กว่ากุ๊กไก่จะออกมาอชิก็จัดการต้มมาม่ากินเรียบร้อยแล้ว เขาเข้าไปอาบน้ำต่อทันทีเมื่อออกมาอีกครั้งกุ๊กไก่ซึ่งง่วงมากก็นอนฟุบหน้าอยู่บนเตียงแล้ว
อชิค้นหาของบางอย่างเสียงดังก็อกแก็กแล้วเดินมาปลุกเธอทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่ได้แต่งตัวมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำเท่านั้นที่คลุมตัวอยู่
“ขยับมานี่จะไดร์ผมให้ ทำไมนอนไปทั้ง ๆ ที่ผมเปียกแบบนี้ ไม่สบายมาก็ลำบากคนอื่นอีก”
กุ๊กไก่ไม่ตอบแต่เขยิบตัวไปนอนฟุบหน้าที่หน้าตักของเขา อชิแทบจะหยุดหายใจเมื่อตรงนั้นมันดันตรงกับจุดสำคัญของเขาพอดี เขาขยับตัวเธอเบา ๆ
“นอนตรงนี้ไม่ได้ขยับมานอนตรงตัก”
กุ๊กไก่เงยหน้าพูดติดตลก
“ไข่นายหอมดีไม่เป็นไรหรอกเพิ่งอาบน้ำมา”
อชิหน้าแดงเขกหัวเธอไปแรง ๆ
“ยัยลามกพูดออกมาได้”
“ก็จริง ไข่มันหอม”
แน๊ะ ยังไม่หยุด อชิถอนหายใจ กุ๊กไก่ยังทำเสียงงัวเงียแล้วขยับมาฟุบหน้าเข้าที่หน้าขาเขาแบบนี้ค่อยทำให้อชิหายใจสะดวกขึ้นมาหน่อย เขาค่อย ๆ เป่าผมให้เธอใช้ไฟไม่แรงจนเกินไปกุ๊กไก่นอนเงียบ ๆ ครางในลำคออย่างสบาย เมื่อมีคนมาคอยเป่าผมให้แบบนี้ เธอกับอชิใกล้ชิดกันไม่ทั้งหมดนี้เพราะความเคยชินและยังมีเรื่องบางเรื่องที่เขาทำให้โดยที่ไม่ต้องบอกหรืออ้อนแค่เล็กน้อยเขาก็ยินยอมแล้ว
หากดูผิวเผินมันก็ไม่ต่างจากคู่รักเท่าไหร่เพียงแต่เธอกับเขาไม่มีใครพูดออกมาให้ชัดเจน หรือถ้าพูดออกมามันก็เป็นเพียงเรื่องเล่น ๆ ของคนสองคนที่ไม่มีใครคิดจะจิงจังเลยสักคน
ความสัมพันธ์ที่คลุมเคลือแบบนี้ทำให้กุ๊กไก่ไม่มั่นใจในตัวเขาและตัวเองเลยแม้แต่น้อย แต่ที่น่าประหลาดคือเธอกลับมีความสุขจนไม่อยากจะพูดขึ้นมาเพราะเกิดกลัวความจริง
ความจริงที่จะทำให้เธอเจ็บปวด
“โทรศัพท์ชาร์ทได้ยัง” กุ๊กไก่ถามขึ้น
“อืม”
เขาตอบเบา ๆ เหมือนว่าอชิเองก็เหม่อลอยเช่นกัน แต่มือของเขายังคลึงปลายผมของเธอเบา ๆ กระทั่งเป่ามันจนแห้งกุ๊กไก่ยังสั่งเขาเบา ๆ
“อชิใส่ครีมบำรุงให้ด้วยตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่เขียนว่าเซรั่มใส่ผมน่ะ”
นำ้เสียงเล็กแม้จะงัวเงียแต่กลับพูดอย่างชัดถ้อยคำ อชิเก็บไดร์เป่าผมไว้ที่เดิมเรียบร้อยแล้วเดินไปหยิบไอ้ขวดที่ว่าให้เธอ เขาย่อมรู้ว่ามันวางไว้ที่ไหนเพราะนิสัยของกุ๊กไก่คือมักจะวางเครื่องสำอางค์เป็นหมวดหมู่แยกกันชัดเจนเรียงจากสูงไปต่ำ ห้ามมีใครมายุ่งถ้าจับก็ต้องเรียงไว้เหมือนเดิมไม่งั้นเธอจะโกรธมาก
นิสัยนี้เป็นอชิที่สอนเธอเองเพราะตอนเขาไปทำความสะอาดบ้านให้เธอ เขามักเจอปัญหานี้เขาจึงออกกฎเข้มงวดว่าห้ามโต๊ะเครื่องแป้งของกุ๊กไก่เลอะเทอะ ไม่งั้นเขาจะไม่ให้ลอกการบ้าน เธอจึงทำเรื่องนี้จนเป็นนิสัยตามที่เขาสอนเป๊ะและติดมาจนถึงทุกวันนี้
“เอ๊า”
เขายื่นขวดเซรั่มบำรุงผมให้เธอแต่เธอกลับไม่ตอบสนอง
“กุ๊กหลับแล้วเหรอ”
ไม่มีเสียงตอบรับสุดท้ายก็เป็นเขาที่ต้องนวดศีรษะให้เธอเองหลังจากอ่านวิธีใช้ข้างขวดอย่างรวดเร็ว เขาเก็บของเรียบร้อยถอดเสื้อคลุมอาบน้ำออกแล้วใส่กางเกงในบ๊อกเซอร์เพียงตัวเดียว ล้มตัวลงนอนที่นอนเล็กของตัวเองไม่นานยัยกุ๊กไก่ก็เลื้อยตัวลงมานอนกับเขาและกอดเขาเหมือนทุกคืน
อชิเองก็ไม่เข้าใจเธอไม่ให้เขานอนเตียงใหญ่กับเธอให้รู้แล้วรู้รอดแต่กลับยังให้นอนแบบนี้และตัวเองก็เป็นฝ่ายลงมาเบียดกับเขาแทบทุกครั้ง
“กอดหน่อยสิ”
เธอมักจะพูดคำนี้เมื่อไม่เห็นมือใหญ่ของเขาวางพาดหลังของตัวเอง อชิรับคำในลำคอกอดเธอจนกระทั่งเธอหลับสนิท อชิลุกขึ้นมาดูโทรศัพท์ของกุ๊กไก่เมื่อคิดว่าแบตคงจะเต็มแล้ว เขาถอดสายชาร์ทออกมีคนทักเธอมาในแอพหาคู่เป็นฝรั่งคนหนึ่ง
เขาบ่นเบา ๆ
ขนาดโปรไฟล์บ้าบอและมั่ว ๆ เหมือนคนบ้าคนหนึ่งที่เขาแต่งให้เธอจนคิดว่าไม่มีใครกล้าทัก ยังมีคนทักเข้ามาอีกแฮะ เพียงผู้ชายคนนั้นทักมาอชิก็พิมพ์ด่าไปทันที
ด่าเสร็จก็บล็อกเรียบร้อยและลบข้อมูลไม่ให้ยัยนี่เห็นจนมาโวยวายเขา อชิยิ้มชั่วร้ายวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม
“เห๊อะ จะหาผัวใหม่ก็รอหย่าก่อนแล้วกัน”
เขาล้มตัวลงนอนดึงร่างของกุ๊กไก่ที่ยังหลับสนิทมาหนุนแขนของเขาแทนหมอนแล้วกอดเธอแน่นอย่างสบายใจ
หลายวันต่อมากุ๊กไก่ก็ถามเรื่องนี้กับอชิจริง ๆ ด้วย
“นายว่าไม่แปลกเหรอแอพนี้ไม่เวิร์คว่ะ ไม่มีใครทักมาสักคน”
อชิรีบอธิบาย
“มันเป็นแอพที่คนเขาคัดแล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่ทักมั่วซั่วจนกว่าจะมั่นใจจริง ๆ”
“ถ้างั้นฉันเลือกและทักไปคุยแทนดีกว่า”
“เธอพิมพ์ได้เหรอ”
อชิถามเหมือนไม่ใส่ใจ หน้าจอคอมของเขายังคงเป็นสีแดงสีเขียวแท่ง ๆ และมีตัวเลขมากมาย ในขณะที่เธอนั่งข้างเขาบนเก้าอี้ตัวเดียวกันจนคล้ายจะนั่งตักของท่านประธานอชิแล้ว
“ก็นายพิมพ์ให้ไง”
“ไม่ว่างอยากคุยไปเสริฐกูเกิ้ลเอง หรือไม่ก็รอ”
กุ๊กไก่เป็นประเภทเกลียดภาษาอังกฤษแต่ดันอยากได้ผัวฝรั่งเพราะเบื่อคนไทย เผื่อจะเจอคนแบบเควิลบ้างจึงได้มุ่งมั่นกว่าเรื่องอื่น
“ก็ได้ เผื่อจะเจอความรักดี ๆ เดี๋ยวฉันใช้กูเกิ้ลแปลภาษาคุยง่ายนิดเดียว”
อชิเตือน
“ระวังมันแปลเพี้ยนนะ มันไม่ชัวร์นะแปลไทยอย่างบอกเขาอย่างทำให้เธอดูไม่ดี”
“จริงเหรอ”
“อืม”
“ถ้างั้นรอนายดีกว่า”
อชิแอบยิ้มมุมปาก
“เดี๋ยวคุยให้ไม่มีปัญหาหรอกขอเสร็จงานก่อนนะ”
เขาพูดแบบนี้แล้วนั่งวิเคราะห์กราฟต่อ ระหว่างรอกุ๊กไก่จึงพิมพ์ข้อความเล่นไปเรื่อย ๆ กระทั่งเก่งทักเธอมา
เก่ง : ว่างป่ะคะ เดี๋ยวเจอกันหน่อยมั๊ย
กุ๊กไก่ : ว่างค่ะ
กุ๊กไก่พิมพ์ตอบโดยไม่ต้องคิด ตอนแรกคิดว่าเก่งจะเทเธอแล้วซะอีก เขายังคิดถึงเธอจนทักมาแปลว่าเธอมีโอกาสใช่หรือเปล่า พวกเขานัดสถานที่กันอย่างเรียบร้อยกระทั่งอชิเสร็จงานเธอจึงบอกเขา
“วันนี้เลิกงานฉันมีนัดกับพี่เก่งนะ”
“ใครอนุญาตวันนี้ฉันทำโอที เธอต้องอยู่เป็นเพื่อนด้วย”
“อ้าวไหนบอกว่าเดี๋ยวเสร็จแล้ว ไม่ต้องการฉันไงเลขานายก็มีเยอะ อย่ามากั๊กฉันนะในเมื่อนายยังคิดจะหย่าฉันอยู่”
อชิส่ายหน้า
“ไม่ใช่แบบนั้น วันนี้ต้องรอคุยกับนายหน้าเธอในฐานะคนซื้อต้องอยู่ด้วยไง”
“อ้อ”
กุ๊กไก่ทำแก้มป่อง “ก็ไม่บอกแต่แรก”
อชิส่ายหน้า “ก็ไม่ถามนิ แล้วมาบอกกระทันหันความจริงฉันก็มีนัดกับคุณเก่งเหมือนกันเธออยากไปด้วยป่ะล่ะ พรุ่งนี้บอกเขาว่าพรุ่งนี้เธอจะไปกับฉัน”
“ที่ไหนล่ะ”
กุ๊กไก่ถามตาแป๋ว
“พรุ่งนี้ที่งานเลี้ยงร่วมมือกันของฉันกับ กลต. คุณเก่งก็ไปด้วยเธอก็ต้องไปด้วยลืมแล้วเหรอ สมองน่ะหัดใช้งานบ้างไม่ใช่เป็นปลาทองตาแป๋วไปวัน ๆ”
กุ๊กไก่ถึงบางอ้อ เธอลืมจริง ๆ เพราะเธอก็ไม่ได้ตื่นเต้นและใส่ใจเท่าไหร่นัก กระทั่งอชิพูดขึ้น
“ไฮโซณัฐกับเมียเขาก็ไปร่วมงานด้วยนะ”
กุ๊กไก่ตาโต เธออดรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้เมื่อพูดถึงชื่อนี้ และเธอเองก็อยากจะไปจนกระตือรือร้นขึ้นมา
“ดีสิจะได้ให้เขาเห็นว่าฉันเลิกกับเขาแล้วฉันได้ดีขนาดไหน”
อชิยิ้มแล้วดึงโทรศัพท์ของเธอไปเล่น
“เอ๊า เลือกใครฉันจะคุยให้”
กุ๊กไก่มองแอพหาคู่ รู้สึกอารมณ์เหมือนถูกอชิกระชากให้ขึ้นลงแปลก ๆ เธอจิ้มเลือกคนสองสามคน อชิอ่านโปรไฟล์แต่ละคนให้เธอฟังแล้วแปลให้
“ทำไมมีแต่คนแปลก ๆ ล่ะ บางคนชอบกินอะไรแปลก ๆ บางคนก็มีนิสัยแปลก ๆ นายแน่ใจนะว่าแปลไม่ผิด”
อชิทำท่าโมโห
“เธอจะเอายังไง ก็คนพวกนี้เขียนมาแบบนี้ฉันก็แปลตามจริงช่วยแล้วก็ยังมาใส่ร้ายฉันอีก คนอะไร”
กุ๊กไก่ไม่แน่ใจ แต่เธอกับภาษาอังกฤษเหมือนจะไม่ถูกกันเท่าไหร่ ไม่รู้ความหมายคำพวกนี้จริง ๆ เธอจึงเลือกส่ง ๆ ไป และแต่ละคนที่คุยกับเธอกลับไม่ตอบสนองอะไรเลยสักคน ในที่สุดเธอก็ถอดใจ
อชิลูบหัวเธอเหมือนลูบหัวลูกหมาตัวหนึ่ง
“เธออย่าคิดให้จริงจังกับรักออนไลน์เลย ถึงเจอคนที่ถูกใจก็ไม่แน่ว่าเขาคนนั้นจะไม่หลอกลวง เหมือนเธอไง ฉันก็หลอกไปหลายอย่าง ว่าเธอเก่ง ฉลาด และเป็นคนขยัน”
เขาเหล่ตามองเธอ แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ตรงข้ามกับกุ๊กไก่อย่างสิ้นเชิง กระทั่งยังมีคนเคยด่าเธอมาแล้วว่าสวยแต่ไม่มีสมอง แต่กุ๊กไก่กลับไม่แคร์ นอกจากกระโดดตบปากผู้หญิงคนนั้นแล้วเธอก็ยังด่ากลับ ว่าเธอนอกจากสวยแล้วยังมือหนักอีกด้วย
“ไอ้บ้า ไม่ต้องเอาความจริงมาพูดเล่น ฉันน่ะในสายตาคนอื่นทั้งสวยทั้งเก่งมีนายคนเดียวนี่แหละที่อวดฉลาดกับฉัน เห๊อะ คิดว่าตัวเองแน่หรือยังไง”
อชิกลับพยักหน้ารับ “ใช่ฉันแน่”
ว่าแล้วเขาก็โต้ตอบกับคนที่ทักเธอมาอีกคนแทนเธอแล้วพูดเบา ๆ
“คนนี้เข้าท่านะ ลองคุยดูฉันรับเป็นเพื่อนแทนเธอแล้ว คุณสมบัติตามที่เธอต้องการเลย เป็นนักธุรกิจ ทำงานเก่ง รวย และมีมารยาทดี ไม่มีลูกติด ไม่มีเมีย สถานะโสดแน่นอน ถ้าคุยไม่ได้ก็เอามาให้ฉันคุยให้ ฉันบอกเขาแล้วว่าให้ใช้ภาษาอังกฤษง่ายๆ เขาบอกว่าเขาพิมพ์ภาษาไทยได้ เขามีแป้นไทยและเคยอยู่เมืองไทยมานาน”
เขาส่งให้กุ๊กไก่ดู รูปไม่ค่อยชัดเท่าไหร่แต่ท่าทางไม่เลว ออกจะอ้วนร่างใหญ่ไปหน่อย แต่กุ๊กไก่ก็คิดว่าดีแล้วจะให้เขาสอนภาษาด้วยฝึกไปในตัวก็เลยพยักหน้า
“ก็ได้จะคุยดู ถึงจะอ้อนแต่ก็ท่าทางดีอยู่นะเหมือนนายสมัยก่อนเลยถ้าลดน้ำหนักไม่แน่อาจจดูดีก็ได้”
“เธอไปนั่งที่ของเธอเลยฉันจะทำงานแล้ว มาเบียดอะไรฉันตรงนี้ จะคุยกับผู้ชายยังมากวนคนอื่นอีก”
“ก็ได้”
กุ๊กไก่ลุกขึ้นกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง กุ๊กไก่เริ่มต้นคุยกับผู้ชายคนนั้นเขาตอบโต้เธอเป็นภาษาไทยอย่างสุภาพ อชิยิ้มเขาแอบปิดเสียงโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วพิมพ์บางอย่างลงไปในมือถือ ทั้งคิดในใจว่า
ยัยโง่เอ๊ย ไม่คิดว่าจะหลอกง่ายขนาดนี้
ในขณะที่กุ๊กไก่ตะโกนเสียงดังอย่างดีใจ
“อชิฉันตอบภาษาอังกฤษไปเขาอ่านเข้าใจด้วยล่ะ ดีใจจังเลย”
อชิหัวเราะในลำคอทั้งส่ายหน้า
“ยินดีด้วยนะ คนนี้ฉันบอกแล้วว่าเข้าท่า รับรองฉันเลือกให้เธอเองคุยกับเขาได้เต็มที่เลย”