หึหึ!ใใครกันบนโลกนี้ที่ริษยาชิงชังข้า!
ซือหยูยิ้มเยาะตัวเอง
ตอนที่เขาพยายามจะเป็นภูติวิบัติที่เขาเจอเกือบจะลบเขาให้หายไปจากโลก
ครั้งนี้เขาได้เจอวิบัติเทพอีกครั้งเมื่อเขาจะเป็นเซียน
ตามทฏษฎีแล้ววิบัติเทพจะเกิดขึ้นกับลูกหลานเทพที่พยายามจะเป็นว่าที่เทพแล้วเท่านั้น
แต่คนธรรมดาอย่างซือหยูกลับเจอวิบัติเทพซ้ำเล่าซ้ำเล่าไม่มีใครเชื่อว่ามันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร!วิบัติเทพฆ่าข้าไม่ได้! เจ้าก็จะทำอะไรข้าไม่ได้!
ซือหยูมองท้องนภาว่างเปล่าและพูดด้วยความอวดดี
เวลานี้ซือหยูแข็งแกร่งพอที่จะสังหารว่าที่เทพขั้นกลางได้
วิบัติเทพนั้นรุนแรงเพียงระดับเซียนขั้นสูงสุดดังนั้นมันจะไม่เป็นอันตรายกับซือหยูแล้ว
ดูเหมือนว่าผู้ที่มองไม่เห็นจะไม่พอใจในคำพูดของซือหยูพลังของวิบัติเทพจึงน่าสะพรึงกลัวกว่าเดิม
หึหึ!วิบัติถูกใครบางคนควบคุมอยู่อย่างที่ข้าคิดไว้เลย!
ซือหยูมั่นใจแล้วว่าเขาคิดถูกเขาถากถาง
ข้าไม่สนว่าทำไมเจ้าถึงคิดพยายามฆ่าข้าเจ้าอยู่ในเป้าหมายของข้าแล้ว หากวันใดมีโอกาสได้เจอเจ้า เจ้าจะได้รับการตอบแทนอย่างเอื้อเฟื้อจากข้าแน่! ตาต่อตา! ตาสองดวงเจ้าต่อตาข้างเดียว! ทั้งกรามต่อฟันซี่เดียว!
ซือหยูเกือบตายเพราะวิบัติเทพคราวที่แล้วมันเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันจางหาย
หากเขารู้ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เขาจะต้องมอบความตายให้กับมันอย่างสาสม ครืน!
สายฟ้าลั่นคำรามบนท้องนภาสดใส
พลังวิบัติเทพน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ในทุกขณะ
แต่วิบัติเทพจะเริ่มในอีกสิบห้าวันข้างหน้า
ซือหยูมีเวลาเหลือเฟือในการเตรียมตัว
ฟึ่บ!
ซือหยูเรียกโลหิตเทพตำราสองร้อยหยดและบันทึกธารดาราออกมา
การใช้บันทึกธารดาราหนึ่งครั้งจะใช้โลหิตเทพร้อยหยดและจะต้องใช้อีกร้อยหยดในการควบคุมสัตว์อสูรเทพ
แต่เมื่อคิดดูอย่างละเอียดแล้วซือหยูเก็บบันทึกธารดารากลับคืน
มันแข็งแกร่งมากก็จริงแต่มันจะไร้ประโยชน์ในระหว่างรับมือกับพันธมิตรเจ็ดเมือง
ดังนั้นซือหยูใช้โลหิตเพื่อชำระล้างมังกรในหม้อเก้ามังกรจะดีกว่า เขาอาจจะชำระมังกรตัวที่ห้าออกมาได้!
ซึ่งที่จริงซือหยูได้ใช้โลหิตเทพจากโลกเสี้ยววิญญาณในการชำระล้างมังกรมาแล้วห้าสิบหยดแต่มังกรตัวที่ห้าก็ยังไม่ปรากฏให้เห็น
ดูเหมือนว่าการชำระล้างมังกรแต่ละตัวจะยากขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งที่แล้วซือหยูชำระมังกรมรกตมาได้ด้วยโลหิตเทพหยดเดียว แต่เขามิอาจสร้างมังกรตัวที่ห้าได้ด้วยโลหิตเทพห้าสิบหยด นั่นหมายความว่ามันจะยากขึ้นไปอีก
แต่จากสิ่งที่เขาได้เมื่อได้รับมังกรตัวใหม่ก็คือพลังสุดยอดที่ยังไม่รู้ว่าเป็นพลังด้านใด
ซือหยูหยดโลหิตทั้งสองร้อยหยดลงสู่ระหว่างคิ้ว
หม้อเก้ามังกรดูดซับโลหิตเทพทั้งหมดในพริบตา
ตอนเขาใช้ห้าสิบหยดในร่างกายและอีกห้าสิบหยดในครั้งนี้หม้อเก้ามังกรได้ดูดซับไปร้อยหยด แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหม้อ
นั่นหมายความว่าร้อยหยดยังไม่มากพอไม่ใช่รึ?ซือหยูมองโลหิตอีกร้อยห้าสิบหยดในมือ จากนั้นเขาก็รินโลหิตสู่ร่างกายต่อไปด้วยความอดทน
เขาหยดไปอีกห้าสิบหยดแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหม้อเก้ามังกร
จากนั้นเขาจึงรินไปอีกห้าสิบหยดแต่หม้อเก้ามังกรนั้นเงียบสงบเป็นอย่างมาก
หรือกว่าหม้อเก้ามังกรต้องการสิ่งที่มากกว่าโลหิตเทพ?ซือหยูตกใจ
จากนั้นเขาจึงรินห้าสิบหยดสุดท้ายลงไปในหม้อเก้ามังกร
หลังจากนั้นโลหิตเทพที่เกือบจะล้นออกมาจากหม้อเก้ามังกรก็เริ่มควบแน่นแทนที่จะระเหย
โลหิตทั้งสองร้อยห้าสิบหยดได้กลายเป็นโลหิตสีเทาเพียงยหดเดียว
โลหิตเทพสีเทารึ? ซือหยูตกใจนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นโลหิตเทพสีเทา โลหิตเทพไม่ควรจะเป็นสีทองหรอกหรือ?
ขณะที่มองหยดโลหิตด้วยความสงสัยหม้อเก้ามังกรก็สั่นสะเทือนอีกครั้ง โลหิตเทพสีเทาเจือจางจนเต็มหม้อ
โลหิตสีเทาเริ่มไหลลงบนผิวหม้อไปที่มังกรตัวที่ห้า
จากนั้นเสียงมังกรทุ้มต่ำอันเยือกเย็นน่าสะพรึงกลัวก็ได้ดังออกมาในใจของซือหยู
มังกรดำสนิทปรากฎที่มือขวาของซือหยู
พลังทะลักออกมาจากรอยมังกรตัวเล็กนี้มันเป็นพลังที่ทำให้ใครหลายคนไม่สบายใจ
ซือหยูมองมังกรในมือและเบิกตากว้าง
นี่มัน…ความตาย!
มังกรทมิฬคือตัวแทนแห่งความตาย!
มังกรตัวที่สี่เป็นตัวแทนแห่งชีวิตอยู่ที่มือซ้ายของเขา มังกรตัวที่ห้าที่เป็นตัวแทนแห่งความตายอยู่ในมือขวา
มือซ้ายคือชีวิตมือขวาคือความตาย!
ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นความตาย!
มันคือหนึ่งในวิถีแห่งพลังซือหยูมีพลังเวลา มิติ ดวงวิญญาณ ชีวิต และความตายมาแล้ว!
พลังจากหม้อเก้ามังกรนั้นเกี่ยวโยงกับพลังอันลึกล้ำแห่งวิถีสวรรค์
หม้อเก้ามังกรคืออะไรกันแน่?ซือหยูคิดในใจ
ครั้งนี้ข้อความประหลาดได้แสดงผ่านจิตใจของซือหยู
มังกรหนึ่งในสามถูกชำระล้างได้รับพลังความตาย!
ซือหยูสามารถจบชีวิตศัตรูที่มีพลังต่ำกว่าเทพได้โดยการสัมผัส
หรือก็คือซือหยูสามารถสังหารใครก็ได้ที่ไม่ใช่เทพโดยการช่วงชิงชีวิต เมื่อเขาเผชิญหน้ากับเทพเขาสามารถใช้ฝ่ามือความตายดูดซับพลังชีวิตของเทพนั้นได้ครึ่งส่วน แม้เขาจะสังหารไม่ได้ เขาก็ทำร้ายให้บาดเจ็บได้ หากเทพบาดเจ็บหนักและถูกดูดพลังชีวิตไปครึ่งส่วน ซือหยูจะเอาชนะได้ไม่ยาก
เงื่อนไขก็คือซือหยูจะต้องมีโอกาสโจมตีเทพคนนั้น
จากประสบการณ์ในการต่อสู้กับว่าที่เทพมันเป็นเรื่องยากมากที่ฝ่ามือความตายของเขาจะมีภัยหากคู่ต่อสู้ระวัง นอกเสียจากเขาจะจู่โจมโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
ดังนั้นมันจะสังหารเทพได้ยากยิ่งกว่าด้วยพลังนี้
แต่ฝ่ามือความตายนั้นยังคงเป็นวิชาที่น่ากลัว
มันทำให้ซือหยูมีพลังในการสังหารว่าที่เทพขั้นสูง!ว่าที่เทพขั้นสูงมีพลังไม่ห่างจากเทพนัก แต่ซือหยูสามารถสังหารได้ด้วยฝ่ามือเดียว แม้ซือหยูจะยังไม่เป็นเซียนเขาก็แข็งแกร่งเท่าว่าที่เทพอยู่แล้ว
ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้พลังสุดยอดมาครองในเวลาคับขันเช่นนี้!ซือหยูคิด
ก๊อกก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังจากอีกฟากของห้องลับ
ท่านเจ้าเมืองท่านพ่อกลับมาแล้ว!
ชาเอ๋อยืนอยู่ที่ด้านนอก
ซือหยูพยักหน้า
ข้ารู้แล้ว!ข้ากำลังปิดประตูฝึกตน เจ้ากับพ่อจัดการเรื่องที่จะรบกวนข้า!
ท่านเจ้าเมืองท่านพ่อกลับมาคนเดียว!
คนเดียวรึ?ซือหยูเบิกตาโพลง
ให้เฉียนจุนมาหาข้า!
ไม่นานเฉียนจุนก็มาคุกเข่าที่หน้าห้องลับด้วยความละอายใจ
นายท่านโปรดลงโทษข้าเถอะ! ครืน…
ประตูศิลาเปิดช้าๆ พลังความตายไหลออกมาจากห้องลับ
เฉียนจุนที่คุกเข่าลงกับพื้นเกือบตายเพราะพลังนี้!
เกิดอะไรขึ้น?
ซือหยูสลายพลังความตายที่นอกห้องและเหลือบมองเฉียนจุน
เฉียนจุนโค้งคำนับด้วยความละอายใจ
นายท่านคนที่ท่านส่งมาช่วยข้าถูกจับตัวไปแล้ว!
ซือหยูหรี่ตา
มีอสูรเจ้าดินแดนมาจู่โจมเจ้ารึ?
มีโอกาสสูงมากที่เทพในเมืองอื่นจะทำเช่นนี้เพราะซือหยูมีกำลังว่าที่เทพมากมายในมือ
ไม่ใช่!แต่พวกมันถูกลูกชายคนโตของเจ้าเมืองชมทะเลคนก่อนพาตัวไป! เจ้าเมืองชมทะเลคนก่อนรึ?ซือหยูงุนงง เขาถาม
เจ้าเมืองคนก่อนมีลูกด้วยรึ?
ตอนยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งอดีตเจ้าเมืองส่งลูกทุกคนไปเมืองหลวงเพื่อเลี่ยงความเสี่ยง แต่ลูกชายคนโตที่เป็นผู้สืบทอดได้กลับมาและพาตัวทุกคนที่อยู่กับข้าไปแล้ว!
ผู้สืบทอดของเทพเมืองชมทะเลสินะ?
พลังของมันล่ะ?
มันเป็นว่าที่เทพขั้นสูง
ซือหยูสบายใจขึ้น
มันให้เจ้ากลับมาบอกอะไรกับข้าสินะ?
ว่าที่เทพขั้นต้นหลายสิบคนถูกพาตัวไปเป็นไปไม่ได้ที่เฉียนจุนจะหนีกลับมา
ใช่แล้วนายท่าน!
เฉียนจุนตอบ
มันบอกอะไรเจ้า?
เฉียนจุนพูดด้วยความโศกเศร้า มันบอกว่าลูกน้องของมันจะต้องไปที่เมืองเมฆาอสูรเจ็ดหัวเมืองกำลังรวมตัวที่เมืองเมฆาอสูรเพื่อหารือ มันอยากจะเชิญท่านไปด้วย
หรือว่าการลักพาตัวว่าที่เทพขั้นต้นเหล่านั้นไปก็คือการบังคับให้ข้าไปเจอรึ?
นายท่านอย่าโดนมันหลอกนะ! ตอนที่ข้ากำลังรวบรวมข่าว ข้าได้ยินว่าเจ็ดเมืองกำลังติดต่อกันในเดือนที่ผ่านมา ข้าว่าพวกมันกำลังวางแผนบางอย่างที่เลวร้ายกับท่าน!
เฉียนจุนพูดต่อ
ข้ามันใจว่าท่านจะเป็นอันตรายหากเดินทางไปหาพวกมัน…
ซือหยูโบกมือ
ถ้ามันคิดสังหารข้ามันก็ไม่ต้องเชิญข้าไปหาเพราะพวกมันรวบรวมกำลังมาตีเมืองเราได้ คำเชิญย่อมไม่จำเป็น! ข้าคิดว่ามันกำลังจะหาวิธีที่ไม่ต้องใช้กำลังก่อนจะรวมพลังมากกว่า หากมันเกลี้ยกล่อมให้ข้ามอบองค์หญิงได้การนองเลือดยอมไม่เกิดขึ้น เพราะตระกูลราชวงศ์จะไม่ชอบในการกระทำของพวกมัน พวกมันจะมีปัญหาใหญ่!
ซือหยูวิเคราะห์ได้อย่างเฉียบแหลมมในไม่กี่คำพูด
เขามั่นใจว่าเมฆาอสูรจะต้องเลี่ยงการจู่โจมโดยตรงเพื่อสังหารเขา
ไม่ว่าจะยังไงนายท่านอย่าได้ไปหาพวกมันเลย แล้วก็อย่าให้องค์หญิงเก้ากับพวกมันด้วย!
เฉียนจุนตอบ
ซือหยูยิ้ม
ไม่หรอก!คำเชิญของพวกมันเหมาะกับข้าในตอนนี้พอดี ข้ากำลังหาโอกาสพูดคุยกับพวกมันอยู่พอดี หากมันเชิญข้า สวรรค์ก็เข้าข้างข้า!
เฉียนจุนอ้าปากค้างสำหรับเขา มันคือการเดินทางไปที่อันตรายมาก แต่ซือหยูกลับมองมันเป็นโอกาสดี!
เจ้าสองคนอยู่ที่เมืองข้าจะไปคนเดียว!
ครึ่งชั่วยามต่อไปหลังจากเตรียมการไม่นาน ซือหยูก็ไปถึงเมืองเมฆาอสูรโดยการใช้ประตูมิติ
เขาไม่ได้ไปตำหนักเจ้าดินแดนโดยตรงเพราะเขายังเหลือเวลาหลายวันก่อนถึงกำหนดนัดหมาย
แต่เหล่าเทพในเมืองสัมผัสได้ถึงการมาของเขา