อยู่ด้วยกัน” วี่รั่วฉิงโต้กลับ

“ใช่พี่ใหญ่ จะตายก็ตายด้วยกัน” วี่หนานเสวียนคล้อยตาม

วี่รั่วฉิงยกมือขึ้นและตบเขา “หุบปากเสียๆนั้นของเจ้าซะ”

“ข้าผิดไปแล้ว ข้าสมควรตี ต่อไปข้าจะไม่พูดอีกแล้ว”

สามพี่น้องไม่มีทางเลือก ลานทั้งลานถูกผู้เฝ้าพิทักษ์ล้อมรอบเอาไว้อย่างเบียดเสียดเยียดยัด แม้แต่แมลงวันก็บินออกไปไม่ได้ แล้วจะไปนับประสาอะไรกับคนละ

  

สามวันต่อมา วี่รั่วฉิงและอีกสองคนทนไม่ได้อีกต่อไป ทุกวันจะมีคนนำอาหารมาส่ง แต่พวกเขาจะไปกล้ากินซะที่ไหนกันล่ะ เซียวหลันเก่งในด้านการใช้หนอนกู่ กลัวว่าในอาหารจะถูกใส่กู่ ดังนั้นทั้งสามจึงได้แต่อดเอาไว้

ผลไม้ ชาทั้งหมดในห้องของวี่รั่วยีล้วนถูกกินหมดแล้ว แต่ทั้งสามก็ยังคงหิวโหยยิ่งนัก ขณะนี้อ่อนแอมาก

“พี่ใหญ่ พี่รอง หากข้าหิวตาย ต่อไปทุกปีที่พวกเจ้ามาที่ป้ายสุสานของข้า เอาของกินมาให้ข้าด้วยละ” วี่หนานเสวียนพูดอย่างอ่อนแรง

“หุบปาก พวกข้าต้องหาวิธีออกไปได้อย่างแน่นอน” วี่รั่วฉิงโต้กลับ

“ทำยังไงก็ตาย พวกข้าบุกออกไปเลยดีกว่า!” วี่หนานเสวียนเสนอแนะ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท