โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 282

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.282 – รางวัล 3,000 ล้าน

ตลอดทั้งตระกูลซงกลายเป็นตกตะลึง

“นี่ … นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!” เหล่าอาวุโสจ้องมองข้อความที่ส่งมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ไม่อาจยอมรับความจริงได้

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลไม่มีทางผิดพลาด คนเหล่านี้ตายแล้วอย่างแน่นอน

อาวุโสเจ็ดที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล มือเหี่ยวแห้งสั่นสะท้าน กดคลิกเปิดภาพวิดีโอของทุกคนที่ถูกส่งมาก่อนตาย

ไม่เพียงอาวุโสเจ็ด แต่ทั่วทั้งตระกูลซงตกอยู่ในความโกลาหล

เพราะในครั้งนี้ รุ่นเยาว์ที่ติดตามอาวุโสห้าออกไป อาจกล่าวได้ว่าเป็นความหวังใหม่ของตระกูลซง

ก็เหมือนกับสถานชุมชน รุ่นเยาว์จะเป็นแทนของความแข็งแกร่ง อายุ 16 ปีก็ถูกปลุกพลัง ในขณะที่คนของตระกูลซงถูกฝึกฝนมายาวนานกว่า 16 ปี ด้วยการสนับสนุนจากทางตระกูล ต้องเสียทั้งเวลา และทรัพยากรไปมากมาย

สิ่งที่จะทำให้รุ่นเยาว์พัฒนา , แข็งแกร่ง กลายเป็นกำลังสำคัญของตระกูลในอนาคต ส่วนหนึ่งมาจากพรสวรรค์ และอีกส่วนหนึ่งมาจากโอกาส

—ยากนักที่รุ่นเยาว์จะมีโอกาสได้รับชมการต่อสู้จริงๆของผู้ใช้พลังเลเวล D นี่เป็นจังหวะที่ดี ดังนั้นอาวุโสเจ็ดจึงเรียกพวกรุ่นเยาว์อันดับต้นๆให้ติดตามอีกฝ่ายไป

แต่ผลลัพธ์ คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้!

หากซงหยวนเป็นอันดับหนึ่งในรุ่นที่เจ็ดของตระกูลซง เช่นนั้นเหล่ารุ่นเยาว์ที่ร่วมเดินทางไปกับซงหยูเหิง ทั้งหมดล้วนติดอยู่ใน 20 อันดับแรก!

แต่พวกเขากลับถูกขุดรากถอนโคนจนเหี้ยน หลายปีต่อจากนี้ น่ากลัวว่าตระกูลซงคงขาดแคลนคนที่มีความสามารถไประยะหนึ่งเลยทีเดียว

“ไม่น่าจะผิดพลาดแล้ว นี่เป็นกับดักจริงๆ! มีใครบางคนต้องการกำจัดตระกูลซงของข้า? มันเป็นใครกัน! ใครที่อาจหาญถึงขนาดนี้!”

ระหว่างผู้คนกำลังขบคิด วิดีโอใหม่ก็ถูกส่งมา และนั่นทำให้ทั้งหมดกลายเป็นเงียบงัน

เห็นได้ชัดว่าไม่มีการซุ่มโจมตี ไม่มีผู้ใช้พลังเลเวล D ปรากฏตัวขึ้น เป็นบลัดฮันเตอร์เพียงลำพังที่สังหารหมู่ทุกคน รวมไปถึงซงหยูเหิง

“ไม่ใช่ว่าเขาอยู่ในเลเวล E หรอกหรือ? เหตุใดถึงสามารถสังหารอาวุโสห้าลงได้?”

“ดูจากมุมมองนี้ ข้าเห็นแค่ว่าเขาสามารถต่อกรกับอาวุโสห้าได้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจจะเกิดปัญหาอะไรบางอย่างกับอาวุโสห้า? อย่างเช่นผลข้างเคียงของเทคนิคแผดเผาโลหิต … ”

“มีความเป็นไปได้ เพราะยังไงซะอาวุโสห้าก็บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว พวกเราไม่น่าปล่อยให้เขาไปสู้ในคราวนี้เลย”

ทุกคนต่างคาดเดากันไปต่างๆนาๆ

ในช่วงท้ายที่ฉินเฟิงปลดปล่อยทักษะลับกลืนดารา ในมุมมองของวิดีโอ มันคล้ายกับผลสะท้อนของเทคนิคแผดเผาโลหิต ทุกคนเลยเดาว่าความผิดพลาดนี้น่าจะเกิดจากอาวุโสห้า

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ และยังเป็นคำถาม นั่นคือพวกเราควรดำเนินการแก้แค้นเลยหรือไม่?

ในเวลานั้นเอง อีกข่าวหนึ่งก็ถูกส่งออกมา

“นี่ .. ไอ้บลัดฮันเตอร์ มัน … มันกล้าดียังไง!!”

อาวุโสเจ็ดคำรามเกรี้ยวกราด ในขณะที่อาวุโสคนอื่นๆ ต่างจ้องมองบนอุปกรณ์สื่อสารด้วยมือที่กำแน่น

เบื้องหน้าทั้งหมด คือบัญชีของเครือข่ายนักล่าเงินรางวัล

ฉินเฟิงเพิ่งจะอัปโหลดรูปภาพเพิ่มไปอีก 3 ภาพ

ทั้งสามภาพ ไม่เหมือนกับคราวก่อนที่เป็นหัวเปื้อนเลือด คราวนี้เป็นรูปประกาศจับคนตระกูลซงที่ถูกตีตราว่าบรรลุภารกิจแล้ว การกระทำเช่นนี้ ถือว่าจงใจตบหน้าตระกูลซงอย่างร้ายกาจ

ทั้งยังเป็นข้อพิสูจน์ว่าซงหลินฮานและผู้ดูแลอีกสองคน จบชีวิตลงแล้ว

ภายใต้ภาพของทั้งสาม มีคำอธิบายสั้นๆเขียนเอาไว้

【บลัดฮันเตอร์】 : หย่อนเบ็ดไปครั้งเดียว กลับตกปลาได้ถึงสามตัว ทั้งยังแลกเป็นเงินได้กว่า 1,000 ล้าน!

【บลัดฮันเตอร์】: “น่าเสียดายที่ประกาศจับของซงหยูเหิงหมดอายุลงซะก่อน”

ประเด็นคือวิธีการของฉินเฟิง กลับได้รับทั้งคำชื่นชมและริษยาจากนักล่าเงินรางวัลคนอื่นๆ

“โปรไฟล์ของบลัดฮันเตอร์บอกว่าเป็นเลเวล E ไม่ใช่หรอก แบบนี้มันหลอกลวงกันรึเปล่า ซงหยูเหิงคืออาวุโสตระกูลซงเลเวล D นี่นา แล้วเลเวล E จะไปเอาชนะเขาได้ยังไง?”

“1,000 ล้าน! นั่นมันเงินจำนวนมหาศาล!”

“หรือว่าตระกูลอธรรมจะกำลังมีข้อขัดแย้งกับบลัดฮันเตอร์?”

“นายมันสุดยอดไปเลย!”

ส่วนใหญ่ยกย่องเขา ทั้งยังมีบางคนช่วยเปิดเผยประวัติของตระกูลซง บ้างก็ด่าสาปแช่งตระกูลอธรรม และกล่าวว่าฉินเฟิงฆ่าได้ดี

ตระกูลซงเป็นที่เลื่องลือในด้านความดุร้าย ก่อนที่บลัดฮันเตอร์จะปรากฏตัวขึ้น ใครหน้าไหนกล้าเอ่ยวาจาล่วงเกินตระกูลซง ต่อให้เพียงไม่กี่คำ ก็เฝ้ารอวันถูกกำจัดได้เลย

แต่ตอนนี้ คนจำนวนมากพากันล้อมวง เหยียบย่ำสมน้ำหน้าตระกูลซงอย่างสนุกสนาน

ถูกข่มมาตั้งหลายปี ความหวาดกลัวที่ปกคลุมไปทั้งจิตใจของผู้คน ได้ระเบิดออกสักที

ศักดิ์ศรีของตระกูลซง ดิ่งลงฮวบๆ

“อาวุโสเจ็ด เรื่องนี้จะปล่อยไปไม่ได้ หรือว่าพวกเราควรจะแจ้งแก่ท่านผู้เฒ่าดี?” ชายคนหนึ่งเอ่ยปากออกมา

เวลานี้ทั้งหมดต่างกำลังโกรธแค้น

“ผายลม! หุบปากไปซะ! แค่เลเวล E คนเดียว มันคุ้มแล้วหรือที่จะรบกวนท่านผู้เฒ่า!”

อาวุโสคนอื่นๆตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

ในบรรดาเหล่าอาวุโส ซงหยูไคคือผู้ดูแลตระกูลซงในปัจจุบัน

ส่วนท่านผู้เฒ่าของพวกเขา แน่นอนว่าคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลซง เป็นตัวตนทรงพลังในเลเวล C

อายุมากกว่า 120 ปี

ปัจจุบันแยกตัวออกไปฝึกฝนเพียงลำพัง พเนจรไปทั่ว ไล่ค้นหาทรัพยากรฟ้าดินเพื่อต่อชีวิต เฟ้นหาโอกาสตัดผ่านไปอีกระดับหนึ่ง เลยไม่ได้อยู่ในอาณาเขตสี่เมืองทะเลเหนือ

อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ก็ยังสามารถสร้างความหวาดกลัวให้แก่ตระกูลชั้นสูงอื่นๆ และกองกำลังอื่นๆได้เป็นอย่างดี

ทว่า เขาคงไม่อาจนึกถึง ว่าตอนนี้กลับมีเลเวล E คนหนึ่งกล้าล่วงเกินตระกูลของตัวเอง

ที่สำคัญ เลเวล E ที่ว่ายังอาศัยเพียงความแข็งแกร่งของตน สังหารซงหยูเหิง

ด้วยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนี้ มันอาจส่งผลสะท้อนออกไปได้ว่า ‘ที่แท้ตระกูลซง ก็ไม่ได้น่ากลัวถึงขนาดนั้น!’

สำหรับตระกูลซง เกรงว่านี่อาจเป็นภัยพิบัติร้ายแรง!

แต่เมื่อได้ลองมองดูวิดีโอตรงหน้า ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาของซงหยูไค อันดับแรกมิใช่ต่อสู้กับชายในภาพตรงๆ

เพราะคนๆนี้ แข็งแกร่งอย่างแน่นอน

‘บางทีเขาอาจจะเป็นตัวตนทรงพลัง ที่มีพละกำลังมากกว่าคนปกติหลายเท่า ไม่อย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายอวัยวะภายในของผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล E ในครั้งเดียว’

‘พละกำลังมหาศาล! แข็งแกร่งเกินไป การสู้กับบุคคลเช่นนี้ มันไม่ต่างไปจากการเผชิญหน้ากับราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล E เลย ดีไม่ดี หากพลั้งเผลออาจตายได้ทุกเมื่อ’

‘ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เขาอยู่ในเมืองนุ่ยเหมิง แบบนี้ยากที่จะลงมือโดยตรง’

ซงหยูไคปั่นความคิดอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่คนอื่นๆกำลังโกรธ เจ็บใจสุดแสน รู้สึกเสียหน้า เสียศักดิ์ศรี

พวกเขาหันไปมองซงหยูไคด้วยความหวัง ว่าอีกฝ่ายจะสามารถหาทางออกได้

ซงหยูไคเหมาะสมแล้วที่จะเป็นตัวแทนของผู้นำตระกูล เขาสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

“ส่งคำสั่งฆ่าออกไป ตั้งรางวัลนำจับ 3,000 ล้าน สังหารบลัดฮันเตอร์!”

ทุกคนที่ตั้งใจฟัง ตอนแรกอึ้งไป แต่สักพักก็เริ่มแสดงออกถึงความสุข

จริงด้วยสิ ใช้วิธีนี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ยืมมีดฆ่าคน จ้างคนมาเป็นตัวตายตัวแทน

ในกรณีนี้ ต่อให้บลัดฮันเตอร์แข็งแกร่งสักแค่ไหน ย่อมไม่อาจต่อกรกับนักฆ่าหลายคนที่ผลัดกันออกมาสู้ได้

ทางตระกูลซงดำเนินการอย่างรวดเร็ว

หลังจากฉินเฟิงส่งรางวัลนำจับ เขาก็เดินออกจากสมาคมนักล่าเงินรางวัล เข้าพักในโรงแรมหรูหราที่สุดของเมืองนุ่ยเหมิง

พอถอดชุดต่อสู้ บาดแผลก็เผยออกมา

ฝ่ามือโลหิตของซงหยูเหิงแม้ก่อผลกระทบ แต่ก็ไม่สามารถทำร้ายกระดูกของฉินเฟิงได้ ถึงอย่างนั้น ตำแหน่งที่ถูกซงหยูเหิงตี มันยังคงบวมแดง คล้ายกับเป็นก้อนเลือดคั่ง จิ้มทีเดียวคงทะลักออกมา

ไป๋หลีวนไปวนมารอบๆฉินเฟิง

“ไม่เป็นอะไรหรอก แค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นเอง” ฉินเฟิงกล่าวปลอบ นำเนื้อของสัตว์ร้ายระดับสูงออกมาโดยตรง

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

พลังงานถูกดูดซับสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว แผลบนร่างของฉินเฟิงเริ่มลดอาการบวมลง สี่รูนิ้วจากรอยกรงเล็บบนไหล่ หายเป็นปกติด้วยความเร็วที่เห็นด้วยตาเปล่า

ไป๋หลีหยุดเดินไปมา ก่อนจะกระโดดลงไปนอนบนต้นขาของฉินเฟิง

ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงเวลานี้กำลังนั่งขวาทับซ้าย หลุบตาลง วิสัยทัศน์ตกในตันเถียน

การต่อสู้ในวันนี้ ส่งผลให้เขาได้รับทะเลเมฆกำลังภายในเพิ่มขึ้นมากถึง 20 ชั้น

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

ไม่นาน กำลังภายในก็เริ่มไหลเข้าสู่ศีรษะ ผ่านตามแขนขา เส้นลมปราณกระชับมากขึ้น กำลังภายในไม่พึงประสงค์ถูกกลั่นกรอง ก่อนจะส่งกลับมายังตันเถียน

สั่งสมทะเลเมฆกำลังภายในครบ 40 ชั้น!

แข็งแกร่งกว่าผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล E ขั้นสูงสุดถึง 4 เท่า!

ปัจจุบัน ต่อให้เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D4 หากงัดกันเฉพาะในเรื่องกำลังภายใน ฉินเฟิงไม่มีทางแพ้แน่นอน!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท