Ch.113 – สู้กับราชันย์สัตว์ร้าย
Translator : Muntra / Author
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.113 – สู้กับราชันย์สัตว์ร้าย
แสงสีขาวทองสาดประกายอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆจางหายลง จนสามารถมองเห็นถึงอาวุธที่อยู่ภายในได้
ในกระบวนการผลิตครั้งล่าสุด เนื่องจากวัตถุดิบอย่างเขี้ยวของราชันย์หนูมีไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้นจึงสามารถสร้างได้แค่มีดสั้นเท่านั้น แต่ตอนนี้ มีดกษัตริย์ครามได้รับการอัพเกรดด้วยวัตถุดิบใหม่ มันจึงมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ปัจจุบันทั้งตัวมีดมีความยาวกว่า 70 ซม. ในส่วนของด้ามจับไม่สามารถขยายได้ ดังนั้นจึงเป็นในส่วนของใบมีดที่มีความยาวเพิ่มขึ้นมาราวๆ 15 ซม. ดูเหมาะแก่การสังหารมากขึ้น ความกว้างใบมีดเพิ่มขึ้นอีก.05 กลายเป็นกว้าง3.8 ซม. ขณะที่ความหนาเพิ่มเป็น 0.9 ซม.
ปัจจุบัน มันดูไม่เหมือนกับมีดของราชวงศ์ถังอีกต่อไป แต่ยังคงไว้ซึ่งความคล่องแคล่วและเฉียบคม ใบมีดไม่ใช่สีหม่นอีกต่อไป แต่กลายเป็นเข้มยิ่งกว่าเดิม เป็นสีครามอย่างแท้จริง
บางที นั่นอาจเป็นเพราะมันถูกผสานรวมกับเหล็กดาราก็ได้ นอกจากนี้บนใบมีดยังมีแสงดาวกระพริบไหวเล็กน้อย และยังมีลวดลายที่คดเคี้ยว สาดแสงสีฟ้าครามยิ่งกว่าเก่า ดูลึกล้ำมากขึ้น
“เป็นมีดที่ดี!”
ฉินเฟิงกล่าวยกย่องคำหนึ่ง
เขาหยิบมีดกษัตริย์ครามขึ้นมา
“เอ้านี่ฝักของมัน ฉันเตรียมเอาไว้ให้แล้ว มีดเล่มนี้ ในตอนที่เธออยู่ท่ามกลางผู้คน มันไม่เหมาะที่จะถูกเผยโฉม เธอไม่ควรแสดงของมีค่าของตัวเองให้ใครเห็นง่ายๆ!” หลิวเซินซานมอบฝักมีดให้แก่ฉินเฟิง
ฝักนี้มิได้ทำจากขนของราชันย์หนู มันเป็นแค่ฝักธรรมดา แต่เอาไว้หลังจากที่ฉินเฟิงออกตามล่าวัตถุดิบดีๆ แล้วเขาค่อยนำมันมาให้ลุงหลิวสร้างให้ใหม่ก็ได้!
อย่างไรก็ตาม หลิวเซินซานพูดถูก ความมั่งคั่งของตนเองไม่สมควรถูกเปิดเผย มีดกษัตริย์ครามในวันนี้ ปรากฏแสงสีทองสาดออกมาเล็กน้อย นั่นหมายความว่ามันเกินกว่าระดับราชันย์สัตว์ร้าย เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นได้กับเฉพาะวัตถุดิระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายเท่านั้น
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเหล็กดารา
“ก็ในเมื่อเจ้าของมันยังแข็งแกร่งไม่เพียงพอ ดังนั้นย่อมต้องแบกรับความผิดบาป คอยเก็บซ่อนมันไว้เป็นธรรมดา” ฉินเฟิงยิ้ม “แต่ในคืนนี้ ท่ามกลางช่วงเวลาอันมืดมิดที่ไม่มีใครเห็น มันจะได้ฉลองเลือดในการถือกำเนิดใหม่!”
ฉินเฟิงเก็บมีดกษัตริย์ครามลงในฝัก ก้าวเดินออกไปสู่ภายนอก
ช่วงเวลานี้ วังเฉินและคนอื่นๆยังไม่ได้พักผ่อน เพราะท้ายที่สุดแล้ว จำเป็นต้องมีบางคนคอยเฝ้ายามตอนกลางคืน
โดยไม่ส่งเสียงดัง รบกวนจนปลุกหลิวซูและคนอื่นๆภายในห้อง ฉินเฟิงกับไป๋หลีเคลื่อนย้ายกระสอบทรายที่คอยขวางกั้น ก้าวเข้าสู่ความมืดมิด
เหอหลิงกับคนอื่นๆเฝ้ามองทั้งสองคนหายไป
“นายคิดว่าพวกเขาจะคว้าชัยชนะมาได้รึเปล่า?”
“ไม่รู้สิ … ”
“ส่วนฉัน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่จู่ๆก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า พวกเขาอาจจะทำได้ก็ได้”
หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกต่อไป เพราะท่ามกลางความมืดมิด เสียงสามารถแพร่กระจายไปได้ไกล มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแมลงสัตว์ร้ายบางตัวได้ยินเข้า?
ยังไงก็ตาม ในสวนหลังบ้านพวกเขาไม่สามารถมองเห็นฉากภายนอกได้ ทั้งหมดนิ่งงันไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ก็ทนไม่ไหวคล้ายถูกจั๊กจี้ในหัวใจ!
“พวกเราไปดูกันดีกว่า” จู่ๆเหอหลิงก็เอ่ยปาก
เซ่าเซี่ยงกัดฟันของเขา สุดท้ายพยักหน้า “งั้นปีนขึ้นไปบนห้องใต้หลังคา น่าจะเห็นได้ง่ายขึ้น”
“ดีล่ะ!” วังเฉินอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น เจ้าตัวพยักหน้าและกล่าว
ทั้งสามทยอยกันออกไปทีละคน ปีนขึ้นไปถึงชั้นสี่ แล้วก็พบเจอกับห้องที่เหมาะสม เริ่มจัดวางปืนไรเฟิล เพื่อจะใช้กล้องสโคปของมันสังเกตสถานการณ์ภายนอก
เหนืออาคารที่อยู่ไกลออกไป ฉินเฟิงห้อยมีดกษัตริย์ครามไว้ที่เอวของเขา และใช้สะโพกตน ควบม้าศึกทมิฬ
ม้าศึกตัวนี้เป็นหนึ่งในสินสงครามจากราชันย์อัศวิน ตราบใดที่ถ่ายเทพลังงานมืดลงไป ก็จะสามารถควบขี่มันได้ และความเร็วของมัน กระทั่งรถศึกก็ไม่อาจไล่ตามทัน!
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ม้าศึกตัวนี้สามารถเดินเหินได้ดั่งใจนึก โดนไม่จำเป็นต้องสนใจภูมิประเทศแต่อย่างใด
ขณะนี้ ฉินเฟิงกำลังจ้องมองไปยังแม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็ก ที่อยู่ไกลออกไป
ส่วนไป๋หลี อยู่ข้างหลังเขา เธอกำลังใช้เท้าหยั่งลงบนอานของมัน แต่อันที่จริงแล้วไม่ได้เหยียบด้วยซ้ำ แต่อยู่ในสภาวะลอยตัว
“ตัวโคตรใหญ่เลย แบบนี้คงจะดีกว่าถ้าไม่สู้กันในระยะประชิด”
ฉินเฟิงถอนหายใจ
อันที่จริง ต่อให้สัตว์ร้ายมีขนาดเล็ก ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่แข็งแกร่ง แต่หากตัวใหญ่กว่า ก็ยิ่งมีพละกำลังมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
และด้วยขนาดตัวมโหฬารขนาดนี้ ตราบใดที่ขาข้างหนึ่งของแม่พันธุ์แทงใส่ฉินเฟิง บาดแผลย่อมมีขนาดเท่ากับถังไม้ ถึงเวลานั้นต่อให้เป็นฉินเฟิง ก็คงจะตายลงทันที
“เสี่ยวไป๋ ส่งปืนใหญ่มือมาให้ฉัน”
“เอ้า รับนะ!”
เสี่ยวไป๋จี้นิ้วออกไป
ปืนใหญ่มือพลันปรากฏเบื้องหน้าฉินเฟิง ฉินเฟิงคว้ารับมัน แล้วสวมใส่ลงบนแขนซ้ายตัวเอง
ปืนใหญ่มือนี้ คือปืนเดียวกับที่เคยยิงสวนกลับใส่มือปืนเลเวล E ลู่เหิง และยังเป็นปืนที่เคยใช้สังหารราชันย์อัศวินมาแล้ว!
ฉินเฟิงเล็งปากกระบอกไปทางแม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็กและ —-คลิ๊ก!
ปุ่มใหญ่บนปืนถูกกระแทกกดลง
ลำกล้องใจกลางปืนใหญ่มือเกิดประปะทุของสะเก็ดไฟ และส่งเสียงคำรามออกมา
พร้อมกันกับกระสุนสีส้มที่พุ่งออกไป
ณ ชั้นสี่ของโรงแรม
วังเฉินและคนอื่นๆพยายามสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบ แต่ก็ยังไม่ค้นพบฉินเฟิง แต่แล้วเมื่อเกิดเสียง ทั้งสามจึงหันขวับเป็นสายตาเดียวกัน
“เขาอยู่ที่นั่น!”
“นี่มันเสียงปืนใหญ่มือ เขาใช้อาวุธปืนด้วยงั้นหรอ?” วังเฉินเองก็ตกใจ
“มันก็แค่การรบกวน เพื่อพยายามล่อให้แม่พันธุ์แมงมุมออกจากใยรึเปล่า?” เซ่าเซี่ยงกล่าวด้วยความสงสัย
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของวังเฉินกลับกลายเป็นตกใจยิ่งกว่าเดิม
ตูมมมมม!
ความเร็วของกระสุนปืนใหญ่นั้น มหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ ระยะทางหลายกิโลเมตรยังใช้เวลาไม่กี่วินาที ระยะทางใกล้ยิ่งกว่าไม่ต้องกล่าวถึง มันหดแคบลงในพริบตา!
วินาทีต่อมา กระสุนขนาดใหญ่ก็ร่วงตกลงเข้าใส่ท้องน้อยของแม่พันธุ์แมงมุม
บังเกิดเสียงอึกทึกกึกก้อง ใยแมงมุมสั่นสะเทือนทั้งรัง
“กี๊ซซซซ!”
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังเสียดแทงขึ้น แม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็กหวีดร้องด้วยความโกรธ
ท่ามกลางเมฆรูปดอกเห็ด ปรากฏใยสีขาวพุ่งออกมา ตกลงตรงตำแหน่งบนตึกสูงที่ฉินเฟิงยืนอยู่ห่างออกไป
ไม่รอให้อธิบายเฉลย แมงมุมยักษ์ผุดออกจากเมฆดอกเห็ด ไต่มาตามเส้นใย และเปลวเพลิงดูเหมือนจะสร้างแค่หมอกกับความเสียหายรอบๆเท่านั้น
ทว่าบนตัวมัน กลับไม่มีร่องรอยบาดแผลแม้แต่น้อย
ฉินเฟิงยังคงไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ ปืนใหญ่มือส่งเสียงคำรามต่ำอีกครั้ง
ปัง!
ลูกปืนใหญ่บินออกไปทันที ซ้ำเข้าใส่แม่พันธุ์แมงมุม
แต่แม่พันธุ์แมงมุมระดับราชันย์เองก็รับมือไว้อยู่แล้วเช่นกัน มันสะบัดก้นพ่นเส้นใยออกไปอีกทาง ใช้แรงเหวี่ยงเอี้ยวตัวไปอีกทางเพื่อหลบเลี่ยง
“คิดจะหลบงั้นหรอ? ได้ขออนุญาตฉันรึยัง?” ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็น พลังสมาธิเริ่มถูกกระตุ้น
“จงหักเลี้ยว!”
ลูกปืนใหญ่ที่แต่เดิมเคยพุ่งผ่านไปแล้ว ได้วกกลับมา พุ่งเข้าใส่แม่พันธุ์แมงมุมอีกครั้งจากเบื้องหลัง
เรียกได้ว่าพลิกกลับอย่างกระทันหัน! ระเบิดเข้าใส่จุดเดิมตรงท้องน้อยแม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็กซ้ำสอง
ตูมมมมม!
สำหรับเวลานี้ แม่พันธุ์แมงมุมถูกแรงปะทะ ดีดลอยกลับมาบนใยเส้นเดิม
ณ จุดที่ห่างไกลออกไป ทั้งสามสามารถเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสัตว์ร้ายระดับราชันย์ตนนี้ได้อย่างชัดเจน ขากรรไกรของทั้งหมดอ้าค้าง เกือบจะร่วงตกกระแทกกับพื้น
“อั่นเอ๋าอำไอ้อังไออัน?” เซ่าเซี่ยงกล่าวไม่เป็นภาษา ทั้งๆที่ยังอ้าปากค้าง
“บางทีคงเป็นเพราะเขาคือผู้ใช้อบิลิตี้ เลยครอบครองพลังสมาธิมหาศาลล่ะมั้ง?” เหอหลิงนึกได้แค่คำตอบนี้
แต่วังเฉินไม่ได้คิดแบบนั้น
“ถึงผู้ใช้อบิลิตี้จะมีพลังสมาธิแข็งแกร่งกว่ามือปืน แต่การควบคุมพลังสมาธิ ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเรียนรู้กันได้ในชั่วข้ามคืน กระบวนการทำงานของมันละเอียดอ่อนมาก ยิ่งเป็นระยะไกล คงไม่ต้องกล่าวถึง!”
และระยะห่างระหว่างฉินเฟิงกับแม่แมงมุม อย่างน้อยก็ราวๆ 800 – 900 เมตร!
กระทั่งวังเฉินเอง ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉินเฟิงสามารถทำได้อย่างไร!
บนสนามรบ เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่ากระสุนของฉินเฟิงจะแม่นยำแค่ไหน แต่มันก็ไม่สามารถหยุดการไล่ล่าของแม่พันธุ์แมงมุมระดับราชันย์ตัวนี้ได้
ระยะห่างระหว่างทั้งสองเหลือไม่ถึง 1 กิโลเมตร ภายใต้การถูกระเบิดโจมตีอย่างรุนแรง แม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็กโกรธจนแทบคลั่ง
ในระยะห่างราวๆเกือบ 1 กิโลเมตร ก่อนที่แมงมุมจะเข้ามาถึงตัว ฉินเฟิงก็ได้สาดกระสุนปืนใหญ่ออกไปอีกกว่า 8 นัด! ไม่เพียงโดนทุกนัด แต่ยังเป็นการโดนซ้ำๆบนท้องน้อยจุดเดิมอีกด้วย!
แต่น่าเสียดาย ที่เหอหลีเหลือกระสุนปืนใหญ่ทิ้งไว้ให้เขาแค่ 12 นัดเท่านั้น หลังจากที่ฉกมันมาจากห้องทดลองในช่วงแรก ฉินเฟิงก็ใช้มันจนหมดซะแล้ว!
กริ๊ก กริ๊ก!
ฉินเฟิงถอดชิ้นส่วนปืนใหญ่มือ โยนให้ไป๋หลี
ไป๋หลีรับมัน เก็บกลับพื้นที่มิติ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็กเองก็ได้มาถึงตึกเดียวกันกับที่ฉินเฟิงยืนอยู่แล้ว
ปลายเท้าแหลมแมงมุมยักษ์วาดสะบัดไปมาอย่างต่อเนื่อง จิ้มทิ่มแทงบนตัวอาคารสูง 12 ชั้น ปีนขึ้นไปหาฉินเฟิง
“ตายซะ!”
ฉินเฟิงชักมีดออกจากฝัก
ในพริบตา ปรากฏแสงสีขาวทองสาดกระทบกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่างโดดเด่นสะดุดตา ราวกับมีดาวตกมาคั่นขอบฟ้า
ฉินเฟิงกระตุ้นม้าศึก ม้าศึกเริ่มลงมือทันที หลอมรวมเข้ากับความมืดมิด
ซ่อนเงา!