The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1195 – เหล่าเทพรวมพลัง

ตอนที่ 1195 - เหล่าเทพรวมพลัง

DND.

  ฉินเฟยเฉินหรี่ตามองรอบๆ

   อย่าทิ้งข้าไป!นี่อาจเป็นแผนของซือหยู! มันต้องการดึงเจ้าออกจากข้าเพื่อที่จะลอบสังหารข้า! เจ้าห้ามไปไหนจนกว่าเทพเซียนคันฉ่องจะมาถึง! 

  ผู้เฒ่ากระวนกระวายแต่เขาก็เข้าใจดีว่าฉินเฟยเฉินคือทายาทของเทพตำรา คนอื่นจะตายก็ได้ แต่ฉินเฟยเฉินจะต้องไม่เป็นอะไร

  ผู้เฒ่าที่สิ้นหวังได้แต่มองการล้างบางตระกูลโดยทำอะไรไม่ได้เลย

  จากั้นพื้นก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงยักษ์ขนาดหมื่นศอกมาถึงตำหนักเทพตำรา

  ซือหยูตะโกนราวกับวีรบุรุษ

   เจ้ามือสังหารไร้ยางอายจากสำนักนรกเจ้าลอบสังหารยอดฝีมือพันธมิตรบูรพาไปมากมาย จงยอมถูกจับตัวซะ! 

  เจิ้งหยวนชิงที่อยู่ข้างๆ พูดกับตัวเองเบา ๆ

   เขาไม่โผงผางไปหน่อยหรือ? 

  เมื่อเห็นว่าจินกังเริ่มทำการสังหารเจิ้งหยวนชิงก็มิอาจหยุดรอยู่ได้ นางแตะแส้สีทองพุ่งเข้าไปต่อสู้กับจินกัง

  แต่เมื่อจินกังเห็นว่านางมาเขาก็หนีโดยไม่คิดสวนกลับ

  เหนือศีรษะขุนพลเทพยักษ์คังเตี้ยยี่แอบสื่อสารกับซือหยูผ่านกระแสจิต บอกเขาในเรื่องจุดสำคัญของเรือนเทพตำราและบอกจุดที่ซ่อนขุมทรัพย์เทพตำราอีกด้วย

  ซือหยูจึงแอบสั่งจินกังต่อไป

  ต่อมาจินกังที่กำลังฆ่าคนอย่างบ้าคลั่งก็เปลี่ยนทิศทางไปในจุดที่มีคนคุ้มกันแน่นหนา

  ฉินเฟิยเฉินตึงเครียด

   นั่นมันเรือนเก็บขุมทรัพย์เทพตำรา!แม่นางหยวนชิง โปรดหยุดมันที! 

  เจิ้งหยวนชิงกำลังจะพยักหน้าแต่ก็ได้ยินเสียงของซือหยูจากด้านบน

   เจิ้งหยวนชิงหลีกทางไป! ให้ขุนพลเทพยักษ์จัดการแทน! 

  ก่อนที่เขาจะพูดจบขุนพลเทพยักษ์ก็กำลังเหยียบเท้าขนาดพันศอกลงกับพื้นแล้ว

  เจิ้งหยวนชิงจ้องซือหยูตาเขม็งเขาคิดจะเหยียบนางให้ตายหรือยังไงกัน?

  นางรีบหลบอย่างรวดเร็วขุนพลเทพยักษ์กระทืบลงอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า แต่มันไม่ได้เหยียบที่จินกัง แต่เป็นจุดที่เก็บทรัพยากรนับไม่ถ้วนของตระกูลเทพตำรา สมบัติต่าง ๆ ต่างระเบิดอยู่ใต้เท้าของมัน!

  ปั้ง!

  ทรัพยากรนับไม่ถ้วนกระจายไปรอบทิศทางราวกับน้ำตก

  เหล่าคนรอบเรือนเทพตำราดีใจมากทุกคนรีบเก็บสมบัติที่หล่นมาจากฟ้า

  สมบัติเหล่านั้นคือของล้ำค่าที่ยากจะได้เห็นในโลกภายนอกแต่ละชิ้นมีมีค่าเท่ากับเหรียญเทพหลายเหรียญ

   บัดซบ!ทำไมเรื่องน่าสนุกอย่างเก็บสมบัติถึงไม่มีข้าล่ะ? 

  เทพไม้บินออกมาด้วยความโมโหเพียงความคิดเดียว เถาวัลย์มากมายก็งอกออกมาจากพื้นเก็บรวบรวมสมบัติที่หล่นจากท้องฟ้าด้วยความเร็วเหนือเสียง

  หากพูดให้ตรงกว่านั้นเหล่าคนที่มาเก็บสมบัติก็เป็นเป้าหมายของเถาวัลย์เช่นกัน

  เหล่าคนโลภที่เข้ามานั้นถูกปล้นเอาแหวนมิติของสำคัญ หรือแม้แต่เสื้อผ้าคุณภาพสูงไปโดยเถาวัลย์

   หากเป็นนักสะสมสมบัติก็มีสิทธิ์เก็บทุกอย่าง! จงเก็บทุกอย่างและไม่เหลือสิ่งใดเอาไว้ซะ! 

  เทพไม้ชี้แนะเหล่าคนที่มาเก็บสมบัติใกล้ๆ

  คนที่เสียแม้กระทั่งเครื่องแต่งกายเหล่านั้นตะโกน

   เจ้าต่างหากที่ปล้นเรา!! 

  สมบัติที่กระจายออกมานั้นเป็นเพียงหนึ่งในร้อยของตระกูลเทพตำราเท่านั้นอีกเก้าสิบเก้าส่วนที่เหลือได้กลายเป็นเถ้าถ่านเมื่อตอนถูกเหยียบแล้ว

  ฉินเฟยเฉินโกรธแค้น

   ซือหยู!ทำอะไรของเจ้า? 

  แม้แต่เจิ้งหยวนชิงก็อ้าปากค้างซือหยูกำลังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับตัวเอง เขาทำลายทรัพย์สินของเทพตำราทั้งหมดในก้าวเดียว!

  มันอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของตระกูลเทพตำราแต่อย่างน้อยก็เป็นครึ่งส่วน มันเป็นสิ่งที่ตระกูลเทพตำราสะสมมากว่าแสนปี!

  ซือหยูพูดด้วยหน้าเศร้า

   ขออภัยด้วยเฟยเฉินหลานรัก แต่การทำลายสำนักนรกถือเป็นเรื่องที่ต้องมาก่อน เจ้าคงไม่ว่าอะไรนะ! 

  ขุนพลเทพยักษ์ยกขาเหยียบไปทางจินกังอีกครั้ง

  ขณะนี้จินกังอยู่ด้านในตำหนักขนาดยักษ์ที่มีรูปร่างคล้ายตำรา

  ผู้เฒ่าตกใจจนแทบจะเสียสติเขารีบพูด

   อย่านะ!นั่นเป็นที่บ่มเพาะลับของตระกูลเทพตำรา มันถูกสร้างด้วยความพยายามของเทพตำราทุกคน… 

  ปั้ง!

  เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งตำหนักขนาดยักษ์พังทลายอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ มิติที่ถูกบีบอัดข้างในระเบิดออกมา…

  พื้นที่ลับเองก็ถูกทำลายไปแล้ว!

  ทรัพยากรอีกมหาศาลกระจายปลิวออกมาจากแรงกระแทกตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของเทพไม้ที่เก็บรวบรวมสมบัติทั้งหมด

  น่าแปลกที่เหล่านักล่าสมบัติทั้งหลายเลิกล้มความคิดและทิ้งสมบัติไปพวกเขามองเทพไม้เก็บรวบรวมสมบัติเงียบ ๆ

   เฟยเฉินหลานรักเราต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเหนือสิ่งอื่นใด! โปรดทนไว้ก่อน! 

  ซือหยูพูดด้วยหน้าเศร้า

  จากนั้นจิงกังก็พุ่งไปอีกที่

   อย่าไปที่นั่นนะ!มันคือห้องบ่มเพาะฎีกาสวรรค์ที่เทพตำรารุ่นก่อนทิ้งเอาไว้ มันมีฎีกาสวรรค์ที่อดีตเทพหลายคนบรรลุ มันคือจุดสำคัญของตระกูลเทพตำ… 

  ปั้ง!

   หลานรักเฟยเฉินเรื่องนี้สำคัญกว่าทุกสิ่ง โปรดทดไว้ก่อน! 

   อย่าไปที่นั่นนะ!นั่นคือที่ที่เทพตำรารุ่นก่อน… 

  ปั้ง!

   หลานรักเฟยเฉินเจ้าอดทนก่อนเถอะ! 

   อย่าเหนียบนะนั่นมัน… 

  ปั้ง!

   หลานรักเฟยเฉินอย่าได้คิดเล็กคิดน้อย ทนไว้ก่อน 

   อย่านะ… 

  ปั้ง!

   เอ๋หลานรักเฟยเฉิน เจ้าจะพูดอะไรนะ? อย่าอะไรนะ? 

  ฉินเฟยเฉินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

  จินกังยังคงหนีต่อไปซือหยูก็ไล่ตามเขาขณะที่บังคับขุนพลเทพยักษ์ให้ทำลายพื้นที่สำคัญมากมายของตระกูลเทพตำราตลอดทาง

  จินกังได้ผ่านจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชะตาของตระกูลเทพตำราตามที่คังเตี้ยยี่บอก

  สุดท้ายก็คือจุดที่สำคัญที่สุด…ขุมทรัพย์เทพตำรา!

  เหตุผลเดียวที่เทพตำราสามารถมีเกียรติยศกับเหล่าเทพอื่นได้ก็เพราะว่าเทพอื่นนั้นหวาดกลัวขุมทรัพย์เทพตำรานั่นเอง!

  ใครจะไม่กลัวคนที่รู้ความลับทุกเรื่องของตัวเองเล่า?

  เทพทั้งหมดชิงชังขุมทรัพย์เทพตำราจนถึงกระดูกแต่ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะเป็นผู้นำมาทำลายมันเพราะเทพตำราเป็นคนสำคัญในห้าลำดับเทพของเทพทั้งร้อยคน!

  เขาเป็นคนมีอำนาจพอที่จะทำให้พันธมิตรระส่ำระสายได้

  ดังนั้นจึงไม่มีเทพใดกล้าทำลายขุมทรัพย์เทพตำรา!

  และนี่ก็เป็นเหตุที่เทพตำราออกจากโลกของตัวเองได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาทำอะไรกับขุมทรัพย์เทพตำราของเขา

  จินกังบินหนีไปยังส่วนลึกที่สุดของตำหนักเทพตำรามันอยู่ข้างหน้าภูเขาสีเขียวขจีสิบลูก

  สุดท้ายฉินเฟยเฉินก็มิอาจนั่งเฉยได้อีกต่อไป

   ทิ้งข้าได้แล้ว!หยุดจินกังก่อนที่มันจะเข้าไปหาขุมทรัพย์เทพตำรา! 

  เมื่อได้รับคำสั่งผู้เฒ่าที่เหงื่อแตกพลั่กรีบพุ่งเข้าไปหาจินกัง

  เขาติดชะงักอยู่ในระดับพลังว่าที่เทพขั้นต้นมาหลายปีพลังของเขาจึงเหนือกว่าจินกัง เมื่อเขาใช้พลัง ปรากฏการณ์ประหลาดจึงได้เกิดขึ้นบนฟ้าดิน

  ใบหน้าจินกังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเขาไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดและหันไปป้องกันตัวเอง

  แต่ทันใดนั้นเองเท้าขนาดยักษ์ก็เตะเข้ามาทำลายร่างของผู้เฒ่าเป็นเสี่ยง ๆ ในทีเดียวและเหลือเพียงดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณนั้นโกรธแค้น เขาถือจิตวิญญาณเทพของตัวเองเอาไว้

  ฉินเฟยเฉินโกรธจนเลือดในกายเดือดพล่านเขาตะโกนจนเป็นเสียงคำราม

   ซือหยู?เจ้าทำอะไรอยู่? 

  ซือหยูยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้

   ว่าที่เทพนั่นรนหาที่ตายเอาหัวมาโขกกับเท้าขุนพลเทพยักษ์จนร่างกายแหลกสลาย ข้าจะทำอะไรได้เล่า? ศัตรูอยู่ตรงหน้า ข้าไม่มีเวลามาปลอบใจคนที่หมดหวังหรอกนะ! 

  วิญญาณผู้เฒ่าสั่นด้วยความโกรธแค้นถึงขีดสุดเจ้าต่างหากที่เตะข้า! ข้าเอาหัวไปโขกขุนพลยักษ์ตั้งแต่เมื่อไหร่?

  ฉินเฟยเฉินโกรธแค้นซือหยูที่พูดผิดให้เป็นถูกน้ำขุ่นๆ!

  แม้กระนั้นเมื่อจ้องมองขุนพลเทพยักษ์สูงหมื่นศอก ฉินเฟยเฉินก็ได้แต่อดกลั้น

  ฉินเฟยเฉินสัมผัสจิตสังหารจากซือหยูที่มาถึงเขาได้อย่างชัดเจนหากซือหยูมีข้ออ้างให้ลงมือเมื่อใด ซือหยูจะฆ่าเขาด้วยทุกสิ่งที่มี เช่นเดียวกับที่เขาทำลายกายหยาบของผู้เฒ่า!

  ฟึ่บ!

  จินกังหายตัวไปในภูเขาเขียวสิบลูกซือหยูถอนหายใจแรงและบังคับขุนพลเทพยักษ์ให้เหยียบมัน

  ปั้ง!

  ภูเขาเขียวสั่นแต่ก็ไร้ความเสียหาย!

  คลื่นพลังเทพอันแข็งแกร่งแผ่ตามมาหลายลูกจากภายในภูเขาทั้งสิบ

  ซือหยูแววตาเริ่มตึงเครียดตามที่คังเตี้ยยี่บอก ขุมทรัพย์เทพตำรานั้นซ่อนอยู่ใต้ภูเขาทั้งสิบ ภูเขาทั้งสิบคือผนึกป้องกันที่เทพตำรารุ่นก่อนสิบคนทิ้งเอาไว้เพื่อปกป้องไม่ให้ขุมทรัพย์เทพตำราถูกทำลายนั่นเอง

  ว่าที่เทพทั่วไปมิอาจคลายผนึกเหล่านั้นได้

  เมื่อเห็นว่าซือหยูทำลายไม่ได้ฉินเฟยเฉินโล่งอกเล็กน้อย ตระกูลเทพตำราตั้งรากฐานในพันธมิตรได้ทั้งหมดก็เพราะขุมทรัพย์เทพตำรา

  ถ้าหากมันเสียหายฐานะของตระกูเทพตำราก็คงจะเสื่อมถอยลงอย่างรุนแรงเช่นกัน

  แต่ซือหยูไม่ได้ไม่พอใจเขากลับยิ้มอย่างมีเลศนัยที่มุมปาก เขาพูดเมื่อมองท้องนภา

   เรากำลังเสียเปรียบขณะที่ตามล่ามือสังหารจากสำนักนรกหากเทพใดดูอยู่ โปรดให้ข้ายืมมือด้วย! 

  เมื่อเขาพูดจบคลื่นพลังเทพที่มีกลิ่นอายซับซ้อนก็ได้ซัดลงมาจากฟากฟ้าในพริบตา มันปะทะกับภูเขาลูกแรก

  ม่านพลังผนึกบนภูเขาลูกแรกแตกออกในทันที!

  ซือหยูยิ้มมีเทพคนอื่นมิอาจรออยู่เฉยได้ พวกเขาต้องการใช้โอกาสนี้ทำลายขุมทรัพย์เทพตำราเหมือนกับซือหยู!

  ซือหยูพูดต่อด้วยใบหน้าเศร้า

   ท่านเทพเอ๋ยมือสังหารเจ้าเล่ห์นัก ข้าเกรงว่าแค่การโจมตีไม่กีครั้งจะไม่เข้าเป้า เพิ่มพลังโจมตีอีกสักหน่อยไม่ได้หรือ? 

  ฉินเฟยเฉินตะโกนสวนกลับทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของซือหยู

   ใครที่กล้าทำลายหัวใจของตระกูลเทพตำ… 

  ปั้ง!ปั้ง! ปั้ง!

  พลังเทพหลายสิบคลื่นพุ่งลงมาจากท้องนภาอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมันเข้าระเบิดภูเขาทั้งเก้า!

  แค่พริบตาเดียวผนึกทั้งเก้าก็พังทลายสลายไป

  ฉินเฟยเฉินมองภูเขาที่พังทลายด้วยความมึนงงชิงชัง และโกรธแค้น เขายิ่งโกรธแค้นเมื่อเห็นว่าเทพทั้งหมดทำเป็นตามืดบอดอ ภูเขาทั้งสิบถูกระเบิดหายไปแล้ว แต่จุดเล็ก ๆ ที่จินกังยืนอยู่นั้นไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย!

  เขาไม่พอใจอย่างมากความจริงคือเทพทั้งหมดที่มาที่นี่กำลังแอบช่วยซือหยูขณะที่เทพตำราไม่อยู่ในโลกของตัวเอง!

  ถึงอย่างนั้นฉินเฟยเฉินก็มิอาจหยุดยั้งพวกเขาได้ และทำได้แต่มองดูการทำลายล้างทั้งหมดโดยที่ทำอะไรไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว

  เมื่อผนึกป้องกันหายไปทุกคนก็ได้เห็นขุมทรัพย์เทพตำราที่ซ่อนอยู่ภายใน

  มันคือชั้นตำราเก่าแก่ที่ดูโบร่ำโบราณ

  ตำราหลายเล่มจัดเรียงอยู่อย่างเรียบร้อยบนชั้นพวกมันมีทั้งเก่าและใหม่ รวมกันเป็นพันเล่ม!

  แต่ละเล่มนั้นมีมิติของตัวเองอยู่ภายในซึ่งมีตำราหลายพันล้านเล่มอัดแน่นอยู่!

  โดยเฉพาะตำราที่ชื่อ‘บันทึกร้อยเทพ’!

  สิ่งที่เขียนอยู่ข้างในคือความลับของเทพทุกคน!

  เมื่อได้เห็นตำราเล่มนั้นซือหยูสัมผัสได้ถึงความกระวนกระวายจากเบื้องบน เทพทุกคนกำลังรบเร้าให้ซือหยูทำลายมันให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

  ดูจากขนาดของตำราเล่มนี้ข้อมูลที่ความลับที่เก็บเอาไว้คงจะมากมายมหาศาลเลยทีเดียว

  ถ้าชั้นตำรานี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เองด้วยปริมาณข้อมูลมหาศาล มันก็ไม่ใช่สิ่งใดในพันธมิตรที่ขุมทรัพย์เทพตำราจะบอกไม่ได้

   สิ่งนี้ต้องถูกกำจัด! 

  ซือหยูหรี่ตาเล็กน้อยเมื่อเขาใช้ขุนพลเทพยักษ์ชกมันด้วยหมัด!

  แต่ในตอนนั้นเองเสียงอันน่าสะพรึงกลัวหนึ่งก็ดังมาจากสวรรค์

   หยุดเดี๋ยวนี้! 

  เสียงอันยิ่งใหญ่นี้ดังก้องโลกเทพตำรา

  ซือหยูชักสีหน้าเล็กน้อยมีเทพที่คิดจะหยุดเขาด้วยหรือ?

  เมื่อสัมผัสพลังนั้นได้เทพหลายคนที่ร่วมมือกันเมื่อครู่หนีไปทันที!

  ราวกับว่าการปรากฏตัวของคนผู้นี้คือสิ่งที่น่ากลัว

   เทพเซียนคันฉ่อง! 

  ฉินเฟยเฉินร่าเริงขึ้นมาทันทีไม่มีร่องรอยความโกรธแค้นอยู่บนใบหน้าของเขาอีกแล้ว

  เจิ้งหยวนชิงบินไปที่ข้างซือหยูนางพูดกับเขาผ่านกระแสจิต

   เทพเซียนคันฉ่องเป็นมารดาของผู้คุมกฎคันฉ่องแห่งตำหนักพันธมิตรนางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเทพตำรา 

   เจ้าต้องหยุดเดี๋ยวนี้!อย่าได้ทำมากกว่านั้น มิเช่นนั้นจะไม่มีใครปกป้องเจ้าได้! 

  นางกล่าว

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท