โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 226

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.226 – กองทัพจระเข้มังกร

ผู้ใช้พลังเลเวล E เหล่านี้เดิมก็ไม่ใช่ทีมเดียวกันอยู่แล้ว เลยเป็นธรรมดาที่จะไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน

ดังนั้น เมื่อผู้ใช้อบิลิตี้ถูกโจมตี และทั้งสองหลุดการควบคุมจากพลังลม ก็เผ่นหนีไปทันที

ผู้ใช้อบิลิตี้ตะลึงงัน แต่เขาก็ตั้งสติอย่างรวดเร็ว สองมือสะบัดออก ปลดปล่อยเทคนิคลมอันทรงพลัง

“วายุพลิกผัน!”

วินาทีต่อมา ผู้ใช้อบิลิตี้ก็พลันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง ราวถูกดูดขึ้นไปด้วยพายุ สามารถหลบระยะโจมตีของจระเข้มังกรได้อย่างรวดเร็ว

แต่ผู้ใช้พลังสองคนที่หนีไปก่อนหน้า เห็นได้ชัดว่าโชคไม่ค่อยดีนัก

จระเข้มังกรทยอยออกจากถ้ำมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้วรยุทธโบราณสามารถวิ่งบนผิวน้ำได้ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะโบยบินบนท้องฟ้าได้ ปาหันเองก็หนีด้วยวิธีเดียวกัน เพียงแต่เขาออกมาในจังหวะที่ดี อีกทั้งยังครอบครองกำลังภายในอันแข็งแกร่ง ทำให้วิ่งได้เร็ว ตรงกันข้ามกับผู้ใช้วรยุทธโบราณคนนี้ ที่คิดช้าไป พลาดช่วงจังหวะสำคัญที่ใช้หลบหนี

ฝูงจระเข้มังกรวิ่งออกจากถ้ำเป็นขบวน แต่ละขบวนน่าจะมีราวๆหลักร้อยหลักพันตัว

ฟุ่ม!

ซ่า ซ่า ..

ผิวน้ำทะเลกลายเป็นปั่นป่วน จระเข้ตนแล้วตนเล่าทิ้งตัวลงไป ผู้ใช้วรยุทธโบราณถูกไล่ล่าอย่างบ้าคลั่ง พริบตาเดียวก็โดนปิดล้อม

“อ๊า!! ช่วยฉันด้วย ใครก็ได้รีบช่วยฉันเร็วเข้า!” ผู้ใช้วรยุทธโบราณร้องตะโกนด้วยความตื่นตระหนก แต่น่าเสียดายที่ผู้ใช้อบิลิตี้ลมบินไปไกลแล้ว ทั้งยังละซึ่งความสนใจในตัวเขาอย่างสิ้นเชิง

สำหรับอีกคนในทีมที่เป็นมือปืน เขาตัดสินใจใช้เครื่องร่อนที่ติดไว้เบื้องหลังทันที เลยสามารถกลับขึ้นมาบนริมขอบผาได้เป็นที่เรียบร้อย ทั้งคนทั้งร่างยังตกอยู่ในอาการช็อก และรู้สึกโชคดีอย่างสุดซึ้งที่หนีรอดมาได้

ไม่นานเกินรอ แม้ผู้ใช้วรยุทธโบราณจะระเบิดความสามารถอันน่าหวั่นเกรงออกมาก็ตาม สุดท้ายก็ถูกขย้ำลงโดยจระเข้มังกร จบชีวิตไปอยู่ดี

กินเหยื่อเสร็จ ขบวนจระเข้มังกรก็ดำลงไปใต้ทะเล ตัวอื่นๆอีกหลายพันที่ออกจากถ้ำก็ลงไปเช่นกัน

—นี่มันไม่ใช่แค่ฝูงจระเข้แล้ว แต่เป็นกองทัพจระเข้!!

แม้จะได้ทราบว่าเกาะแห่งนี้มีพื้นที่ใต้ดิน และเป็นรังของจระเข้มังกร แต่ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะมีจำนวนมากมายถึงขนาดนี้!

จำนวนอย่างน้อยก็น่าจะถึงหลักหมื่น!

เมื่อย้อนนึกไปถึงตอนชายหาดในวันแรก พวกเขาจึงค่อยตระหนักว่า ที่ตนพบเจอ มันก็แค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น

พอจระเข้มังกรลงไปในทะเลจนหมด บนเส้นขอบฟ้าก็เริ่มสาดแสงสีเหลืองอ่อน ดวงอาทิตย์ค่อยๆยกสูงขึ้นอย่างช้าๆ พัดพาเอาความหนาวเย็นยามค่ำคืนจากไป

อึก ..!

ชิหลงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

เขาไม่คาดคิดเลยจริงๆ ว่าจระเข้มังกรบนเกาะจะจำนวนมากถึงขนาดนี้ กระทั่งในหมู่จระเข้ที่เพิ่งดำน้ำลงไป ยังมีนายพลสัตว์ร้ายอยู่นับสิบๆตัว!

หากสมมุติว่ากองทัพของมันโจมตีเมือง น่ากลัวจะไม่มีใครสามารถต้านทานได้ โชคยังดี ที่นี่เป็นเพียงระนาบของรอยแยกมิติ มันเลยไม่สามารถเข้าไปยังโลกของพวกเขาได้

เกาะแห่งนี้ คือดินแดนของสัตว์ร้าย!

เฝ้ารอจนกระทั่งกระแสน้ำทะเลสงบลง ก็ยังไม่มีใครขยับตัว หัวใจของทั้งหมดยังเต้นครึกโครม ไม่มีใครกล้าลงไป!

ปาหันสูญเสียสหายร่วมทีมถึง 3 คน เวลานี้สีหน้าของเขาซีดเซียว ผู้ใช้อบิลิตี้ลมก้าวเข้าหาเขา และสุดท้ายตกลงร่วมมือกันจัดตั้งทีมกับปาหัน

“ได้เวลาแล้ว พวกเราไปกันเถอะ” ฉินเฟิงไร้ซึ่งความลังเล ก้าวออกจากท่ามกลางฝูงชน

ถ้ำใต้ดินมีขนาดใหญ่มาก มันสามารถเป็นที่พักอาศัยให้จระเข้มังกรได้กว่าหมื่นตัว แต่นิสัยของพวกมันคือออกหาอาหารในช่วงเช้า ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกังวล

ชิหลง , ฮั่นเจียน และหลิงหวูยี่ติดตามฉินเฟิงไปทันที การต่อสู้ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาคุ้นเคยกับการปฏิบัติตามคำสั่งของฉินเฟิง

ฉินเฟิงเดินมาถึงขอบหน้าผา หนึ่งมือโอบเอวไป๋หลี แล้วกระโดดลงไป กำลังภายในท่วมท้นไปทั้งร่างกาย ช่วยลดทอนผลพวงในยามเท้าสัมผัสกับพื้น ลงมาถึงหน้าปากถ้ำอย่างปลอดภัย

ฮั่นเจียนก็ใช้วิธีเดียวกันลงตามฉินเฟิง

ชิหลงเปิดใช้งานเครื่องร่อนสำหรับมือปืน

หลิงหวูยี่สะบัดมือลงบนพื้นดิน เถาวัลย์ขนาดใหญ่พลันผุดขึ้นมา เป็นเชือกให้เขาโรยตัวลงไปรวมกลุ่มกับทุกคน

เมื่อทั้งห้าเริ่มลงมือ ในที่สุดคนอื่นๆก็ได้สติแล้วเคลื่อนไหวบ้างเช่นกัน พวกเขาใช้กลวิธีแตกต่างกันไป แย่งกันลงจากหน้าผา

ภายในถ้ำแยกเป็นโพรงน้อยใหญ่นับไม่ถ้วน ฉินเฟิงเคยสำรวจมันมาแล้วกว่า 3 วันในยามค่ำคืน แต่ก็ไม่ได้ออกสำรวจทุกเส้นทาง ตำแหน่งที่เขากวาดสมบัติ ส่วนใหญ่เป็นบริเวณรอบๆโพรงขนาดเท่าสนามฟุตบอล ซึ่งเป็นที่อาศัยของราชันย์จระเข้ เพราะเป็นจุดที่มีสมบัติมากที่สุด

เวลานี้ ผู้คนรอบข้างเขารู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ภายใต้การนำทางของฉินเฟิง เขาเลือกเดินไปยังทิศทางที่ตนยังไม่เคยออกสำรวจ ดังนั้นเลยสามารถเก็บเกี่ยวมันได้มากมาย

เนื่องจากไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น ฉะนั้นทุกอย่างจะถูกแบ่งปันกันอย่างเท่าเทียม

“พวกเราเจอดอกหญ้าทมิฬตามข่าวอย่างที่คนในค่ายบอกกันจริงๆด้วย ถึงจะแค่ 8 ต้นก็เถอะ แต่นี่เทียบเท่าได้กับเงินกว่า 10 ล้าน!” ฮั่นเจียนยิ้มจนหน้าบาน

ทางฉินเฟิง แม้ไม่แสดงอาการใดๆ แต่ในหัวใจกำลังขบคิด ว่าในพื้นที่มิติของไป๋หลี มันมีดอกหญ้าทมิฬ อย่างน้อยก็เกินกว่า 100 ต้น ซึ่งพวกเขาจะนำมันกลับไปปลูกในสวนใต้ดิน

“นี่มันสมุนไพรก้าวมังกร! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เจอมัน!” ชิหลงค่อยๆก้มลงเก็บสมุนไพรก้าวมังกรอย่างระมัดระวัง

สมุนไพรก้าวมังกร มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความเร็วทางกายภาพของมนุษย์ ซึ่งผลลัพธ์ของมันน่าทึ่งมาก

“ฉันอยากจะขอสมุนไพรก้าวมังกรต้นนี้จะได้ไหม? หลังจากนี้ถ้าพวกเราเจอสมบัติอะไรอีก ฉันขอแค่ส่วนแบ่งเล็กๆน้อยจากมันก็พอ ได้รึเปล่า?”

“ฉันไม่มีปัญหา คนอื่นๆล่ะ?”

“เอาไปเถอะยังไงฉันก็ไม่สนใจมันอยู่แล้ว!”

ทุกคนแสดความคิดเห็น ส่วนฉินเฟิงไม่โต้แย้งใดๆ เพราะสมุนไพรก้าวมังกรที่ว่า มีมากกว่า 20 ต้นอยู่ในพื้นที่มิติของฉินเฟิง ทั้งยังเป็นต้นใหญ่กว่า เพราะมันขึ้นอยู่รอบๆโพรงของราชันย์จระเข้มังกร

ทั้งหมดมุ่งหน้าต่อ กวาดสมบัติที่พบเจอไปตลอดทาง

อาจกล่าวได้ว่าในเวลานี้ เฉพาะสมบัติที่ฮั่นเจียนกับชิหลงเก็บมา นับเป็นเม็ดเงินมากถึง 2,000 ล้านเหรียญ! เพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่กลับได้รับสมบัติทางธรรมชาติมากมายขนาดนี้ เกรงว่าวัตถุดิบที่ได้มาคงสามารถทำให้ความแข็งแกร่งของทั้งสองยกระดับครั้งใหญ่!

ยิ่งไปกว่านั้น พลังงานฟ้าดินบนเกาะนี้เองก็นับว่าเป็นสมบัติเช่นกัน พวกเขาฝึกฝนที่นี่ ความก้าวหน้าย่อมรวดเร็วกว่าโลกภายนอก

ในขณะที่ทีมอื่นๆไม่ได้โชคดีอย่างทีมของฉินเฟิง!

“เอ๊ะ? นี่มันดอกไม้ศิลา … มันจะต้องเป็นดอกไม้ศิลาแน่ๆ แต่มันถูกขุดออกไปแล้ว!”

“ส่วนนี่สนต้นน้ำ แต่มีคนเอาไปแล้วเหมือนกัน ไอ้บ้าที่ไหนวะที่เป็นคนโชคดีได้รับสนต้นน้ำไป!”

“บัดซบ! ต้นเถิงกั่วก็ถูกขุดออกไปแล้วเหมือนกัน อย่าให้รู้นะว่าใครทำ! นี่มันคือสมุนไพรวิญญาณที่ดีที่สุดของธาตุไม้เชียวนะ! ”

แต่ละคนขบฟันแน่น ทว่าก็มิอาจทำอะไรได้ เพราะคนเข้ามาก่อนย่อมได้รับสมบัติก่อน พวกเขาได้แต่รู้สึกอิจฉาในหัวใจ

ในขณะที่บางทีมฉุกคิดได้ว่าตำแหน่งใจกลางถ้ำน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของจระเข้มังกร ดังนั้นจึงเร่งพุ่งตรงเข้าไปข้างในทันที โดยไม่คิดค้นหาอย่างละเอียดระหว่างทาง

แล้วพวกเขาก็พบเจอกับโพรงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่อาศัยของจระเข้มังกรจริงๆ!

แต่ในเวลานี้ รังของจระเข้มังกรว่างเปล่า ราชันย์สัตว์ร้ายเองก็ออกไปหาอาหารเช่นกัน

เกิดเสียงฮือฮาจนวุ่นวายเล็กน้อยในฝูงชน เนื่องจากมันมีสมบัติอยู่จริงๆ …. สมบัติดูไม่มีค่าใดๆในสายตาของฉินเฟิง แต่ในมุมมองของคนอื่น มันราวกับเป็นขุมทรัพย์

“เร็วเข้า รีบไปเก็บมันเร็ว!”

“นี่มันของดี! เป็นหนังสัตว์ทะเล!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้ามีเจ้าสิ่งนี้ และเงินอีกจำนวนหนึ่ง ฉันจะสามารถนำไปทำชุดต่อสู้เลเวล E สีฟ้าได้!”

ต้องทราบนะว่าผู้ใช้พลังทุกคนไม่ได้เป็นเหมือนกับฉินเฟิง การจะได้อุปกรณ์รูนสีฟ้าหรือม่วงในแต่ละครั้ง ผู้ใช้พลังเลเวล E บางคนจำต้องใช้เวลาสะสมกว่าหลายปีกว่าจะได้มา

ดังนั้น วัตถุดิบเช่นนี้ จึงเป็นสิ่งมีค่ามาก!

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่ทีมเดียวที่คิดได้ ยังมีทีมอื่นๆที่ฉุกคิดว่าใจกลางถ้ำน่าจะมีของดีอยู่เช่นกัน แต่ละทีมทยอยกันมา

ในเวลาไม่นาน ใจกลางถ้ำก็มีคนอยู่มากกว่า 10 คน แบ่งเป็น 3 ทีม

ทั้งหมดตื่นตัวถึงขีดสุด กวาดสายตามองหา เตรียมฉกสมบัติที่เหลืออยู่ เวลานี้ต่อให้ต้องสู้กันเองพวกเขาก็พร้อม!

และเมื่อความชุลมุนเกิดขึ้น การต่อสู้ก็เริ่มขึ้นจริงๆ!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท