โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 15

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Ch.15 – นิมิตยามค่ำ

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.15 – นิมิตยามค่ำ

ในสถานที่ชุมชนทางตอนเหนือ ช่วงกลางคืนได้มาถึง สีสันของแสงไฟเริ่มปรากฏ

ฉินเฟิงนั่งสมาธิอยู่ในโรงแรม มุ่งเน้นใช้เทคนิคทำสมาธิ ขณะที่ในหัวใจบังเกิดความตื่นตกใจอย่างไม่รู้จบ

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมจู่ๆความเร็วในการเก็บรวบรวมรูนถึงได้เพิ่มมากขึ้นถึงขนาดนี้?”

ปัจจุบัน ปรากฏรูนสีดำจำนวนมากบินออกมาจากท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด ความเร็วของมันแตกต่างไปจากรูนสีเทาก่อนหน้านี้ถึง 2 เท่า

เพราะการฝึกฝนของฉินเฟิงในวันนี้ ส่งผลให้พลังสมาธิของเขาดีขึ้นเป็นอย่างมาก ปัจจุบัน เขามิได้ทำสมาธิได้เพียง 10 นาทีอีกต่อไป หากแต่เพิ่มเวลาได้เป็น 15 นาทีแล้ว

แต่ภายใน 15 นาทีล่าสุดนี้ ฉินเฟิงกลับสามารถรวบรวมรูนธาตุได้มากกว่า 100 ตัวอย่างน่าฉงน!

ยามเมื่อฉินเฟิงลืมตาขึ้น เขาก็ค้นพบว่าสภาพของโลกภายนอกได้เปลี่ยนแปลงไป

“ที่แท้ก็ฟ้ามืดแล้ว!”

มันไร้ซึ่งแสงสว่างภายในห้อง แต่คู่ดวงตาของฉินเฟิงกลับช่างแจ่มใส สามารถรับรู้ถึงทุกสิ่งรอบตัวเขา

อันที่จริง ฉินเฟิงก็มีความสามารถดังที่กล่าวมาอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่มันไม่ชัดเจนเท่ากับในปัจจุบันก็เท่านั้นเอง

“หรือว่านี่คือ ‘นิมิตยามค่ำ!’ ”

นิมิตยามค่ำ : ไม่เพียงช่วยให้วิสัยทัศน์ในช่วงเวลากลางคืนแจ่มใส ในขณะเดียวกัน หากมีศัตรูปรากฏขึ้น ฉินเฟิงก็สามารถรับรู้ถึงทุกการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

แม้ภายในระยะ 30 เมตรรอบกายของเขาจะมืดมิด แต่เจ้าตัวก็ยังสามารถรับรู้ได้ ราวกับ ‘มองเห็น’ มัน

นี่สินะ ที่เรียกกันว่าความรู้สึกที่สามารถควบคุมความมืดมิดได้

ทันใดนั้นเอง ในหัวใจของฉินเฟิงก็คิดได้ถึงบางสิ่ง เจ้าตัวไม่ทราบว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

“อบิลิตี้ของฉันคือความมืด ดังนั้นในระหว่างวันช่วงเช้า พลังสมาธิของฉันเลยอ่อนแอลงสินะ?”

ความไม่รู้ที่คล้ายกับดวงตามืดบอดของฉินเฟิงก่อนหน้านี้ ได้ถูกชะล้างออกไปด้วยความสุขเข้ามาแทนที่

อย่างไรก็ตาม หลังจากครบ 15 นาที จบการทำสมาธิในครั้งนี้ ฉินเฟิงมิได้พักผ่อน แต่ก็ไม่เลือกที่จะฝึกฝนต่ออีกแล้วเหมือนกัน

เขาสวมชุดต่อสู้ ติดอาวุธ ใส่หมวก สวมหน้ากากปิดบังใบหน้า เก็บเสี่ยวไป๋ไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วออกจากโรงแรมไป

ในช่วงเวลากลางคืน ภายในชุมชนเริ่มที่จะเงียบสงบ

นั่นก็เพราะโลกในยามค่ำคืน เป็นโลกของผู้แข็งแกร่ง ตัวตนที่สามารถจะชักนำสถานการณ์ไปสู่ความโกลาหลได้ตลอดเวลา ดังนั้น ถ้าไม่อยากจะกลายเป็นศพลอยไปตามท่อระบายน้ำ และถูกผู้คนพบเจอในสภาพดูไม่ได้ยามรุ่งเช้า กลางค่ำกลางคืน หากไร้ซึ่งกำลัง การไม่ออกมาเดินเตร่เป็นอะไรที่ดีที่สุด

ข้ามผ่านไปตามถนนอันเงียบสงบไม่กี่สาย ทันใดนั้นเอง โลกทั้งใบก็กลับกลายเป็นมีชีวิตชีวา

เขาได้เดินมาถึงถนนสายที่สาม -ถนนย่านการค้า!

นี่คือสถานที่ที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในยามค่ำคืน ทุกหนแห่งรายล้อมไปด้วยร้านค้า โดยจุดที่โดดเด่นที่สุดคงไม่พ้นจตุรัสที่อยู่ถัดไป

ภายในจตุรัส มันเต็มไปด้วยผ้าใบที่ถูกปูเอาไว้ พร้อมกับมีสินค้าที่ทั้งแปลกใหม่ และของโบราณวางขายเอาไว้

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือมิติที่ไม่รู้จัก , อุปกรณ์เทคโนโลยีระดับสูง รวมไปถึงอาวุธทำลายล้างบางประเภท

ฉินเฟิงเดินไปเรื่อยๆอย่าไร้จุดหมาย ทว่าก็ยังรู้สึกได้ว่าความมืดมิดรอบกายอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนภายในระยะ 30 เมตร -นี่ช่วยลดการเสียเวลา ที่เขาต้องมาคอยสังเกตดูสินค้าลงได้มากทีเดียว

ในตอนนั้นเอง หัวใจของฉินเฟิงพลันกระตุกวูบอย่างรุนแรง เขาพยายามสงบมัน ก่อนจะเดินเข้าไปหยุดอยู่หน้าร้านหนึ่ง

มันเป็นร้านของชายชรา ที่บนผ้าใบ ถูกวางเอาไว้ด้วยสิ่งแปลกประหลาดมากมาย

“เจ้าสิ่งนี้ขายยังไง?” ฉินเฟิงหยิบจี้หยกสีดำขึ้นมา

ภายใต้นิมิตยามค่ำของฉินเฟิง เขาสามารถตระหนักได้ถึงลักษณะของจี้นี้ได้อย่างชัดเจน ว่าเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมสีดำ แต่ว่าไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องแกะสลักด้วยสีดำ แถมมุมปากของเจ้าแม่ คล้ายจะดูไม่เหมือนกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนเลย ตรงกันข้าม มันเป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกต่างออกไป

“นี่คืออุปกรณ์เสริมสำหรับการฝึกฝนวรยุทธโบราณ มันสามารถช่วยรวบรวมจิตวิญญาณของฟ้าดิน เพิ่มความเร็วในการฝึกฝนกำลังภายใน เป็นของล้ำค่า!”

ชายชรากล่าวอธิบายอย่างรวดเร็ว

อันที่จริง แม้คุณสมบัติของสินค้าชิ้นนี้จะเป็นเรื่องจริง แต่มันยังห่างไกลจากคำว่าล้ำค่ามากนัก

“ไร้สาระ! ถ้าฉันไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไร แล้วจะถามถึงราคาไปทำไม?” ฉินเฟิงกล่าวห้วนๆ แสดงท่าทีไม่พอใจออกมา

รอยยิ้มประจบประแจงปรากฏชัดขึ้นบนใบหน้าของชายชรา “สายตาของนายน้อยช่างยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมนัก!”

ฉินเฟิงแสร้งทำเป็นพยักหน้าด้วยความพอใจแล้วกล่าวต่อ “มันราคาเท่าไหร่?”

พริบตานั้นบังเกิดประกายแสงวาบผ่านเข้ามาในแววตาของชายชรา เขากล่าวทันที “ 300000 เหรียญ!”

ฉินเฟิงเผยรอยยิ้มเย็น และวางจี้ดำในมือลง

“ตั้งราคาหน้าไม่อายแบบนี้ คิดดีแล้วใช่ไหม ไม่กลัวตายรึไง?”

สีหน้าของชายชราแปรเปลี่ยน ในหัวใจบังเกิดความกลัวเล็กน้อย เขาเริ่มสำรวจการแต่งกายของฉินเฟิงอย่างระมัดระวัง และพบว่า แม้อีกฝ่ายจะไม่มีตราสัญลักษณ์ของผู้ใช้พลังพิเศษ แต่ก็สวมใส่ชุดต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม

ยิ่งไปกว่านั้น พอเห็นปืนพลังงานที่ฉินเฟิงเหน็บเอาไว้ตรงเอว ชายชราก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดเหงื่อเย็นเยียบ

ฉินเฟิงแม้มิได้ครอบครองกลิ่นอายทรงพลังของผู้ใช้วรยุทธโบราณ ทว่ากลิ่นอายสังหารกลับมากล้น และปัจจุบัน กลิ่นอายที่ว่าก็กำลังตรึงลงบนร่างของชายชรา

กลิ่นอายสังหารนี้ เกิดจากการฝึกฝนและประสบการณ์เข่นฆ่าปีแล้วปีเล่าในชีวิตก่อนหน้าของเขา

พริบตานั้นชายชราบังเกิดความรู้สึกเสียใจในความโลภ แท้จริงแล้วฝ่ายตรงข้ามมิใช่แกะอ้วน หากแต่คือเหล็กกล้าที่มิอาจปอกลอกได้

“ขอแลกเปลี่ยนมันกับยาเสริมแกร่งเกรด F จำนวน 1 ขวด! ” ฉินเฟิงยื่นคำขาด

กลิ่นอายสังหารยังคงตรึงอยู่บนร่างของชายชรา ส่งผลให้เจ้าตัวบังเกิดความรู้สึกว่า หากไม่เห็นด้วย ก็จะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

นอกจากนี้ ราคาของยาเสริมแกร่งเกรด F ก็ส่งผลกระทบต่อจิตใจเขาไม่น้อย เจ้าตัวจึงตัดสินใจพยักหน้าตกลงอย่างรวดเร็ว

“ตกลง ขาย! ฉันยอมแลกเปลี่ยนกับมัน!”

ฉินเฟิงหยิบจี้รูปสลักเจ้าแม่กวนอิมสีดำขึ้นมา โยนหลอดยาเสริมแกร่งเกรด F ให้อีกฝ่าย และเดินแยกตัวออกไปสำรวจร้านอื่นๆต่อทันที

ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ยามเมื่อเขากุมจี้รูปสลักเจ้าแม่สีดำ ในหัวใจของเขาจะบังเกิดความพลุ่งพล่านขึ้น

ฉินเฟิงเร่งเดินออกไปอย่างรีบร้อน เพราะเขาเกรงว่ามันจะไปกระตุ้นให้คนอื่นๆเกิดความสงสัย

แต่ในเวลานั้นเอง เสี่ยวไป๋ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็เริ่มดีดดิ้น

“แอ๊!”

“มีอะไรงั้นหรอ?”

ฉินเฟิงตบเบาๆลงตรงหน้าอก เสี่ยวไป๋ก็เริ่มใช้กรงเล็บของมันลากบนฝ่ามือเขา ชี้ไปยังทิศทางซ้าย

ฉินเฟิงจึงเดินไปทางซ้าย และคราวนี้เสี่ยวไป๋ก็เริ่มตะกุยกระเป๋าเสื้อของเขา หางเล็กๆของมันส่ายไปมา กระทบกับหน้าอกของฉินเฟิง

ฉินเฟิงมองไปข้างหน้า และค้นพบว่ามีแก่นพลังงานสามลูกวางอยู่บนผ้าใบเบื้องล่าง

“เฮ้อ! แกจะกินแก่นพลังงานเป็นของว่างไม่ได้นะ!”

แม้ปากฉินเฟิงจะพึมพำเช่นนั้น ทว่าในหัวใจ บังเกิดความคิดที่ว่าศักยภาพของเสี่ยวไป๋ในภายภาคหน้านั้นไร้ขีดจำกัด ถึงเขากับมันจะยังไม่ได้ทำสัญญากัน แต่สติปัญญาของมันก็ไม่เลว ดูจากการเลือกแก่นพลังงานก็รู้แล้ว ดังนั้น หากช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้แก่มัน คงจะเป็นการดี

เมื่อคิดได้แบบนี้ ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ฉินเฟิงจะตามใจเสี่ยวไป๋

เพราะบางครั้ง สัตว์เลี้ยงก็เชื่อถือได้มากกว่าผู้คน

“ฉันอยากจะใช้ 2 ยาเสริมแกร่งเกรด F เพื่อแลกกับสามแก่นพลังงานนี้ จะได้ไหม?”

ฉินเฟิงเอ่ยถึงความต้องการของเขาทันที แม้ว่าแก่นพลังงานเหล่านี้จะอัดแน่นไปด้วยพลัง หากแต่ในเรื่องของความบริสุทธิ์ สิ่งเหล่านี้ไม่บริสุทธิ์เท่ายาเสริมแกร่งเกรด F -คนปกติธรรมดามิได้มีพลังพิเศษดูดกลืนเหมือนกับฉินเฟิง ดังนั้นพวกเขาย่อมดูดซับมันได้ยากกว่า

“ไม่ขัดข้อง!”

คนขายเองก็ตอบรับด้วยความยินดี เขาทำการแลกเปลี่ยนสามแก่นพลังงานกับฉินเฟิงโดยตรง

ฉินเฟิงไม่กล้าที่จะมอบแก่นทั้งสามให้กับเสี่ยวไป๋ในตอนนี้ เขาจึงเก็บพวกมันไว้ในกระเป๋าเสื้ออีกข้าง เสี่ยวไป๋ร้องโวยวายเล็กน้อยคล้ายกับรับรู้ได้ว่าอาหารของตนถูกเก็บไว้อีกที่หนึ่ง

หลังจากเสี่ยวไป๋งอแงเล็กน้อย มันก็เงียบไป ฉินเฟิงผ่อนคลายลง และเริ่มเดินเล่นสำรวจร้านค้าต่อไป

อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ที่เดินสำรวจมา ในบริเวณนี้ก็มีหลายสิ่งที่เขาสามารถนำมาใช้ได้อยู่เหมือนกัน

ไม่ว่าจะเป็นหญ้ากลางคืน ที่เมื่อบดมันแล้ว สามารถใช้ทาบนร่างกาย มีผลช่วยให้ร่างกายสามารถซ่อนเร้นในที่มืดได้ นี่เป็นของดีไว้ใช้หลบหนี และไม่ต้องสงสัยเลย ว่าภายในตัวหญ้าย่อมมีรูนธาตุมืด!

ไหนจะหนังค้างคาวดำอีก นี่ก็ของดีเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่มันมีแค่สามอันเท่านั้น!

สุดท้าย … เป็นแก่นพลังงานธาตุมืด แต่อันนี้ไม่ได้! เขาไม่อาจซื้อมัน เพราะการกระทำเช่นนั้น มันจะเป็นการระบุถึงสถานะผู้ใช้ธาตุมืดของเขาชัดเจนเกินไป!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท