อย่างนั้นเองรึ?ซือหยูแปลกใจ เขาคิดว่าอสูรที่เป็นเทพจะรู้เรื่องธารดารา กลับกลายเป็นว่าอสูรเหล่านั้นไม่รู้อะไรเลย
ถ้าเช่นนั้นพวกเขาก็ยิ่งไม่รู้ว่ามีอสูรกลุ่มที่ชั่วร้ายนอกแดนอสูรที่กำลังไล่ล่าสังหารอยู่ในธารดาราสินะ?
น่าสนุกนี่โลกอสูรซับซ้อนกว่าที่ซือหยูคาดคิด
หลังจากเข้าใจทุกอย่างซือหยูตาเป็นประกาย
สิ่งจำเป็นตอนนี้คือการซ่อนตัวจากศัตรูจากแดนอื่นพวกมันจะต้องรู้เรื่องเจ้าหมาแล้ว ไม่แปลกเลยที่มันจะรีบมาที่เมืองนี้
อสูรปราดเปรียวตอบ
ท่านเจ้าเมืองโปรดพาองค์หญิงกลับเมืองชมทะเลให้เร็วที่สุดเถอะ มีอสูรเจ้าดินแดนมากมายที่เมืองนั้น เราจะปกป้องฝ่าบาทได้
ไม่!ข้าจะอยู่ที่นี่
ซือหยูมองกลับ
เฉียนจุนใบหน้าเยือกเย็น
นายท่านโปรดระวังด้วย!แม้แต่ราชาอสูรก็ถูกพวกมันนำมาได้ ทุกคนย่อมเห็นได้ว่าองค์หญิงหกเตรียมการมาดีแค่ไหน อาจจะมีว่าที่เทพมามากกว่าเดิม! อสูรกระทิงกับอสูรสะกดจิตเป็นเพียงกำลังส่วนน้อยเท่านั้น กำลังพวกเราในตอนนี้ไม่มากพอที่จะปกป้ององค์หญิงกับนายท่าน
อสูรปราดเปรียวกล่าวอย่างจริงจัง
เขาพูดถูกมีว่าที่เทพขั้นกลางอยู่อีกคนด้วย หากพวกมันมา จะไม่มีพวกเราคนใดที่หยุดได้ เราไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป!
ซือหยูพูดเบาๆ
แล้วเราจะลากพวกมันออกมาให้หมดได้อย่างไรถ้าไม่ให้โอกาสมันเล่า?
เจ้าตัวเล็กกลืนกระดูกที่เคี้ยวอยู่ลงไปและจ้องซือหยูด้วยความโมโห
‘นี่เพื่อล่อกำลังศัตรูให้เข้ามารึ?เจ้าบ้านี่คิดจะฆ่าข้างั้นเรอะ?’
นางคิด
เฉียนจุนกับอสูรปราดเปรียวพยายามเกลี้ยกล่อมซือหยูอีกครั้งแต่ซือหยูก็ยกมือให้หยุด
ข้าไม่มีเวลาหาศัตรูทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในแดนจิงหยูทีละคนให้พวกมันออกมาจากรูและกำจัดพวกมันในคราเดียวคือหนทางที่เร็วที่สุด!
คำสั่งไปถึงอสูรเจ้าดินแดนทั้งหมดในเมืองชมทะเลแล้วเจ้าต้องรีบไปที่เมืองในสามวัน!
เฉียนจุนตอบ
ขอรับ!
จากนั้นเขาถาม
แล้วถ้าหากพวกนั้นปฏิเสธที่จะพบท่านล่ะ? จงจำไว้ว่าใครที่กล้าไม่มา
ขอรับ!
เฉียนจุนตอบเขาแอบคิดว่าจะมีหลายคนที่ปฏิเสธที่จะมาพบซือหยู
ไม่นานเหล่าอสูรเจ้าดินแดนในแปดสิบเอ็ดเมืองเล็กในเมืองชมทะเลก็ได้รับคำสั่งจากเจ้าเมืองคนใหม่ พวกเขากำลังจะมาในเมืองที่ซือหยูอยู่
กับเจ้าเมืองคนใหม่มีอยู่หลายคนที่ไม่เต็มใจจะเชื่อฟังเขา เจ้าเมืองคนก่อนมีพลังในระดับเทพทุกคน แล้วอสูรขนนกนี่คือผู้ใดกัน? ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน
แต่มันคือคำสั่งขององค์หญิงเก้าจึงไม่มีใครเมินได้
ในขณะเดียวกัน…
กำลังและแรงกดดันมากมายถาโถมมาที่เมืองของซือหยู
นายท่านอสูรเจ้าดินแดนในเมืองชมทะเลกำลังออกจากดินแดนตัวเองและมาที่เมืองนี้ตามที่เราคิดเลย
หลังจากได้รับรายงานสายตาของอสูรเลือดบริสุทธิ์เยือกเย็น
ยอดเยี่ยม!องค์หญิงเก้ายังอยู่ในเมืองอสูรปราดเปรียว! หากนางหนีไปเงียบ ๆ ข้าก็คงยืนยันตำแหน่งของนางไม่ได้ง่าย ๆ อย่างนี้ คำสั่งเจ้าเมืองคนใหม่ช่างน่าขันนัก!
หรือว่าองค์หญิงเก้าคิดว่ามีกำลังมากพอที่จะต่อต้านเรา?
ข้างกายอสูรเลือดบริสุทธิ์มีอสูรกลุ่มเลือดเข้มข้นที่เป็นรองเขาอยู่
อสูรเลือดบริสุทธิ์แสยะยิ้ม
ทั้งกองทัพจงฟังข้าเร่งบุกเข้าไป ทำให้องค์หญิงเก้าไม่ทันตั้งตัวนั่นแหละ!
เจ้าดินแดนมากมายในเมืองชมทะเลออกมาจากเมืองของตัวเองแล้วทำให้เกิดการคาดเดาไปต่าง ๆ นานา
หลายคนรู้ว่าพวกเขาจะได้พบกับเจ้าเมืองชมทะเลแต่จริง ๆ แล้วพวกเขาอยากจะเจอกับองค์หญิงเก้ามากกว่า
ทำไมพวกเขาจะไม่รู้เล่าว่าหลังจากรวมตัวกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
พวกเขาจะกลายเป็นกำลังที่พาพวกองค์หญิงและเจ้าเมืองให้หนีออกไป
แม้กระนั้นซือหยูกำลังบ่มเพาะพลังในตำหนักเงียบ ๆ ท่ามกลางความวุ่นวาย
เขายังคงบ่มเพาะพลังจากสิ่งที่ได้จากเทพไม้เขาบ่มเพาะอยู่หลายวันและได้เรียนรู้หลายเรื่อง
ต้องขอบคุณคุกเทวะห้าธาตุข้าเข้าใจพลังไม้ในพลังห้าธาตุล้ำลึกกว่าเดิมแล้ว หากข้าต้องเริ่มทำความเข้าใจพลังไม้ใหม่ตั้งแต่แรก ข้าคงจะใช้เวลาชั่วนิรันดร์
จากความรู้ที่ได้ซือหยูจะปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของเทพไม้ได้ในอีกไม่นาน
พลังที่เขาบ่มเพาะได้นั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพลังฎีกาสวรรค์ของเขาเลย
ส่วนในเรื่องพลังเทพซือหยูได้พลังใหม่ของเทพไม้มาครอง มันเป็นขอบเขตของพลังชีวิต!
หลังจากมังกรมรกตของเขาถูกชำระล้างเต็มที่และได้พลังพิเศษมาทุกสิ่งภายใต้อำนาจซือหยูจะกลายเป็นอมตะ
น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสใช้พลังนี้แต่มันกำลังจะถูกพิสูจน์พลังในอีกไม่นาน
ซือหยูยังเปลี่ยนภูเขาห้าธาตุให้เป็นของเขาเองได้ทีละน้อยในตอนนี้เขาไม่ต้องหวังพึ่งภูเขาห้าธาตุอีกแล้ว เขาใช้พลังจากภูเขาห้าธาตุตรง ๆ ได้แล้ว
หากเขาฝึกฝนต่อไปเขาจะใช้พลังห้าธาตุได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม
ในระหว่างที่ชำระภูเขาห้าธาตุความเข้าใจในพลังห้าธาตุของซือหยูเพิ่มขึ้นในทุกวัน ในอักษรอสูรเก้าร้อยตัวที่มี ซือหยูเข้าใจมากกว่าสามร้อยตัวแล้ว
ซึ่งการรับรู้เหล่านี้ถูกทำอย่างลับๆ มังกรเขียวในคุกเทวะห้าธาตุไม่รู้ตัวเลย เขาไม่เคยลืมคำชี้แนะของมังกรวารี…ว่าเขาไม่ควรเชื่อมังกรเขียวในคุกเทวะห้าธาตุ
หากมีภัยร้ายเกิดขึ้นซือหยูจะไม่มีวันใช้คุกเทวะห้าธาตุอีกแล้ว
ถ้าซือหยูเข้าใจอักษรอสูรอย่างถ่องแท้และควบคุมพลังห้าธาตุได้อย่างสมบูรณ์เขาจะมีพลังที่เหนือกว่ามังกรเขียว ซึ่งนั่นจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง!
สุดท้ายนี้ซือหยูเป็นอสูรเนรมิตรขั้นสูงสุดมานานแล้ว ถึงเวลาที่เขาจะทะลวงพลังขั้นถัดไป!
เซียน!
ทันทีที่เขาเป็นเซียนซือหยูจะใช้พลังของเทพและเซียนได้พร้อมกันเพื่อปลดปล่อยพลังมหาศาลและทำให้แหล่งพลังเทพของเขาแข็งแกร่งกว่าเดิม และยากที่จะมีใครชิงแหล่งพลังเทพไปจากเขาได้
หลังจากเป็นเซียนดวงวิญญาณซือหยูจะแข็งแกร่งขึ้น ถึงตอนนั้น เขาจะบ่มเพาะโอรสสวรรค์จ้องนภาในขั้นที่ห้า
ซือหยูคิดว่าพลังของเขาจะเปลี่ยนไปอีกครั้งเมื่อได้เป็นเซียน
เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดแต่เขารู้สึกว่าไม่ยากนักที่จะได้เป็นเซียน
หลังจากการบ่มเพาะสามวันซือหยูลืมตาขึ้นช้า ๆ
ด้านนอกประตูเฉียนจุนและอสูรปราดเปรียวกำลังรอเขา
เป็นอย่างไรบ้าง?
ซือหยูถาม
เฉียนจุนตอบ
นายท่านอสูรเจ้าดินแดนทั้งหมดเจ็ดสิบเก้าคนไม่รวมอสูรปราดเปรียวและอีกเมืองที่ถูกทำลาย มีมาหาเราหกสิบคน อีกห้าคงยังอยู่ระหว่างทาง ส่วนอีกสิบสี่คนนั้น…ไม่ได้ข่าวคราวเลย
ดีนี่เพิ่งจะสามวันเท่านั้น! จงจำอสูรที่กำลังมาและที่ไม่เคลื่อนไหวเอาไว้! ขอรับนายท่าน!
อสูรปราดเปรียวถาม
ท่านเจ้าเมืองเราจะทำให้พวกเขาปกป้องทั้งท่านและฝ่าบาทอย่างไรหรือ?
ปกป้องพวกข้ารึ?ไม่!
ซือหยูตอบ
รวมตัวพวกนั้นดูแลให้ดี ไม่ต้องสั่งอะไร ไม่ว่าจะมีศัตรูมามากเท่าใดก็ห้ามโต้กลับในทุกรูปแบบ!
หา!
อสูรปราดเปรียวไม่เข้าใจว่าซือหยูคิดอะไรอยู่เขาโง่งั้นเรอะ? จำนวนศัตรูและกำลังยังไม่มีใครรู้ ขณะที่คนที่เรียกมากลับห้ามทำอะไร!
แล้วท่านจะเรียกให้พวกเขามารวมตัวกันเพื่ออะไรเล่า?
ซือหยูพูดเบาๆ
เจ้าหมากับข้าไม่ต้องการการปกป้องจากพวกมัน!ข้าขอให้พวกมันมาเพื่อจดจำสิ่งเดียวเท่านั้น
จะมากับข้าหรือตายเมื่อหันคมดาบใส่ข้า! พวกมันโชคดีที่มีศัตรูมากมายสาธิตความตายให้ดู!
ที่เขาไม่พูดก็คือ…ถ้าหากไม่มีศัตรูเขาอาจจะสังหารอสูรเจ้าดินแดนฝ่ายเดียวกันเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างให้ดู
อสูรปราดเปรียวสูดหายใจเข้าลึก
ท่านบ้าไปแล้ว!ท่านคิดจะต่อสู้กับข้าศึกทั้งหมดด้วยตัวเองรึ?
อสูรปราดเปรียวรู้แล้วว่าซือหยูเป็นคนบ้า!
เจ้าเมืองคนใหม่ไม่เคยแสดงพลังออกมาเลยถ้าหากเขาไม่บ้าแล้วจะเป็นอะไรไปได้?
อสูรปราดเปรียวพูดอย่างเย็นชา
โชคร้ายนักเรารู้ตำแหน่งข้าศึกแล้ว พวกมันจะมาที่นี่ในอีกครึ่งวัน! มีว่าที่เทพมากกว่าร้อยคน…มีขั้นกลางสองคน! นายท่านหากท่านอยากตายข้าจะไม่หยุดท่าน แต่ถ้าท่านจะพาองค์หญิงไปตายด้วย ข้าไม่ยอมแน่! ข้าจะพาฝ่าบาทหนีไปเดี๋ยวนี้!
อสูรปราดเปรียวอดทนซือหยูมามากพอแล้ว
ซือหยูพูดเยาะเย้ย
ข้าคิดว่าจะมีกึ่งเทพขั้นสูงมาเสียอีกน่าผิดหวังนัก!
อสูรปราดเปรียวส่ายหน้า
ไอ้บ้าเอ้ย!
ว่าที่เทพขั้นกลางคนเดียวก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาสั่นกลัวแล้วแล้วพวกเขาจะรับมือกับสองคนยังไง? ยังมีว่าที่เทพอีกหลายคนที่ยากจะรับมือ
ด้วยความเสียเปรียบขนาดนี้ไม่มีใครคิดว่าซือหยูจะกล้าพูดเช่นนั้นออกมา
ซือหยูพูดเมื่อมองอสูรปราดเปรียว
เจ้าเอาเจ้าหมาไปที่ไหนก็ได้ในเขตเมืองนี้แต่ถ้าเจ้าออกไปจากเมืองแม้แต่ก้าวเดียวข้าจะไม่เมตตาอีกแล้ว!
อสูรปราดเปรียวกัดฟันแน่น
‘ถึงเวลาบอกองค์หญิงเก้าแล้ว!’
องค์หญิงเก้าถูกบอกเป็นครั้งที่สองว่าซือหยูสั่งให้เหล่าอสูรมาเพื่ออารักขานางกลับไป
วิกฤติจะถูกแก้โดยง่ายถ้าหากมีเทพสักคนมาพาองค์หญิงเก้ากลับแต่ซือหยูไม่แม้แต่จะคิดถึงเรื่องนี้
ข้าบอกหลายครั้งแล้ว!ขอให้เทพมาก็เหมือนกับการขอความตาย!
ซือหยูพูดอย่างเยือกเย็น
ตอนที่องค์หญิงเก้าถูกตามล่ามีเทพคนใดบ้างที่อยากจะช่วยชีวิตนาง?
อสูรปราดเปรียวกำหมัดนางไม่อยากจะยอมรับ แต่คำตอบก็ชัดเจน
ถ้าหากมีเทพคอยช่วยองค์หญิงเก้าจะตกอยู่ในสภาพนี้หรือ? พวกมันอาจจะอยู่ภายใต้เจ้าหมาเพียงในนามแต่ข้าไม่เห็นความภักดีของพวกมัน ตอนที่เจ้าหมากำลังถูกทำร้ายและอ่อนแอ พวกมันนิ่งเฉยไม่ทำสิ่งใด เจ้าเชื่อใจพวกมันรึ? เจ้าแน่ใจรึว่าพวกมันจะมาหากเจ้าให้พวกมันมา? เจ้าแน่ใจรึว่ามันจะไม่ทำร้ายเจ้าหมาในระหว่างที่ต่อสู้กัน?
ต่อให้มีเทพเพียงคนเดียวที่ทรยศและทำอุบายเพียงเล็กน้อยเจ้ากับข้าก็แก้ไขไม่ได้แล้ว!
ซือหยูกล่าว
อย่าพูดอะไรโง่ๆ ออกมาอีก เจ้านี่น่ารำคาญนัก!
อสูรปราดเปรียวขบริมฝีปากนางมิอาจพูดอะไรต่อได้อีก
ไปซะ!ทำตามที่ข้าสั่ง! ห้ามใครเคลื่อนไหวทั้งนั้น!
ซือหยูตะโกน
ทุกคนถอยกลับไปและมองซือหยูด้วยความระแวง
อสูรขนนกเป็นบ้าขนาดนี้แล้วหรือ?
เขาอยากจะต่อต้านศัตรูทั้งหมด้วยตัวคนเดียวเพื่อที่เขาจะได้รับความนับถือและความชอบธรรมในตำแหน่งเจ้าเมืองงั้นรึ?
บ้าไปแล้ว!เขาบ้าไปแล้ว!
มีเพียงเจ้าหมาที่เงยหน้ามองซือหยูด้วยความแปลกใจดวงตานางมองเขาต่างออกไป