The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1216 – แขกเก้าดาวผู้ทรงเกียรติ

ตอนที่ 1216 - แขกเก้าดาวผู้ทรงเกียรติ

   พยัคฆ์ขาวแปลงร่าง! 

  พยัคฆ์ขาวตะโกนครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ฝ่ามือ ทั้งตัวของเขากลายเป็นพยัคฆ์ขาวร่างยักษ์ที่เปล่งพลังเทพมหาศาลออกมา

  พยัคฆ์ขาวตะปบอุ้งเท้าเข้าใส่ซือหยูพลังของอุ้งเท้านั้นทรงพลังดั่งทุ่มภูเขา

  ซือหยูยืนนิ่งเขาเพียงแค่แตะแขน ลำแสงมรกตเปล่งประกาย จางตี๋เก้อปรากฏตัวออกมาพร้อมกันผีเสื้อโกลาหลบนไหล่ของนาง

  ผีเสื้อกระพือปีกอย่างแผ่วเบาร่างใหญ่โตของพยัคฆ์ขาวแหลกสลายดั่งเครื่องดินเผา จิตวิญญาณเทพของเขาแตกสลาย!

  ในเวลาเดียวกันจาบกุหลาบสีเพลิงได้บินตรงทะลุร่างซือหยู

  เพลิงสีแดงฉานทำให้ซือหยูไฟลุกไหม้ท่วมตัวอย่างรวดเร็วเขากลายเป็นเถ้าถ่าน

  แต่น่าแปลกมากที่หัวใจมรกตของเขาไม่หยุดเต้นท่ามกลางขี้เถ้าเถ้าถ่านเหล่านั้นกลับมารวมตัวเป็นซือหยูอีกครั้ง

  จาบกุหลาบตกใจอย่างหนักซือหยูฟื้นคืนชีพกลับมาก่อนที่นางจะรู้สึกตัวเสียอีก และซือหยูก็กำลังถือหอกพลังปีศาจในมืออีกด้วย เขาใช้มันแทงร่างจาบกุหลาบในเสี้ยววินาทีนั้น

  ฉั่วะ!

  จาบกุหลาบกลายเป็นเถ้าถ่านไม่ต่างจากซือหยู

  เพียงไม่กี่ลมหายใจว่าที่เทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่แห่งสำนักนรกก็ได้ถูกสังหารจนสิ้น

  จาบกุหลาบนั้นตายอย่างไม่เป็นธรรมที่สุดมันคิดว่าได้ฆ่าซือหยูไปแล้ว แต่ซือหยูกลับคืนชีพขึ้นมาและสังหารมันแทน

  ซือหยูส่ายหน้าผิดหวัง

   พวกนี้เป็นว่าที่เทพจากสำนักนรกจริงๆ น่ะหรือ? มันอ่อนแอกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก 

  เทียบกับวิหคเพลิงทมิฬแล้วพวกมือสังหารทั้งสี่นั้นอ่อนแอกว่านางในทุกด้าน

  ก่อนหน้านี้ซือหยูต้องใช้ทุกวิชาที่มีเพียงเพื่อที่จะกำราบวิหคเพลิงทมิฬ

  วิหคเพลิงทมิฬสีหน้าเปลี่ยนไปแม้จะตัวแข็งทื่อ

   นายท่านพวกเราต้องหนีแล้ว! นายท่านสังหารมือสังหารทั้งสี่…เทพแห่งความตายไม่อภัยให้ท่านแน่! 

  ซือหยูไม่สนใจนางและเงยหน้ามองสวรรค์

   ข้าผ่านบททดสอบหรือยังล่ะ? 

  บททดสอบรึ?วิหคเพลิงทมิฬตกใจ

  ร่างมนุษย์ค่อยๆ ปรากฏตัวออกมาช้า ๆ เขาสวมชุดสีครามและมีเส้นผมสีดำสนิท เขามองซือหยูด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้า

   มือสังหารทั้งสี่คือบททดสอบของเจ้าจริงเทพแห่งความตายอยากจะรู้ว่าวิหคเพลิงทมิฬอันดับแรกและจินกังที่เป็นอันดับสองล้มเหลวได้อย่างไร สุดท้ายข้าก็รู้เหตุผลแล้ว เจ้าผ่านการทดสอบ! 

   แต่… 

  ชายวัยกลางคนที่มีเส้นผมดำสนิทเปลี่ยนน้ำเสียงในทันทีแววตาเขาเยือกเย็นดั่งน้ำแข็ง

   แต่รางวัลสำหรับการผ่านบททดสอบก็คือ…ความตาย! 

  ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือที่จะได้ความตายจากเทพแห่งความตาย?

   เทพแห่งความตายจะพบคนแค่สองประเภทเท่านั้นหนึ่งคือคนตาย และสองก็คือคนที่กำลังจะตายด้วยมือของเขา… 

  ซือหยูพูดกับตัวเองเบาๆ

   เป็นเรื่องจริงสนะ 

  ชายวัยกลางคนผงะเขาพูดอย่างไร้อารมณ์

   เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว 

  ฟึ่บ!ฟึ่บ!   สี่คนก้าวออกมาจากด้านในหมู่บ้านซึ่งทั้งสี่ก็คือมือสังหารที่เพิ่งจะตายไป!

  ซือหยูไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยเขาพูด

   เทพแห่งความตายเปป็นคนพิเศษใครก็ตามที่ต้องการให้ตายย่อมตายไม่ว่าจะอย่างไร ใครที่ต้องการให้มีชีวิตอยู่ก็จะอยู่ต่อไปเช่นกัน 

  ต่อหน้าเทพที่บงการความเป็นความตายได้ซือหยูไม่แปลกใจที่มือสังหารที่ควรตายทั้งสี่จะยืนอยู่ต่อหน้าเขาอย่างไร้รอยข่วน

  เทพแห่งความตายอาจเป็นคนคืนชีพทั้งสี่ก็ได้

   เทพแห่งความตายเลือกเดินในวิถีแห่งความตายสามารถมอบความตายและห้ามมิให้ใครตายได้ เจ้าหนู ข้าประมาทไปเมื่อครู่ มาเริ่มอีกครั้งเถอะ ข้าจะทำให้เจ้าต้องตายแน่นอน! 

  มังกรเขียวจ้องซือหยูไม่มีความเหยียดหยามในแววตาอีก  ซือหยูหลับตาช้าๆ และยืนนิ่งอยู่กับที่

   วิหคทมิฬเจ้าหลบไปก่อน 

  ฟึ่บ!

  เมื่อเขาลืมตาอีกครั้งซือหยูมองมือสังหารทั้งสี่อย่างไร้อารมณ์

   มาเริ่มกันเถอะ! 

   ค่ายกลสี่ผู้พิทักษ์! 

  ว่าที่เทพทั้งสี่ใช้พลังวิถีเทพของตัวเองเงามังกรเขียว พยัคฆ์ขาว จาบกุหลาบ และเต่าก่อตัวขึ้นที่ด้านหลังของแต่ละคน

  พลังเทพของทั้งสี่ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งอย่างสมบูรณ์แบบ

   ค่ายกลสี่ผู้พิทักษ์อนันต์! 

  ทั้งสี่ใช้พลังพร้อมกันเงาที่ด้านหลังของแต่ละคนหลอมรวมเป็นหนึ่งสัตว์ประหลาด

  เงาสัตว์ประหลาดมีพลังเทพของทั้งสี่รวมกันมันร้องคำรามเสียงดังลั่นและปล่อยพลังออกมา  พลังนั้นทำให้ทั้งโลกหม่นหมองสายลมและเมฆาปั่นป่วนวุ่นวาย มันเกินกว่าพลังของว่าที่เทพขั้นต้น มันเกือบจะถึงพลังของว่าที่เทพขั้นกลางแล้ว

  แต่ซือหยูยังคงเยือกเย็นใบหน้าเขาไม่สะทกสะท้านใด ๆ เขาพลิกฝ่ามือเรียกศิลาขนาดเท่าฝ่ามือและโยนขึ้นฟ้า

  ภูเขาห้าธาตุปลดปล่อยคลื่นพลังห้าธาตุออกมาทันทีพลังนั้นเข้าล้อมสัตว์ประหลาดจนขยับไม่ได้

  ภูเขาห้าธาตุที่ขนาดเท่าฝ่ามือเข้าปะทะกับตัวสัตว์ประหลาด

  แรงปะทะเบาๆ นั้นดูแปลกยิ่งนักที่ทำให้เงาสัตว์ประหลาดแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

  ใบหน้าของนักฆ่าทั้งสี่เปลี่ยนไปพวกเขากระอักเลือด แต่ละคนหน้าซีดราวกับกระดาษ

  ไม่นานเขาห้าธาตุก็ขยายใหญ่เป็นร้อยเท่าและกดทับไปยังมือสังหารทั้งสี่

  พลังห้าธาตุที่ปลดปล่อยออกมานั้นมีมากมายและหนักอึ้งจนทั้งสี่สะพรึงกลัวทั้งสี่มิอาจขยับตัวได้แม้แต่นิดเดียว แม้แต่การหายใจยังเป็นเรื่องยากลำบาก

  ซือหยูยืนเหนือเขาห้าธาตุเขาพูดด้วยความใจเย็น

   ข้ายังไม่เปลี่ยนความคิด…ว่าที่เทพขั้นต้นจากสำนักนรกก็แค่พวกขยะ 

  ชายวัยกลางคนในชุดสีครามมองซือหยูสีหน้าของเขาแทนที่ด้วยความกลัว ภูเขาห้าธาตุคือสิ่งที่เขากังวล

  ทันใดนั้นเองเสียงที่ชวนขนลุกของชายแก่โรยราก็ดังมาจากทุกมุมของท้องนภาตามสายลม

   หากเจ้าอยากจะตายด้วยมือข้ามากนักก็มาเจอกับข้าเถอะ 

  คลื่นพลังเทพอันน่าตกใจเอ่อล้นตามมาพร้อมกับเสียงถอนหายใจ

  ต่อมาซือหยูได้ปรากฏตัวในโถงอันมืดมิด

  มีรูปปั้นเทพขนาดยักษ์ที่นี่มันเป็นรูปปั้นของพระเมตไตรยที่มีสีดำสนิท

  ที่หน้าพระเมตไตรยมีหลวงจีนชรานั่งอยู่เขาสวมจีวรดำสนิท เขากำลังนั่งนับลูกประคำที่มือซ้ายและเคาะมัจฉาไม้ด้วยมือขวาอย่างแผ่วเบา

  ที่นี่มีกลิ่นไม้จันทน์คละคลุ้งให้บรรยากาศราวกับวัดวาอาราม ยากที่จะจินตนาการว่ามันคือสถานที่ที่เทพแห่งความตายผู้น่าสะพรึงกลัวอาศัยอยู่

  ที่ไม่น่าเชื่อไปกว่านั้นก็คือเทพแห่งความตายผู้ชั่วร้ายหัวใจเย็นชาแท้จริงแล้วเป็นพระ

   คารวะเทพแห่งความตาย… 

  ซือหยูกล่าว

  หลวงจีนชราวางมัจฉาไม้และหันมาหาซือหยูช้าๆ ใบหน้าของเขาดูโอบอ้อมอารีและดูสูงส่งน่าเลื่อมใส ทำใจเชื่อได้ยากเป็นอย่างยิ่งว่าเขาคือเทพแห่งความตาย

   เจ้าตกใจหรือไม่? 

  หลวงจีนชราถามพลางรินชาชั้นดีให้ซือหยู

  ซือหยูส่ายหน้า

   เป็นทั้งพระทั้งอสูรกายาเป็นพระ แต่ใจเป็นอสูร! นี่เป็นสิ่งที่ข้าเข้าใจได้ 

  หลวงจีนชรายิ้มราวกับไม่สนใจเรื่องราวอันใด

   ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเจ้าเป็นคนเดียวที่เห็นข้าแล้วไม่ตกใจ แต่เอาเถอะ เจ้าขอโอกาสได้พบข้าด้วยความตายของเจ้า เจ้าประสงค์จะพูดเรื่องอันใด? 

   มิใช่เพราะข้าต้องการพูดแต่ข้ามาที่นี่เพื่อทำข้อตกลงกับท่าน 

  ซือหยูจิบชาด้วยความใจเย็น

   ข้ามาที่นี่ในฐานะแขก 

  หลวงจีนชราพยักหน้า

   สำนักนรกไม่เคยปฏิเสธลูกค้าเจ้าปรารถนาอะไรจากข้าล่ะ? 

  ซือหยูยิ้มและอธิบายเรื่องราวผ่านกระแสจิต

  เมื่อฟังจบสีหน้าสงบเสงี่ยมของหลวงจีนชราแทนที่ด้วยสีหน้าหม่นหมอง

   นี่ไม่ใช่ข้อตกลงเล็กๆ หรอกนะ 

  หลวงจีนชราถอนหายใจเบาๆ หลังจากมองดูซือหยูที่ไม่ไหวติง

   หนุ่มน้อยความเห็นเจ้าทำข้าทึ่ง ข้าควรเรียกเจ้าว่ามั่นใจเกินควรหรือทะเยอทะยานดีล่ะ? 

  ซือหยูหัวเราะ

   ข้าขออย่างหลังก็แล้วกัน 

  หลวงจีนชราเงียบไปด้วยปัญญาและประสบการณ์ของเทพแห่งความตาย เขากำลังคิดถึงข้อตกลงของซือหยูอย่างหนัก ผ่านไปนานกว่าเขาจะพยักหน้า

   สำนักนรกยอมรับข้อเสนอเจ้าแต่เจ้าจะรักษาคำพูดหรือไม่? 

   แน่นอนเทพทุกคนในพันธมิตรบูรพาเห็นด้วยกับข้า    ซือหยูเรียกสร้อยหยกที่ได้จากเทพพ่อค้าออกมา

  หลวงจีนชรารับมาดูและเข้าใจเขาพยักหน้าช้า ๆ อีกครั้ง

   ย่อมได้เรารับข้อเสนอ หลังจากเรื่องราวจบลง ข้าจะมารับสิ่งที่ข้าควรได้ 

  เขาโบกมือเมื่อพูดจบซือหยูถูกย้ายตัวออกไปยังนอกสำนักนรกในจุดที่เขาเคยมา ราวกับว่าเขาไม่เคยไปไหนเลย

  จากนั้นเสียงอันน่ากลัวก็ได้ดังก้องขึ้น

   บันทึกชายผู้นี้เป็นแขกทรงเกียรติเก้าดาวแห่งสำนักนรกเขามีสิทธิ์พบข้าโดยไม่ต้องผ่านการรายงาน 

  เมื่อได้ยินเสียงนี้ชายวัยกลางคนในชุดสีคราม มือสังหารทั้งสี่ และวิหคเพลิงทมิฬ ทุกคนต่างตกตะลึง

   แขกเก้าดาว!! 

  ชายวัยกลางคนมองซือหยูหัวจรดเท้าและอุทานอย่างไม่เชื่อสายตาดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

  มือสังหารทั้งสี่ไม่เชื่อยิ่งกว่าชายวัยกลางคน

  วิหคเพลิงทมิฬตัวแข็งราวหินนางพูด

   นายท่าน…แขกสำนักนรกแบ่งเป็นเก้าระดับแม้แต่เทพทั้งเก้าแห่งโลกเสี้ยววิญญาณยังเป็นได้เพียงแขกเจ็ดดาว 

   ราชาแห่งเทพทั้งมวลในพันธมิตรประจิมมีคุณสมบัติเพียงแปดดาวมีคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับเกียรติเท่ากับท่าน! 

   นั่นคือจักรพรรดิอสูร! 

   ท่านเป็นแขกเก้าดาวคนที่สองแห่งสำนักนรก 

  วิหคเพลิงทมิฬตกตะลึงในใจนางบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย นางไม่รู้เลยว่าซือหยูพูดอะไรกับเทพแห่งความตายในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ทั้งสองได้พบกัน

  ไม่เพียงแต่เทพแห่งความตายจะให้อภัยการทำผิดของเขาแต่ซือหยูยังถูกส่งกลับมาอย่างไร้รอยข่วนอีกทั้งยังได้เป็นแขกเก้าดาว!

  ต่อให้เป็นข้อตกลงที่จะให้เทพแห่งความตายทำลายโลกเสี้ยววิญญาณนั่นก็ไม่น่าจะทำให้ซือหยูได้เป็นแขกเก้าดาวเช่นกัน

  ซือหยูพูดอะไรกับเทพแห่งความตายกันแน่?

  ฟึ่บ!

  แสงวาบชั่วพริบตาซือหยูเรียกภูเขาห้าธาตุเก็บและปล่อยตัวมือสังหารทั้งสี่ เขายืนมือไพล่หลัง

   ข้าจะพาวิหคเพลิงทมิฬกลับไป 

  เมื่อพูดจบเขากลับไปพร้อมกับวิหคเพลิงทมิฬที่อยู่ข้างกายโดยไม่เหลียวมองกลับ เขาค่อย ๆ หายไปจากระยะสายตาของแต่ละคน

  ชายผมดำวัยกลางคนในชุดสีครามได้แต่มองแผ่นหลังซือหยูเช่นเดียวกับมือสังหารทั้งสี่ที่ยังตกตะลึงไม่หายแม้จะผ่านเวลามาเนิ่นนาน

  สิทธิพิเศษของแขกเก้าดาวก็คือการที่ต้องรับรองในระดับเดียวกับเทพแห่งความตาย!

  พวกเขาต้องรับฟังทุกคำสั่งแม้แต่ต้องปล่อยให้เขานำตัววิหคเพลิงทมิฬกลับไปแม้เทพแห่งความตายจะไม่อนุญาต

  เงาทมิฬคอยสังเกตการณ์ซือหยูจากระยะไกลและหายตัวไปในความว่างเปล่า

  …

  ครึ่งวันต่อมาที่โลกของเทพโจรสลัด

  ซือหยูไม่ได้กลับไปพบกับเหล่าเทพทันทีเขาเตร็ดเตร่อยู่ที่ศูนย์กลางของโลกโจรสลัด เขาคอยสอดส่องคนเหล่านั้น

  ที่นี่คือศูนย์กลางตลาดมืดแห่งจักรวาลอย่างไม่ต้องสงสัยของต้องห้ามทุกชนิดและสมบัติของตระกูลเทพถูกขายอย่างอุกอาจ บางคนถึงกับค้ามนุษย์

   ฉินเฟยเฉินกับเจิ้งหยวนชิงคงจะขายได้ราคาดีทีเดียว 

  ซือหยูพูดคนเดียว  ซือหยูพบคนที่เขาคุ้นเคยหนึ่งคน…นั่นคืออาซัน!

  เขานำกลุ่มโจรสลัดที่กำลังนำกลุ่มชายหญิงสภาพไม่สู้ดีในเสื้อผ้าขาดวิ่น

  แต่ละคนดูโทรมและทุกข์ทรมานแม้ว่าจะอายุเท่าใด

   อาซันรึ?มันพาคนพวกนั้นไปไหนกัน? 

  ซือหยูสงสัย

   วิหคเพลิงทมิฬเจ้าไปสืบว่าอาซันจับคนเหล่านั้นไปเพื่ออะไร 

  ถ้าว่าตามเหตุและผลอาซันควรจะติดตามเทพโจรสลัดเพื่อคุ้มกันท่าเรือ และอาซันยังต้องสอดส่องเทพจากพันธมิตรบูรพาอีก เหตุใดเทพโจรสลัดถึงส่งอาซันมาที่นี่คนเดียวกัน?

  ที่นี่คือตลาดมืดกลางที่มีพ่อค้าขายข่าวอยู่ด้วยไม่นานวิหคเพลิงทมิฬก็กลับมา

  วิหคเพลิงทมิฬสีหน้ากระวนกระวาย

   นายท่านข่าวร้าย! คนที่อาซันจับมาคือคนตระกูลโท่ป๋าที่ถูกเนรเทศมาที่นี่ พวกเขาหนีมาที่นี่เพราะความตายของบุตรชายคนที่สอง! อาซันจะต้องจับพวกมันไปตามคำสั่งของเทพโจรสลัด พวกมันกำลังจะรู้ตัวตนโท่ป๋าหยุนของเราแล้ว! 

  ซือหยูเลิกคิ้วมีเรื่องบังเอิญอย่างคคนตระกูลโท่ป๋ามาถึงโลกเสี้ยววิญญาณด้วยรึ?

  เรื่องยุ่งยากขึ้นมาแล้ว!

  หากถูกเปิดโปงเทพโจรสลัดที่มีหน้าไม้สังหารเทพเก้าคันจะไม่ใช่เรื่องตลกอีกต่อไป

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท