โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 327

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.327 – วันแมนโชว์

สองมังกรหนึ่งไฟ หนึ่งดิน อ้าปากคำรนเข้าใส่กัน แรงปะทะส่งผลให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่

เม็ดทรายร้อนระอุกวาดกระจายทุกทิศทาง กระเด็นเข้าใส่บรรดาผู้ใช้พลังเลเวล E จนต้องล่าถอยห่างออกไป

“มอออ!”

ตรงกันข้ามกับนายพลกระทิง มันมิได้รับผลกระทบใดๆเลย เนื่องจากพลังป้องกันทางกายของมันแข็งแกร่งเกินไป เม็ดทรายร้อนระอุเหล่านี้จึงไม่สามารถทำอะไรมันได้

ในวิสัยทัศน์ของมัน ติดตรึงอยู่แค่เพียงภาพของฉินเฟิง จดจ้องศัตรูจนดวงตากลายเป็นสีแดงฉาน

ฉินเฟิงสัมผัสได้ว่าเนินทรายใต้เท้าเขาเกิดการขยับไหว

“ก้าวอัคคี!”

ทั้งคนทั้งร่างทะยานไปเบื้องหน้า พุ่งเข้าหานายพลกระทิงโดยตรง!

ขณะเดียวกัน ณ ตำแหน่งที่ฉินเฟิงเคยยืนอยู่ เกิดการก่อตัวขึ้นเป็นกระแสวังวนอย่างรวดเร็ว

–เป็นอบิลิตี้กับดักทราย!

พลังสมาธิของฉินเฟิงถูกเร่งเร้า โดนลอบเล่นงานจากข้างล่าง เขาก็ต้องเอาคืนบ้าง ในเวลาเดียวกันใต้ฝ่าเท้าของนายพลกระทิงพลันสาดประกายแสงสว่างไสว

“เทคนิคแมกมา!”

พื้นทรายแปรเปลี่ยนเป็นแอ่งลาวาอย่างรวดเร็ว สี่ขาของกระทิงดุถูกดูดจมลงไป ลาวาร้อนท่วมทับอีกฝ่าย

“มออ!!!”

“ระเบิดแมกมา!”

ดั่งตาน้ำพุที่ถูกเจาะออก พริบตานั้นเสาลาวาพวยพุ่งขึ้นทันใด กระแทกเข้าใส่ช่วงท้องเบื้องล่างของนายพลกระทิง

เสาลาวาพวยพุ่งอย่างบ้าคลั่ง พลังสมาธิของฉินเฟิงยิ่งมายิ่งเร่งเร้า เสาลาวาจากเดิมปะทุเพียงหนึ่งเมตร พลันลุกฮือขึ้นเป็นสามเมตรในทันที

เพลิงหนืดอันร้อนแรงกลืนกินไปทั้งตัวนายพลกระทิง ขาดเพียงส่วนศีรษะเท่านั้นที่ยังไม่ครอบคลุม

นายพลกระทิงยังไม่ยอมแพ้ มันระดมพลังเร่งเร้าผืนทราย ก่อตัวราวกับคลื่นยักษ์ โถมเข้าปกคลุมตำแหน่งที่ตนยืนอยู่

เสาลาวาแตกฮือ นายพลกระทิงหลุดพ้นจากการโจมตีร้ายแรงถึงชีวิตมาได้!

ทั้งสองฝ่ายที่ต่อสู้กัน หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง

ณ ตำแหน่งที่ไกลออกไป เหล่าผู้ใช้พลังเลเวล D ที่กำลังเฝ้ามองเผยถึงสีหน้าตื่นตะลึง

นายพลกระทิงเวลานี้ เผยโฉมออกมาอีกที ตรงส่วนหน้าท้องของมันถูกเผาจนไหม้ ทั้งยังได้กลิ่นเนื้อย่างสุกหอมกรุ่น บ่งบอกชัดว่ามันได้รับบาดเจ็บสาหัส

นายพลกระทิงไม่รั้งรออีกต่อไป หมุนกายไปอีกทาง วิ่งหลบหนี!

มออออ—–

เสียงร้องลั่นลากยาว ข่มฝูงกระทิงที่กำลังตกอยู่ในความวุ่นวายให้สงบลง กลับมารวมตัวกันรอบนายพลสัตว์ร้ายอย่างเป็นระเบียบ และเริ่มวิ่งตามติดมันจากเบื้องหลัง

“ไม่ดีแล้ว มันคิดจะหนี!”

ผู้คนที่กำลังรับชม มีหรือจะยินยอมเช่นนั้น

เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงสามารถโจมตีนายพลกระทิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี แล้วจะปล่อยให้มันหนีไปได้อย่างไร!

เลเวล D ที่เดิมเป็นผู้รับชม ทั้งหมดเคลื่อนไหวแทบจะพร้อมกัน

ฉินเฟิงแสยะยิ้มหยัน ไอ้เจ้าพวกนี้ เห็นว่ามีโอกาสก็คิดฉกฉวยผลงานของผู้อื่นทันที ทั้งๆที่ตัวเองอยู่ตั้งไกล

ตรงกันข้ามกับฉินเฟิง เขาอยู่ในสนามรบ อยู่ใกล้กับนายพลกระทิงมากที่สุด ขนาดคนอื่นๆยังไม่คิดปล่อยมันไปเลย แล้วตัวเขาจะปล่อยมันไปได้อย่างไร?

หนึ่งมือกางออก มีดกษัตริย์ครามในพื้นที่มิติปรากฏขึ้นในมือของฉินเฟิงทันใด

ปัจจุบันมีดกษัตริย์ครามเปลี่ยนแปลงไปมาก ทว่ายิ่งเปลี่ยน เอกลักษณ์ของมันก็ยิ่งโดดเด่น!

ณ ตอนนี้ นอกเหนือไปจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก –นั่นคือพลังอันทรงประสิทธิภาพของมันที่เพิ่มขึ้นไปหลายเท่าตัว!

“มีดเปลวเพลิง!”

ฉินเฟิงตัดขวางใบมีดเป็นแนวนอน กระทิงเนินทรายไก่กาที่อยู่เพียงเลเวล E ถูกสะบั้นขาดเป็นท่อนทันที

พวกมันตายลงโดยไม่รู้ตัว!

ฉินเฟิงตัดกวาด ทั้งยังทะยานออกไปข้างหน้า ระยะห่าง 100 เมตรหดสั้นลงจนไม่ไกลจากนายพลกระทิง

“ตายซะ!”

ด้วยการตัดเฉือนเพียงครั้งเดียวของฉินเฟิง เปลวเพลิงบนใบมีดยืดขยายออกไปกว่า 10 เมตร สับลงบนร่างใหญ่โตของนายพลกระทิง

ประกายจากเพลิงฟ้า กระพริบไหว!

โครม!

นายพลกระทิงเหมือนจะไม่สามารถควบคุมร่างกายของมันได้ ฝีเท้ายังคงควบวิ่งต่อไป ก่อนที่พริบตาต่อมา ร่างของมันจะถูกแยกออกเป็นสองซีก ร่วงกระแทกกับพื้นทรายเสียงดังโครมใหญ่

แต่ก็อย่างที่บอกไป เนื่องจากฉินเฟิงทะยานเข้ามาหานายพลกระทิงอย่างเร่งร้อน รู้สึกตัวอีกที ปัจจุบันเขาก็ตกอยู่ท่ามกลางฝูงกระทิงเสียแล้ว

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่ได้ตื่นตระหนกใดๆ พลังสมาธิของเขาเริ่มเร่งเร้า เปลวไฟอันโหดเหี้ยมลุกโหมขึ้นทันใด

“พรมโลกันต์!”

รอบกายฉินเฟิง ในรัศมี 50 เมตรพลันลุกฮือไปด้วยทะเลเพลิง โหมกระหน่ำสูงกว่า 2 เมตร ปกคลุมร่างอันใหญ่โตของฝูงกระทิงดุ

ฝูงกระทิงถูกแผดเผา ทว่าก็ยังมีบางตัวที่อยู่ใกล้ๆ ฝืนทนฝ่าทะเลเพลิงพุ่งเข้ามา หมายจะใช้เขาขนาดใหญ่งัดใส่ฉินเฟิง!

“ยังจะกล้ามาอีกหรอ?”

ฉินเฟิงสะบัดมีดกษัตริย์ครามในมือเฉือนออกไปซ้ำๆ

สัตว์ร้ายทุกตัวที่เข้าใกล้เขา ตายลงอย่างสิ้นเชิง

ขณะเดียวกัน พวกสัตว์ร้ายที่อยู่ไกล วิ่งได้อีกไม่กี่ก้าวก็ดิ้นพล่าน ไม่ทันหลุดจากอาณาเขตพรมโลกันต์ ก็ล้มลงกับพื้น

ในการโจมตีเดียวของฉินเฟิง สามารถดับชีวิตกระทิงเนินทรายรวมๆกันแล้วได้นีบ 100 ตัว!

ตั้งแต่ฉินเฟิงก้าวสู่สมรภูมิ ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จำนวนสัตว์ร้ายก็ลดลงเป็นอย่างมาก

อีกทั้งเมื่อนายพลสัตว์ร้ายตายลง ฝูงกระทิงก็ตกลงสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง แตกฮือหลบหนีไปทุกทิศทาง

บ้างตะบึงหลบหนีกลับไปทางฝั่งทะเลทรายทะเลเหนือ บ้างก็พุ่งกลับเข้ามาทางปราการชาตง

“หยุดมัน! รีบสกัดเอาไว้!” นายพลหูคำรามสั่งการ

บรรดาผู้ใช้พลังที่ต้องการไล่ตามฝูงกระทิงในตอนแรก เมื่อเกิดความโกลาหลขึ้น ก็กลับทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะหนึ่ง กลายเป็นคนถูกโจมตีซะเอง

แต่ยังไงซะพวกเขาก็เป็นเลเวล D เมื่อต้องสู้กับสัตว์ร้ายในเลเวลเดียวกัน ถึงไม่อาจชนะได้ในทันที แต่ก็ไม่มีทางตายลงที่นี่อย่างแน่นอน ทว่าก็มิแคล้วตกอยู่ในสภาพน่าสังเวช

เทียบเปรียบกับฉินเฟิงที่ยืนหยัดทรนงอยู่ท่ามกลางทะเลเพลิงแล้ว แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

ฉินเฟิงยังไม่คิดหยุดฝีเท้า มีดกษัตริย์ครามในมือโบกสะบัดครั้งแล้วครั้งเล่า ไล่ล่าสังหารฝูงกระทิงอย่างดุเดือด

กระทิงเนินทรายเหล่านี้มิใช่คู่ต่อกรของฉินเฟิง มีดตวัดเพียงครั้งก็มากพอแล้วที่จะทะลวงพลังป้องกันของมัน ตัดหัวขาดในฉับเดียว

ทิศทางทางอาบไปด้วยรังสีฆ่าฟัน ฉินเฟิงไล่ตามฝูงกระทิงไปไกลกว่า 1,000 เมตร ล่าสังหารเดรัจฉานพวกนี้ตัวแล้วตัวเล่า

แต่ก็คร้านจะไล่ไกลจนเกินไป ไม่นานฉินเฟิงก็กลับมา ปรากฏว่าทางกระทิงที่หนีมาทางฝั่งปราการชาตง ยังเหลืออีกกว่า 20 ตัวที่ไม่ตาย แต่ผู้ใช้พลัง 30 คนประสานงานต่อสู้ได้เป็นอย่างดี เขาเลยไม่คิดเข้าไปก้าวก่ายแต่อย่างใด

ฉินเฟิงหยุดฝีเท้า เฝ้ามองฝูงชนสักพัก ก่อนจะเริ่มเดินเอ้อระเหยข้ามผ่านผืนทราย ราวกับว่าที่นี่ไม่ใช่สนามรบ

ไม่นาน ฉินเฟิงก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้านายพลหู ผู้ครอบครองตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด

นายพลหูมองฉินเฟิง เวลานี้สีหน้าของเขาดูไม่สู้ดี ยังคงมีอาการช็อกที่ยังไม่หายไป

“ชื่อฉินเฟิงใช่ไหม ฉันชื่อว่าหูเหลียง เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D5 ตอนนี้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดประจำเขตสงครามของทะเลทรายทะเลเหนือ เรียกฉันว่านายพลหูก็ได้!”

“นายพลหู ยินดีที่ได้รู้จัก!”

ฉินเฟิงยื่นมือออกไป เชคแฮนด์กับนายพลหู

“ยินดีเช่นกัน ฉันไม่คิดเลย ว่าคนที่มีความแข็งแกร่งไม่ต่างจากสัตว์ร้ายระดับนายพลอย่างคุณ จะมาเยือนปราการชาตงของฉัน คุณคงไม่ใช่พวกลูกหลานลับๆของตระกูลชั้นสูงที่ไหนหรอกใช่ไหม? รุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ฉันไม่เคยได้เห็นมาก่อนเลย ถ้าไม่รู้จักกัน ฉันคงคิดว่าคุณมาจากเมืองหลวงมังกร!”

เมืองหลวงมังกร ปัจจุบันคือภูมิภาคของจีนโบราณ อุดมไปด้วยพลังงานฟ้าดิน เป็นทำเลที่ยอดเยี่ยมที่สุด หากถือกำเนิดที่นั่น ไม่ว่าใครก็จะได้รับพลังงานฟ้าดินตั้งแต่แรกเกิด กลายเป็นผู้มีคุณสมบัติโดดเด่น มันคือเมืองที่สรรสร้างลูกรักของพระเจ้าออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แต่ละคนล้วนเก่งกาจชนิดเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาด

“ผมเป็นแค่ผู้ว่าการของสถานชุมชนเล็กๆในเขตสามเฉิงเท่านั้น หลายคนก็รู้เรื่องนี้ นายพลหูอย่าเข้าใจผิดไป”

ฉินเฟิงแข็งแกร่งขึ้นเร็วเกินไป ใครบ้างไม่รู้จักเขา มีน้อยคนนักที่ไม่รู้

“ฮ่าฮ่า จะใช่หรือไม่ก็ตาม แต่คุณยังเด็กมาก มองยังไงก็เป็นลูกรักของพระเจ้า!”

ฉินเฟิงไม่ต้องการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในชีวิตก่อน หากเขาไม่ถูกรังแก ฉกชิงแก่นอบิลิตี้ไปแล้วล่ะก็ เวลานั้นต่างหาก เขาถึงเหมาะสมกับคำว่าลูกรักของพระเจ้าอย่างแท้จริง

แต่ปัจจุบัน ฉินเฟิงยังอายุน้อย แต่ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ในชีวิตก่อน เขาเลยมีทัศนคติแบบผู้ใหญ่มากกว่าคนอื่นๆในวัยเดียวกัน ดังนั้นไม่คิดรับคำชมเชย หรือแบกรับชื่อเสียงในฐานะลูกรักของพระเจ้าแต่อย่างใด

“นายพลหู เมื่อครู่นี้ไม่ใช่คุณเพิ่งจะพูดว่า ให้ผมจัดการเรื่องที่นี่หรอกหรอ โชคดีจริงๆที่ผมไม่ทำภารกิจของตัวเองล้มเหลว!” ฉินเฟิงเปลี่ยนหัวข้ออย่างกระทันหัน

หูเหลียงหัวเราะฮ่าฮ่า กลบเกลื่อนความอึดอัดบนบนใบหน้า

“วางใจเถอะ รางวัลของคุณจะไม่ขาดตกบกพร่องแน่นอน!”

นี่แหละคือประโยคที่ฉินเฟิงต้องการ

และในระหว่างที่ทั้งสองสนทนากัน การต่อสู้บนสนามรบในครั้ง ก็ยุติลงพอดี

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท