Ep.595 - กลุ่มปีศาจชินระ
ลูกสาวของคงโบะหายตัวไป เป็นธรรมดาที่เขาจะกังวล ดังนั้นเร่งฝีเท้า ไม่ยอมให้อะไรมาขัดขวาง
หวือ หวือ หวือ หวือ!
มีดบินในมือคงโบะถูกขว้างออกไป ประกายแสงสีทองสว่างวาบ ตัดอากาศไม่ต่างจากฝนดาวตกยามร่วงหล่น
ความสามารถในการต่อสู้ของคงโบะแข็งแกร่งมาก
มีดบินเหล่านี้ทิ่มแทงเข้าใส่หัวของแมลงสัตว์ร้ายที่ขวางทางอย่างแม่นยำ กระทั่งบางตัวยังไม่ทันโผล่หัวออกมาด้วยซ้ำ คงโบะเพียงอาศัยกลิ่นอาย ก็สามารถระบุตำแหน่งและสังหารเป้าหมายได้
นี่แหละคือความแข็งแกร่งของผู้ใช้พลังเลเวล B
เหล่าตั๊กแตนมรกต แน่นอนไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของคงโบะ หลังจากฝูงชนวิ่งฝ่าวงล้อมในพงหญ้ารกทึบเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงพื้นที่เขต 13
พงหญ้าที่นี่ดูไม่แตกต่างไปจากที่อื่น แต่เหนือยอดของมัน กลับปรากฏดอกไม้ที่มีสีนสันเบ่งบานอยู่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องชะงักฝีเท้าก็คือ ในชั้นอากาศรอบๆดอกไม้ เริ่มปรากฏร่องรอยจางๆของหมอกหลากสี
ห่างจากมัน 500 เมตร ฝูงชนเริ่มตื่นตัวทันที
“แย่ล่ะสิ ฉันลืมเตรียมตัวมาก่อน ใครพอมีเม็ดยาสมุนไพรวิญญาณที่ใช้ขจัดหรือต้านทานภาพลวงตาไหม ฉันจะขอซื้อ แล้วแบ่งปันให้แก่ทุกๆคน” คงโบะกล่าว
เจียงป๋อกล่าวด้วยรอยยิ้มทันที “นายพลคง คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก เพราะคุณให้เสนอรางวัลไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ทั้งหมดถือเป็นภาระของพวกเราเอง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองเงินไปมากกว่านี้!”
ว่าจบ เจียงป๋อก็หยิบเม็ดยาออกมาทันที แล้วกลืนมันลงไป
คนอื่นๆมองเจียงป๋อชิงพูดประจบประแจง ก็ก่นด่าในใจ จริงอยู่ที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องให้คงโบะซื้อเม็ดยาให้ แต่เมื่อถูกเจียงป๋อกล่าวเช่นนั้น มันไม่ต่างไปจากการด่าพวกตนทางอ้อมว่าละโมภกระทั่งเงินเล็กๆน้อยๆเลยไม่ใช่หรอ ทั้งหมดบังเกิดความเกลียดชังเจียงป๋อ แต่ไม่แสดงออก เร่งโบกมือว่าไม่เป็นไร
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การที่สามารถก้าวมาถึงเลเวล C ได้ นั่นหมายความว่าทุกคนมีเงิน ดังนั้นจะไม่มีเม็ดยาที่กล่าวมาอยู่ในพื้นที่มิติได้อย่างไร?
อย่างฉินเฟิงเอง ยังมีเม็ดบัวพิสุทธิ์พกติดตัวเอาไว้เลย
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ฉันขอรับน้ำใจนี้ไว้ เชิญทุกท่านกินยาเถอะ” คงโบะกล่าว
ผู้ใช้พลังกว่า 70 คนเรียกเม็ดยาสมุนไพรขึ้นมาในมือ บ้างกุมไว้ บ้างโยนมันเข้าปาก ก่อนเริ่มก้าวเข้าสู่พื้นที่เขต 13 อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงที่เดินอยู่ท้ายๆ จู่สองคิ้วก็ย่นเข้าหากัน เหลียวหลังกลับไป
“ระวัง!” ฉินเฟิงคว้ามือไป๋หลี กระโจนเข้าไปในดงพงหญ้ารกทึบ
ขณะเดียวกัน บนยอดเขาที่ห่างไกลจากที่นี่อย่างน้อยหลายพันเมตร ปรากฏอาวุธปืนหลายกระบอกเล็งมายังตำแหน่งนี้ กวาดสำรวจฝูงชน
“มีแกะอ้วนบุกเข้ามามากกว่า 70 ตัว ยอดเยี่ยมจริงๆ”
คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า แสยะยิ้มออกมา
ชายอีกคนขมวดคิ้วและกล่าว “แต่ผู้ใช้อบิลิตี้ที่เดินตามหลังเป็นคนสุดท้าย เหมือนจะมีท่าทีแปลกๆ เขาคงไม่ได้ค้นพบพวกเราใช่ไหม? เมื่อกี้เหมือนเห็นเขาเหลือบตามองมาทางพวกเราด้วย”
“นั่นเป็นไปไม่ได้ ทางเรามีโล่พลังสมาธิ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจค้นพบ”
“ใช่แล้ว ในปีก่อน อดีตลูกรักของพระเจ้า ที่ปัจจุบันอายุ 28 ปี และมีความแข็งแกร่งถึงเลเวล C5 ทั้งยังไม่ใช่ผู้ใช้พลังธรรมดา แต่อย่างน้อยเป็นถึงระดับราชันย์ยังไม่รู้สึกถึงตัวตนของพวกเราเลย แล้วเจ้าพวกนี้จะค้นพบได้ยังไง”
“ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้น ไอ้คนหลังสุด มองยังไงก็แค่เด็กหน้าขาวขนยังไม่ขึ้นชัดๆ? ไม่ใช่ว่ามันคิดเล่นพิเรนกับสาวของตัวเอง เลยฉุดเข้าพงหญ้าหรอกหรอ!”
“หายนะเฉียดถึงตัวแล้วแท้ๆ ยังคิดเล่นพิเรนกับสาว ฮ่าฮ่า ยังไม่ทันเสร็จกิจ ฉันว่ามันคงตายก่อน!”
ฝูงชนพากันหัวเราะเยาะ ไม่มีใครสนใจเจ้าเด็กหน้าขาวขนยังไม่ขึ้น อีกอย่าง มันจะยกระดับมาถึงเลเวล C ได้อย่างไร? ต่อให้อีกฝ่ายเป็นลูกรักของพระเจ้า แต่ระดับมากสุดคงแค่ราชันย์ ฉะนั้นไม่มีทางตรวจพบถึงโล่พลังสมาธิของพวกเขาได้
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงแม้แยกตัว แต่ก็เดินตามกลุ่มของคงโบะเข้าไปยังพื้นที่เขต 13 ในหัวใจของเขาได้ข้อสรุป
“ไม่น่าจะผิดพลาดแล้ว ฉันเคยได้ยินข่าวลือมาก่อน ว่าคงโบะเคยต่อสู้กับกลุ่มปีศาจชินระ และอีกฝ่ายได้สังหารลูกสาวของเขา ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่แค่ข่าวโคมลอย”
“ไม่แน่ใจว่าคงโบะจะรู้รึเปล่า ว่าที่นี่กำลังจะเกิดอะไรขึ้น”
“หึ ดูเหมือนว่าเจ้าพวกองค์กรมืดนี้จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มพันธมิตรของหัวเซี่ย หลังจากฆ่าพวกมัน คงทำกำไรได้ไม่น้อย!”
มุมปากของฉินเฟิงยกสูงขึ้น ต้องรู้นะว่า การที่เขาเลือกตามมา มันไม่ใช่เพื่อช่วยชีวิตใครบางคน หรือค้นหาบางสิ่ง แต่นี่เป็นเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงกับสิ่งหนึ่งในความทรงจำของเขา
นี่เอง คือเหตุผลที่ฉินเฟิงเลือกติดตามคงโบะมาที่นี่
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องกำลังภายในของเขา ที่หากคิดให้ยกระดับขึ้น ขอแค่ฆ่าคน มันก็รวดเร็วกว่าการฝึกฝนด้วยตัวเองแล้ว
ปัจจุบันฉินเฟิงจำเป็นต้องยกระดับความแข็งแกร่งของเขาอย่างเร่งด่วน ดังนั้นการทำแบบนี้ ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“ที่นี่กว้างเกินไป ขอให้ทุกคนกระจายกันค้นหา” คงโบะกล่าว
“รอก่อนท่านผู้ใหญ่คง” หยวนเสี่ยวกลางที่เข้าร่วมทีมเป็นคนแรกกล่าวขึ้น ต่อมา พงหญ้าบนพื้นเริ่มขยุกขยิก ทันใดนั้นเอง เถาวัลย์เส้นหนึ่งผุดขึ้นมา
และบนเถาวัลย์ ปรากฏวัตถุชิ้นหนึ่งที่เหมือนจะทำจากผ้าฝ้าย ติดมาด้วยอย่างกะทันหัน
สีหน้าของคงโบะแปรเปลี่ยนทันใด
“นี่มันชุดรบของลูกสาวฉัน”
“มาถึงก็เจอเลย!”
“ยอดเยี่ยม! ไม่นึกว่าจะง่ายดายแบบนี้”
คนในทีมเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้เช่นกัน ในหัวใจของพวกเขารู้สึกผ่อนคลาย เพราะถ้าเจอร่องรอย แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องแยกกันค้นหาแล้ว อย่างไรเสีย ที่นี่ก็อันตรายมาก!
“หยวนเสี่ยวกวง นายพบที่ไหน พาพวกเราไปดูเร็ว”
“ได้เลย ตามฉันมา!”
ฝูงชนมุ่งไปข้างหน้า แต่ห่างไปได้ไม่ไกล ชั้นอากาศตามเส้นทางก็เริ่มฟุ้งไปด้วยหมอกหนา ปรากฏแสงสะท้อนจางๆ
“ว้าว สวยจังเลย!” ดวงตาของไป๋หลีเปล่งประกายสดใส
เงาร่างผีเสื้ออันงดงามปรากฏขึ้น ผงสีขาว มันวาวราวไข่มุกกระเพื่อมไหว ลอยตามเส้นทางที่มันบินผ่าน ทุกการขยับปีกมีจังหวะที่ดูลึกลับและประหลาดตา งดงามเกินบรรยาย
“ทุกคนระวัง!”
ตรงกันข้ามกับไป๋หลี สีหน้าทุกคนแปรเปลี่ยนกลับกลาย
เพราะเบื้องหน้าคือผีเสื้อผงหอม!
ครอบครองความสามารถในการสังหารที่ไร้สรรพเสียง นักฆ่าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในพื้นที่เขต 13 !
ช่วงเวลานี้ ท่ามกลางหมอกหนาที่เปล่งประกาย ผีเสื้อผงหอมตัวเดียวโฉบออกมา สยายปีกร่ายระบำอ่อนช้อยในอากาศ
ขนาดของผีเสื้อผงหอม ใหญ่แค่ราวๆกะละมังใบหนึ่งเท่านั้น ยามโผบินก็ไม่ได้ว่องไวอะไร คล้ายกำลังร่ายรำซะมากกว่า แต่การดำรงอยู่เช่นนี้แล ที่ทำให้ผู้ใช้พลังเลเวล C ต้องตกตายมานักต่อนักแล้วด้วยพิษของมัน
ช่วงเวลานี้ รอบๆเริ่มปรากฏผีเสื้อผงหอมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคนอื่นๆ นี่มันไม่ดูงดงาม แต่กลับค่อนข้างน่าหวาดกลัว
กระทั่งไป๋หลีก็ยังต้องขมวดคิ้ว
หมอกที่กระจายอยู่ในชั้นอากาศ เริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกถึงสารพิษที่ยิ่งนานยิ่งสั่งสม
“พวกเรารอไม่ได้แล้ว ต้องเร่งมือทันที ไม่อย่างนั้นคงต้านพิษไม่ไหว”
เวลานี้ บางคนเริ่มเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ และรีบกลืนเม็ดยาที่เตรียมไว้ในมือลงไป
ส่วนฉินเฟิงเขายังไม่รู้สึกอะไร อาจเป็นเพราะเขาเคยกินเม็ดบัวพิสุทธิ์มาก่อนก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ผีเสื้อผงหอมเหล่านี้ มันน่ารำคาญเกินไปจริงๆนั่นแหละ
พลังสมาธิของฉินเฟิงเริ่มขยับไหว เตรียมใช้ออกด้วยเทคนิคมังกรไฟ แต่ไป๋หลีห้ามเขาซะก่อน “ฉันอยากได้ปีกผีเสื้อมาทำกระโปรง ที่รักห้ามเผามัน!”
ฉินเฟิงมองไป๋หลีอย่างโง่งม ‘ความคิดในสมองของไป๋หลีนี่มันยังไงกัน ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ’
ฉินเฟิงจำต้องถอนรูนกลับคืน และเพื่อไม่ให้สถานการณ์มันน่าอึดอัดเกินไป เขาเลยหยิบมีดยาวเล่มหนึ่งออกมา
มีดนี้ มิใช่มีดกษัตริย์คราม เป็นอุปกรณ์รูนธรรมดาๆ แต่กระนั้นก็ยังเปล่งประกายสีเงิน
–เป็นอุปกรณ์รูนระดับราชันย!
“มีดเปลวเพลิง!”
หึ่ง หึ่ง!
กำลังภายในหลั่งไหลเข้าไป ใบมีดกลายเป็นคมกล้าอย่างหาที่ใดเปรียบ
“เทคนิคก้าวมังกร!”
ร่างของฉินเฟิงกระพริบไหว โฉบเข้ากลางดงผีเสื้อผงหอม
ฝูงผีเสื้อผงหอมตื่นตระหนก กระพือปีกปั่นป่วนยุ่งเหยิง
วู้มมมม!
ปีกอันงดงามพัดกระพือ ปลดปล่อยสายลมแรงวูบไหว