Ep.443 – อาวุธเทวะ
ไม่นาน สมบัติล้ําค่าหลายชิ้นก็ถูกฉินเฟิงเก็บรวบรวมเข้ามาส่วนวัตถุดิบที่ด้อยคุณภาพลงมาหน่อย เริ่มเกิดการปริร้าว พลังงานรั่วไหลไปตามพายุ
“พลังพิเศษดูดกลืน!”
ฉินเฟิงปลดปล่อยอบิลิตี้ติดตัว พลังงานที่รั่วไหลเหล่านั้นกลับไม่ถูกสูบมายังเขา
ดูเหมือนจะไม่ได้ผลจริงๆ
ช่างเถอะ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เหลือบางสิ่งที่ไม่ค่อยมีคุณภาพทิ้งเอาไว้ผู้คนจะได้ไม่ ทันสังเกตว่าสมบัติล้ําค่าหายไป
ฉินเฟิงเริ่มปล้นสมบัติอย่างบ้าคลั่ง ชั่วพริบตาเดียว วัตถุดิบชั้นดีท่ามกลางพายุก็ถูกรวบรวมมาโดยเขา
ในตอนนั้นเอง แม้ตนจะครอบครอง ขุมพลัง 70 มวลน้ํากําลังภายในแต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ฉิน เฟิงก็จําต้องชักฝีเท้ากลับมา
ยังเหลือระยะทางอีก 100 เมตรในการเก็บสมบัติแต่ฉินเฟิงตัดสินใจถอยออกมาก่อน และเริ่มนั่งขวาทับซ้ายอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ ปราณกําลังภายในของเขาถูกสูบลดลงอย่างต่อเนื่อง ทว่าพายุพลังงานก็ยังไม่อาจทําลายปราณกําลังภายในของเขาได้อยู่ดี
“ทักษะลับกลืนดารา!”
ปัจจุบัน เส้นลมปราณของฉินเฟิงกว้างมาก ถึงในช่วงเวลาปกติ ฉินเฟิงจะไม่ค่อยทุ่มเทไปกับการฝึกฝนกําลังภายใน แต่เมื่อได้ทดลองใช้ดูในสถานการณ์นี้ปรากฏว่ามันกลับได้ผลดีเกินคาดมันช่วยให้เขาตระหนักว่าผลจากการดูดซับกําลังภายในจนเส้นลมปราณขยายใหญ่ มันมีผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ใจเพียงใด
ขณะนี้ เส้นลมปราณเปรียบเสมือนแม่น้ํากว้างใหญ่ ไหลบ่าอย่างต่อเนื่องช่วยฟื้นฟูกําลังภายในในตันเถียนของเขา
และทําสมาธิแค่เพียง 5 นาที 70 มวลน้ํากําลังภายในของฉินเฟิงก็เริ่มถูกฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ฉินเฟิงยังค้นพบว่า ในมิติเทียนไต้เมื่อช่างเช้าการที่ผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ ไม่มีมือปืน หรือมีผู้ใช้อบิลิตี้แค่ไม่กี่คน นั่นเป็นเพราะกําลังภายใน สามารถต่อต้านกระแสพลังงานทําลายล้างได้ดีที่สุดนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม อํานาจทําลายล้างของมัน ไม่อาจรุกล้ําเข้าถึงตัวฉินเฟิง
“ดูเหมือนว่าพลังพิเศษดูดกลืน เมื่อเทียบกับกระแสพลังงานทําลายล้างแล้วมันจะแข็งแกร่งงกว่า”
ระหว่างคิด ฉินเฟิงก้าวฝีเท้า เริ่มมุ่งหน้าต่อไปอีกครั้ง
เขากระทําการทุกอย่างในรูปแบบเดิม พยายามรวบรวมสมบัติดังนั้นไม่ต้องอธิบาย
มูลค่าของสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่สูงอะไรถึงขนาดนั้น แต่หลังจากโลกก้าวเข้าสู่ยุคโลกาวินาศและการเดินทางข้ามฝ่าทุ่งล่าเป็นอะไรที่ยากลําบากมาก ดังนั้นการกระจายสินค้าเลยไม่ทั่วถึง
เช่นเดียวกับดอกไม้หยาดน้ําตาที่ปลูกลงในปราการชาตง สถานการณ์ของทะเลทราย ทะเลเหนือเดิมโกลาหลมานานหลายสิบปีแล้วมันถูกทําลายและสร้างขึ้นใหม่ถึง 4 – 5 ครั้ง ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหามันได้
จนกระทั่งฉินเฟิงปรากฏตัว ปัญหาจึงถูกแก้
แต่สิ่งที่ในฉินเฟิงใช้แก้ปัญหา มันคือต้นไม้ที่จําเป็นต้องเดินทางไปสุดปลายขอบโลกเพื่อเก็บรวบรวมมา!
“ฟูว ” ฉินเฟิงถอนหายใจ ท่ามกลางพายุทําลายล้าง ปัจจุบันไม่มีสมบัติล้ําค่าอะไรหลงเหลี ออยู่อีกเลย และสมบัติที่เขาได้มา ทั้งหมดล้วนแข็งแกร่งทนทานเป็นสิ่งที่พายุพลังงานไม่สามารถทําลายได้อย่างสิ้นเชิง จะมีก็แต่สภาพไม่สมบูรณ์เล็กๆน้อยๆ
“กลับกันเถอะไป๋หลี”
“อื้ม อย่าลืมแบ่งผลไม้ให้ฉันด้วยนะ” ไป๋หลีกล่าวถึงผลไม้หงเหมิง
“ไม่ลืมอยู่แล้ว!”
ฉินเฟิงพยักหน้า สิ่งใดที่เธอต้องการ ฉินเพิงไม่เคยตระหนี่ถี่เหนียว
ร่างของไป๋หลีสาดไปด้วยแสงสีเงิน ประตูมิติถูกเปิดออกทั้งสองทะลุผ่านเข้าไปและกลับมายังวิลล่าอีกครั้ง
ภายในห้องฝึกฝน ฉินเฟิงนําทุกอย่างออกมากองรวมกันรวมถึงผลไม้หงเหมิง
ผลไม้หงเหมิงเปี่ยมไปด้วยพลังงาน! อย่างน้อยมันสมควรมีคุณภาพอยู่ในเลเวล A
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ลองสังเกตดูชัดๆหน้าผากของฉินเฟิงก็เริ่มปรากฏรอยยับย่น
เพราะสีของผลไม้ มันไม่ถูกต้อง
“ผลไม้นี้ต้องพิษรึเปล่า?” ฉินเฟิงเกิดความรู้สึกว่า ผลไม้หงเหมิงมันเน่าไปแล้วภายในถูกปกคลุมไปด้วยชั้นอากาศสีดําแห่งความตาย
ไปหลืมองและกล่าว “ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่แก่นข้างในของมันยังสมบูรณ์สามารถกินได้”
ผลไม้หงเหมิง มีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่ากําปั้น การที่มันสามารถรอดพ้นจากพายุพลังงานมาได้ ยอมหมายความว่ามันทนทานมาก
การใช้กําลังหรือความรุนแรงไม่อาจทําลายมันได้ทว่าไป๋หลีเหมือนจะเป็นข้อยกเว้น
แสงสีเงินกระพริบไหว ผลไม้หงเหมิงถูกผ่าออกโดยอัตโนมัติเนื้อผลไม้ที่เน่าเสียถูกตัดออก เผยให้เห็นถึงเมล็ดที่อยู่ใจกลางมัน
ข้างในเป็นบางสิ่งที่คล้ายกับผลอัลมอนด์ หลังจากถูกเปิดกลิ่นหอมจรุงก็ฟังออกมา ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงอากาศอันสดชื่นรอบตัว
“นี่นะหรอ เมล็ดพันธุ์ของผลไม้หงเหมิง?” ฉินเฟิงเพิ่งตากว้าง
“อื้ม! ถ้าคุณต้องการ ก็สามารถนําไปปลูกได้เหมือนกันแต่มันอาจงอกไม่ทันใจ เพราะตามความทรงจําที่ได้รับสืบทอดมาของฉัน ผลไม้หงเหมิงจําเป็นต้องใช้เวลาเพาะปลูกถึง100,000 ปี ถึง จะสามารถออกผลได้”ไปหลือธิบาย
ฉินเพิงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะมองไปยังไป๋หลีในเวลานี้มุมปากของเธอกําลังน้ําลายสอ
“ไม่ต้องอธิบายแล้ว เธอกินมันเถอะ นั่นก็แค่เมล็ดพันธุ์ใช่ไหม?ไม่ต้องพูดถึงเรื่องมีอายุเป็นแสนปีหรอกแค่หมื่นปีกระดูกฉันคงไม่เหลือซากแล้วมั้ง” ฉินเฟิงมอบเมล็ดพันธุ์ให้แก่ไป๋หลี
เดิมผลไม้หงเหมิงมีระดับคุณภาพที่สูงมาก หากสภาพสมบูรณ์มันคงเป็นถึงเลเวล S แต่เมื่อ เนื้อผลไม้หายไป มูลค่าก็ลดลงตามส่วนจะประโยชน์มากแค่ไหน ฉินเพิงไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม มันคือของดีอย่างแน่นอน!
ไป๋หลี เคี้ยวกรวม กร้วม และกลืนลงไป สักพักเอ่ยพึมพํา “คุณได้ทําพันธะสัญญากับฉันแล้ว พวกเราสามารถแบ่งปันอายุขัยร่วมกันคุณสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานตราบเท่าที่ต้องการ!”
ฉินเฟิงตะลึง แต่สักพักก็ลูบหัวไป๋หลี
“แต่ในสัญญา พวกเราเท่าเทียมกัน ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบหากเธอต้องการจะจาก ไป ก็สามารถไปได้ทุกเมื่อ”
“คุณพูดอะไร? ทําไมถึงบอกว่าฉันอยากจะจากไป!?”
ไป๋หลีจิกตามองฉินเฟิงทันที
“คุณกําลังจะบอกว่า คุณแอบมองหาสัตว์เลี้ยงตัวอื่น และไม่ต้องการฉันแล้วใช่ไหม!”
“อ้าว ทําไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้” ฉินเฟิงยิ้มขม แต่พอลองคิดดูดีๆ พบว่าหัวข้อนี้ค่อนข้างร้ายแรง เพราะไป๋หลีตอนนี้แข็งแกร่งขึ้น แกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงไม่สามารถพัฒนาไล่ตามเธอได้เร็วมากพอ หากต้องการยกระดับอย่างสมบูรณ์แบบในเวลาอันสั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
อีกอย่างเมื่อไม่นานมานี้ ฉินเฟิงก็เพิ่งได้รับแรงกดดันอย่างหนัก
แต่แรงกดดันที่ว่า ไม่ใช่แค่เฉพาะศัตรูในชีวิตใหม่ แต่ยังรวมไปถึงสายเลือดที่ยอดเยี่ยม โดดเด่นของไป๋หลี
“เอาล่ะๆ พวกเรามาดูกันดีกว่า ว่ามีสมบัติอะไรอีกบ้าง”
ฉินเฟิงเปลี่ยนเรื่อง เริ่มหยิบจับสิ่งของที่เก็บมา และตรวจสอบมันอย่างรวดเร็ว
เขาพบว่าตนได้รับวัตถุดิบมาเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายนิดๆหน่อยๆ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นวัตถุที่ยากจะพบเจอ
บางสิ่ง เงินไม่สามารถซื้อได้
ฉินเฟิงหยิบเอารูบิควิเศษออกมา
จากนั้น เขาก็ใส่มีดกษัตริย์ครามลงไปข้างใน
มีดกษัตริย์ครามแข็งแกร่งมากก็จริง ทว่าเมื่อฉินเฟิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มีดกษัตริย์ครามกลับตามเขาไม่ทัน มันยังมีข้อจํากัดบางประการ ทําให้เขาไม่สามารถใช้มันได้อย่างเต็มที่
“ใส่เหล็กพระอาทิตย์เข้าไป” “เสียดายน่าจะตั้งชื่อเหล็กสุริยัน ตอนนั้นคิดไม่ทัน ฮ่าๆ)
ฉินเฟิงเริ่มยัดแร่เหล็กจํานวนมากลงไป ของสิ่งนี้เขาไม่ได้รับมันมาจากบันไดเทียนไต้ แต่แลกเปลี่ยนมันกับลู่หวันเปาในปราการชาตง
เหล็กจมเข้าไปในรูบิควิเศษ ผสมผสานหลอมรวมเข้ากับมีดกษัตริย์คราม วัตถุดิเกรดต่ําที่เคยหลอมเข้ากับมีดกษัตริย์คราม ถูกมันขับไล่ออกมา
และหลอมรวมเข้ากับเหล็กพระอาทิตย์แทน ในชั่วพริบตา มีดกษัตริย์ครามก็เริ่มเปลี่ยนรูปลักษย์ไป
ขนของจักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้าไม่เหมาะสมที่จะนํามาใช้ผลิตอาวุธมีคม แต่ในเวลานี้ เมื่อเหล็กพระอาทิตย์หลอมรวมเข้าไปสีของมีดกษัตริย์ครามก็เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆเริ่มออกลายเป็นสีน้ําเงินอมม่วง
ฉินเฟิงยังคงเติมวัตถุดิบอื่นๆลงไป
หินดารา , เหล็กนิรันดร์ , กระดูกคริสตัล
วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ได้รับมาในวันนี้ ล้วนถูกจับยัดลงไป มีดกษัตริย์ครามยิ่งมายิ่งแปรเปลี่ยน
เนื่องจากไม่มีวัสดุที่เหนือกว่าเลเวล C อํานาจของมีดกษัตริย์ครามจึงยังไม่ยกระดับไปอีกขั้น มันยังคงเป็นอาวุธเลเวล D ทว่าคุณภาพยิ่งผสานรวมกับวัสดุอันหลากหลาย ก็ยิ่งขยับก้าวข้ามขอบเขตอาวุธระดับจักรพรรดิไปอย่างช้าๆ
ซึ่งเหนือยิ่งกว่าระดับจักรพรรดิ คือระดับเทวะ!
มันกลายเป็นอาวุธเทวะ!
ครืนนนนนน!!!!
มีดกษัตริย์ครามสั่นไหว ไม่เกิดการหลอมรวมอีกต่อไป คล้ายเสถียรมั่นคงแล้ว นอกจากนี้มันยังส่งกลิ่นอายอันน่าหวาดกลัว และแสงไสวสีม่วงอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา
โชคยังดี ที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรูบิควิเศษ มิฉะนั้น เกรงว่าผู้คนจํานวนมากคงตระหนักได้ถึงมันแล้วตรงเข้ามาที่นี่เพื่อปล้นชิง
รัศมีสีม่วงบานเย็นสาดไสว จากนั้นก็ค่อยๆเริ่มถูกดูดซับกลับมารวมกันเป็นจุดเดียว!