โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 432

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.432 – ผวา

มีดกษัตริย์ครามทรงอํานาจเสมอมา มันคืออาวุธทรงประสิทธิภาพที่หลอมรวมเข้ากับวัตถุดิบนับไม่ถ้วนโดยรูบิควิเศษ

ยิ่งถูกอัดฉีดด้วยกําลังภายใน ทั้งความคมและผลสะท้อนจากมันก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้น

เต๊งงง!

คมมีดกําลังภายใน ปะทะเข้ากับปราณกําลังภายในของหลุยตง ยื้อยุทธกันและกัน

อย่างไรก็ตาม เป็นดาบกษัตริย์ครามของฉินเฟิง ที่สะบั้นอีกฝ่ายลงได้ในทันทีราวกับตัดผ่านเต้าหู้ กวาดคมแหลมตัดเข้าสู่ปราณกําลังภายในของหลุยตง

มีดกษัตริย์ครามมีความคมเป็นอย่างมาก พลังงานที่อัดแน่นอยู่ภายในมันคืออานุภาพอันน่าหวาดกลัว

หลุยตงไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ ทว่าเขาก็ยังสามารถตัดสินใจหลบเลี่ยงได้อย่างรวดเร็ว

เขาดีดตัวถอยออกไปมีดกษัตริย์ครามเนื้อนผ่านเป้าหมายได้แค่ช่วงปลายของมัน

ในพริบตา ชุดรบชั้นนอกของหลุยตงถูกแผดเผาทันใด มอดลงเป็นขี้เถ้า เกราะในเปิดเผยออกมา

ปรากฏว่ามันสาดแสงสีทอง!

ไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย ชุดเกราะในชิ้นนี้ทํามาจากวัตถุดิบระดับจักรพรรดิสัตว์ร้าย!

หลุยตงผู้นี้ร่ํารวยถึงขนาดนี้เชียวหรือ?

ฉินเฟิงค่อนข้างประหลาดใจ แต่พอได้ลองมองมันสักพัก ก็ค้นพบว่าแท้จริงแล้วนี่เป็นแค่เกราะระดับจักรพรรดิเลเวล D เท่านั้น

เกราะในดังกล่าว แม้พลังป้องกันของมันจะทนทานมาก แต่ก็ไม่อาจต้านทานมีดกษัตริย์ครามได้อยู่ดี

ที่ยังรอดไปได้ในตอนแรก เพราะตัวคมมีดยังไม่โดนมันเต็มๆ

“มาลองกันอีกครั้ง!”

ฉินเฟิงแสยะยิ้ม พรวดเข้าหาหลุยตงทันใด

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง!”

หลุยตงเห็นอีกฝ่ายไม่ตื่นตกใจก็อดประหลาดใจไม่ได้ แต่เขาก็รู้ดีว่าสไตล์การต่อสู้ของตน มันก็ต้องมีบ้างที่ผิดพลาด วิธีเดิมไม่อาจใช้ได้อีก!

“เรื่องแบบนี้ ใครมันจะไปทําใจเชื่อได้กัน!”

หลุยตงยังคงเชื่อมั่นในสถานะเลเวล C ของตน ด้วยระดับที่มากกว่า เขาจะไม่สามารถเอาชนะฉินเฟิงได้อย่างไร?

เวลานี้ ราวกับถูกกระตุ้นห้วงอารมณ์ดุร้าย เจ้าตัวชักอาวุธออกมาทันใด

-ปรากฏว่าเป็นไม้เท้าฟันหมาป่า!

เป็นไม้เท้าที่ถูกเติมแต่งไปด้วยคมแหลมนับไม่ถ้วน แม้จะดูหนัก แต่ยามโบกสะบัดกลับไม่เชื่องช้า ทั้งยังทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ เพียงสัมผัสโดนเล็กน้อย เนื้ออาจหลุดตามออกมาจากคมเขี้ยว

เคร้ง!

สองอาวุธกวาดปะทะใส่กัน

ทว่าวินาทีต่อมา กลับเป็นหลุยตงที่ตัวถูกยกจนตัวลอย!

พละกําลังมหาศาลที่ถาโถม เกือบทําให้หลุยตงต้องปล่อยมือตัวเอง

เจ้าตัวราวกับรู้สึกว่าตนกําลังถูกโจมตีโดยสัตว์ร้ายบรรพกาล ทั้งๆที่ตรงหน้าเป็นมนุษย์

ฉินเฟิงไล่ตามติดไขว่คว้าชัยชนะ

ประกายอํามหิตวาบผ่านเข้ามาในแววตาของหลุยตง ไม้เท้าเขี้ยวหมาป่าเหวี่ยงสะบัดอีกครั้ง

วู้มมมม!

เคร้งงงง!

ทั้งสอง ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร

ลูกน้องเลเวล D ที่ยังเหลืออยู่ ทั้งหมดถอนตัวหนีไปไกลแล้วในตอนนี้

ปัจจุบัน ประตูหน้าวิลล่าถูกทําลาย บนพื้นเต็มไปด้วยหลุมบ่อ

อํานาจการรบของทั้งสอง ช่างน่าอัศจรรย์ใจ

อย่างไรก็ตาม ในจังหวะนั้นเอง ยามเมื่อสองคมอาวุธปะทะกันอีกครั้ง ปราณกําลังภายในของทั้งสองก็พลันสลายไป

ได้โอกาสล่ะ!

ดวงตาหลุยดงสาดประกายสดใส ลอบกดลงบนปุ่มล่างที่จับไม้เท้าหมาป่าทันที

ฟันหมาป่าพลันหุบกลับเข้าไปข้างใน ต่อมา หมอกสีเขียวก็เริ่มเติมเต็มในอากาศ

“ไอ้คนหน้าไม่อาย!”

ฉินเฟิงสบถเหยียดหยัน

ก้าวขึ้นสู่เลเวล C แล้วแท้ๆ แต่ยังใช้วิธีตุกติกแบบนี้อีก ไม่กลัวคนอื่นเขาหัวเราะเยาะเอาหรอ?

ปราณกําลังภายในของฉินเฟิงไม่ปะทุออกมา ทว่าเปลวไฟกลับลุกท่วมร่างกายเขาแทน

เปลวไฟแผดเผาแก๊สพิษ สลายมันไม่ให้รุกล้ําเข้ามาสัมผัสกายฉินเฟิง

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากหลุยตงใช้วิธีตุกติก ดังนั้นเขาจึงเผยช่องว่างออกมา

ฉินเฟิงก้าวสะอึกเข้าไป มือซ้ายประทับลงบนหน้าท้องเขาทันที

“ทักษะลับกลืนดารา!”

เพียงเสี้ยววินาที แรงดึงดูดมหาศาลพลันปะทุออกมา

หลุยตงเบิกตากว้าง รับรู้ได้เพียงกําลังภายในทั้งตัวกําลังเกิดกระบวนการไหลย้อนกลับ ราวกับเขื่อนที่แตกออก ไหลทะลักต่อเนื่องไม่หยุด

วินาทีนั้น สระน้ํากําลังภายในของเขาก็ถูกดูดซับ ช่วงชิงไปโดยสิ้นเชิง

“ไม่…อาาา..”

หลุยตงพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่ยิ่งนานร่างกายเขาก็ยิ่งอ่อนแอลง สุดท้ายไม้เท้าหมาป่าก็หลุดจากมือไป

กําลังภายในของฉินเฟิงปะทุเดือดอีกระลอก

“ ปลดปล่อยแรงผลัก”

ปัง!

หลุยตงราวกับผ้าขี้ริ้ว ร่วงฟุบลงกับพื้นทันใด

ตาย!

หากไม่ใช่เพราะฉินเฟิงต้องการดึงดูดความสนใจเมื่อเขามาถึง เวลาในการสังหารหลุยตงคงน้อยกว่านี้มาก

เพราะท้ายที่สุดแล้ว การแสดงฉากอันน่าตื่นตา อย่างไม่ยินยอมปล่อยให้เลเวล C หลบหนีไปได้ แล้วเข้าโจมตีสังหารศัตรูอย่างฉับพลัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน

พลังสมาธิที่สาดมายังวิลล่าหลังนี้ถูกถอนออก หดหายไปกว่าครึ่งทันที

สายตาของฉินเฟิง เบนไปตกลงบนเลเวล D คนอื่นๆ

“พี่ใหญ่…ตั้งแต่วันนี้ไป คุณคือพี่ใหญ่ของฉัน!”

ผู้ใช้อบิลิตี้ที่นําทางฉินเฟิงก่อนหน้านี้ คุกเข่าร้องตะโกนทันที

ฉินเฟิงไม่ตอบ เพียงวาดมือและยิงลําแสงเปลวเพลิงออกไป

ลําแสงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆครึ่งเมตร พุ่งผ่านร่างกายอีกฝ่าย

ปุ… ตุบ!

ผู้ใช้อบิลิตี้ร่วงล้มลงไปอีกราย

ผู้ใช้วรยุทธโบราณอีกสองคน เมื่อเห็นฉากนี้ก็เกิดความกลัวตาย แข้งขาอ่อนเปลี้ย พวกเขารู้ดีว่าต่อให้ยอมแพ้ก็ไร้ประโยชน์ งั้นสู้เสี่ยงอย่างน้อยก็มีโอกาสตายน้อยกว่า คิดได้ก็ชักฝีเท้าถอยและหันหลังวิ่งหนีไปทันที

เตลิดหนีด้วยความหวาดกลัว!

ฉินเฟิงคร้านจะไล่ตาม

เขาวาดมือเล็กน้อย เพลิงโลกันต์ปรากฏขึ้น สี่ซากศพถูกทําลาย อุปกรณ์รูนมิติถูกเก็บ และโยนเข้าไปในสุสานเทพสงคราม

เมืองหวังมีสถานที่สําหรับจัดการสินค้าผิดกฎหมายอยู่เหมือนกัน แต่ราคาแลกเปลี่ยน บอกเลยว่าถูกกดจนหัวทิ่ม ซึ่งฉินเฟิงไม่มีความจําเป็นต้องทําเช่นนั้น แม้คนอื่นจะไม่มีวิธีขายขายออก แต่ไม่ได้หมายความว่าฉินเฟิงไม่มี

เพราะเขาครอบครองเขตแดนลับ! เขาสามารถส่งพวกมันเข้าไป แล้วให้คนอื่นเข้ามาเอา และนําไปขายต่อไปสถานที่อื่นได้!

หลังจากกําจัดศพหน้าประตู ฉินเฟิงกับไป๋หลีก็เดินเข้าไปในวิลล่า ทุกคนในวิลล่าแตกตื่นแทบ หัวใจวายกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เพราะหลายปีมาแล้วที่ไม่มีใครกล้าทําอะไรแบบเมื่อครู่

แต่ประเด็นสําคัญที่สุดก็คือ คนที่ลงมือทํามันกลับสามารถคว้าชัยชนะมาได้อย่างคาดไม่ถึง!

“นาย.. นายท่าน นับจากนี้ไปท่านคือเจ้านายคนใหม่ของพวกเรา ได้โปรดสั่งมาว่า ต้องการให้ฉันปรนนิบัติอย่างไรแก่คุณ”

ร่างบอบบางน้อยๆค่อยๆโผล่ออกมาจากมุมห้อง ใบหน้าซีดเผือดไร้เลือด ด้วยความหวาดกลัว

นี่คือคนธรรมดา

เธอก้าวออกมาในชุดเมดน้อยชิ้น ทั้งๆที่ในเมืองหวังสภาพอากาศหนาวมากแท้ๆ แม้เธอคนนี้ดูเหมือนจะได้รับการฉีดยากระตุ้นพลัง จนมีความแข็งแกร่งทางกายแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า แต่หนาวก็คือหนาวอยู่ดี

พลังสมาธิของฉินเฟิงกวาดออกไป และค้นพบว่าวิลล่าทั้งหลังนี้ มีคนอาศัยอยู่มากกว่าที่คิด อย่างน้อยก็น่าจะสิบ และทั้งหมดเป็นผู้หญิง

พวกเธอคาดว่าน่าจะเป็นทาส ที่หลุยตงซื้อมาเป็นของเล่น!

คิ้วของฉินเฟิงเริ่มขมวดมุ่น

“พาผมไปที่ห้องพัก ส่วนคุณก็ทําความร่างกายตัวเองซะ และทําลายของทุกอย่างที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ทิ้งไปให้หมด!”

ใครจะรู้ว่าหลุยตงเล่นวิตถารอะไรมาบ้าง?

“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ”

สาวใช้ร้องรับคําไม่หยุด อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องตาย!

“อ้อจริงสิ แล้วก็ช่วยกลับไปแต่งตัวตามปกติซะด้วยนะ” ฉินเฟิงกล่าวเสียงหม่น

-พวกเธอ อย่าคิดสอนอะไรไม่ดีให้กับไป๋หลีเซียว!

“รับทราบเจ้าค่ะ”

สาวใช้จากไปอย่างรีบร้อน

สุดท้ายฉินเฟิงก็มีวิลล่าในครอบครอง ภายในวิลล่าหรูหรามาก นอกจากนี้ยังมีห้องฝึกยุทธ

ฉินเฟิงไม่คิดใช้เวลาสูญเปล่า เขาตรงไปยังห้องฝึกยุทธทันที

อาจกล่าวได้ว่า ตั้งแต่ไปเยือนปราการชาตง นี่มันก็เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้สนุกสนานไปกับการฆ่า!

หากจะกล่าวให้ถูกต้อง สมควรกล่าวว่า เขาไม่ได้สังหารคนด้วยทักษะลับกลืนดารามาเป็นเวลานานแล้ว!

แต่ในวันนี้เพียงวันเดียว เขากลับสามารถสังหารผู้ใช้วรยุทธโบราณได้มากกว่า 10 คน ในตันเถียนมีกําลังภายในที่ไม่ใช่ของเขาเพิ่มเข้ามามากกว่า 30 มวลน้ํา

“ดูดกลืน!”

ฉินเฟิงเปิดใช้งานพลังพิเศษดูดกลืน กลั่นกําลังภายในเหล่านั้นทันที เมื่อถูกส่งกลับมา มวลน้ํากําลังภายในก็เพิ่มขึ้นเป็น 56 แอ่ง!

ฉินเฟิงสัมผัสมันด้วยแววตาลุกแวว หากเขาต้องการยกระดับแทนที่จะอยู่เฉยๆอย่าง ปลอดภัย สู้เขาฆ่าคนไปเรื่อยๆ และอาศัยเพียงสถานะผู้ใช้วรยุทธโบราณของเขา ไม่จําเป็นต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน ก็สามารถยกระดับใหญ่ไปได้อีกชั้นแล้ว!

อย่างไรก็ตาม นั่นมิใช่จุดประสงค์ของฉินเฟิง

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท