โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 351

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Ch.351 – โจมตียามค่ำ

Provider : Muntra

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.351 – โจมตียามค่ำ

ซงจินควงหัวเราะลั่น

“ฉินเฟิงเอ๋ย นี่คือพิษประจำตระกูลซงของข้า หากเจ้ายังดึงดันวิ่งหลบหนี ยิ่งเร่งเร้ากำลังภายในมากเท่าไหร่ ตัวเจ้าก็จะยิ่งตายเร็วขึ้นเท่านั้น!”

ฉินเฟิงรับรู้ได้ถึงละอองเลือดจากโพรงจมูก มันไหลเข้าสู่ร่างกาย ปะทะเข้ากับเส้นลมปราณ สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง

แต่ในตอนนั้นเอง เส้นลมปราณที่ทรงพลังอย่างหาที่ใดเปรียบของฉินเฟิง ผลลัพธ์ที่ถูกเคี่ยวกรำจากพลังพิเศษดูดกลืนก็สำแดงอำนาจของมันออกมา

ดั่งกระแสน้ำเชี่ยวที่ไหลผ่าน คลื่นกำลังภายในวิ่งกวาดไปตามเส้นลมปราณ โถมทับละอองเลือด ชะล้างมันออกไป

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าฉินเฟิงครอบครองความแข็งแกร่งทางกายในระดับจักรพรรดิ ดังนั้นย่อมไม่มีทางต้องพิษง่ายๆ

ได้ยินเสียงหัวเราะสะใจคลุ้มคลั่งของซงจินควง สมองของฉินเฟิงเกิดความคิดบางอย่างขึ้น

ฝีเท้าของเขาจู่ๆก็เชื่องช้าลง ทั้งร่างกายยังสั่นไหวเล็กน้อย

ซงจินควงที่กำลังไล่ตามมา สามารถประชิดตัวได้อีกครั้งในทันที

“เดิมทีข้ารับปากเอาไว้ ว่าต้องการแค่แขนของเจ้า แต่ตอนนี้ ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะสังหารเจ้า!”

ซงจินควงตระหนักด้วยตนเองแล้วว่าฉินเฟิงแข็งแกร่งมากจริงๆ เป็นเจ้าหนูมากพรสวรรค์

หากยอมละเว้นชีวิตไป ยามฉินเฟิงเติบใหญ่ และก้าวขึ้นสู่เลเวล C ถึงเวลานั้นซงจินควงคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย

ฉะนั้น เลยจำเป็นต้องเร่งทำลายต้นตอของปัญหา! ตัดรากถอนโคนมัน จะได้ไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในอนาคต

“ไปลงนรกซะ!”

ซงจินควงกระแทกฝ่ามือสุดแรง

“ฝ่ามือละลายโลหิต!”

กลิ่นอายเลือดชวนระคายจมูกฟุ้งกระจายออกมา ฟาดเข้าใส่ฉินเฟิง

ทว่าในช่วงเวลานั้นเอง จู่ๆกลิ่นอายของฉินเฟิงก็พลันแปรเปลี่ยน ความยืดยาดเชื่องช้าหายเป็นปลิดทิ้ง กลับมาสดใส เปี่ยมไปด้วยพลังดังเดิม!

“มังกรตะปบ!”

ร่างเงากรงเล็บมังกรทองระเบิดออก กำลังภายในลุกฮือ แปรผันกลายเป็นเสียงคำรามของมังกร

ปัง!

สองกระบวนท่าโจมตีปะทะเข้าใส่กัน

ในช่วงแรก จังหวะที่กำลังภายในเชือดเฉือนกัน มันได้ก่อความผันผวนรุนแรง กวาดกระจายไปทั่วบริเวณ

ต่อมา กำลังภายในก็เริ่มเจาะทะลวงกันและกัน กระทบเข้ากับปราณกำลังภายในที่อยู่เหนือมัน

เปรี้ยง!

กำลังภายในของทั้งฉินเฟิงและซงจินควงแตกสลายในเวลาเดียวกัน

ซงจินควงรับรู้ได้ถึงพละกำลังมหาศาลที่ซัดเข้าใส่กายตน

ลั่นกร๊อบ! กระดูกหัวไหล่ของซงจินควงแตกร้าว

ทางฝั่งฉินเฟิง ละอองโลหิตสามารถเจาะกำลังภายในของเขาเข้ามาได้ พวกมันบุกไปทำลายอวัยวะทั้งห้าของฉินเฟิงโดยตรง!

“อ๊อก!”

ฉินเฟิงกระอักเลือดออกมา

นับตั้งแต่ที่ได้เกิดใหม่ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉินเฟิงบาดเจ็บหนักถึงขนาดนี้

ความเจ็บปวดรุนแรงอันคุ้นเคยถูกส่งผ่านเข้ามา แต่มันกลับทำให้เลือดในกายเขาเดือดพล่านมากขึ้นกว่าเดิม

ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงตระหนักดี ว่าอาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ มันหนักหนากว่าของซงจินควงอย่างแน่นอน

‘ซ่อนก่อนดีกว่า’

ฉินเฟิงไม่อยู่เฉย จู่ๆทั้งร่างของเขาก็พลันถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด

ซงจินควงชะงักงัน จ้องมองฉากนี้ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง การรับรู้ของเขากวาดไปยังทิศทางของฉินเฟิง แต่กลับพบว่าสูญสิ้นการมองเห็นอีกฝ่ายไปซะแล้ว

ฉินเฟิงสามารถหลุดออกจากการล่าสังหารของเขาได้อีกครั้ง

“อุ!” ซงจินควงสูดหายใจเย็นเยียบ รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนไหล่

หลายปีเหลือเกิน นานนมแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดเช่นนี้!

“เลือดฟื้นฟู!”

ซงจินควงเร่งเร้ากำลังภายในรักษาอาการบาดเจ็บ คราวนี้ เขารู้แล้ว ว่าถึงฉินเฟิงจะหายไป แต่ก็ไม่น่าจะวิ่งไปได้ไกล ตรงกันข้าม หากตนไล่ล่าฉินเฟิงในสภาพนี้ เกรงว่าจะกลายเป็นฝ่ายถูกลอบโจมตีเองซะมากกว่า

ตีห่านป่ามาทั้งวัน แต่ตอนจบดันถูกห่านจิกเข้าเบ้าตา –ซงจินควงไม่อยากให้มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงแน่นอนมิได้จากไปไหนไกล

ท่ามกลางความมืดมิด ฝูงหมาป่าทะเลทรายเลเวล F กำลังนอนขดตัวอยู่ด้วยกัน พวกมันซ่อนตัวอยู่บนก้อนหินใหญ่เหนือผืนทรายสีเหลือง ในฝูง มีหมาป่าอยู่ราวๆ 30 ตัว ในจำนวนนั้นมีระดับทหารสัตว์ร้ายอยู่แค่ 2 – 3 ตัว

ท่ามกลางทะเลทรายทะเลเหนือ ฝูงหมาป่านี้ ถือว่าเป็นการดำรงอยู่เล็กจ้อยแสนอ่อนแอ

ซวบ ซวบ ซวบ

เสียงฝีเท้ายวบยาบดังเข้ามา

ฝูงหมาป่าหูตั้งทันใด จมูกยาวของมันขยับฟุดฟิด สูดดมกลิ่นเลือดในอากาศ

“โบร๊วววว”

ฝูงหมาป่าแหงนคอหอนลากยาว แต่ละตัวเริ่มลุกขึ้น ท่าทีเหมือนกำลังตื่นเต้นกับอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษที่จู่ๆก็โผล่มาอย่างกะทันหัน

ทว่าในตอนนั้นเอง คู่ดวงตาคมเข้มคู่หนึ่ง ก็พลันสาดประกายสว่างวาบสีแดงออกมา

“มาซี่ ฉันกำลังรอพวกแกอยู่พอดี!”

ฉินเฟิงยิ้มมุมปาก ระดมพลังสมาธิ

“ประกายแสงแห่งความตาย!”

เงามืดที่ดำราวกับหมึก โถมเข้าปกคลุมฝูงหมาป่า

“เอ๋ง … ”

หมาป่าเหมือนจะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง มันสะอื้นครางด้วยความหวาดกลัว

แต่ในชั่วพริบตาเดียว กลิ่นอายชีวิตของหมาป่าเหล่านี้ก็สลายไป จมสู่ความตาย

ฉินเฟิงรับรู้ได้ถึงกระแสพลังงงานไหลเข้าสู่ร่างกายเขา แม้จะไม่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง แต่ก็ช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี

ซงจินควงนั้นโหดเหี้ยมเกินไป

ฝ่ามือละลายโลหิตของอีกฝ่าย เรียกได้ว่าบรรลุถึงขั้นสุดแล้ว หากไม่ใช่เพราะฉินเฟิงครอบครองพลังพิเศษกลืนกินล่ะก็ เวลานี้ต่อให้เขาหนีมาได้ สุดท้ายก็ตายอยู่ดี เพราะยังไงซะ อวัยวะภายในทั้งหมดกำลังถูกหลอมละลายภายใต้กระบวนท่าฝ่ามือ โชคยังดีที่มีกำลังภายในจากเส้นลมปราณคอยยื้อกระบวนการดังกล่าวเอาไว้

ฝ่ามือมังกรตะปบของเขาเมื่อครู่ แม้ทุ่มสุดแรง แต่ฉินเฟิงก็ยังไม่เทหมดหน้าตัก

ในตันเถียนของเขา ยังคงเหลือมวลน้ำกำลังภายในอยู่ 1 แอ่ง หากไม่ใช่เพราะมวลน้ำแอ่งนี้คอยยื้อเอาไว้ล่ะก็ ฉินเฟิงคงไม่รอดจากสถานการณ์เมื่อครู่

และโชคยังดี ที่ฉินเฟิงมีพลังพิเศษกลืนกิน

ท่ามกลางความมืดมิด ฉินเฟิงเริ่มไล่ต้อนสัตว์ร้ายบนทะเลทราย พวกเลเวล F กับ E ตนใดผ่านตาเขาล้วนถูกสังหารสิ้น แต่หากพบเลเวล D ฉินเฟิงจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่บุกโจมตี เพราะสภาพร่างกายเขาในตอนนี้ มันยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซงจินควงก็พบคราบเลือดของฉินเฟิง การไล่ล่าบังเกิดขึ้นอีกครั้ง

เมื่อพบกับศัตรูคู่อาฆาต ดวงตาก็พลันกลายเป็นสีแดงฉาน

“เทคนิคมังกรไฟ!”

“กรงเล็บโลหิตสังหาร!”

ทั้งสองโจมตีใส่กันอีกครั้ง คราวนี้ประสิทธิภาพในการรบของซงจินควงอ่อนแอลง ฉินเฟิงจึงสามารถต่อกรได้อย่างเท่าเทียม

กึ้งงงง!

อานุภาพทำลายล้างกวาดกระจายออกไป

ณ เวลานี้ เผ่าพันธุ์แมลงนับไม่ถ้วนในพื้นที่ต่างตระหนักถึงการต่อสู้ พวกมันเกิดความตื่นตระหนก และคิดหลบหนีไป

กระแสกองทัพแมลงขนาดใหญ่เคลื่อนที่ไปอีกทาง

สีหน้าของซงจินควงยิ่งมายิ่งซีดเซียว

ตรงกันข้าม ฉินเฟิงกลับยิ่งเปล่งประกายสดใส

พริบตาเดียว ฉินเฟิงก็หายวับไปอีกครั้ง

“ไอ้เด็กระยำ!” ซงจินควงหันซ้ายขวามองหาเขา แม้ฉินเฟิงหายไปจะทำให้การต่อสู้จบลง ทว่ากองทัพแมลงยังคงรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายเลเวล C จากซงจินควง

ดังนั้นวิ่งหลบหนีไปเช่นกัน การต่อสู้ระหว่างทั้งสองชะงักลงไปอีกคราว

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองก็พบกันอีกครั้ง

ในระหว่างการต่อสู้ ฝ่ามือของซงจินควงในที่สุดก็ซัดโดนเข้าเต็มๆแขนของฉินเฟิง

แต่ทางฉินเฟิงเองก็สู้สุดฝีมือ งัดอบิลิตี้แมกมาโลกันต์ท่วมทับซงจินควง

ศีษระของซงจินควงถูกแผดเผาทันใด!

ฉินเฟิงฉวยจังหวะนี้หลบหนีไปอีกครั้ง

หนึ่งชั่วโมงต่อมา การต่อสู้ระหว่างทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้นอีกที

หากกล่าวเป็นตัวเลขคะแนน ครั้งนี้เขาสามารถทำร้ายศัตรูได้รับบาดเจ็บ 1,000 แต้ม ส่วนตนโดนอัดกลับมา 800 แต้ม

ฉินเฟิงระเบิดเพลิงหนืดใต้ดิน บดบังวิสัยทัศน์และถ่วงเวลาซงจินควง ส่วนตนวิ่งหลบหนีไปดูดพลังงานจากฝูงสัตว์ร้ายอีกรอบ

การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา …

การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นในอีก 3 ชั่วโมงต่อมา …

ตลอดทั้งคืน ทั้งสองปะทะกันกว่า 7 – 8 ครั้ง

ทุกครั้งที่ฉินเฟิงถอย ซงจินควงจะไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขามิใช่คนโง่ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปออกมา “เจ้าเด็กฉินเฟิงนี่ น่าจะเป็นผู้ใช้อบิลิตี้สองประสาน เขาต้องครอบครองธาตุมืดด้วยแน่ๆ มิฉะนั้น จะหายวับไปในความมืดได้อย่างไร?” ซงจินควงบ่นพึมพำ

อย่างไรก็ตาม แม้ซงจินควงจะทราบว่าฉินเฟิงครอบครองอบิลิตี้มืด แต่เขาก็ไม่ได้คิดป่าวประกาศออกไป

เพราะในสายตาของซงจินควง ฉินเฟิงคือคนที่ตายไปแล้ว

มีแค่พวกพันธมิตรมนุษยชาติเท่านั้นแหละ ที่มัวใส่ใจเกี่ยวกับชื่อเสียง และเลือกโจมตีด้วยวิธีนี้

ซึ่งซงจินควงจะไม่ทำ

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เขาคือเลเวล C ต่อให้ฉินเฟิงจะครอบครองอบิลิตี้มืด แต่เขาก็ไม่คิดตั้งใจเรียกให้คนที่แข็งแกร่งกว่า มาจัดกรากับฉินเฟิง

อีกอย่าง ซงหยูหมังและคนอื่นๆ หากเทียบสถานะแล้วล้วนด้อยกว่าตน ซงจินควงในฐานะผู้นำ จะคาบเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างไร?

ฝั่งฉินเฟิงเอง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาใช้อบิลิตี้มืดหลบหนีศัตรูยาวนานขนาดนี้ ในสมองเริ่มขบคิดถึงวิธีการใหม่ … ว่าจะใช้หนีอย่างเดียวทำไม? ใช้โจมตีไปด้วยซะเลยเซ่!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท