The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1206 – ถึงคราเทพรากษส

ตอนที่ 1206 - ถึงคราเทพรากษส

  เทพเซียนคันฉ่องหน้าถอดสีขณะทีก่ำลังต่อสู้

   อะไรกัน?เทพวารีตายแล้ว! 

  นางเห็นจิตวิญญาณหนึ่งที่รายล้อมไปด้วยแสงเทพแต่ก็ไร้ซึ่งแหล่งพลังเทพ

  จากนั้นนางก็กลิ้งหลบเถาวัลย์สีน้ำเงินก่อนจะหนีไปมีเสียงสตรีกรีดร้องดังลั่นด้วยความสะพรึงกลัวตามมา

   จิตวิญญาณเทพล้ำค่ามากมันขายในตลาดมืดได้เป็นกอบเป็นกำ ถ้าเจ้าหนีไปตอนนี้ ข้าจะเอามันไปขายยังไงเล่า? 

  หลิวลี่ที่อยู่ด้านหลังตกใจเมื่อได้ยินนั่นเป็นใครกัน? เทพที่สังหารเทพวารีได้อย่างง่ายดายนั้นจะน่ากลัวเพียงใดกัน?

  นางที่ลอกแลกไปชั่วขณะถูกเทพกิเลนเห็นช่องโหว่เขาเทพกิเลนแทงทะลวงร่างของนางในพริบตา  ดวงวิญญาณของหลิวลี่ตกตะลึงนางรีบพุ่งไปรวมตัวกับว่าที่เทพและเทพอื่นที่กำลังจะหนี

  เทพกิเลนเพียงแค่ยิ้มและซัดนางด้วยอุ้งเท้านางอยู่ใต้เท้าของเขา

   เจ้าซือหยูบอกว่าหอคอยเรามีทุกอย่างเว้นเสียแต่ว่าที่เทพแหล่งพลังเทพจะเป็นประโยชน์มาก ข้าไม่ปล่อยเจ้าหนีไปหรอก 

  เทพกิเลนอ้าปากดูดกลืนดวงวิญญาณหลิวลี่ไปพร้อมกับแหล่งพลังเทพที่นางมี

  เสียงคำรามดังขึ้นแต่ไม่มีใครรู้ว่าดังมาจากที่ใด

   เจ้ากล้าดียังไง! 

  ต้นเสียงคือเทพเซียนคันฉ่องนางเพิ่งจะรู้ว่าลูกสาวนางถูกเทพกิเลนจับตัวไป นางโกรธแค้นในทันที

   สู้กันหลายๆ คนแบบนี้กับข้าไม่สนุกนักหรอก! 

  เทพไม้มองเทพเซียนคันฉ่องและซัดพลังออกไปโลหิตเทพฟุ้งกระจายเต็มไปหมด เทพเซียนคันฉ่องร่างแตกหัก ร่างนางเกือบจะสลายเพราะเทพไม้

  แม้นางจะหนีไปได้เทพศิลาก็มิได้โชคดีเช่นนั้น เทพศิลากรีดร้อง เขาตายไปเช่นเดียวกับเทพวารี

  ร่างของเขาถูกทำลายดวงวิญญาณถูกจับเอาไว้

  ที่โลกเทพศิลาทุกสิ่งทุกอย่างร่ำไห้แด่เขา ท้องนภาหลั่งพิรุณโหลิตทองคำชะล้างทุกสิ่งบนโลกและดวงวิญญาณบนโลกใบนั้น

  เทพสองคนตายในพริบตาเดียว

  คลื่นพลังเทพที่แผ่ออกไปรอบๆ นั่นส่งไปถึงทั้งพันธมิตรบูรพาอย่างรวดเร็ว

  เมื่อคลื่นพลังเทพของเทพวารีถูกปลดปล่อยออกมาหลังความตายเทพคนอื่น ๆ ตกใจ เทพวารียังเหลืออายุขัยอีกมาก ใยจู่ ๆ ถึงตายเล่า?

  แต่จากนั้นก็มีคลื่นพลังเทพของเทพศิลาตามมาด้วยเหล่าเทพตกตะลึงจนตัวสั่น

  เกิดอะไรขึ้น?ทำไมเทพสองคนถึงตายในเวลาไล่เลี่ยกันเล่า? ฝีมือใครกัน?

  สีหน้าของเทพสูงสุดเก้าคนเปลี่ยนไปพวกเขาพุ่งไปยังต้นตอของพลัง

  เทพนั้นอยู่อย่างสงบสุขมาเนิ่นนานการตายของเทพทั้งสองคนไม่ต่างจากอุกกาบาตที่ตกลงในวารีสงบนิ่ง

  เทพทุกคนตัวสั่น!

  ไม่ว่าจะเป็นการรุกรานของเผ่าอสูรหรือไม่เทพทั้งสองก็ไม่มีทางตายไปอย่างผิดปกติเช่นนั้น!

  จะต้องมีบางอย่างที่น่ากลัวมากเกิดขึ้น!

  เหล่าเทพเหล่าทายาทเทพ และเหล่ายอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ในพันธมิตรบูรพาต่างตื่นตัว

  ที่หน้าป่าไผ่ม่อเทียนฉวนมองท้องนภาด้วยความตกใจเล็กน้อย

   เทพตายพร้อมกันถึงสองคนกลียุคกำลังจะมาถึงหรือ? 

   ท่านอาจารย์หกวิถีเราควรเดินทางออกจากพันธมิตรบูรพาหรือไม่? 

  ม่อเทียนฉวนพูดกับกระท่อมด้วยความเคารพนับถือ

  ในกระท่อมเสียงเบาบางดังตอบนาง

   ไม่จำเป็นที่นี่ยังมีบางอย่างเหลืออยู่ 

  ม่อเทียนฉวนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ

   ท่านหมายความว่าหลังจากขุมทรัพย์เทพตำราถูกทำลายพันธมิตรบูรพาจะยังมีหนทางฟื้นคืนกลับมาอีกหรือ? 

   ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้นแต่ข้าหมายถึงบางอย่าง…หรือบางคน 

  ม่อเทียนฉวนเบ้ปากอะไรกัน? หรือใครกัน? มันหมายความว่ายังไงกัน?

   จะอย่างไรการถูกทำลายของขุมทรัพย์เทพตำราก็เป็นข่าวดีสำหรับพันธมิตรบูรพา 

  ตั้งแต่ที่ม่อเทียนฉวนกลับมายังพันธมิตรบูรพานางจดจ่ออยู่กับการหาข้อมูลถึงสิ่งที่ดำเนินไปในโลกเพื่อเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น

  ต่อให้นางไม่จงใจหาข่าวนางก็รู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างของซือหยูอยู่เรื่อยไป โดยเฉพาะการทำลายขุมทรัพย์เทพตำรานั้น…นางพอใจมาก

   ขุมทรัพย์เทพตำราถูกทำลายจริงๆ รึ? อาจจะไม่ น่าจะไม่ บางทีอาจไม่ใช่ 

  อะไรนะ?ม่อเทียนฉวนตกใจ ขุมทรัพย์เทพตำรายังไม่ถูกทำลายรึ? เป็นไปได้ยังไง?

  …

  ที่โลกเทพวารีใบหน้างดงามของเทพไม้มีรอยยิ้มแบ่งบาน นางได้จิตวิญญาณเทพมาสองดวงซึ่งจะนำไปขายได้ในราคาสูง

  นางมองเทพเซียนคันฉ่องที่อาการสาหัสตรงหน้าเทพไม้เลียริมฝีปาก

   เป็นเด็กดีล่ะข้าจะได้ให้เจ้าสามคนอยู่ด้วยกัน ดีไหม? 

  หยาบคายนัก!เทพเซียนคันฉ่องสีหน้าดำมืด นางรู้แล้วว่าทำไมซือหยูถึงใจเย็นนัก!

  นางไม่ได้มาคอยลอบสังหารซือหยูแต่นางกลับเป็นฝ่ายถูกซุ่มโจมตีเสียเอง!

  ซือหยูจัดการสังหารเทพสองคนพร้อมกันคลื่นพลังเทพที่แพร่กระจายไปทั่วพันธมิตรบูรพาจะต้องถูกเทพทั้งหมดสัมผัสได้แล้ว

  ตอนนี้ซือหยูไม่จำเป็นต้องมองหาการสนับสนุนจากเทพอีกแล้วเทพทั้งหมดที่อยู่ในแผ่นดินใหญ่ต่างหากที่จะต้องมาพบเขา!

  เพียงแค่คิดก็ทำให้เทพเซียนคันฉ่องหนาวสั่นสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างที่ซือหยูพูดจริง ๆ

  เขาไม่จำเป็นที่จะต้องไปเยี่ยมเทพคนใดเพราะเขาจะให้เทพทุกคนต้องมาหาเขาด้วยตัวเอง!

  เทพเซียนคันฉ่องหนาวสั่นด้วยความกลัวไปทั้งตัวขณะที่จ้องมองซือหยูคนคนนี้จะไปได้ลึกและไกลเพียงใดกันในอนาคตข้างหน้า?   .

  .

  พวกนางสามารถสังหารซือหยูได้จริงน่ะหรือ?

  ตอนนี้นางเริ่มเสียใจแล้วที่เห็นด้วยกับวิธีของฉินเฟยเฉิน!

  มาถึงขั้นนี้แล้วนางจะไปที่ไหนได้อีก? ยังมีช่องว่างให้นางถอยกลับหรือ?

   อย่าได้คิดว่าเจ้าชนะแล้วมันยังไม่จบหรอก! 

  เทพเซียนคันฉ่องเช็ดคราบโลหิตสีทองที่มุมปากและทุบสร้อยหยกเส้นหนึ่ง

  เทพไม้ขมวดคิ้วและพุ่งเข้าใส่เทพเซียนคันฉ่องอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า

  เทพเซียนคันฉ่องที่มีแผลสาหัสเต็มตัวไม่มีกำลังจะต่อต้านอีกแล้วนางกำลังจะถูกเทพไม้สังหาร แต่ในตอนนั้นเองก็มีพลังเทพมหาศาลระเบิดออกมาจากความว่างเปล่า!

  คลื่นพลังมิติส่งผ่านมาจากสร้อยหยกด้านในนั้นมีสตรีที่มีผิวดำและสวมชุดหนังอยู่

  นั่นเป็นเทพคือเทพีลำดับสี่แห่งพันธมิตร…เทพรากษส!

  ดวงตานางเป็นสีโลหิตแสงชาดใบหน้าดำคล้ำ นัยน์ตาเปล่งพลังบ้าคลั่ง นางดูไม่ต่างจากอสูร

  ว่ากันว่าตระกูลรากษกับเผ่าอสูรนั้นมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน

  เทพไม้ที่กำลังพุ่งเข้าไปเทพรากษสถอนหายใจแรง ฝ่ามือทมิฬของนางขยับอย่างรวดเร็วซัดไปที่แขนของเทพไม้

  เทพไม้ถอยไปข้างหลังพลางกรีดร้องราวกับถูกฝ่าผ่าแขนขวาของนางเน่าเปื่อยในทันที มันแห้งเหี่ยวกลายเป็นเถ้าถ่าน

  เทพไม้แขนสั่นนางใช้พลังฟื้นแขนกลับมา แขนของนางงอกกลับมาใหม่ในไม่นาน

  ดูจากสีหน้าเรียบเฉยของนางไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไร และก็เป็นนางที่พยายามปั้นหน้าอย่างยากลำบาก นางบินกลับไปหาซือหยูและพูด

   คนคนนี้อันตรายมากเจ้าต้องรีบถอยโดยเร็ว ข้าจะหยุดนางเอง 

   หนีรึ?เจ้าจะหนีไปไหนที่ใดได้? 

  เทพรากษสพูดช้าๆ เสียงอันเย็นชาจนน่ากลัวของนางดังมาพร้อมกับลมหายใจที่อันตราย

  เทพเซียนคันฉ่องสบายใจขึ้นมากเมื่อเทพรากษสมาถึง

  นางไม่อยากจะเปิดโปงเทพรากษสแต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นางไม่มีทางเลือกนอกจากอัญเชิญเทพรากษสออกมา

  หากนางลงมือนางจะล้างบางทุกสิ่งทุกอย่างได้ก่อนที่เทพอื่นทุกคนจะมาถึง

  ดวงตาแดงก่ำของเทพรากษสหรี่ลงเล็กน้อยจากนั้นนางก็พุ่งผ่านเทพไม้ไปหยุดที่หน้าซือหยู!

  เทพรากษสจะสังหารซือหยูได้ก่อนที่เทพไม้จะได้ช่วยเหลือ  เทพไม้หวาดกลัวไม่เพียงแต่เทพรากษสจะแข็งแกร่งกว่าที่นางคิด แต่นางยังเร็วเกินไปอีกด้วย!

  นางไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้สวนกลับนางรีบหันไปช่วยซือหยูอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่มันก็สายไปแล้ว!

  เมื่อเห็นเทพไม้ตกใจก็สายไปแล้วสำหรับซือหยูที่จะตอบสนองเขาได้แต่สัมผัสถึงพลังอันบ้าคลั่งเท่านั้น

  ฉั่วะ!

  ซือหยูตาย…โดยไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ

  เทพเซียนคันฉ่องถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นซือหยูตายกับตาซือหยู…คนที่อันตรายที่สุด…ในที่สุดก็ตายแล้ว

  คงจะดีกว่าหากเทพไม้ตายไปด้วยแต่มันไม่สำคัญเท่าใดนัก

  กลับกันนางจะอ้างได้ว่าซือหยูเป็นสาเหตุการตายของเทพทั้งสองโดยบอกว่าเขาร่วมมือกับเทพไม้  เทพไม้เบิกตากว้างด้วยความสับสนนางมิอาจเชื่อว่าซือหยูตายไปแล้วจริง ๆ

  สำหรับนางซือหยูเป็นบุรุษชาญฉลาดที่ไม่มีอะไรทำเขาได้ เขาคาดเดาทุกสิ่งทุกอย่างได้ล่วงหน้าและเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเสมอ แล้วทำไมเขาถึงไม่เตรียมตัวรับมือกับเทพรากษสเล่า?

  เทพรากษสเหลือบมองเทพไม้

   ต่อไปคือตาเจ้า… 

  แต่ก่อนที่เทพรากษสจะพูดจบประโยคนางก็หันไปมองซากซือหยูที่อยู่บนพื้น

  นางเห็นมังกรสีดั่งหยกเคลื่อนตัวผ่านซากของซือหยู

  ทันทีทันใดนั้นก็มีเจตจำนงอันแข็งแกร่งที่พลิกผันวัฏจักรความเป็นความตาย

  แสงหยกเปล่งประกายรองตัวซือหยูมันกลับกลายเป็นกายหยาบของซือหยูใหม่อีกครั้ง

  เขาฟื้นคืนชีพกลับมาในพริบตาเดียว!   เทพเซียนคันฉ่องและเทพรากษสตกใจในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

  พลังฟื้นคืนชีพนั้นมิใช่เรื่องแปลกในโลกใบนี้ตั้งแต่ที่ทั้งโลกรู้จักวิหคเพลิง

  แต่พลังฟื้นคืนชีพของซือหยูนั้นเป็นพลังที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน

  เทพรากษสได้สติกลับมาในไม่นานนางพูดเบา ๆ

   คืนชีพได้แล้วจะมีประโยชน์อันใด?ข้าเพียงแค่สังหารเจ้าอีกครั้ง 

  นางนั้นนางก็ใช้พลังอีกครั้งและซือหยูจะตายในทันที

  แต่ก่อนที่นางจะได้ทำอะไรซือหยูก็สร้างภูเขาหลากสีมาตรงหน้า มันคือภูเขาห้าธาตุ

  ภูเขาห้าธาตุตั้งตระหง่านหน้าซือหยูแม้เทพรากษสจะแข็งแกร่ง นางก็มิอาจใช้พลังทะลวงผ่านภูเขาห้าธาตุมาได้

   หืม?ก้อนหินประหลาด 

  เทพรากษสพูดเบาๆ   แต่เจ้าเพียงแค่ยื้อเวลาตายได้เท่านั้น 

  ฟึ่บ!

  เทพรากษสพุ่งผ่านเขาห้าธาตุอย่างรวดเร็วนางไปถึงตัวซือหยูและเริ่มใช้พลังเทพอีกครั้ง

  แต่ด้วยเวลาที่ได้มาเทพไม้จึงได้ตอบสนองทันท่วงที นางบินไปสลายพลังเทพรากษสและต่อสู้กับเทพรากษสตรง ๆ

  แต่นางก็ต่อสู้ได้เพียงสามกระบวนท่าก่อนจะกระอักเลือดออกมาและต้องถอย

  หันกลับไปดูเทพรากษสนางแววตาเรียบเฉย และมือข้างหนึ่งของนางก็แตะที่หลังของตัวเองอยู่ นางต่อสู้ด้วยมือเพียงข้างเดียวเท่านั้น

   ช่างเถอะข้าจะส่งพวกเจ้าสองคนไปลงนรกพร้อมกัน… 

  เทพรากษสใช้มืออีกข้างและตัดสินใจสังหารทั้งคูาพร้อมกัน

  เทพไม้หัวเราะ   ครั้งนี้ข้าจะขาดทุนมากสักเท่าไหร่กัน! 

  แต่นางก็ไม่เลือกที่จะหนีแม้จะต้องเจ็บตัว

  เทพรากษสจู่โจมโดยหวังว่าจะสังหารทั้งสอง

   เช่นนั้นก็จงตายไปซะ! 

  เมื่อทั้งสองกำลังจะตายปีศาจที่คุ้นเคยปรากฏตัวออกมา!

  กรงเล็บสุนัขยื่นออกมาจากมิติที่มองไม่เห็นเข้าขวางซือหยู

  เทพไม้รับพลังเข้าเต็มเปาโลหิตสีทองออกมาจากมุมปากนางเยอะกว่าเดิม เจ้าของกรงเล็บเองก็ตัวสั่นอย่างแรงจากพลังของเทพรากษสเช่นกัน

  เทพปีศาจตัดสินใจกลับมาหาซือหยู

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท