โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 37

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Ch.37 – ปาร์ตี้รวมตัว

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.37 – ปาร์ตี้รวมตัว

เสี่ยวไป๋ไม่สนใจเสียงเรียกของฉินเฟิง มันหายวับไปอีกครั้งจากในตำแหน่งเดิม

และปรากฏตัวขึ้นอีกคราว บนท้องฟ้าในความสูง 60 เมตร

จากนั้น มันก็หายไปอีกครั้ง

ทำแบบเดิมเรื่อยๆกว่า 3 รอบ เสี่ยวไป๋ก็สามารถเข้าไปใกล้รอยแยกมิติได้สำเร็จ

“ระวังตัวด้วยนะ!”

หัวในของฉินเฟิงเต้นครึกโครมจนแทบจะหลุดออกมา

เสี่ยวไป๋หยั่งฝ่าเท้าน้อยๆลงบนกรงเล็บกระดูก ฉากนี้ไม่แตกต่างไปจากแมลงวันโฉบลงไปเกาะบนนิ้วมือมนุษย์!

แต่เสี่ยวไป๋ก็ยังคงพยายามอย่างหนัก ร่างกายของมันม้วนกลิ้งไปมาในอากาศ ในฉับพลัน พริบตาต่อมา ฉินเฟิงก็เห็นว่าหางของเสี่ยวไป๋เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเงิน กวาดเป็นวงแหลมเข้าใส่นิ้วมือทั้งหมด

ถูกต้อง ท่านคาดเดาไม่ผิดแล้ว มันกำลังหยุดไม่ให้นิ้วมือเหล่านั้นแหวกรอยแยกมิติออก

ตามรอยแยกคล้ายถูกเติมเต็มไปด้วยปูนซีเมนต์ ชั้นอากาศที่แตกร้าวถูกปิดลงอย่างกระทันหัน แต่ในหูของฉินเฟิงก็ยังคงแว่วเสียงคำรามดังลอดออกมา

“เปรี้ยง!”

เมื่อถูกตัดอำนาจสั่งการ มือกระดูกยักษ์ก็สูญสิ้นการควบคุม สลายรูปที่คงไว้ทันที ร่วงตกลงกลางอากาศ

ส่วนเสี่ยวไป๋ ร่างของมันกระพริบไหวและหายตัวไปอีกครั้ง

“ฟู่ววว …”

ฉินเฟิงถอนหายใจโล่งอก เขาสัมผัสได้ว่าแรงกดดันอันตรายเหนือหัวได้หายไป

ภัยพิบัติมลายหาย ทุกอย่างจบลงแล้ว!

ในจังหวะนั้นเอง อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงก็เริ่มสั่น

“มิสเตอร์ฉิน ขอบคุณสำหรับข้อมูลของคุณ ตามการตรวจสอบ รอยแยกมิติได้ปิดลงไปแล้ว แต่สถานที่แห่งนั้นก็ยังมีอันตรายอยู่ ทางเราจะเปิดใช้งานรูนมิติเพื่อทำการเก็บกวาดรอยร้าว ให้มันกลับมามีเสถียรภาพ และขอขอบคุณสำหรับผลงานในการช่วยเหลือมนุษยชาติ ทางเราขอตอบแทนโดยการมอบเงินให้แก่คุณเป็นจำนวน 10,000 เหรียญ!”

ในบัญชีของฉินเฟิง เงิน 10,000 ถูกโอนเข้ามา

จากนั้น ฉินเฟิงก็เห็นแสงสีเงินปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า เจาะทะลุชั้นเมฆ ตกลงมายังเขา

เดิมที รอยแยกมิติบนท้องฟ้าที่มีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือนั้นถูกปิดไปแล้วโดยเสี่ยวไป๋ เพียงแต่ชั้นอากาศที่แตกระแหงยังคงปรากฏอยู่โดยรอบ

ภายใต้แสงสีเงินนี้ อากาศที่แตกร้าวก็ค่อยๆจางหายไป และในที่สุดก็เกิดเสถียรภาพขึ้นเหมือนดั่งในตอนแรก

คราวนี้ จะไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นอีกแล้ว!

“แอ๊ แอ๊!”

ร่างเล็กๆของเสี่ยวไป๋ปรากฏขึ้น ร่อนลงบนเหนือรถล่องเวหา ขณะเดียวกันก็คาบมือๆหนึ่งไว้ในปาก

และมือที่ว่า … คือมือเดียวกันกับที่แทรกออกมาในตอนที่เกิดรอยแยกมิติ!

“นี่มัน … ”

เสี่ยวไป๋คายมือที่ว่าลง เห็นได้ชัดว่ามันถูกตัดออกโดยมิติ หากแต่มือนี้กลับไม่ปรากฏร่องรอยความเสียหายใดๆเลย ในทางตรงกันข้าม มันกลับดูเหมือนมือรูปปั้นที่ไม่บุบสลาย และเมื่อได้ลองเพ่งมองอย่างใกล้ชิด ก็จะพบว่ามันกำลังเปล่งแสงสีเงินอยู่

“แอ๊!” เสี่ยวไป๋ร้องออกมา

“แกกำลังจะบอกให้ฉันดูดกลืนมันงั้นหรอ?” ฉินเฟิงถาม

เสี่ยวไป๋ผงกหัวเล็กน้อย หลังจากทำสัญญากับฉินเฟิงแล้ว ฉินเฟิงก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เสี่ยวไป๋ต้องการจะสื่อสารได้เล็กๆน้อยๆ

แน่นอนว่ามันเองก็เช่นกัน มิฉะนั้นคงไม่รู้ใจเขา คาบมือนี้กลับมา

“จัดไป!”

ฉินเฟิงกระตุ้นพลังพิเศษ อำนาจดูดกลืนปะทุออกมา เริ่มซึมซับพลังงานจากมือรูปปั้นนี้อย่างรวดเร็ว

นับตั้งแต่เกิดใหม่ พลังพิเศษดูดกลืนของเขา ยิ่งนานวัน มันก็ยิ่งเผยถึงอำนาจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน การดูดกลืนมือที่ไร้ชีพจรทว่ากลับเปี่ยมไปด้วยพลัง เป็นไปอย่างง่ายดาย

แต่ผลที่ได้มา กลับไม่ใช่อะไรธรรมดาๆที่เรียบง่ายเลย

พลังงานในมือนี้ ช่างพลุ่งพล่าน สูงล้ำเกินกว่าจะจินตนาการ!

และพลังงานที่ว่านี้ ยังช่วยสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กระดูกของฉินเฟิงโดยตรง

ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินเฟิงก็รู้สึกเพียงแค่ว่าตามมวลกระดูกเขาเกิดอาการคันยิบๆ กระทั่งบางจุดก็ส่งเสียงดังเป๊าะ เกิดการแตกออกขึ้น แต่ในรอยแตกที่ว่ามันก็มาพร้อมกับแสงสีเงินและความทนทานอย่างหาที่เปรียบมิได้แทรกซึมเข้าไปเช่นกัน

ด้วยการพัฒนาของมวลกระดูกนี้ ส่งผลให้ความเร็ว , พละกำลัง ของฉินเฟิงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

กายเนื้อของเขาเกิดการวิวัฒนาการอีกครั้ง

ก้าวขึ้นสู่เลเวล G6 !

“ไม่คาดฝันเลยว่าฉันจะสามารถเก็บเกี่ยวโชคลาภแสนล้ำค่าได้แบบนี้!”

จุดประสงค์เดิมของฉินเฟิงคือมาที่นี่เพื่อกวาดล้างภัยคุกคาม และสังหารสัตว์ร้ายบางตัวในระหว่างทาง

แต่ปัจจุบัน เขากลับได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล ชนิดที่เรียกได้เลยว่าสามารถปีนป่ายขึ้นสู่สรวงสวรรค์ได้ในก้าวเดียว!

ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วฉินเฟิงจะไม่มีความสุขได้อย่างไร?

บางที นี่อาจจะเป็นรางวัลสำหรับการคิดกระทำความดีของเขาก็ได้ล่ะมั้ง?

แน่นอน ว่าความสุขของฉินเฟิง ไม่ช้าเร็วมันก็กลายเป็นหมดหนทาง

เพราะในแก่นอบิลิตี้ของเขา แม้รูนมืดจะยังคงถูกเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนใกล้จะเหยียบ 20000 แล้วก็ตาม หากแต่มันจำเป็นต้องใช้พลังสมาธิ ในการกระตุ้นพวกมัน

ทว่าพลังสมาธิในปัจจุบันของฉินเฟิงยังคงอยู่ในเลเวล G และจำนวนรูนที่เขาสามารถกระตุ้นได้ มากสุดก็แค่ 1000 เท่านั้น!

มีภูเขาสมบัติกองอยู่ตรงหน้า หากแต่ไม่สามารถใช้งานมันได้ คงไม่ต้องบรรยายมากไปกว่านี้ว่าฉินเฟิงรู้สึกหดหู่เพียงใด

“ช่างมันเถอะ ตอนนี้ฉันมีสถานะร่วมกันระหว่างผู้ใช้อบิลิตี้และผู้ใช้วรยุทธโบราณ เพราะงั้นฉันคงไม่จำเป็นต้องรีบใช้งานมันถึงขนาดนั้น!”

ฉินเฟิงเมื่อคิดได้แบบนี้ จึงค่อนผ่อนคลายลงในที่สุด

จากนั้น เขาก็ยังไม่ได้ออกไปจากทุ่งล่าในทันที หากแต่เริ่มไล่ล่าสัตว์ร้ายอีกครั้ง

แม้ว่าศิลานรกจะถูกดูดกลืนโดยฉินเฟิงแล้วก็ตามที หากแต่ยังมีหมอกจากรูนมืดกระจัดกระจายไปตามสถานที่ต่างๆอยู่ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่สัตว์ร้ายอาจจะติดเชื้อจากหมอกมืดนี้ได้

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ สัตว์ร้ายที่ปนเปื้อนไปด้วยหมอกมืดนี้ จะถูกยกระดับความแข็งแกร่งของพวกมัน และจากนั้น พวกมันก็จะกลายเป็นติดเชื้อ และเริ่มล่าสังหารสัตว์ร้ายตนอื่นๆ

ในเมื่อตัดสินใจว่าจะเป็นคนดีตั้งแต่ต้น ดังนั้น ฉินเฟิงจึงต้องทำดีต่อไปจนจบ!

ในทุ่งล่า ฉินเฟิงสับฝีเท้าอย่างเมามัน ไล่ล่าลิงที่ทั้งร่างเป็นสีเทา และถูกปกคลุมไว้ด้วยไอสีดำ

ขนบนร่างของลิงร่วงหล่นจนสิ้น คล้ายกับว่ามันตกตายไปแล้ว

นี่คือลิงหางยาว เป็นสัตว์ร้ายที่แสนจะก้าวร้าวและว่องไวเป็นอย่างมากในทุ่งล่า

แต่ตอนนี้ ลิงตัวที่ว่าถูกปนเปื้อนด้วยหมอกมืด ตามร่างของมันเริ่มเน่าเปื่อยผุพัง แต่ความเร็วกลับไม่ลดลงเลย!

“จงตายให้ฉันซะดีๆ!”

ฉินเฟิงไม่สามารถไล่ตามจับลิงหางยาวได้ ดังนั้นเขาเลยจำเป็นต้องใช้วิธีอื่น

พลังสมาธิถูกกระตุ้น และในวินาทีต่อมา แสงสีดำก็พลันสาดประกาย

แสงสีดำที่ว่า ไม่เพียงดำสนิท หากแต่มีเส้นใยสีแดงอยู่ภายใน ซึ่งนี่คือพลังพิเศษใหม่ที่เกิดจากรูนที่ถูกเลือกจากในแก่นอบิลิตี้ ฉินเฟิงเรียกมันว่า : เพลิงโลกันต์!

การระเบิดของพลังพิเศษนี้รวดเร็วเป็นอย่างมาก ไม่ช้าก็เข้าถึงตัวลิงหางยาว และเริ่มลุกไหม้มันอย่างรวดเร็ว

“กี๊ กี๊!”

ราวกับจิตวิญญาณถูกแผดเผา ลิงหางยาวร่วงตกลงจากต้นไม้ กระแทกกลิ้งลงกับพื้น

ทว่าเพลิงโลกันต์ก็ยังไม่มอดดับลง มันลุกลามไปทั่ว ผลาญร่างลิงหางยาวไปกว่าครึ่งในชั่วพริบตา

สุดท้าย ฉินเฟิงก็ชักมีดสั้นออกมา และฉับ! ตัดหัวลิงหางยาวในคมกล้าเดียว

“วุ่นวายจริงๆกว่าจะจัดการกับแก!”

ฉินเฟิงผ่อนลมหายใจ

หลังจากที่เกิดการเน่าเปื่อยบนตัวของลิงหางยาว เลยส่งผลให้ไม่สามารถได้รับวัตถุดิบใดๆจากมัน ผลเก็บเกี่ยวเพียงอย่างเดียวที่ยังเหลืออยู่ก็คือ ในหัวของลิงหางยาว จะมีแก่นพลังงานที่ครอบครองพลังมากกว่าปกติอยู่

ใช่แล้วล่ะ ในสมองหลังจากที่ร่างศพเกิดการเน่าเปื่อย ก็เป็นแก่นพลังงานนี้นี่เอง ที่คอยสนับสนุน ให้ศพไร้ชีวิต เกิดการเคลื่อนไหวทางชีวภาพได้

ต่อให้เป็นสัตว์ร้ายสุดแสนธรรมดา แต่หากหลังจากที่กลายเป็นซากศพเดินได้ มันก็จะมีแก่นพลังงานเป็นของตนเอง ทั้งทีตามปกติแล้ว ทหารสัตว์ร้ายมีโอกาสเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะมีแก่นพลังงาน ขณะที่นายพลสัตว์ร้ายขึ้นไปเท่านั้นที่จะมีโอกาสมีแก่นพลังงาน 100 %

ฉินเฟิงไม่คิดเก็บสมองของลิงหางยาว เขาควักเอาแก่นพลังงานภายในออกมาทันที

มูลค่าของแก่นพลังงานเหล่านี้สมควรที่จะต่ำ แต่แก่นพลังงานหนึ่งอันก็มีค่าไม่น้อยไปกว่า 10000 เหรียญ ในขณะที่ฉินเฟิงสามารถเก็บรวบรวมมันมาได้มากกว่า 300 แก่นแล้ว ฉะนั้น กล่าวได้ว่านี่มันเพียงพอที่จะใช้จ่ายค่าอุปกรณ์สั่งทำเองก่อนหน้านี้!

“เอาล่ะ ถึงเวลาที่ควรจะกลับไปซักที”

นี่มันก็ผ่านมา 9 วันแล้ว และในอีก 1 วัน ก็จะถึงเวลาที่เขาจะต้องกลับไปรับสินค้าพอดี

“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!”

อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงสั่น ทว่าเมื่อก้มลงมอง เจ้าตัวก็ต้องประหลาดใจเล็กน้อย

-ปรากฏว่าเป็นเฉินหมิงที่โทรมา!

บางที อาจเป็นเพราะหลังจากจบพิธีการศึกษา เฉินหมิงได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา หรือไม่ก็เพราะรอยแยกมิติปรากฏขึ้น แต่เขากลับวิ่งหนีไปคนเดียว เลยไม่มีหน้าที่จะติดต่อกับฉินเฟิงหรือโจวฮ่าวอีก

ทว่าในวันนี้ เขากลับโทรหาฉินเฟิง นี่มันคาดไม่ถึงจริงๆ

“ฉินเฟิง วันพรุ่งนี้ชั้นเรียนของพวกเราจะจัดปาร์ตี้รวมตัวกัน นายต้องมาให้ได้นะ ห้ามลืมล่ะ!”

“จัดปาร์ตี้รวมตัว? ” ฉินเฟิงทวนคำซ้ำ ในสมองขบคิดว่างานแบบนี้มันจัดขึ้นเมื่อไหร่กัน?

เพราะในชีวิตก่อนหน้า งานที่ว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท