โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 449

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Ep.449 – โรงงานนอกเมือง

ฉินเฟิงเข้าไปยังมิติเทียนไต้ รวบรวมเอาสมบัติที่คนอื่นๆไม่ได้สามารถเก็บได้ แล้วกลับไปยังวิลล่า

วัตถุดิบเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นแก่นอบิลิตี้และขนของสัตว์ร้าย ระดับสูงสุดคือเลเวล B แต่เป็นแก่นอบิลิตี้ราชันย์สัตว์ร้ายที่เสียหาย

ถึงกระนั้น มันก็ยังล้ำค่าอยู่ดี!

ยามเมื่อมือของฉินเฟิงวางลงเหนือมัน เจ้าตัวสัมผัสได้ถึงพลังงานอันน่าหวาดกลัว

ฉินเฟิงสูดหายใจลึก และเปิดใช้งานพลังดูดกลืนโดยตรง

เพียงเสี้ยววินาที พลังงานอันน่าสะพรึงถูกดูดซับเข้ามาในร่างของฉินเฟิง กายมนุษย์ถูกเสริมแกร่งอย่างต่อเนื่อง

แม้ฉินเฟิงจะเพิ่งฆ่าคนมาเมื่อไม่นานมานี้ และกําลังภายในก้าวหน้าไปมาก เรียกได้ว่าเกือบจะตัดผ่านเข้าสู่เลเวล C แล้ว แต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพกลับยังหยุดนิ่ง ไล่ตามไม่ทัน

“ฆ่าคนช่วยให้กําลังภายในพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายไม่ใช่ ร่างกายของผู้ใช้วรยุทธโบราณ จะสามารถเสริมแกร่งได้โดยการสังหารสัตว์ร้าย”

“ขณะเดียวกัน การสังหารสัตว์ร้ายแม้ช่วยเสริมแกร่งให้ร่างกายได้ แต่มันไม่สามารถช่วยในเรื่องกําลังภายใน ดังนั้นสมควรทําทั้งสองให้สมดุล”

“แต่ที่ลําบากที่สุด ก็คือพลังสมาธิ ปริมาณของผู้ใช้อบิลิตี้มีน้อยเกินไป มือปืนระดับสูงก็เหมือนกัน หลังจากนี้ หากคิดจะยกระดับพลังสมาธิ น่ากลัวว่าต้องสูบพลังสมาธิเอาจากแก่นอบิลิตี้ของสัตว์ร้าย”

แม้ในสมองจะขบคิด แต่พลังพิเศษดูดกลืนก็ยังไม่หยุดทํางาน

พลังงานมหาศาล ถูกดูดซับ สั่งสมเข้าไปในร่างกายด้วยอัตราเร็วสม่ำเสมอ

หลังจากดูดพลังจากแก่นอบิลิตี้ที่เสียหายของราชันย์เลเวล B เข้าไป ฉินเฟิงก็ยังไม่ยกระดับในทันที

แต่โชคดีก็คือ วัตถุดิบแบบนี้ ยังมีอยู่อีกเป็นจํานวนมาก

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

“ดูดกลืน !”

“ดูดกลืน !”

สิ่งใดที่สามารถใช้ร่วมกับพลังพิเศษได้ ฉินเฟิงดูดซับมันจนสิ้น

ผ่านไปสักพัก ฉินเฟิงก็เริ่มรู้สึกว่า ความแข็งแกร่งทางกายภาพ ได้มาถึงจุดตัดผ่าน

วินาทีต่อมา กลิ่นอายความแข็งแกร่งพลันระเบิดออก กวาดไปรอบกายฉินเฟิง

นี่คือกลิ่นอายอันน่ายําเกรง แม้จะระงับมันในชั่วพริบตา แต่ก็ยังเหลือร่องรอย ชวนข่มขวัญผู้คน

กลิ่นอายระดับจักรพรรดิ

ยกระดับไปอีกขั้น!

วู้ม วู้ม วู้มมม!

เกิดเสียงลั่นขึ้นตามร่างกาย พร้อมระลอกคลื่นโซนิคบูมที่ระเบิดออกจากมันเป็นระยะๆ

“แต่เลเวลเท่านี้ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี”

ฉินเฟิงคิด ก่อนหยิบเอาเหรียญพลังงานขนาดสิบลูกบาศก์เมตรออกมา

เหรียญพลังงานนี้ถูกทําให้บริสุทธิ์ด้วยกรรมวิธีพิเศษ พลังงานของมันอุดมสมบูรณ์ หากดูดซับ ไม่เพียงช่วยในด้านพลังสมาธิเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมแกร่งในด้านกําลังภายในอีกด้วย

อาจพูดได้ว่า หากเทียบกับยาดีๆบางชนิดแล้ว ผลลัพธ์ของมันก็ไม่เลวร้ายไปกว่ากัน

ผู้ใช้พลังสามารถสามารถดูดซับพลังงานจากเหรียญพลังงานได้ ยิ่งถ้ามีขนาดเล็กจะยิ่งดูดซับได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นราคาของเหรียญพลังงานจึงไม่เคยผันผวน เป็นสกุลเงินที่ยากจะราคาตก

ขณะนี้ ฉินเฟิงหยิบเหรียญพลังงานออกมา และเริ่มดูดซับมัน

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

พลังงานถูกสูบโดยฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว เหรียญพลังงานราวกับถูกระเหยออกเป็นแก๊ส ไหลเข้าสู่ร่างกายของฉินเฟิง และกลั่นตัวรวมกันเป็นมวลน้ำอีกครั้ง ตกลงไปในตันเถียน

ในตันเถียนของฉินเฟิง ปัจจุบันมี 97 มวลน้ำกําลังภายใน กองรออยู่แล้ว ทั้งหมดนี้คือผลประโยชน์ที่ได้จากการสังหารเลเวล C เมื่อไม่กี่วันก่อน หากจะกล่าวว่ากําลังภายในของฉินเฟิงก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด คงไม่ใช่เรื่องเกินเลย

ขณะนี้ เหรียญพลังงานขนาดสิบลูกบาศก์เมตรถูกดูดซับเข้ามา กําลังภายในของฉินเฟิงเริ่มก่อรูปขึ้นเป็นอีกหนึ่งมวลน้ำทันที

“ยังไม่พอ จัดไปอีกรอบ!”

เหรียญพลังงานขนาดสิบลูกบาศก์ชิ้นที่สองถูกหยิบออกมา ระเหยเป็นไอเหมือนกระบวนการเดิม

หลังจากนั้น ฉินเฟิงก็เริ่มทําแบบเดียวกันเป็นครั้งที่สาม

ในชั่วพริบตาเดียว เขาเสียเหรียญพลังงานขนาด 10 ลูกบาศก์ไปถึง 3 ชิ้น และนั่นเทียบเท่ากับเม็ดเงินจํานวนกว่า 3 แสนล้าน!

กําลังภายในของฉินเฟิงถูกเติมเต็ม มันได้มาถึงสภาวะอิ่มตัว ทะลักถึงขีดจํากัดสูงสุด

“ทักษะลับกลืนดารา หลอมรวม!”

แทบจะในทันที กําลังภายในทั้ง 100 แอ่งน้ำเริ่มรวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว มันจมลงไปยังส่วนล่างของตันเถียน จากเดิมที่เคยเป็นแอ่งน้ำ ผสานรวมกัน กลายเป็นสระน้ำถูกสร้างขึ้นมา

-กําลังภายในยกระดับขึ้นสู่เลเวล C!

กําลังภายในของฉินเฟิง ตัดผ่านไปได้อีกระดับ!!

ยังไม่พอ มวลน้ำกําลังภายในทั้ง 100 แอ่งที่หลอมรวมกัน ยังเป็นการควบแน่น กลายเป็นสระน้ำสูงขนาดสิบเซนติเมตร!

เนื่องจากครอบครองพลังพิเศษดูดกลืน ทําให้ในทุกๆครั้งที่ระดับกําลังภายในของฉินเฟิงยกระดับขึ้น มันจะไปอยู่ในระดับสูงสุดของผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวลเดียวกันทันที!

และในครั้งนี้ ก็ไม่มีข้อยกเว้น

100 มวลน้ำกําลังภายใน ถูกแปรสภาพกลายเป็น 10 สระน้ำกําลังภายใน ซึ่งนั่นคือกําลังภายในสูงสุดของเลเวล C!

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หากเทียบกันตามสามัญสํานึก กําลังภายในของฉินเฟิงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย มันก็แค่เพราะตันเถียนของเขาขยายความจุมากกว่าคนอื่นๆเท่านั้นเอง ถึงเวลาเขาเลยสามารถรับกําลังภายในได้มากกว่าคนทั่วๆไป

“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพลังพิเศษดูดกลืน ไม่อย่างนั้น ฉันคงไม่สามารถดูดซับเหรียญพลังงานมูลค่ากว่า 3 แสนล้านได้ และคงไม่มีทางได้มวลน้ำกําลังภายในเพิ่มขึ้นอีก 3 แอ่งในระยะเวลาอันสั้น”

“สําหรับผู้ใช้วรยุทธโบราณธรรมดา อาจจําเป็นต้องใช้เวลาถึงสิบปีเพื่อที่จะดูดซับมัน นั่นเลยยิ่งกลายเป็นเหตุผลหลักให้ผู้คนนํามันไปแลกเปลี่ยนกับยา”

“พลังพิเศษดูดกลืนในสภาพไม่ได้รับความเสียหาย ช่างร้ายกาจจริงๆ!” ฉินเฟิงรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่เขาใช้พลังพิเศษดูดกลืน ตนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องดีที่สุดเลย ที่ได้กลับมาเกิดใหม่

ฉินเฟิงยังคงฝึกฝนต่อไป ไร้ซึ่งท่าที่เกียจคร้าน เขาเริ่มฝึกหนทางสู่เจตจํานงศักดิ์สิทธิ์ และเทคนิคลับเหิงหลง ที่ละอย่าง ที่ละอย่างสลับกันไป

ในเวลาว่าง ฉินเฟิงยังฝึกฝนกระทั่งอบิลิตี้รูน

อบิลิตี้รูนสามารถสําแดงพลังได้มหาศาล สําหรับฉินเฟิงมันสามารถปลดปล่อยอบิลิตี้ได้รุนแรงกว่านี้ แต่เขาไม่เคยได้ศึกษาแบบจริงๆจังๆสักที

แต่หลังจากนี้ไป วิกฤตที่เขาต้องพบเผชิญจะยิ่งใหญ่ขึ้น และฉินเฟิงต้องการอบิลิตี้ดังกล่าวในการต่อสู้

หนึ่งเดือนต่อมา ฉินเฟิงไม่ได้เข้าร่วมงานเทียนไต้เมืองหวัง แต่ความแข็งแกร่งของเขายิ่งนานยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดต้องขอบคุณสมบิตจากในมิติเทียนไต้ ที่เขาไปชิงมันยามค่ำคืนหลังจบงาน

นอกจากนี้ โรงงานผลิตจักรกลของฉินเฟิงยังประสบความสําเร็จมหาศาล ฉินเฟิงลงทุนกับมันไปเกือบ 2 ล้านล้าน และผลลัพธ์คือสามารถพัฒนาเครื่องจักรที่น่าสะพรึงกลัวได้

แต่เนื่องจากขนาดของเครื่องจักรมีขนาดใหญ่โต ฉินเฟิงจึงได้เปลี่ยนที่ตั้งของโรงงานเดิมขึ้นไปตั้งเหนือหุบเขาเมืองหวังแทน และเริ่มก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่

“ลูกพี่ วันนี้พวกเรามีนัดทดสอบการบิน! รถจอดรออยู่ข้างนอกแล้ว” จิ่นเฟยกล่าวด้วยความเคารพ เขาติดตามฉินเฟิงมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว จิ๋นเฟยได้รับถ่ายทอดเทคนิคฝึกฝนเหิงหลง ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เขายังกลายเป็นโฆษกประจําเมืองหวังของฉินเฟิง

แน่นอน ในระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จิ่นเฟยขับรถเป็นแล้ว

“อ้อ วันนี้เองสินะ งั้นไปกันเลย” ฉินเฟิงพยักหน้า

“จะไปดูฮอลศึกลําใหม่หรอ? ใช่ไอ้เจ้าเครื่องที่ใช้เวลาสร้างนานๆนใช่ไหม อยากจะรู้จังว่ามันหน้าตาเป็นยังไง” ไป๋หลีเองก็อยากเห็นเหมือนกัน

ฉินเฟิงยิ้ม “คราวนี้ไม่ใช่ฮอลศึก!”

จิ๋นเฟยเปิดประตูรถให้ทั้งสองเข้าไปนั่ง ก่อนทิ้งตัวลงบนเบาะคนขับ และสตาร์ทเครื่องขับไปเส้นทางเมืองหวัง ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงทางออกของเมือง

ที่นี่มีการคุ้มกันแน่นหนามาก อย่างไรก็ตาม พอเห็นรถคันนี้ บรรดาผู้คุมอดสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว และไม่กล้าขวางทาง

จิ่นเฟยหยิบกระเป๋าใบเล็กออกมา และโยนมันลงบนโต๊ะของผู้คุม

คุณจําเป็นต้องมีค่าตั๋วสําหรับเข้าออกเมือง ไม่เว้นกระทั่งเลเวล C ที่มักจะคิดว่าตนเองมีสิทธิพิเศษกว่าคนอื่น หากใครไม่ทําตามกฏ ก็มักจะจบชีวิตลงโดยไม่ทราบสาเหตุ

แน่นอน คุณไม่จ่ายเงินก้อนนี้ก็ได้ แต่หากออกไปแล้ว ถ้ายังรักชีวิต ห้ามกลับมาโดยเด็ดขาด

ด้วยเหตุนี้ กฏการจ่ายค่าธรรมเนียม จึงไม่มีใครไม่ปฏิบัติตาม

รถศึกเริ่มขับต่อไป แม้ในช่วงหนึ่งเดือนมานี้ นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ลิ่นเฟยออกจากเมืองหวัง แต่เขาก็ยังอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้

ไม่นาน พวกเขาก็เปลี่ยนไปนั่งฮอลศึก บินขึ้นจากล่างสุด ขับไปตามสองฟากฝั่งของหุบเขา

ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที โรงงานขนาดใหญ่ ก็ปรากฏสู่สายตาของฉินเฟิง

รูม่านตาของไป๋หลีวูบไหว เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ฮอลศึกลดระดับลง บางคนก้าวออกมา

“ยินดีต้อนรับมิสเตอร์ฉิน”

คนที่ก้าวออกมาต้อนรับ แน่นอนว่าคือผู้รับผิดชอบโรงงานนี้ -โกวก๋วน

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท