ฟึ่บ!
อสูรสามตนร่อนลงมาที่หน้าอสูรปราดเปรียวและเฟยหลานหลังจากทำลายผนึกเหนือตำหนัก
เฟยหลานจ้องมองผู้มาเยือนนางรู้ว่าทั้งสามคืออสูรที่ร้านอาหารในวันนั้น นางหลบที่ด้านหลังอสูรปราดเปรียวด้วยความหวาดกลัวโดยไม่รู้ตัว
บังอาจ!
อสูรปราดเปรียวตะโกนด้วยโทสะนางไม่คิดว่าจะมีพวกโง่กล้าบุกเข้ามาในตำหนักนาง เห็นได้ชัดว่าทั้งสามกำลังดูถูกนางอยู่
เฉียนจุนตอบอย่างจริงใจ
ท่านอสูรปราดเปรียวผู้หญิงคนนี้พยายามใส่ร้ายพวกเรา! ในทีแรก นางพยายามสังหารเราในนามของผู้คุมกฎ นายท่านของข้าจึงขัดขืนและสังหารราชาอสูรที่เป็นคนของนาง! จากนั้นนายท่านของข้าจึงปล่อยผู้คุมกฎที่เหลือและบอกให้พวกเขามาบอกให้นางหยุดเสีย นายท่านของข้าปล่อยผู้คุมกฎที่เหลือมาก็เพราะอยากจะแสดงความนับถือต่อท่าน!
แต่นางไม่หยุดนางส่งอสูรจ้าวดินแดนอีกสองคนมาสังหารพวกเรา! ดังนั้นนายท่านของข้าจึงกลับมาสังหารนางตามที่ลั่นวาจาไว้! น่าขันนักที่นางพยายามจะบิดเบือนความจริงต่อหน้าท่าน!
เฉียนจุนบอกความจริงออกมาโดยไม่ลังเล
เหลวไหล!ที่ข้าทำไปก็เพื่อเมืองนี้! ข้าจะฆ่าพวกเจ้าไปทำไม? แล้วเจ้าคิดว่าข้ามีอำนาจสั่งอสูรจ้าวดินแดนสองคนเรอะ? ถ้าเจ้าจะโกหกก็หัดโกหกให้มันแนบเนียนกว่านี้หน่อย!
เฟยหลานที่หลบด้านหลังอสูรปราดเปรียวโกหกต่อไปอย่างไม่กลัวเกรง
เฉียนจุนยิ้มตอบอย่างเย็นชา หากนายท่านอยากฆ่าเจ้าเขาก็ทำไปตั้งแต่ที่ร้านอาหารแล้ว! ใยจะต้องมาฆ่าเจ้าตอนนี้? เจ้าไม่ยินดีกับโอกาสที่นายข้าให้และกลับอยากตาย นายท่านข้าจึงกลับมาเอาชีวิตเจ้ายังไงล่ะ!
เฉียนจุนหันไปหาอสูรปราดเปรียว
ทีนี้ท่านอสูรปราดเปรียวคงจะรู้ความจริงแล้วสินะ!
หึหึ…
อสูรปราดเปรียวยิ้มตอบอย่างเยือกเย็น
ข้าเลือกเชื่อคนของข้า!เจ้าคิดว่าเจ้าจะพูดให้ข้าสังหารคนที่ข้าเชื่อใจด้วยคำไม่กี่คำรึ? เจ้าคิดว่าข้าจะเมินสิ่งที่เจ้าทำในเมืองข้าได้รึ?
ในวันนี้จะไม่มีพวกเจ้าคนใดหนีไปจากที่นี่ได้!
อสูรปราดเปรียวเรียกกรงทมิฬที่เต็มไปด้วยพลังอสูรออกมา
กรงทมิฬทำให้ทุกคนในระยะรู้สึกไม่สบายใจในทันที
นายท่านนี่มันสมบัติอสูรชั้นสูงที่จักรพรรดิอสูรให้อสูรปราดเปรียว มันเรียกว่าคุกสวรรค์เทพอสูร มันคือของที่เลียนแบบมาจากสมบัติศักดิ์สิทธิ์! มันใช้ขังว่าที่เทพขั้นกลางได้!
เฉียนจุนแอบเตือนซือหยูเมื่อมองอสูรปราดเปรียวสายตาเขาเริ่มลุกลี้ลุกลน
ข้าได้ยินว่าอสูรปราดเปรียวรอบรู้เป็นที่น่านับถือ ได้เห็นจริงแล้วไม่สมคำร่ำลือเอาเสียเลย เจ้าแยกผิดถูกไม่ได้! เจ้ามันก็แค่คนโง่เขลา! โชคดีที่ลูกสาวกับข้าได้พบนายท่านเสียก่อน หากข้าลี้ภัยมาหาเจ้า ชั่วชีวิตนี้คงต้องเสียใจเป็นแน่
ซือหยูยกมือปรามเฉียนจุน
ซือหยูพูดด้วยความใจเย็น
อสูรปราดเปรียวแยกผิดถูกได้นางรู้ว่าเฟยหลานทำผิด แต่นางก็ต้องหยุดเราแม้จะรู้ว่าถูกเฟยหลานหลอกใช้! ในฐานะอสูรจ้าวเมืองนางมิอาจปล่อยให้คนนอกสังหารคนของนางที่นี่ได้ มิเช่นนั้นชื่อเสียงและเกียรติยศนางจะย่อยยับป่นปี้
ดังนั้นนางจึงไม่ใช่คนโง่ กลับกัน นางค่อนข้างจะฉลาดเพราะนางรู้ว่าต้องทำเช่นนี้
อสูรปราดเปรียวทึ่งเมื่อได้ยินเช่นนี้นางได้แต่มองซือหยูอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนว่าชายหนุ่มผมสีเงินผู้นี้จะเป็นหัวหน้าของอสูรอีกสองตน
แม้เจ้าจะรู้ว่าข้าทำอะไรเจ้าก็ยังบุกเข้ามาในตำหนักข้า! เจ้ามันบ้าเกินไปแล้ว!
อสูรปราดเปรียวพูดอย่างเยือกเย็น
ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเจออะไรมาก่อนแต่เจ้าสร้างปัญหาในเมืองข้า ข้าจะต้องจบเรื่องนี้ด้วยการตัดหัวเจ้า!
ฟึ่บ!
สมบัติศักดิ์สิทธิ์ปลอมในมือนางหมุนอย่างรวดเร็วมือทมิฬหลายสืบมือยื่นออกมาและพยายามลากซือหยูไปในกรงขัง ต่อหน้าสมบัติอสูรอันทรงพลังแม้แต่ว่าที่เทพขั้นกลางก็ต้องหนี
เฟยหลานแสยะยิ้มนางมั่นใจในพลังของอสูรปราดเปรียวเพราะอสูรจ้าวดินแดนสองตนก็มิอาจเทียบอสูรปราดเปรียวในการต่อสู้ได้
จะอย่างไรก็มีอสูรจ้าวดินแดนเพียงไม่กี่ตนที่มีสมบัติศักดิ์สิทธิ์ปลอมในครอบครองอสูรปราดเปรียวคือหนึ่งในนั้น นางสามารถเป็นอสูรสิบอันดับแรกในเมืองชมทะเล ในเมืองนี้ ไม่มีใครนอกจากว่าที่เทพชั้นสูงหลานยคนที่จะเทียบกับนางได้
ดังนั้นเฟยหลานจึงคิดว่าซือหยูที่บุกเข้ามาในเมืองนี้จะต้องตายอย่างแน่นอน
ต่อหน้าสมบัติศักดิ์สิทธิ์ซือหยูยกมือเรียกกระบี่เก้าเล่มออกมาตั้งค่ายกล
กระบี่สีเงินเคลื่อนไหวดั่งแหมันกำจัดมืออสูรทั้งหมดที่กำลังจะมาถึงตัวซือหยู
อสูรปราดเปรียวชักสีหน้าเมื่อเห็นค่ายกลกระบี่
ค่ายกลกระบี่แข็งแกร่งนัก!มันเทียบกับค่ายกลกระบี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ในเผ่าอสูรของเรา…ไม่สิ! ค่ายกลกระบี่สองแบบนี้มีความคล้ายกัน!
ดูเหมือนว่าอสูรปราดเปรียวผู้รอบรู้จะรู้ตัวแล้วว่าค่ายกลกระบี่นี้มีความยอดเยี่ยม
อสูรปราดเปรียวตะโกนอย่างไม่ลังเลนางต้องใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์จัดการซือหยูให้ได้
ต่อให้มันเป็นของปลอมมันก็มีพลังมาจากสมบัติศักดิ์สิทธิ์
เสียงคำรามดังมาจากคุกสวรรค์เทพอสูรพลังของว่าที่เทพขั้นกลางพุ่งออกมา
ฟึ่บ!
ดวงวิญญาณของว่าที่เทพขั้นกลางออกมาจากกรงและเริ่มพุ่งเข้าใส่ซือหยู
นี่คือเหตุที่คุกสวรรค์เทพอสูรน่ากลัวหากวิญญาณถูกกักขังอยู่ภายในนั้นแล้ว ดวงวิญญาณจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกรง ระวังนายท่าน!
เฉียนจุนตะโกนแม้ว่าจะเป็นวิญญาณของว่าที่เทพขั้นกลางแค่ดวงเดียว มันก็แข็งแกร่งกว่าว่าที่เทพขั้นต้นหลายเท่า!
ซือหยูมองท้องนภาเนตรยักษ์ส่งคลื่นพลังแผ่ออกไปในระยะหลายหมื่นลี้
เนตรสวรรค์ที่เพิ่มพลังจากฎีกาสวรรค์ของเทพไม้นั้นแกร่งและทรงพลังกว่าเดิม
แม้แต่ราชาอสูรยังมิอาจขยับตัวได้หลังจากถูกเนตรยักษ์นี้จ้องซือหยูสามารถเอาดวงวิญญาณศัตรูออกมาได้ไม่ยาก
การหลอมรวมของฎีกาสวรรค์กับความสามารถวิญญาณเรอะ?
อสูปราดเปรียวตกตะลึง
แม้ฎีกาสวรรค์ของซือหยูจะยังไม่ถึงขั้นแปลงฟ้ามันก็น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าว่าที่เทพ
ไม่นะ!
อสูรปราดเปรียวตระหนักถึงความอันตรายได้แล้วนางพยายามจะผนึกดวงวิญญาณว่าที่เทพขั้นกลางกลับคืนกรง แต่เนตรยักษ์บนท้องนภากระพริบหนึ่งครั้ง มันชิงดวงวิญญาณไปในทันที
ก่อนที่อสูรปราดเปรียวจะมีเวลาจู่โจมเนตรแสงหลากสีก็ส่องลงมาที่หัวของนางและเฟยหลานแล้ว
อสูรปราดเปรียวกับเฟยหลานถูกหยุดโดยแสงเหล่านั้น
อสูรปราดเปรียวพยายามจะต่อต้านแต่ก็ไร้ผลร่างเซียนขั้นสูงสุดของเฟยหลานถูกแสงบดขยี้ตรง ๆ
ดวงวิญญาณเฟยหลานมิอาจขยับได้
ความอวดดีของนางเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว
ซือหยูเดินไปที่ทั้งสองและพูดขณะที่จ้องเฟยหลาน
ข้าเตือนเจ้าแล้วอย่างที่ข้าเคยพูด ต่อให้เป็นอสูรจ้าวดินแดนก็ปกป้องเจ้าไม่ได้! เจ้าควรจะฟังข้าให้ดี! เจ้าฆ่าข้าไม่ได้!ขะ…ข้าทำงานให้องค์หญิงหก! ถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้าจะกลายเป็นศัตรูกับตระกูลราชวงศ์!
เมื่อกำลังจะตายเฟยหลานไม่กล้าปิดบังตัวตนลับอีกต่อไป!
อสูรปราดเปรียวที่อยู่ข้างๆ นางตกใจมาก
เจ้ารับใช้…องค์หญิงหกเรอะ!?
ต่อให้เจ้าเป็นคนที่นางเชื่อใจข้าก็จะยังฆ่าเจ้า เจ้าก็แค่สุนัขรับใช้เท่านั้น! แม้แต่องค์หญิงหกก็จะไม่รอดเงื้อมมือข้า ไม่ต้องพูดถึงเจ้า! จับมัน!
ซือหยูตะโกนดวงวิญญาณเฟยหลานถูกดูดเข้าไปในมิติวิญญาณ
เฉียนจุนกับชาเอ๋อมิอาจเชื่อสิ่งที่เพิ่งจะได้ยิน
‘แม้แต่องค์หญิงหกก็ไม่รอดจากมือเขารึ!’
เอ๋…นายท่านเพิ่งจะพูดเช่นนี้หรือว่านายท่านจะหมายถึงองค์หญิงหกจิงเสวียน?
อสูรปราดเปรียวเองก็ตกตะลึงเหตุใดเฟยหลานถึงหาเรื่องกับอสูรที่ทรงพลังเช่นนี้กัน?
แม้นางจะเป็นอสูรสิบอันดับแรกในเมืองชมทะเลนางก็พ่ายแพ้ในไม่นาน!
เมื่อซือหยูหันหน้ามาที่นางอสูรปราดเปรียวกัดฟัน
เจ้าชนะ!องค์หญิงเก้าหายตัวไป ไม่มีผู้ใดมอบความยุติธรรมให้เจ้าเมืองได้! ชีวิตข้าอยู่ในมือเจ้าแล้ว!
ซือหยูยิ้มบางๆ
หึหึ!ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะตรงไปตรงมาเช่นนี้ แต่ข้าจะได้อะไรจากการฆ่าเจ้าเล่า?
ซือหยูเตะกรงขึ้นและคว้ามันด้วยมือสมบัติอสูรที่แข็งแกร่งตกเป็นรางวัลของเขาแล้ว
อสูรปราดเปรียวต้องฝืนใจยอมรับเพราะนางมิอาจเอาคืนจากซือหยูได้นางรีบพูด ถ้าเจ้าไม่อยากฆ่าข้าเจ้าอยากจะให้ข้ายอมจำนนกับเจ้าเรอะ? ฝันไปเถอะ! ข้าภักดีต่อเจ้าเมืองชมทะเลเท่านั้น! ข้าไม่มีวันภักดีต่อเจ้า!
นางเป็นอสูรจ้าวดินแดนนางต้องมอบความภักดีให้กับเทพที่ปกครองเมืองชมทะเล นางมิอาจผิดคำสาบานที่มีพลังของเทพได้ มิเช่นนั้นพลังเทพในกายนางจะสังหารนาง
แม้เจ้าเมืองชมทะเลจะตายไปแล้วแต่คำสาบานยังคงมีผลอยู่
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ…!
ซือหยูหัวเราะลั่นเขามองท้องนภาและพูดอย่างน่ากลัว
แล้วถ้าข้าคือเจ้าเมืองชมทะเลเล่า?
อะไรนะ?
อสูรปราดเปรียวเบิกตากว้างเฉียนจุนกับชาเอ๋อก็งุนงง
ทุกคนรู้ว่าเจ้าเมืองชมทะเลตายไปแล้วหรือว่า…ซือหยูจะเป็นอีกร่างที่ถูกสร้างมาจากแหล่งพลังเทพของเขา?
แต่ซือหยูอยู่กับเฉียนจุนและชาเอ๋อมาก่อนที่เจ้าเมืองจะตายเขาจะเป็นอีกร่างของเจ้าเมืองชมทะเลได้อย่างไร?
เจ้า…เจ้าบ้าไปแล้วเรอะ?
อสูรปราดเปรียวมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสับสนนางมิอาจเข้าใจคำพูดของเขา
ซือหยูสะบัดมือเจ้าตัวเล็กลอยออกมาจากมุกวิญญาณเก้าหยก
องค์หญิงเก้าสั่งการให้ข้าเป็นเจ้าเมืองคนใหม่ซะ!
เมื่อเจ้าตัวเล็กออกมามันก็ได้ยินคำพูดอันน่าหงุดหงิดทันที มันตัวสั่นเล็กน้อยแต่ไม่กล้าสบตาซือหยูหรือยอมรับตัวตนองค์หญิงเก้าของตัวเอง
แต่ก็มีคนยอมรับแทนนาง
อ๊ะ!องค์หญิงเก้า!! คารวะองค์หญิง! ข้าคืออสูรปราดเปรียว! อสูรปราดเปรียวพูดด้วยความนับถืออันล้ำลึกและอับอายเมื่อมองเจ้าตัวเล็ก
เส้นเลือดสีเข้มปูดโปนที่หน้าผากเจ้าตัวเล็กที่กำลังโมโหนางคิดในใจเมื่อมองอสูรปราดเปรียว
‘น่าโมโหนัก!เจ้ามองสถานการณ์ไม่ออกเรอะ? เจ้าหลอกเจ้านี่โดยบอกว่าข้าเป็นสัตว์วิญญาณขององค์หญิงเก้าหลังจากเห็นตัวข้าไม่ได้รึไงกัน? เจ้าเปิดเผยตัวตนข้า เจ้าโง่เอ้ย!’
ขณะที่นางกำลังสาปแช่งหัวนางก็ถูกลูบพร้อมกับเสียงราวฝันร้าย
เฮ้!เจ้าหมา ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นองค์หญิงจิงหยู! ใยเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้เล่า? ถ้าเจ้าไม่บอกข้า ข้าจะรู้ไหมว่าเจ้าเป็นองค์หญิง? ข้าจะเลี้ยงเจ้ายังไงล่ะ?
จากนี้ไปเจ้าจะได้กระดูกเพิ่มอีกชิ้นในทุกมื้ด และข้าจะปล่อยเจ้าเพิ่มอีกวันละครึ่งชั่วยาม ซือหยูพูดพลางลูบหัวเจ้าตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม
เจ้าตัวเล็กตัวสั่นนางจิกกรงเล็บลงกับพื้น นางพูดในใจเมื่อแยกเขี้ยว
‘อ๊า!อ๊า! อ๊า! ชื่อเสียงข้าป่นปี้หมดแล้ว! ท่านเทพเจ้า ได้โปรดฆ่าไอ้คนชั่วนี้ด้วยเถอะ!’
อะไรกัน?ทำไมเจ้าไม่ขอบคุณข้าล่ะ?
ซือหยูพูดแม้เขาจะยิ้ม เสียงของเขาก็ดูเยือกเย็น
เจ้าตัวเล็กรีบหันไปมองเขาความโมโหหายไปจากใบหน้า นางใช้หัวขยับดันมือซือหยูและกระดิกหางราวกับมีความสุข
ซือหยูลูบหัวมันด้วยรอยยิ้ม
ดี!ดี!
เฉียนจุนชาเอ๋อ และอสูรปราดเปรียวตัวแข็งทื่อราวกับเป็ดที่กลัวฟ้าผ่า