โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 450

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.450 – การทดสอบเที่ยวบินแรก

โกวคิ้วนค่อนข้างอ่อนแอ แต่เขากลับได้รับความไว้วางใจจากหลงซาน และถูกยกให้เป็นมือขวาตลอดมา นั่นก็เพราะ อีกฝ่ายมีความรู้ที่แทบจะเทียบเท่าได้กับนักวิทยาศาสตร์

การผลิตเครื่องจักรชิ้นนี้เอง เครดิตส่วนใหญ่ต้องยกให้เขา

“มิสเตอร์ฉิน ฉันเชื่อว่าในครั้งนี้ คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน”

ทั้งคนทั้งร่างของโกวคิ้วนเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ราวกับคนนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่หมกมุ่นอยู่กับการทดลอง

เจ้าตัวกดรีโมทในมือ หลังคาของโรงงานเริ่มแยกออก พับเป็นทบเข้าหากันอย่างรวดเร็วเมื่อมันพับมาจนกําแพง กําแพงก็ยังถูกพับต่อไป จนสิ่งของที่ถูกเก็บไว้ภายใน เปิดเผยสู่สายตาของฝูงชน

มันมีรูปทรงเป็นวงรีคล้ายกับไข่ในแนวนอน เป็นเรือเหาะที่โค้งได้รูป!

“นี่คือผลงานความสําเร็จของเรา ตอนนี้เรือเหาะมีขนาดยาว 300 เมตร สูงกว่า 40 เมตรทั้งลํามีทั้งหมด 4 ชั้น และสามารถจุคนได้สูงสุดถึง 1,000 คน”

“แน่นอน นี่ไม่ใช่แค่เรือเหาะสําหรับโดยสาร แต่มันยังถูกติดตั้งระบบการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเอาไว้ด้วย!”

“มีปืนใหญ่กลางที่ทรงพลังที่สุด ปืนใหญ่รองมีสามกระบอก และปืนใหญ่ถัดลงมาอีก 30 กระบอก ทั้งยังติดตั้งลํากล้องขนาดใหญเอาไว้นับไม่ถ้วน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือในสถานการณ์ยิ่งระยะประชิด”

“นอกจากนี้ยังมีโซนจอดฮอลศึก เอาไว้ใช้ในกรณีที่ต้องการประหยัดพื้นที่มิติ”

“เรือเหาะลํานี้มีความสามารถในการลอยตัวที่ทรงพลังมาก หากให้อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือถ้าฮอลศึกสามารถบินได้ครั้งละแค่ 1 ชั่วโมง เรือเหาะลํานี้จะสามารถบินได้ 1 วัน!”

“ไม่เพียงแค่นั้น แต่การสูญเสียพลังงานของมันยังต่ํามาก เป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ขนาดใหญ่อันดับต้นๆ สามารถพูดได้เลยว่า ถ้าใช้มัน พวกเราสามารถท่องไปได้ทั่วทุกมุมโลก”

โกวกวนพล่ามไปหยุด เขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะแสดงให้เห็นถึงการทํางานทั้งหมดของเรือเหาะลํานี้

ก้มลงมองเวลาในอุปกรณ์สื่อสาร ยกมือขึ้นขัดคําอธิบายของโกวป่วน

“เอาล่ะๆ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น พวกเรามาทดลองของจริงกันเลยดีกว่า”

โกวป่วนยังสร้างมันไม่สมบูรณ์ ครั้งนี้ก็เป็นเที่ยวบินแรกของเขาเหมือนกัน ฉะนั้นลืมเลือนเรื่องที่พูดจากลายเป็นตื่นเต้น

“รับทราบเจ้านาย! โปรดเชิญทางนี้”

โกวป่วนนําทางทุกๆคน ตรงไปยังทางเชื่อมขึ้นเรือเหาะ

การติดตั้งอุปกรณ์และตกแต่งภายในเรือเหาะถูกจัดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ห้องพักที่หรูหราถูกสร้างขึ้นชั้นบนสุด แน่นอนมันคือที่พักของฉินเฟิงและไปหลี และยังมีห้องสวีทอีก 4 ห้องเอาไว้ใช้รับรองแขก หรือใช้เป็นที่พักสําหรับผู้ใช้พลังระดับสูงคนอื่นๆ

ถัดลงมาก็จะมีห้องเดี่ยว และถัดไปอีกเป็นห้องพักรวม มีแม้กระทั่งคุกที่ใช้กักขังทาส ตลอดจนห้องเซิร์ฟเวอร์สําคัญๆของเครื่องจักร ฯลฯ

เรียกได้ว่ามีทุกอย่างครบครัน บางทีหากเรือลํานี้ออกสู่ท้องทะเล มันอาจเป็นฉากที่งดงามมาก!

เดินกันสักพัก ฉินเฟิงก็มาถึงที่โซนคนขับ มีปุ่มนับไม่ถ้วนอยู่บนแผงควบคุม รวมไปถึง หมวกพลังสมาธิสําหรับสําหรับมือปืนเตรียมไว้อีกด้วย

โกวป่วนนั่งลงบนเบาะตัวแรกหน้าแผงควบคุม ผู้ใช้พลังเลเวล E นั่งตําแหน่งรองลงมาเตรียม เริ่มขับเคลื่อน

เครื่องจักรขนาดใหญ่เช่นนี้ จําเป็นต้องใช้มือปืนที่ทรงพลังมากๆ ถึงจะสามารถขับเคลื่อนมันได้ 100 %

ฉินเฟิงถูกจัดให้นั่งอยู่ในตําแหน่งผู้บัญชาการสูงสุด แต่เบื้องหน้าเขาไม่มีแท่นควบคุม

ที่นั่งนี้คือตําแหน่งสั่งการแน่ๆ แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงสถานที่สําหรับรับชม ยิ่งไปกว่านั้นเก้าอี้ตัวนี้ยังไม่ใช่เล็กๆ มันกว้างพอสําหรับให้ฉินเฟิงกับไปหลีนั่งคู่กัน

จิ๋นเฟยมองหาเก้าอี้ในมุมหนึ่ง แล้วนั่งลง

“เตรียมการเสร็จสิ้น โปรดมอบคําสั่ง”

โกวคิ้วนเอ่ยปากถาม

“ขับไปเรื่อยๆทางทิศตะวันออกก็แล้วกัน” ฉินเฟิงคล้ายใช้ความคิด และเอ่ยปาก

โกวกวนก็ดูจะไม่ค่อยให้ความสนใจเช่นกัน นี่คือการบินทดสอบ ฉะนั้นจะไปไหนก็ได้ เรือเหาะเริ่มเดินเครื่องอย่างช้าๆ

เรือเหาะลํานี้เสถียรเป็นอย่างมาก ชนิดที่ว่าขวดน้ําที่วางเอาไว้ ไม่มีระลอกคลื่นสั่นไหวให้เห็นเลย มันลอยลําขึ้นอย่างราบรื่น ค่อยๆสูงขึ้นไป

แม้ในด้านความเร็วจะไม่มากนัก แต่ไม่เกิดเสียงดังรบกวนอะไรเลย! มันมอบประสบการณ์เดินทางที่ดีเยี่ยม

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ฉินเฟิงนําออกมา – เครื่องยนต์จากเมืองลอยฟ้า!

เครื่องยนต์จากเมืองลอยฟ้า ถูกนํามาประยุกต์ใช้เข้ากับเรือเหาะ และเห็นได้ชัดว่าผ ลลัพธ์ของมันดีเกินคาด

หลังจากนั้น เรือเหาะก็เริ่มบินไปทางฝั่งตะวันตก และบังเอิญไปพบกับฝูงสัตว์ปีกเลเวล E

โกวกวนไม่มีความคิดที่จะหลีกทางให้พวกมัน เขากระทั่งคุยโวเล็กน้อย “เจ้านาย สนใจดูการสังหารสัตว์ร้ายกลุ่มนี้หรือเปล่า”

ฉินเฟิงยิ้มบาง แต่ก็มิได้เปิดเผยความในใจที่แท้จริงของโกวเกิง

“ยิงให้เหี้ยน”

“น้อมรับคําสั่ง!”

โกวป่วนออกคําสั่งเปิดใช้งานอาวุธปืนทันใด รังสีแสงสว่างวาบบบบ! สัตว์ปีกเหล่านั้นถูกสังหารลงทันที ร่างกายส่วนหนึ่งกลวงเป็นรูโบ้

อีกฝั่งเป็นฝูงสัตว์ปีกซึ่งมีจํานวนมากกว่า 300 ตัว หากมองใกล้ๆ มันสามารถกลบกลืนผืนฟ้าได้ตามปกติแล้ว ต่อให้เป็นผู้ใช้พลังเลเวล D บินผ่าน หากเจอสถานการณ์นี้ เขาคงเลือกหลบเลี่ยงไปอีกทาง

ทว่าสถานการณ์ตรงหน้า กลับใช้เวลาแค่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ฝูงสัตว์ร้ายก็ถูกกวาดเกลี้ยง!

นี่แสดงให้เห็นว่าระบบต่อสู้ของเรือเหาะทรงพลังแค่ไหน

จากนั้น โกวป่วนก็ส่งฮอลศึกสองลําออกไป เพื่อเก็บเกี่ยวสินสงคราม!

ในส่วนของการเก็บเกี่ยวสินสงคราม มันอาจเสียเวลาไปบ้าง เรือเหาะลอยลําเพื่อรอฮอลศึกสูงเหนือระดับพื้นดินราวๆ 20 เมตร มันดูราวกับเป็นตึก 6 ชั้น ผู้คนภายในเรือสามารถสัมผัสต้นไม้สูงใหญ่นอกหน้าต่างของเรือเหาะได้

ไม่ว่าจะกล่าวหรือมองมุมไหน คําๆเดียวที่เหมาะสมกับเรือเหาะลํานี้คือสมบูรณ์แบบ

และโกวป่วนก็มั่นใจว่าเรือเหาะที่เขาสร้างขึ้นนั้นสมบูรณ์แบบจริงๆ แน่นอน เขาคิดกระ ทั่งว่าตนเป็นกัปตันของเรือเหาะลํานี้ ส่วนฉินเฟิง เป็นแค่หัวหน้าหรือผู้บัญชาการเท่านั้น

โกวกวนถึงขั้นคิดเลยเถิดไปไกล ว่าในอนาคต เขาจะใช้เรือเหาะลํานี้ ออกผจญภัย สร้างตํานานนับไม่ถ้วน เฉกเช่นเดียวกับราชาแห่งท้องทะเล!

แต่ระหว่างกําลังดื่มกับจินตนาการ ภายในเรือเหาะ จู่ๆก็เกิดเสียงติ๊ดๆ ดังแจ้งเตือนขึ้นอย่างกะทันหัน

โกวคิ้วนผงะตกใจ ผุดความคิดว่ามีอะไรผิดปกติกับเรือเหาะใช่หรือไม่ นั่นอาจทําให้เขาเสียหน้าได้ แต่ไม่นาน เจ้าตัวก็ค้นพบว่ามันไม่ใช่

ขณะนั้นเอง อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงและคนอื่นๆก็ดังขึ้น

ต็ด! ติ๊ด! ติด! เตือนภัย เตือนภัย ห่างออกไป 1078 เมตร รอยแยกมิติปรากฏขึ้น!)

(ติ๊ด! ติ๊ด! ติด! เตือนภัย เตือนภัย)

ภายในเรือเหาะ เสียงแจ้งเตือนดังสะท้อนไม่หยุด โกวป่วนไม่คาดคิดเลยว่าจะโชคร้ายขนาดนี้ทําไมการออกทดสอบเรือเหาะครั้งแรกต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วยนะ

“ฮอลศึกรีบกลับมา กลับมาเร็วเข้า!”

โกวป่วนออกคําสั่งตามลําดับความสําคัญ จากนั้น ก็หันไปหาฉินเฟิงอย่างร้อนรน แสดงท่าทีประจบสอพลอ และกล่าว “เจ้านาย พวกเรารีบหนีกันเลยดีไหม โชคร้ายจริงๆที่รอยแยกมิติปรากฏขึ้น!”

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของฉันเพิ่งกลับไร้ซึ่งความกังวล แตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง ปากเอ่ยกล่าว“ไหนๆพวกเราก็อยู่ที่นี่แล้ว งั้นก็แวะไปดูรอยแยกมิติกันสักหน่อย ถ้ามันเป็นแค่รอยแยกเล็กๆ ยิ่งทําลายพวกมันซะก่อนค่อยเดินทางกลับกัน”

โกวก้วนต้องการจะชี้หน้าด่าฉันเพิ่งจริงๆ แม้ฉินเฟิงจะมาอยู่กับพันธมิตรองค์กรมีดแล้วก็ตามแต่สิ่งที่เขาทํา มันยังเป็นทัศนคติในเชิงของพันธมิตรมนุษย์ ที่ในใจตระหนักว่าความปลอดภัยของโลกย่อมเป็นความรับผิดชอบของตน เวลานี้จู่ๆก็เลยกลายเป็นคนดีขึ้นมาอย่างกะทันหัน

อย่างไรก็ตาม แม้รอยแยกมิติจะผุดขึ้นมาค่อนข้างใกล้ แต่มิติรอบเมืองหวังมักจะเสถียรตลอดมาฉะนั้นไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่ใดๆ

เมื่อคิดได้อย่างนั้น โกวคิ้วนก็คลายความกังวลลง

แต่ไม่นาน สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยน!

เพราะเบื้องหน้า ในระยะห่างออกไป 1,000 เมตร มันมิใช่เมฆขาวและท้องฟ้าสีครามสดใสแต่ปัจจุบั กลับถูกกลืนกินโดยรอยแยกมิติขนาดยักษ์!

ชั้นอากาศสีดํา ปริร้าวเป็นทางยาว กลืนกินทั่วผืนฟ้า ลากเป็นทางไกลกว่า 300 เมตร

รัศมีระดับนี้ ถือว่าน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก

จากนั้น รอยแยกก็เริ่มเปิดออก ราวกับปากใหญ่ถูกอ้าบนท้องฟ้า

รอยแยกมิติยิ่งใหญ่ ยิ่งบ่งบอกถึงสิ่งที่กําลังตามมา สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ร่วงหล่นลง จากรอยแยกมิติบนฟากฟ้า

บนอุปกรณ์สื่อสาร เสียงแจ้งเตือนดังก้องอีกครั้ง

ด็ด! ติด! ติ๊ด! ตรวจพบสิ่งมีชีวิตรูปแบบสัตว์ร้ายระดับจักรพรรดิ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท