โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 56

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Ch.56 – สังหารไวเปอร์

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.56 – สังหารไวเปอร์

“ปลดปล่อยแรงผลัก!”

ทักษะลับกลืนดาราปะทุออก แรงดึงดูดเปลี่ยนผัน ระเบิดพลังผลักโถมเข้าปะทะตัวรถ ฉากนี้เปรียบดั่งไม้เบสบอลที่หวดเต็มรักเข้าใส่ลูกเบสบอล ส่งรถยนต์พุ่งกลับไปยังทิศทางเดิมทันที

เห็นได้ชัดว่าไวเปอร์ไม่คาดคิดว่าฉินเฟิงจะไม่เพียงต่อต้านการโจมตีของเขา แต่ยังถึงขั้นส่งมันกลับคืน

ไวเปอร์ตระหนักว่าตนไม่อาจตั้งรับพาหนะคันนี้ได้ หากยืนเฉยเขาคงถูกรถบดขยี้ ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง

ไวเปอร์โน้มตัวลง โฉบหลบเลี่ยงทันที

ตูม!

รถเล็กร่วงกระแทกกับพื้นถนน บังเกิดประกายไฟ ตามต่อด้วยการระเบิดรุนแรงอย่างกระทันหัน

กำลังภายในห่อหุ้มทั้งตัวของฉินเฟิง โดยเฉพาะสองเท้า มันหยั่งลงกับพื้นอย่างสงบ

สายตามืดมนของไวเปอร์หันขวับ! เมื่อเห็นว่าใบหน้าของฉินเฟิงยังดูอ่อนเยาว์ สีหน้าของเขาก็กลายเป็นน่าเกลียดยิ่ง

“ไอ้เด็กขนยังไม่ขึ้น ในเมื่อแส่หาเรื่องดีนัก งั้นฉันก็จะฆ่าแกก่อน!”

เด็กน้อยที่ยังไม่มีกระทั่งโลโก้ผู้ใช้พลัง ดันกล้ามายั่วยุตนเองอย่างกระทันหัน นี่มันไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วหรือไร?

ไวเปอร์ปรี่เข้าใส่อย่างคลุ้มคลั่ง

ตูม!

ตามด้วยหนึ่งหมัดซัดใส่ฉินเฟิง

ฉินเฟิงไม่อยู่เฉย และแน่นอนว่าไม่หลบเลี่ยง เขาวาดกำปั้นสวนกลับไป!

เส้นไหมกำลังภายในทั้ง 27 ถูกควบรวมอย่างรวดเร็ว ถ่ายเทเข้าสู่เส้นลมปราณ พลังโจมตีพุ่งทะยานสูงขึ้นไม่มีหยุดยั้ง!

กำลังภายในของฉินเฟิงในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ มันไม่เลวร้ายไปกว่าผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล F เลย

เปรี้ยงงงง!

หมัดลุ่นๆบรรจบเข้าหากัน หากฟังเพียงเสียงปะทะอย่างรุนแรง คงแทบไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือกระแทกกันระหว่างเนื้อกับเนื้อ!

ไวเปอร์รู้สึกได้ถึงพลังอำนาจที่ส่งผ่านเข้ามาทางกำปั้น ดวงตาของเขาเบิกกว้าง คลุ้มคลั่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ไอ้หนู งั้นมาดูกันว่าแกจะทนต่อไปได้อีกนานแค่ไหน!”

ไวเปอร์คำรามอีกครั้ง

เปรี้ยง! เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!!

สองหมัดปะทะเข้าหากัน พละกำลังปะทะพละกำลังเพียวๆ แต่ผ่านไปสักพักแล้ว ฉินเฟิงก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะเสียเปรียบเลย

ด้วยพลังดึงดูดที่เกิดจากทักษะลับกลืนดารา ส่งผลให้ไวเปอร์รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก แต่ทางฉินเฟิงเอง ก็ค้นพบว่าศัตรูแข็งแกร่งมากเช่นกัน เลยทำให้เขาไม่สามารถดูดกลืนกำลังภายในของอีกฝ่ายได้

“มารดามันเถอะ!” ไวเปอร์ยิ่งนานก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว

ไอ้เด็กเหลือขอนี่มันจัดการได้ยากจริงๆ

ช่วงเวลานั้นเอง ในที่สุดจางฮั่วหยางและคนอื่นๆก็ตามมาสมทบจากเบื้องหลัง

ฉินเฟิงกำลังพัวพันอยู่กับไวเปอร์ สามคนที่เหลือเขามาโอบล้อมอาชญากรทันที

“ไวเปอร์ แกหนีไม่พ้นแล้ว!”

“เจ้าหนู ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง!” หนึ่งในสหายของจางฮั่วหยางที่ตามมา ฟังจากน้ำเสียงบ่งบอกชัดเจนว่าไม่เห็นฉินเฟิงอยู่ในสายตา

ทั้งร่างของจางฮั่วหยางเขม็งเกร็ง เอ่ยปากสั่งโดยตรง “ลุยเลย!”

เมื่อทั้งสามประสานโจมตี ไวเปอร์ดูท่าว่าคงจะไม่รอดแน่ๆแล้ว

“บัดซบ! บัดซบ!! บัดซบ!!!”

ไวเปอร์สบถซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ความแข็งแกร่งของไวเปอร์อยู่ในช่วง F2 เท่านั้น แต่เขาว่องไวเป็นอย่างมาก และเก่งกาจในด้านการหลบหนีซ่อนตัว ตรงจุดนี้เองที่ทำให้อีกฝ่ายหลุดมือจากจางฮั่วหยางและคนอื่นๆไปได้ แต่ตอนนี้ทั้งสามสามารถล้อมตัวเขาเอาไว้แล้ว ดังนั้นสถานการณ์ปัจจุบันของไวเปอร์ ไม่ต่างอะไรกับถูกขึงติดกับความตาย

“พวกแกบังคับฉันให้ต้องทำแบบนี้เองนะ! ในเมื่อฉันจะตาย ถ้างั้นพวกแกก็ต้องตายไปพร้อมกัน!”

จู่ๆไวเปอร์ก็ฉีกยิ้มน่าหวาดกลัว ฉกมือไปคว้าหลอดยาสีเขียวออกมา ปักเข็มฉีดน้ำยาเข้าใส่ในร่างกายโดยตรง

“อ๊าาาาาาาา!!!”

ไวเปอร์ร้องโหยหวน

ต่อมา ร่างของเขาก็เริ่มปูดบวม เกิดการบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง เกล็ดสีเขียวผุดขึ้นตามผิวหนังของเขา พริบตาเดียว ไวเปอร์ก็กลายเป็นสัตว์ที่มีรูปลักษณ์คล้ายงูยักษ์ ขนาดตัวหนาราวกับถังใบใหญ่ ร่างกายยืดยาวไปถึง 4-5 เมตร

“นั่นมันร่างทดลองมนุษย์กลายพันธุ์!”

ฉินเฟิงดีดตัวถอยห่างทันที สัญชาตญาณร้องเตือนอย่างบ้าคลั่งถึงภัยอันตราย

การทดลองขององค์กรมืดนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง พวกเขาสามารถพัฒนาอาวุธมนุษย์ที่น่าหวาดกลัวขึ้นมาได้ โดยการถ่ายยีนส์เข้าไปในร่างกายมนุษย์โดยตรง เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นสัตว์ร้ายที่ทรงพลัง เพิ่มพูนกำลังรบในสถานการณ์วิกฤติ

ส่วนไวเปอร์คนนี้ แต่เดิมมีความแข็งแกร่งอยู่ในเลเวล F2 เท่านั้น ทว่าหลังจากฉีดยีนกลายพันธุ์เข้าไป ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มพูนขึ้น จนเทียบเคียงได้กับนายพลสัตว์ร้ายเลเวล F !

หรือกล่าวได้ว่า ศัตรูในปัจจุบัน แข็งแกร่งเกินกว่าขอบเขตที่ฉินเฟิงจะสามารถรับมือได้ตรงๆไปแล้ว

“ฟ่อ!!” ไวเปอร์ส่งเสียงคำรามที่ไม่เหมือนมนุษย์ออกมา

จางฮั่วหยางและคนอื่นๆ เกิดความตื่นตระหนกครั้งใหญ่ แม้พวกเขาต้องการจะหลบหนี ก็เกรงว่ามันจะสายเกินไป

ร่างของไวเปอร์ขดตัวเป็นเกลียว แล้วดีดผึง! เหวี่ยงทั้งตัวออกไปเป็นแนวขวาง ผู้ใช้วรยุทธโบราณที่อยู่เบื้องหน้าฉินเฟิงถูกฟาดปลิวกระเด็นออกไป

พรวดดดด!

ละอองเลือดทะลักจากปาก แต่ดูจากสภาพแล้ว น่ากลัวว่ากระทั่งกระดูกซี่โครงตรงหน้าอกคงเกือบแหลก

พลังอำนาจของมนุษย์ เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ร้าย กลับกลายเป็นว่าช่างแสนอ่อนแอ

จางฮั่วหยางถอยห่างไม่ยอมหยุด แต่ไวเปอร์ก็เลื้อยวูบไหวไล่ล่า อ้าปากที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสีแดงฉาน แสดงท่าทีราวกับว่ามันปรารถนาจะกลืนกินจางฮั่วหยางลงไปทั้งตัว

ฉากนองเลือดดังกล่าวนี้ เพียงมอง ก็ส่งผลให้ผู้คนสั่นสะท้านด้วยความสยองขวัญในจิตใจ

แต่ในช่วงเวลานั้นเอง ฉินเฟิงผู้ซึ่งเป็นคนแรกที่ถอยหนี ก็ยกฝ่ามือขึ้นอย่างเร็ว ระเบิดพลังสมาธิออกมาอย่างกระทันหัน

“เปลวไฟเอ๋ย จงปะทุ!”

เปลวไฟพลันลุกโหม ก่อตัวเป็นก้อนกลมขนาดใหญ่ในมือของฉินเฟิง

ไม่เพียงแค่นั้น แต่ไฟที่เกิดจากการระเบิดของรถคันเล็กก่อนหน้านี้ ราวกับว่าถูกดึงดูดโดยธาตุเดียวกัน มันม้วนตัวมาทางฉินเฟิง ฉากนี้ราวกับมังกรเพลิงกำลังร่ายรำอยู่ในอากาศ

“จงมอบพลังให้แก่ฉัน!”

สิ้นเสียง ฉินเฟิงก็ผลักสองมือออกไป มังกรเพลิงขนาดใหญ่ม้วนผ่านสนามรบ กรีดฝ่าอากาศส่งเสียงหวีดหวิว ชนเปรี้ยง! เข้าเต็มหลังของไวเปอร์

ตูม!

อำนาจมหาศาลส่งไวเปอร์ปลิวกระเด็นออกไป

เปลวไฟโถมเข้าห่อหุ่มร่างศัตรูทันที มังกรเพลิงม้วนเป็นเกลียวขึ้นไปบนฟากฟ้า กลายเป็นเสาอัคคีขนาดย่อม

“อ๊ากกกกกกกกก!!”

ไวเปอร์กรีดร้องเสียงหลง

“เพลิงโลกันต์!”

ฉินเฟิงยังไม่ยอมหยุดโจมตีเพียงเท่านี้ มือของเขายกขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้บนฝ่ามือ กลับมีเพียงลูกบอลสีดำแดงเล็กๆ

นี่คือเพลิงโลกันต์ที่ผสานเข้ากับพลังธาตุมืด

บอลไฟสีดำถูกขว้างออกไปอย่างเงียบๆ ไม่มีผู้ใดพบเห็น ตกเข้าใส่ตรงกลางหัวงูยักษ์อย่างลับๆ

พรึบบบ!!

ยามเมื่อเพลิงโลกันต์ประทับลง ทุกอย่างเฉพาะตรงที่มันสัมผัสก็ถูกแผดเผาเป็นเถ้าถ่านทันที ปรากฏหลุมบ่อขนาดใหญ่ขึ้นบนหัวของไวเปอร์

ทั้งร่างของไวเปอร์ที่กำลังดิ้นเร่าๆอย่างรุนแรงพลันหยุดจะชักลงอย่างกระทันหัน

อาชญากรไวเปอร์ … ได้ตายลงแล้ว!

“ฮู่ว .. ฮุ่ว … ” จางฮั่วหยางผู้รอดชีวิตจากหายนะไม่ทันได้ตอบสนอง เขาทำได้เพียงสูดลมหายใจเท่านั้น เมื่อได้สติ เขาก็มองไปทางฉินเฟิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในสายตา

ช่างเป็นพลังพิเศษที่แข็งแกร่งจริงๆ!

“ที่แท้เขาก็เป็นผู้ใช้อบิลิตี้!” จางฮั่วหยางมิอาจทำใจเชื่อได้ เขาย้อนคิดไปถึงความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิงก่อนหน้านี้

หรือว่าเขาจะเป็นทั้งผู้ใช้วรยุทธโบราณและผู้ใช้พลังพิเศษ?

อย่างไรก็ตาม เมื่อจางฮั่วหยางเบนสายตาไปมองล้อรถบรรทุกสีน้ำเงินอีกครั้ง มุมปากของเขาก็ต้องยกสูงขึ้นด้วยความขมขื่น

กระทั่งฝีมือการยิงปืนก็ยังแม่นยำ เจ้าเด็กฉินเฟิงเป็นใครกันแน่นะ? มีอะไรที่เจ้าหนูนี่มันทำไม่ได้บ้าง?

ในเวลานั้นเอง ฉินเฟิงก็ยกมือขึ้น และเรียกรูนไฟกลับคืน

“จงมอดดับ!”

เปลวไฟดับลงโดยอัตโนมัติ ศพของไวเปอร์ถูกเปิดเผยสู่สายตา

ร่างของงูยักษ์ในปัจจุบัน ได้กลายเป็นสีโค้กไปแล้ว ตรงส่วนหัวถูกเจาะเป็นรู แทบจะจดจำไม่ได้ถึงรูปลักษณ์ของมนุษย์

กลืนกิน!

ฉินเฟิงเร่งใช้พลังพิเศษกลืนกินด้วยท่าทีสงบ

พลังงานที่ไม่รู้จักถูกส่งผ่านออกมาจากศพของไวเปอร์ ป้อนเข้าสู่ร่างกายของฉินเฟิง

หลังจากไวเปอร์ใช้ยาเปลี่ยนแปลงยีนแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาก็เทียบเท่าได้กับนายพลสัตว์ร้ายเลเวล F ดังนั้นพลังงานที่มีย่อมมากเป็นธรรมดา ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงพลังที่คุ้นเคย ช่วงเวลาแห่งการยกระดับกำลังจะมาเยือนในไม่ช้า

ร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง ระบบพลัง , ความเร็ว พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

ยกระดับขึ้นสู่เลเวล G9 !

เพียงหนึ่งเดือนของการปลุกพลัง อีกเพียงแค่ก้าวเดียว ฉินเฟิงก็จะกลายเป็นผู้ใช้พลังเลเวล F แล้ว!

“แอ๊!”

เสี่ยวไป๋กระโดดออกจากรถ แต่อุ้งเท้าสีขาวราวหิมะของมันมิได้แนบกับพื้นดิน นี่ก็เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เปื้อนฝุ่น

เนื้อและเลือดที่อยู่ใกล้กับผิวหนังชั้นนอกถูกย่างเป็นถ่านก็จริง แต่ภายในยังคงสดอยู่ นอกจากนี้ข้างในยังมีแก่นพลังงานปรากฏขึ้นอีกด้วย!

เห็นได้ชัดว่าที่เสี่ยวไป๋วิ่งออกมา ก็เพื่อจะเอาแก่นพลังงานนี้

ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า หยิบเอาแก่นพลังงานสีแดงขนาดเท่ากำปั้นขึ้นมา

“ถือซะว่านี่เป็นสินสงคราม จากความพยายามของฉันก็แล้วกัน!” ฉินเฟิงกล่าว

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท