จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 886 ขอร้องให้ข้าอยู่ที่นี่เถอะ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 886 ขอร้องให้ข้าอยู่ที่นี่เถอะ

“ใช่ ข้าได้ยินเองกับหู บัดนี้ทั้งในและนอกเมืองหลวงลือกันให้แซ่ด คุณชายเซวี่ยนก่อกบฏ หยุนเฉิงเซี่ยงเป็นลมสลบไปที่หน้าจวนตระกูลหยุน มีคนมากมายเห็นนะ” คนรับใช้ตอบ

หงหลิงตะลึงอึ้งไปเลย พริบตาเดียวเข่าอ่อนนั่งลงกับพื้น “ไม่ ต้องไม่ใช่เรื่องจริง ต้องมีคนใส่ร้ายคุณชายห้าแน่”

สีหน้าหมอยมบาลเคร่งเครียดฉับพลัน “ใช่ มันเป็นไปไม่ได้แน่ ตอนนี้ข้าจะไปถามที่จวนตระกูลหยุนให้รู้แน่ชัด”

“ข้าไปกับเจ้าด้วย” ฮูหยินเฒ่าฟู่กับตาเฒ่าเหอพูดขึ้นมาพร้อมกัน

ทั้งสามคนลุกขึ้นทำท่าจะไป หงหลิงที่อยู่บนพื้นรีบลุกขึ้นมา “ฮูหยินเฒ่า ขอร้องท่านพาข้าไปด้วยเถอะ ข้าอยากเจอคุณชายห้า?”

หมอยมบาลพาคนกลับมา และได้บอกเรื่องของหงหลิงและเจ้าห้ากับฮูหยินเฒ่าฟู่แล้ว ตอนนี้เห็นสีหน้ากังวลของนาง ฮูหยินเฒ่าฟู่ก็สงสารเกินกว่าจะปฏิเสธ

“ลุกขึ้นเถอะ เจ้าไปด้วยกันกับพวกเรา”

“ขอบคุณฮูหยินเฒ่า”

จวนตระกูลหยุน

องครักษ์หน้าประตูพอเห็นว่าเป็นพวกฮูหยินเฒ่าฟู่และหมอยมบาล ก็พาพวกเขาเข้าจวนอย่างนอบน้อม

นี่เป็นครั้งแรกที่หงหลิงเข้ามาในจวนตระกูลหยุน ตัวเรือนโอ่อ่ายิ่งนัก การตกแต่งดูดีนัก มีต้นไม้ใบหญ้าพันธุ์แปลกมากมายเต็มไปหมด ศาลาสูง ภูเขาปลอมและปลาในสระน้ำ การประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ทำเอาหงหลิงมองตาค้างเลย

เมื่อก่อนรู้สึกว่าเรือนหน้าและห้องโถงหลักของตระกูลเก๋อโอ่อ่ามาก บัดนี้มาที่ตระกูลหยุน หงหลิงถึงรู้ว่าอะไรคือการได้เห็นผู้เหนือกว่า สวนดอกไม้ของตระกูลหยุนยังใหญ่กว่าตระกูลเก๋อทั้งหมดเลย

ไม่เปรียบเทียบกันก็ไม่รู้ พอเปรียบเทียบกันก็ตกใจยิ่งนัก

วินาทีนี้หงหลิงยิ่งบอกตนเองในใจอย่างหมายมาดมากขึ้น นางจะต้องแต่งเข้าตระกูลหยุนให้ได้

องครักษ์นำพวกฮูหยินเฒ่าฟู่มุ่งตรงไปห้องของหยุนเฉิงเซี่ยง ในห้องหยุนเฉิงเซี่ยงนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าซีดเผือด ซูชิงโยวนั่งเฝ้าอยู่ด้านข้าง

“ฮูหยินเฒ่า,หมอยมบาล ตาเฒ่าเหอ พวกท่านมาได้อย่างไรกันน่ะ?” ซูชิงโยวน้ำตาไหลพราก ท่าทางอิดโรยนัก

“พวกข้าได้ยินว่าจวนตระกูลหยุนเกิดเรื่อง ก็รีบมาเลย” หมอยมบาลบอก ขึ้นหน้ามาจะจับชีพจรให้หยุนเฉิงเซี่ยง

“ทำให้ทุกคนกังวลแล้ว” ซูชิงโยวรีบถอยไปอีกด้าน

“ชิงโยว ตกลงเรื่องมันเป็นมาอย่างไรกันแน่?” ฮูหยินเฒ่าฟู่เองก็มีสีหน้ากังวล

ซูชิงโยวรีบเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา ทำเอาพวกฮูหยินเฒ่าฟู่เป็นกังวลอย่างมาก

ส่วนทางหงหลิงเห็นซูชิงโยวที่อยู่ตรงหน้า นางคือบุตรสาวภรรยาเอกของตระกูลซู และเป็นฮูหยินของแม่ทัพหยุน ชุดสีฟ้าอ่อน ไม่มีเครื่องประดับอะไรมากแต่กลับสง่างามหรูหรา แค่ดูก็รู้ว่าเป็นของชั้นเยี่ยม ปิ่นบนหัวยิ่งเป็นรูปแบบที่หงหลิงไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เรียบง่ายหากงดงาม ระดับดีเยี่ยม

หงหลิงก้มหน้ามองตนเองทันที นางอยู่ในชุดกระโปรงสะอาด นี่เป็นชุดที่ฮูหยินเฒ่าให้คนทำให้นางใหม่ หลังจากที่นางไปจวนตระกูลฟู่ ถึงจะเป็นเนื้อผ้าชั้นเยี่ยม แต่ก็ทาบของซูชิงโยวไม่ติดเลย

หงหลิงคิดถึงชุดเนื้อผ้าหยาบกระด้างระดับล่างสุดที่เมื่อก่อนที่ตนสวมใส่ยามอยู่ตระกูลเก๋อ กินแต่อาหารเน่าบูด พอมาเทียบกันแล้ว นางรู้สึกเพียงว่าตนเองแตกต่างกับซูชิงโยวราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว

“พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าได้ยินว่าท่านพ่อสลบไม่ได้สติรึ” หยุนซูเร่งรุดเข้ามาจากด้านนอกด้วยสีหน้าร้อนใจ

เดิมนางอยู่ที่ร้านเนื้อย่าง จู่ๆก็ได้ยินว่าที่บ้านเกิดเรื่อง เลยรีบรุดกลับมา

พอเห็นทุกคนในห้อง หยุนซูหันมามองเตียงโดยพลัน “ท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?”

หงหลิงมองหยุนซู หน้าตางดงาม ความกังวลบนใบหน้าฉายชัด ชุดกระโปรงยาวสีชมพูดูอ่อนโยนใจกว้าง คือสตรีรูปร่างอรชรผู้นี้ที่เปิดร้านเนื้อย่างไปทั่วทั้งสี่แคว้น ทำกำไรมากขึ้นทุกวัน มันทำให้หงหลิงเลื่อมใสยิ่งนัก

ต่อให้มีซื่อจื่อเฟยช่วยนาง แต่ตัวนางเองก็ต้องมีฝีมือด้วย ไม่อย่างนั้นร้านเนื้อย่างคงเจ๊งไปนานแล้ว

“ซูเอ๋อร์อย่ากังวลไปเลย มีหมอยมบาลผู้อาวุโสอยู่ ท่านพ่อไม่เป็นอะไรหรอก ท่านหมอบอกแล้วว่าเขาโกรธจัดทะลุเข้าใจ” ซูชิงโยวปลอบ

หยุนซูกำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนรับใช้ด้านนอกก็เข้ามารายงานว่า “ฮูหยินน้อย เฉินอ๋องและเฉินหวางเฟยมาแล้ว คุณหนูฉินก็ด้วย”

“ชิงโยว นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ เจ้าห้าบ้านเจ้าจะก่อกบฏได้อย่างไรกัน?” โม่หลานถามอย่างร้อนใจ

“หยุนห้าก่อกบฏ นี่ใครมันสร้างข่าวกัน ข้าจะเลาะฟันมันออกซะ” เฉินอ๋องเสริม

“มีคนใส่ร้ายตระกูลหยุนใช่หรือไม่?” ฉิงจิ้งอี๋ถาม

“ข้าจะเข้าวังไปเฝ้าฝ่าบาทเดี๋ยวนี้” จ้าวเคอก็มีสีหน้าเป็นห่วงด้วย

“จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงไม่อยู่ ข้าไม่อยากซ้ำเติมคน ข้าจะเข้าวังเดี๋ยวนี้” ฟู่อี้เฉินที่เร่งรุดกลับมา พอได้ยินว่าจวนตระกูลหยุนเกิดเรื่อง ก็รีบมาทันที

ซูชิงโยวซาบซึ้งยิ่งนัก “ขอบคุณทุกคนมาก ไห่เทียนเข้าวังไปแล้ว เรื่องเป็นยังไงกันแน่นั้นยังไม่รู้เลย ข้าเองก็เชื่อว่าเจ้าห้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้แน่”

“เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะเข้าเฝ้าฝ่าบาท หากฝ่าบาทเชื่อคำพูดคนลวง ข้าจะโละหลังคาห้องทรงพระอักษรซะ!” โม่หลานเดือดดาลหนัก หมุนตัวจากไปทันที

“เจ้ารอข้าด้วย ถ้าเจ้าจะโละหลังคา เสด็จพี่ต้องให้ข้าชดใช้เงินแน่” เฉินอ๋องรีบตามไป

“เงินมีเยอะไม่กลัว!”

พอเห็นทุกคนออกไปอีก หงหลิงอึ้งบื้อไปเลย เฉินอ๋องกับเฉินหวางเฟย ขุนนางใหญ่ในราชสำนัก บุตรสาวภรรยาเอกของตระกูลฉิน—-คนพวกนี้ล้วนเป็นบุคคลระดับสูงขนาดนับนิ้วได้ นางไม่เคยเจอคนพวกนี้แม้เพียงในความฝันด้วยซ้ำ วันนี้ได้เจอทั้งหมดเลย พอเห็นซูชิงโยวรับมือได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว นางเลื่อมใสมากจริงๆ

“ฮูหยินน้อย ข้าเชื่อว่าคุณชายห้าต้องไม่ทำเรื่องก่อกบฏออกมาแน่ หงหลิงยินดีใช้ชีวิตสาบาน ขอท่านโปรดเชื่อเขาด้วย!” หงหลิงพลันคุกเข่าลงต่อหน้าซูชิงโยว

ซูชิงโยวเมื่อครู่เห็นนางแล้วจริงๆ เพียงแต่ไม่มีเวลาสนใจ ตอนนี้มาเห็นหงหลิง ใบหน้างดงามแต่สีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย ดูผอมบางอย่างมาก แค่ดูก็รู้ว่าเกิดจากขาดสารอาหารมาเป็นเวลานาน

“เจ้าก็คือหงหลิง รีบลุกขึ้นเถิด ข้าเคยได้ยินน้องห้าพูดถึงเจ้า” ซูชิงโยวบอกพลางพยุงนางลุกขึ้น

“ขอบคุณฮูหยินน้อย ขอเพียงช่วยคุณชายห้าได้ ให้ข้าตาย ข้าก็ยินดี!” หงหลิงสีหน้าตึงเครียด

“ขอบคุณในความรักความผูกพันที่เจ้ามีต่อเจ้าห้า เรื่องนี้ยังอยู่ในการสืบสวน” ซูชิงโยวปลอบ

“อืม ขอเพียงสามารถช่วยคุณชายห้าของข้าได้ ให้ข้าทำอะไรข้าก็ยอม” หงหลิงพูดหนักแน่น

หมอยมบาลดึงมือกลัว คิ้วขมวดน้อยๆ “พวกเจ้าออกไปกันเถอะ ข้าจะฝังเข็มให้เขา ห้ามให้ใครรบกวน”

“เจ้าค่ะ!” ซูชิงโยวพาทุกคนออกไปทันที ตนเองก็ตามออกไปด้วย

พอหมอยมบาลเห็นประตูปิดลง ถึงกระซิบข้างหูหยุนเฉิงเซี่ยง “หยุนเฉิงเซี่ยง เจ้าไม่ต้องแสร้งทำแล้ว ชีพจรเจ้าน่ะอยู่ไปถึงเก้าสิบเก้าปีได้เลย”

หยุนเฉิงเซี่ยงที่นอนหลับตาถึงลืมตาขึ้น “เจ้านี่ โดนเจ้าจับได้จนได้”

“ข้าน่ะหมอยมบาลนะ จะดูไม่ออกได้รึว่าสลบจริงหรือแกล้งทำ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” หมอยมบาลรีบถามทันที

“ข้าสงสัยว่าถิงเอ๋อร์จะแกล้งทดสอบนังหนูหงหลิงนั่น” หยุนเฉิงเซี่ยงบอกการคาดเดาของตนออกมา

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง”

ไม่นานหมอยมบาลก็เดินออกมา “หยุนเฉิงเซี่ยงไม่ได้เป็นอะไรมาก เชื่อว่าไม่นานก็จะฟื้นขึ้นมา”

ทุกคนถึงวางใจ คำพูดของหมอยมบาล พวกเขาย่อมไม่สงสัยอยู่แล้ว พวกฮูหยินเฒ่าฟู่อยู่ต่ออีกหน่อย ถึงได้กลับไป

ก่อนไปหงหลิงคุกเข่าให้ซูชิงโยวอีกครั้ง “ฮูหยินน้อย ขอร้องท่านให้ข้าอยู่ต่อเถอะ ข้าแค่อยากทำอะไรเพื่อคุณชายห้าบ้าง ข้ารู้ว่าตนไม่มีความสามารถใดๆ ทำอะไรไม่ได้ แต่ข้าซักผ้าทำอาหารได้ ยกน้ำชาตักน้ำ เป็นคนรับใช้ก็ได้! ตอนนี้คุณชายเซวี่ยนเกิดเรื่อง ข้าไม่อยากอยู่เฉยๆ ขอเพียงช่วยเขาได้”

น้ำตาไหลพราก ประหนึ่งเจ็บปวดอะไรหนักหนา

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท