The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1243 – องค์หญิงเจ้าตัวเล็ก

ตอนที่ 1243 - องค์หญิงเจ้าตัวเล็ก

  ฟึ่บ!

  อสูรสามตนร่อนลงมาที่หน้าอสูรปราดเปรียวและเฟยหลานหลังจากทำลายผนึกเหนือตำหนัก

  เฟยหลานจ้องมองผู้มาเยือนนางรู้ว่าทั้งสามคืออสูรที่ร้านอาหารในวันนั้น นางหลบที่ด้านหลังอสูรปราดเปรียวด้วยความหวาดกลัวโดยไม่รู้ตัว

   บังอาจ! 

  อสูรปราดเปรียวตะโกนด้วยโทสะนางไม่คิดว่าจะมีพวกโง่กล้าบุกเข้ามาในตำหนักนาง เห็นได้ชัดว่าทั้งสามกำลังดูถูกนางอยู่

  เฉียนจุนตอบอย่างจริงใจ

   ท่านอสูรปราดเปรียวผู้หญิงคนนี้พยายามใส่ร้ายพวกเรา! ในทีแรก นางพยายามสังหารเราในนามของผู้คุมกฎ นายท่านของข้าจึงขัดขืนและสังหารราชาอสูรที่เป็นคนของนาง! จากนั้นนายท่านของข้าจึงปล่อยผู้คุมกฎที่เหลือและบอกให้พวกเขามาบอกให้นางหยุดเสีย นายท่านของข้าปล่อยผู้คุมกฎที่เหลือมาก็เพราะอยากจะแสดงความนับถือต่อท่าน! 

   แต่นางไม่หยุดนางส่งอสูรจ้าวดินแดนอีกสองคนมาสังหารพวกเรา! ดังนั้นนายท่านของข้าจึงกลับมาสังหารนางตามที่ลั่นวาจาไว้! น่าขันนักที่นางพยายามจะบิดเบือนความจริงต่อหน้าท่าน! 

  เฉียนจุนบอกความจริงออกมาโดยไม่ลังเล

   เหลวไหล!ที่ข้าทำไปก็เพื่อเมืองนี้! ข้าจะฆ่าพวกเจ้าไปทำไม? แล้วเจ้าคิดว่าข้ามีอำนาจสั่งอสูรจ้าวดินแดนสองคนเรอะ? ถ้าเจ้าจะโกหกก็หัดโกหกให้มันแนบเนียนกว่านี้หน่อย! 

  เฟยหลานที่หลบด้านหลังอสูรปราดเปรียวโกหกต่อไปอย่างไม่กลัวเกรง

  เฉียนจุนยิ้มตอบอย่างเย็นชา   หากนายท่านอยากฆ่าเจ้าเขาก็ทำไปตั้งแต่ที่ร้านอาหารแล้ว! ใยจะต้องมาฆ่าเจ้าตอนนี้? เจ้าไม่ยินดีกับโอกาสที่นายข้าให้และกลับอยากตาย นายท่านข้าจึงกลับมาเอาชีวิตเจ้ายังไงล่ะ! 

  เฉียนจุนหันไปหาอสูรปราดเปรียว

   ทีนี้ท่านอสูรปราดเปรียวคงจะรู้ความจริงแล้วสินะ! 

   หึหึ… 

  อสูรปราดเปรียวยิ้มตอบอย่างเยือกเย็น

   ข้าเลือกเชื่อคนของข้า!เจ้าคิดว่าเจ้าจะพูดให้ข้าสังหารคนที่ข้าเชื่อใจด้วยคำไม่กี่คำรึ? เจ้าคิดว่าข้าจะเมินสิ่งที่เจ้าทำในเมืองข้าได้รึ? 

   ในวันนี้จะไม่มีพวกเจ้าคนใดหนีไปจากที่นี่ได้! 

  อสูรปราดเปรียวเรียกกรงทมิฬที่เต็มไปด้วยพลังอสูรออกมา

  กรงทมิฬทำให้ทุกคนในระยะรู้สึกไม่สบายใจในทันที

   นายท่านนี่มันสมบัติอสูรชั้นสูงที่จักรพรรดิอสูรให้อสูรปราดเปรียว มันเรียกว่าคุกสวรรค์เทพอสูร มันคือของที่เลียนแบบมาจากสมบัติศักดิ์สิทธิ์! มันใช้ขังว่าที่เทพขั้นกลางได้! 

  เฉียนจุนแอบเตือนซือหยูเมื่อมองอสูรปราดเปรียวสายตาเขาเริ่มลุกลี้ลุกลน

   ข้าได้ยินว่าอสูรปราดเปรียวรอบรู้เป็นที่น่านับถือ ได้เห็นจริงแล้วไม่สมคำร่ำลือเอาเสียเลย เจ้าแยกผิดถูกไม่ได้! เจ้ามันก็แค่คนโง่เขลา! โชคดีที่ลูกสาวกับข้าได้พบนายท่านเสียก่อน หากข้าลี้ภัยมาหาเจ้า ชั่วชีวิตนี้คงต้องเสียใจเป็นแน่ 

  ซือหยูยกมือปรามเฉียนจุน

  ซือหยูพูดด้วยความใจเย็น

   อสูรปราดเปรียวแยกผิดถูกได้นางรู้ว่าเฟยหลานทำผิด แต่นางก็ต้องหยุดเราแม้จะรู้ว่าถูกเฟยหลานหลอกใช้!    ในฐานะอสูรจ้าวเมืองนางมิอาจปล่อยให้คนนอกสังหารคนของนางที่นี่ได้ มิเช่นนั้นชื่อเสียงและเกียรติยศนางจะย่อยยับป่นปี้

  ดังนั้นนางจึงไม่ใช่คนโง่ กลับกัน นางค่อนข้างจะฉลาดเพราะนางรู้ว่าต้องทำเช่นนี้

  อสูรปราดเปรียวทึ่งเมื่อได้ยินเช่นนี้นางได้แต่มองซือหยูอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนว่าชายหนุ่มผมสีเงินผู้นี้จะเป็นหัวหน้าของอสูรอีกสองตน

   แม้เจ้าจะรู้ว่าข้าทำอะไรเจ้าก็ยังบุกเข้ามาในตำหนักข้า! เจ้ามันบ้าเกินไปแล้ว! 

  อสูรปราดเปรียวพูดอย่างเยือกเย็น

   ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเจออะไรมาก่อนแต่เจ้าสร้างปัญหาในเมืองข้า ข้าจะต้องจบเรื่องนี้ด้วยการตัดหัวเจ้า! 

  ฟึ่บ!

  สมบัติศักดิ์สิทธิ์ปลอมในมือนางหมุนอย่างรวดเร็วมือทมิฬหลายสืบมือยื่นออกมาและพยายามลากซือหยูไปในกรงขัง  ต่อหน้าสมบัติอสูรอันทรงพลังแม้แต่ว่าที่เทพขั้นกลางก็ต้องหนี

  เฟยหลานแสยะยิ้มนางมั่นใจในพลังของอสูรปราดเปรียวเพราะอสูรจ้าวดินแดนสองตนก็มิอาจเทียบอสูรปราดเปรียวในการต่อสู้ได้

  จะอย่างไรก็มีอสูรจ้าวดินแดนเพียงไม่กี่ตนที่มีสมบัติศักดิ์สิทธิ์ปลอมในครอบครองอสูรปราดเปรียวคือหนึ่งในนั้น นางสามารถเป็นอสูรสิบอันดับแรกในเมืองชมทะเล ในเมืองนี้ ไม่มีใครนอกจากว่าที่เทพชั้นสูงหลานยคนที่จะเทียบกับนางได้

  ดังนั้นเฟยหลานจึงคิดว่าซือหยูที่บุกเข้ามาในเมืองนี้จะต้องตายอย่างแน่นอน

  ต่อหน้าสมบัติศักดิ์สิทธิ์ซือหยูยกมือเรียกกระบี่เก้าเล่มออกมาตั้งค่ายกล

  กระบี่สีเงินเคลื่อนไหวดั่งแหมันกำจัดมืออสูรทั้งหมดที่กำลังจะมาถึงตัวซือหยู

  อสูรปราดเปรียวชักสีหน้าเมื่อเห็นค่ายกลกระบี่

   ค่ายกลกระบี่แข็งแกร่งนัก!มันเทียบกับค่ายกลกระบี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ในเผ่าอสูรของเรา…ไม่สิ! ค่ายกลกระบี่สองแบบนี้มีความคล้ายกัน! 

  ดูเหมือนว่าอสูรปราดเปรียวผู้รอบรู้จะรู้ตัวแล้วว่าค่ายกลกระบี่นี้มีความยอดเยี่ยม

  อสูรปราดเปรียวตะโกนอย่างไม่ลังเลนางต้องใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์จัดการซือหยูให้ได้

  ต่อให้มันเป็นของปลอมมันก็มีพลังมาจากสมบัติศักดิ์สิทธิ์

  เสียงคำรามดังมาจากคุกสวรรค์เทพอสูรพลังของว่าที่เทพขั้นกลางพุ่งออกมา

  ฟึ่บ!

  ดวงวิญญาณของว่าที่เทพขั้นกลางออกมาจากกรงและเริ่มพุ่งเข้าใส่ซือหยู

  นี่คือเหตุที่คุกสวรรค์เทพอสูรน่ากลัวหากวิญญาณถูกกักขังอยู่ภายในนั้นแล้ว ดวงวิญญาณจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกรง   ระวังนายท่าน! 

  เฉียนจุนตะโกนแม้ว่าจะเป็นวิญญาณของว่าที่เทพขั้นกลางแค่ดวงเดียว มันก็แข็งแกร่งกว่าว่าที่เทพขั้นต้นหลายเท่า!

  ซือหยูมองท้องนภาเนตรยักษ์ส่งคลื่นพลังแผ่ออกไปในระยะหลายหมื่นลี้

  เนตรสวรรค์ที่เพิ่มพลังจากฎีกาสวรรค์ของเทพไม้นั้นแกร่งและทรงพลังกว่าเดิม

  แม้แต่ราชาอสูรยังมิอาจขยับตัวได้หลังจากถูกเนตรยักษ์นี้จ้องซือหยูสามารถเอาดวงวิญญาณศัตรูออกมาได้ไม่ยาก

   การหลอมรวมของฎีกาสวรรค์กับความสามารถวิญญาณเรอะ? 

  อสูปราดเปรียวตกตะลึง

  แม้ฎีกาสวรรค์ของซือหยูจะยังไม่ถึงขั้นแปลงฟ้ามันก็น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าว่าที่เทพ

   ไม่นะ! 

  อสูรปราดเปรียวตระหนักถึงความอันตรายได้แล้วนางพยายามจะผนึกดวงวิญญาณว่าที่เทพขั้นกลางกลับคืนกรง แต่เนตรยักษ์บนท้องนภากระพริบหนึ่งครั้ง มันชิงดวงวิญญาณไปในทันที

  ก่อนที่อสูรปราดเปรียวจะมีเวลาจู่โจมเนตรแสงหลากสีก็ส่องลงมาที่หัวของนางและเฟยหลานแล้ว

  อสูรปราดเปรียวกับเฟยหลานถูกหยุดโดยแสงเหล่านั้น

  อสูรปราดเปรียวพยายามจะต่อต้านแต่ก็ไร้ผลร่างเซียนขั้นสูงสุดของเฟยหลานถูกแสงบดขยี้ตรง ๆ

  ดวงวิญญาณเฟยหลานมิอาจขยับได้

  ความอวดดีของนางเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว

  ซือหยูเดินไปที่ทั้งสองและพูดขณะที่จ้องเฟยหลาน

   ข้าเตือนเจ้าแล้วอย่างที่ข้าเคยพูด ต่อให้เป็นอสูรจ้าวดินแดนก็ปกป้องเจ้าไม่ได้! เจ้าควรจะฟังข้าให้ดี!     เจ้าฆ่าข้าไม่ได้!ขะ…ข้าทำงานให้องค์หญิงหก! ถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้าจะกลายเป็นศัตรูกับตระกูลราชวงศ์! 

  เมื่อกำลังจะตายเฟยหลานไม่กล้าปิดบังตัวตนลับอีกต่อไป!

  อสูรปราดเปรียวที่อยู่ข้างๆ นางตกใจมาก

   เจ้ารับใช้…องค์หญิงหกเรอะ!? 

   ต่อให้เจ้าเป็นคนที่นางเชื่อใจข้าก็จะยังฆ่าเจ้า เจ้าก็แค่สุนัขรับใช้เท่านั้น! แม้แต่องค์หญิงหกก็จะไม่รอดเงื้อมมือข้า ไม่ต้องพูดถึงเจ้า! จับมัน! 

  ซือหยูตะโกนดวงวิญญาณเฟยหลานถูกดูดเข้าไปในมิติวิญญาณ

  เฉียนจุนกับชาเอ๋อมิอาจเชื่อสิ่งที่เพิ่งจะได้ยิน

  ‘แม้แต่องค์หญิงหกก็ไม่รอดจากมือเขารึ!’

  เอ๋…นายท่านเพิ่งจะพูดเช่นนี้หรือว่านายท่านจะหมายถึงองค์หญิงหกจิงเสวียน?

  อสูรปราดเปรียวเองก็ตกตะลึงเหตุใดเฟยหลานถึงหาเรื่องกับอสูรที่ทรงพลังเช่นนี้กัน?

  แม้นางจะเป็นอสูรสิบอันดับแรกในเมืองชมทะเลนางก็พ่ายแพ้ในไม่นาน!

  เมื่อซือหยูหันหน้ามาที่นางอสูรปราดเปรียวกัดฟัน

   เจ้าชนะ!องค์หญิงเก้าหายตัวไป ไม่มีผู้ใดมอบความยุติธรรมให้เจ้าเมืองได้! ชีวิตข้าอยู่ในมือเจ้าแล้ว! 

  ซือหยูยิ้มบางๆ

   หึหึ!ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะตรงไปตรงมาเช่นนี้ แต่ข้าจะได้อะไรจากการฆ่าเจ้าเล่า? 

  ซือหยูเตะกรงขึ้นและคว้ามันด้วยมือสมบัติอสูรที่แข็งแกร่งตกเป็นรางวัลของเขาแล้ว

  อสูรปราดเปรียวต้องฝืนใจยอมรับเพราะนางมิอาจเอาคืนจากซือหยูได้นางรีบพูด   ถ้าเจ้าไม่อยากฆ่าข้าเจ้าอยากจะให้ข้ายอมจำนนกับเจ้าเรอะ? ฝันไปเถอะ! ข้าภักดีต่อเจ้าเมืองชมทะเลเท่านั้น! ข้าไม่มีวันภักดีต่อเจ้า! 

  นางเป็นอสูรจ้าวดินแดนนางต้องมอบความภักดีให้กับเทพที่ปกครองเมืองชมทะเล นางมิอาจผิดคำสาบานที่มีพลังของเทพได้ มิเช่นนั้นพลังเทพในกายนางจะสังหารนาง

  แม้เจ้าเมืองชมทะเลจะตายไปแล้วแต่คำสาบานยังคงมีผลอยู่

   ฮ่าๆๆๆๆๆๆ…! 

  ซือหยูหัวเราะลั่นเขามองท้องนภาและพูดอย่างน่ากลัว

   แล้วถ้าข้าคือเจ้าเมืองชมทะเลเล่า? 

   อะไรนะ? 

  อสูรปราดเปรียวเบิกตากว้างเฉียนจุนกับชาเอ๋อก็งุนงง

  ทุกคนรู้ว่าเจ้าเมืองชมทะเลตายไปแล้วหรือว่า…ซือหยูจะเป็นอีกร่างที่ถูกสร้างมาจากแหล่งพลังเทพของเขา?

  แต่ซือหยูอยู่กับเฉียนจุนและชาเอ๋อมาก่อนที่เจ้าเมืองจะตายเขาจะเป็นอีกร่างของเจ้าเมืองชมทะเลได้อย่างไร?

   เจ้า…เจ้าบ้าไปแล้วเรอะ? 

  อสูรปราดเปรียวมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสับสนนางมิอาจเข้าใจคำพูดของเขา

  ซือหยูสะบัดมือเจ้าตัวเล็กลอยออกมาจากมุกวิญญาณเก้าหยก

   องค์หญิงเก้าสั่งการให้ข้าเป็นเจ้าเมืองคนใหม่ซะ! 

  เมื่อเจ้าตัวเล็กออกมามันก็ได้ยินคำพูดอันน่าหงุดหงิดทันที มันตัวสั่นเล็กน้อยแต่ไม่กล้าสบตาซือหยูหรือยอมรับตัวตนองค์หญิงเก้าของตัวเอง

  แต่ก็มีคนยอมรับแทนนาง

   อ๊ะ!องค์หญิงเก้า!! คารวะองค์หญิง! ข้าคืออสูรปราดเปรียว!    อสูรปราดเปรียวพูดด้วยความนับถืออันล้ำลึกและอับอายเมื่อมองเจ้าตัวเล็ก

  เส้นเลือดสีเข้มปูดโปนที่หน้าผากเจ้าตัวเล็กที่กำลังโมโหนางคิดในใจเมื่อมองอสูรปราดเปรียว

  ‘น่าโมโหนัก!เจ้ามองสถานการณ์ไม่ออกเรอะ? เจ้าหลอกเจ้านี่โดยบอกว่าข้าเป็นสัตว์วิญญาณขององค์หญิงเก้าหลังจากเห็นตัวข้าไม่ได้รึไงกัน? เจ้าเปิดเผยตัวตนข้า เจ้าโง่เอ้ย!’

  ขณะที่นางกำลังสาปแช่งหัวนางก็ถูกลูบพร้อมกับเสียงราวฝันร้าย

   เฮ้!เจ้าหมา ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นองค์หญิงจิงหยู! ใยเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้เล่า? ถ้าเจ้าไม่บอกข้า ข้าจะรู้ไหมว่าเจ้าเป็นองค์หญิง? ข้าจะเลี้ยงเจ้ายังไงล่ะ? 

   จากนี้ไปเจ้าจะได้กระดูกเพิ่มอีกชิ้นในทุกมื้ด และข้าจะปล่อยเจ้าเพิ่มอีกวันละครึ่งชั่วยาม    ซือหยูพูดพลางลูบหัวเจ้าตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม

  เจ้าตัวเล็กตัวสั่นนางจิกกรงเล็บลงกับพื้น นางพูดในใจเมื่อแยกเขี้ยว

  ‘อ๊า!อ๊า! อ๊า! ชื่อเสียงข้าป่นปี้หมดแล้ว! ท่านเทพเจ้า ได้โปรดฆ่าไอ้คนชั่วนี้ด้วยเถอะ!’

   อะไรกัน?ทำไมเจ้าไม่ขอบคุณข้าล่ะ? 

  ซือหยูพูดแม้เขาจะยิ้ม เสียงของเขาก็ดูเยือกเย็น

  เจ้าตัวเล็กรีบหันไปมองเขาความโมโหหายไปจากใบหน้า นางใช้หัวขยับดันมือซือหยูและกระดิกหางราวกับมีความสุข

  ซือหยูลูบหัวมันด้วยรอยยิ้ม

   ดี!ดี! 

  เฉียนจุนชาเอ๋อ และอสูรปราดเปรียวตัวแข็งทื่อราวกับเป็ดที่กลัวฟ้าผ่า

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท