The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1224 – สวนกลับพันธมิตร

ตอนที่ 1224 - สวนกลับพันธมิตร

  บนโลกของเทพหม่าป่า

   เทพต่างถิ่นเจ้าอยากจะให้ข้าใช้เจ้าเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำหรือ? เจ้าจะอวดดีเกินไปแล้ว 

  เทพหมาป่าจ้องเทพตำราตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า

  เทพตำรากล่าว

   นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ! เทพพันธมิตรบูรพากำลังมา พวกมันกำลังวางแผนใหญ่มากอยู่! 

   จะใหญ่สักเพียงใดกัน?ข้าเพียงแค่ส่งตัวเจ้าไป และพวกมันก็จะกลับ 

  เทพหมาป่าสายตาเจ้าเล่ห์

  เทพตำราพูดด้วยความใจเย็น

   ถ้าเทพหมาป่าทำเช่นนี้เทพอื่นจะยอมรับหรือ? คนบนโลกเสี้ยววิญญาณจะยอมรับหรือ? ส่งคนทรยศจากพันธมิตรให้พันธมิตรหมายถึงการก้มหัวให้กับพันธมิตรเจ้าจะรวมจิตใจผู้ติดตามเจ้าให้สามัคคีกันได้ในอนาคตหรือ? 

   ต่อให้เจ้าส่งข้าให้พวกมันเทพจากพันธมิตรจะกลับไปจริง ๆ รึ? ข้าไม่คิดอย่างนั้นหรอกนะ! 

  เทพหมาป่าแสยะยิ้ม

   พวกมันจะไม่กล้าไปรึ?พวกมันลืมเรื่องในอดีตไปหมดแล้วรึ? 

   โอ้นั่นมันยามก่อน แต่นี่คือยามนี้ ตอนนี้เทพโจรสลัดที่มีหน้าไม้สังหารเทพกำลังจะหนีไปกับพวกมัน เจ้าจะยังอยู่อย่างสงบสุขได้รึ? 

  หา?เทพหมาป่าสายตาเฉียบคมขึ้น สายตาของเขาดูอันตราย

   ระวังคำพูดเถอะเทพตำราหากความสามัคคีระหว่างเทพบนโลกเสี้ยววิญญาณถูกทำลาย ข้าอาจไว้ชีวิตเจ้า แต่เทพอื่นอาจจะไม่ 

   ฮ่าๆๆๆๆ… 

  เทพตำราหัวเราะ   เจ้าคิดว่าพวกเทพพันธมิตรบูรพาเข้ามาในโลกเสี้ยววิญญาณอย่างปลอดภัยได้ยังไงล่ะ?ถ้าเทพโจรสลัดไม่ปล่อยให้เข้ามา พวกมันจะเข้ามาได้หรือ? 

  เทพหมาป่ายังคงไม่คล้อยตาม

   ข้าจะสืบดูว่าเทพโจรสลัดเข้าพวกกับมันหรือไม่แต่ข้าจะไม่เชื่อเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไร 

   ฮ่าๆๆๆพอถึงเวลาที่เจ้าได้สืบ เทพกาลกิณีก็น่าจะเจอเรื่องไม่คาดคิดไปแล้ว 

  ในตอนนั้นเองเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น

  สัตว์อสูรในธารดาราร้องคำรามลั่นเสียงดังผ่านทั้งโลกเสี้ยววิญญาณ เทพทุกคนตกตะลึง

  จากนั้นแสงเทพที่บ่งบอกว่ามีเทพแตกดับก็ได้พุ่งขึ้นมา

   อะไรกัน?เทพกาลกิณีตายแล้ว! 

  เทพหมาป่าลุกขึ้นยืนด้วยสายตาตกใจ  เทพกาลกิณีตายแล้ว!

   พวกมันทำสำเร็จ… 

  เทพตำราถอนหายใจ

   เริ่มที่เทพกาลกิณีและสุดท้ายพวกมันจะไม่เหลือพวกเจ้าสักคนเดียว 

  เทพหมาป่าชักสีหน้าเขาจ้องเทพตำรา

   ตกลงข้าสัญญากับเจ้าว่าจะเชิญเทพที่เหลือมาหารือ แต่ข้าไม่แน่ใจว่าจะเชิญเทพแห่งความตายมาที่นี่ได้หรือไม่ 

  เทพตำราขมวดคิ้วเล็กน้อยในฐานะเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเสี้ยววิญญาณ เทพแห่งความตายสามารถปฏิเสธได้ทุกสิ่ง ถ้าหากเขาเข้ามาขวางทางล่ะก็…

  เทพตำราคิดไม่นานและส่ายหน้าเบาๆ เทพแห่งความตายไม่มีเหตุผลที่จะหยุดเขา

  โลกเสี้ยววิญญาณถูกเทพพันธมิตรรุกรานและเทพแห่งความตายก็ไม่ปกป้องเทพคนใดเลย

  เมื่อคิดได้เช่นนี้เทพตำราสบายใจขึ้นมาก

  ครึ่งวันต่อมา

  มีเทพในห้องลับเพิ่มขึ้นอีกห้าคนทุกคนคือเทพบนโลกเสี้ยววิญญาณ ยกเว้นเทพแห่งความตายและเทพโจรสลัด

   พวกเจ้าคงจะรู้เรื่องความตายของเทพกาลกิณีไปแล้วแต่ข้าเกรงว่ารายละเอียดนั้นยังไม่ชัดเจนนัก 

  เทพหมาป่ามองทุกคนด้วยความเย็นชา

  เหล่าเทพถาม

   เทพหมาป่ารู้อะไรรึ?บอกพวกเราด้วยว่าเทพกาลกิณีตายเช่นใด! 

  ความตายของเทพกาลกิณีไม่ใช่เรื่องเลวร้ายกับพวกเขาเพราะเทพกาลกิณีนั้นอันตรายเกินไป

  แต่เพราะเขาอันตรายจึงควรที่จะต้องสนใจกว่าใคร

  เพราะเหตุใดกันเทพที่เป็นรองเพียงแค่เทพแห่งความตายถึงได้แตกดับ?    เป็นเพราะตัวโกลาหล! 

  เหล่าเทพขมวดคิ้ว

   ถ้าแค่มีหน้าไม้สังหารเทพก็ยังยากที่จะสังหารเทพกาลกิณีเทพโจรสลัดคนเดียวจะทำได้หรือ? 

  เทพหมาป่าตอบกลับ

   แน่นอนว่าทำได้!นั่นก็เพราะเทพโจรสลัดมีเทพอีกเก้าคนช่วย! ซึ่งพวกมันเก้าคนก็คือเทพจากพันธมิตรบูรพา! 

  บรรดาเทพโลกเสี้ยววิญญาณตกใจแสงที่ปกคลุมกายเริ่มปั่นป่วน

   เจ้าพูดจริงรึ? 

   นอกจากเหตุผลนี้แล้วเจ้าคิดว่ามีคำอธิบายอื่นอีกรึ? 

  ทั้งห้องเงียบกริบการหักหลังของเทพโจรสลัดนั้นไม่ใช่เรื่องดี เพราะเทพโจรสลัดคือเทพผู้ถือครองหน้าไม้สังหารเทพ

  ด้วยพละกำลังของเขาอย่างเดียวเทพโจรสลัดมีพลังในอันดับหก แต่เมื่อมีหน้าไม้รวมเข้าไปด้วยก็ไม่มีใครมั่นใจว่าจะเอาชนะได้ ยกเว้นแต่เทพแห่งความตาย

   เทพพันธมิตรบูรพาคิดจะทำอะไรของพวกมัน?พวกมันต้องการแค่เทพโจรสลัดคนเดียวรึ? 

  เทพหมาป่าเย้ยหยัน

   คิดอะไรของพวกเจ้า?เทพโจรสลัดเป็นทางผ่านโลกเสี้ยววิญญาร ไร้เทพโจรสลัดก็หมายถึงทางเข้าโลกเสี้ยววิญญาณที่เปิดโล่ง จะมีเหตุผลอันใดให้พวกมันไว้ชีวิตพวกเราอีก? 

  เหล่าเทพไม่พูดอะไรและตระหนักได้ว่าสถานการณ์กำลังร้ายแรง

  ไม่เหมือนกับอดีตโลกเสี้ยววิญญาณในครั้งนี้จะตกเป็นฝ่ายแพ้ถ้าหากเทพแห่งความตายไม่ลงมือโต้กลับ

  แต่เทพหลายคนก็คิดต่างออกไป

   ถ้าเทพโจรสลัดเปลี่ยนฝั่งได้แล้วใยข้าถึงเปลี่ยนไม่ได้เล่า? ข้ารอดูการต่อสู้แล้วเข้าร่วมกับพวกมันเพื่อทำลายล้างทีหลังก็ได้ 

   ฮื่ม!เจ้าหยุดคิดทื่อ ๆ ได้แล้ว ถ้าเทพบูรพาต้องการเจ้า ใยเจ้าถึงยังไม่รู้เรื่องจนถึงตอนนี้? 

  เหล่าเทพคิดครู่หนึ่งพวกเขาหนาวสั่นในใจ จริงด้วย ถ้าหากเทพพันธมิตรบูรพาต้องการพวกเขา พวกเขาก็คงจะได้กับการติดต่อมาก่อนที่การกวาดล้างจะเริ่มขึ้นแล้ว

  ตอนนี้เทพพันธมิตรบูรพาสังหารเทพกาลกิณีและเริ่มการนองเลือดไปแล้วใยฝ่ายนั้นจะต้องการพวกเขาอีกเล่า?

   หยุดจินตนาการซะเถอะ!พวกเราเทพโลกเสี้ยววิญญาณหวาดกลัวคนภายนอกตั้งแต่เมื่อไหร่? พวกเจ้าไม่ใช่เทพที่นี่รึ? หากร่วมมือกัน มันก็ไม่ยากที่จะสังหารมันให้หมดและกลับบ้าน! 

  เทพหมาป่าเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น

  เทพคนหนึ่งพูดขึ้นมา   ไม่ยากที่จะเอาเครื่องจักรสังหารออกมาแต่เทพโจรสลัดตอนนี้มีหน้าไม้สังหารเทพอยู่ในมือ มันเป็นจองอันตรายมาก ข้ากลัวมันที่สุด! อาจจะดีกว่าถ้าขอให้เทพแห่งความตายออกมาช่วย เราจะได้สังหารศัตรูให้อนาคตให้หมด 

  เทพหมาป่าถอนหายใจแรง

   เทพโจรสลัดจะเก่งแค่ไหนหากไร้หน้าไม้สังหารเทพ?สบายใจได้ ข้ามีแผนที่ทำให้พวกเจ้ามั่นใจได้ว่าหน้าไม้จะไม่ถูกใช้งาน! 

   ส่วนเรื่องเทพแห่งความตายข้าส่งคนไปเชิญเขามาแล้ว แต่ข้าไม่รู้ว่… 

  ในตอนนั้นเองหยกสื่อสารบนตัวเขาเปล่งแสง ข้อความปรากฏ

  พวกเขาเศร้าหมอง

   เทพแห่งความตายบอกว่าจะไม่ลงมือและจะออกมาเมื่อจำเป็นเท่านั้น 

  เหล่าเทพผิดหวัง

  สุดท้ายพวกเขาต้องต่อสู้  เทพหมาป่ากล่าว

   กลับไปที่โลกของพวกเจ้าเตรียมทำสงครามในอีกหนึ่งเดือน! 

  เขาลุกยืนเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น

   โลกเสี้ยววิญญาณมิได้ทำสงครามมานานแล้วเทพจากสองพันธมิตรมันลืมความทุกข์ทรมานในอดีตไปหมดแล้ว! 

  เหล่าเทพรู้ตัวว่าต้องทำอะไรและรีบกลับไปเพื่อเตรียมทำสงคราม

  ในขณะเดียวกันพวกเขายังมีความหวังอยู่เล็ก ๆ ว่าซือหยูจะมารับพวกเขาขึ้นเรือกลับพันธมิตรบูรพาไปด้วย

  ณตำหนักเทพโจรสลัด

  เป็นเวลาครึ่งเดือนมาแล้วหลังเทพกาลกิณีตายตามแผนของซือหยู เขาควรจะหาเทพเข้าเป็นพวกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้เกิดปัญหาจากภายใน เพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องหลั่งเลือดมากในการเดินทางครั้งนี้  แต่จนถึงตอนนี้ซือหยูยังไม่คิดจะเคลื่อนไหวเลย

   วิหคเพลิงทมิฬซือหยูคิดถอยรึ? 

  เทพเจิ้งอดถามไม่ได้

   ถูกแล้ว… 

  วิหคเพลิงทมิฬตอบ

   ให้เขาออกมานี่ไม่ใช่เวลาจะถอย! 

  เทพเจิ้งหงุดหงิดเรื่องความเป็นความตายจะต้องจัดแจงให้เร็วที่สุด

  วิหคเพลิงทมิฬตอบอย่างไร้อารมณ์

   นายท่านบอกว่าเทพควรใจเย็นไม่รีบร้อนอย่าทำอะไรที่ไม่จำเป็น เราต้องตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลง สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุม 

  เทพเจิ้งไม่พอใจนักนางได้ยินประโยคนี้มาครั้งที่สามแล้ว แต่ยิ่งได้ยินเท่าใดก็ยิ่งทำให้นางกระวนกระวายมากขึ้นเท่านั้น

  สถานการณ์กำลังแย่ลงแต่ซือหยูยังคงไม่ใส่ใจ ดูเหมือนว่าเขาจะปล่อยให้เทพทั้งเจ็ดคนรวมพลังเป็นหนึ่งไปเฉย ๆ

  จากข้อมูลที่เทพโจรสลัดได้มาเทพหกคนกำลังเตรียมทำสงคราม กำลังทหารและทรัพยากรมากมายถูกเคลื่อนไหว

  โลกใบอื่นๆ ได้ตัดการเชื่อมต่อกับโลกเทพโจรสลัด ที่ชายแดนมีทหารคุ้มกันแน่นหนา

  นี่คือสัญญาณของสงครามอย่างเห็นได้ชัด!

  แต่ถึงอย่างนั้นซือหยูก็ไม่ออกมาพูดอะไร

  เทพพ่อค้าขมวดคิ้วแน่นเขาเป็นนักธุรกิจ เขาอ่อนไหวกับเรื่องภาพรวมที่สำคัญมากกว่าเทพคนอื่น ๆ

  ตามปกติหลังซือหยูสังหารเทพกาลกิณีไปแล้ว มันจะเป็นสัญญาณให้เทพที่เหลือเข้าร่วมกับพันธมิตร มันเหมือนกับสังหารนกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว

  แต่ซือหยูเพียงแค่นั่งรอดูเทพที่เหลือให้รวมตัวกันและตอนนี้เทพเหล่านั้นก็ไม่คิดจะยอมจำนนแล้ว เทพพ่อค้ากลัวว่าเทพเหล่านั้นไม่มีทางเลือกนอกจากจะทำสงคราม

  สถานการณ์ที่เคยดีมากได้กลายเป็นสถานการณ์ที่น่าระวัง

  เทพที่อดทนไม่ไหวพูด

   เทพพ่อค้าเทพเจิ้ง เรารอไม่ได้อีกแล้ว พวกเราเก้าคนควรไปที่โลกใบอื่นเพื่อรับเทพโลกเสี้ยววิญญาณมาเป็นพวก สถานการณ์บีบบังคับพวกเรา 

  เทพเจิ้งส่ายหน้า

   ไม่ซือหยูจะต้องมีแผน หากเราผลีผลาม เราอาจจะขัดแผนของเขาได้ 

   หา!เราทำอะไรไม่ได้เลยหากไร้ซือหยูรึ? เห็น ๆ อยู่ว่าเรื่องกำลังแย่ลง แต่เราทำอะไรไม่ได้งั้นรึ? 

  เทพเจิ้งเงียบไปครู่หนึ่งจริงอยู่ที่พวกนางฟังซือหยูมาโดยตลอดตั้งแต่ท่องธารดาราออกสู่จักรวาล  ในฐานะเทพเทพเจิ้งคงจะโกหกหากบอกว่านางพอใจกับเรื่องนี้

  แต่ซือหยูได้สร้างปาฏิหาริย์มาหลายครั้งหลายคราพวกนางมิอาจใจร้อนได้

  แต่สถานการณ์ในตอนนี้กำลังแย่ลงแต่ซือหยูเพียงแค่ยืนมองมันราวกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง นั่นทำให้ทุกคนกังวลใจ

   ทุกคนใจเย็นก่อนข้าเชื่อว่าจะต้องมีเหตุผลที่ซือหยูไม่เคลื่อนไหว 

  เทพพ่อค้าเข้ามาปลอบใจทุกคนให้สงบ

   เชื่อใจซือหยูเขาสร้างปาฏิหาริย์เพื่อเราหลายครั้งเหลือเกิน บางทีการหยุดรอของเขาอาจจะมีความหมายอยู่ไม่ใช่รึ? 

  ในการเดินทางนี้เทพพ่อค้าคือผู้นำในการทำภารกิจ เขาต้องฉุดรั้งอารมณ์ของเหล่าเทพเอาไว้ให้ได้

  เทพโจรสลัดที่มองดูจากข้างๆ ขมวดคิ้วแน่น

  …  ที่อีกฟากของตำหนักอาต้าและอาเอ้อกำลังเตรียมทำสงคราม ทั้งสองสั่งกำลังโจรสลัดให้รวมตัวกันเพื่อทำสงครามใหญ่

   ท่านพี่กำลังมากมายเช่นนี้ มีเวลาแค่ครึ่งเดือนให้เราผสานกำลัง มันยากมาก อาซันเองก็บาดเจ็บหนัก! 

  อาเอ้อพูด

  อาต้าถอนหายใจแรง

   เจ็บหนักกเรอะ?เจ็บหนักจนเล่นกับสตรีได้น่ะหรือ? 

  อาซันที่ร่างกายแตกสลายถูกนำไปพักฟื้น

  แต่ไม่กี่วันก่อนเขาได้สั่งคนให้นำสาวงามจากที่อื่นมาเล่นสนุกกับเขาในห้องพักฟื้น

  พวกเขาไม่แปลกใจในเรื่องนี้ตัวตนของอาซันคือความปรารถนาในสตรี และมันก็เป็นพฤติกรรมอันแรงกล้า ก่อนเขาจะถูกเทพโจรสลัดจับตัวมา เขาเป็นผู้นำเรือโจรสลัดที่ทำการปล้นมาตลอดทาง เขาชอบการฉุดสตรี ในเมืองต่าง ๆ จะมีสตรีมากมายถูกข่มขืนอย่างรุนแรง โลกหลายใบหวาดกลัวเขา พวกเขาเรียกเรือโจรสลัดของอาซันว่า ‘เรือข่มขืน’ และนามของเรือก็เลื่องลือไปทั้งจักรวาล

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท