จูบของอชิรุนแรงจนทำให้กุ๊กไก่เจ็บปาก เธอดันเขาออกอย่างแรงสองมือยันหน้าอกของเขาเอาไว้
“เจ็บนะ นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย”
อชิมองเธอแน่นิ่งแววตาคล้ายกำลังสับสนอย่างประหลาด และแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมา
ใช่เขากำลังเป็นบ้า แต่เพราะอะไรเขาเองก็ไม่แน่ใจ อชิปล่อยกุ๊กไก่แล้วนอนแผ่หราอยู่ข้าง ๆ เหมือนกำลังคิดเรื่องอะไรบางอย่าง กระทั่งพูดเบา ๆ
“ไม่คิดว่าแฟนเก่าเธอจะเลวขนาดนั้น”
กุ๊กไก่ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวอะไรกับกรรที่เขาจูบเธอรุนแรงแบบนี้ แต่ก็เห็นด้วยกับอชิ
“นั่นน่ะสิ ฉันอยู่กับเขามาได้ยังไงตั้งนานขนาดนั้น”
กุ๊กไก่พูดน้ำเสียงคล้ายจะหยันตัวเอง อชิหันไปมองเธอ เขานอนตะแคงใช้มือรองศีรษะของตัวเองเอาไว้ จิ้มเข้าที่แก้มของเธอเบา ๆ
“เธอรู้จักกับเขาได้ยังไง”
กุ๊กไก่นอนตะแคงหันมาทางเขาเช่นกัน สองคนสบตากันกุ๊กไก่ยิ้มเศร้า ๆ
“บางทีถ้าหากนายยังอยู่ข้าง ๆ ในตอนนั้นฉันคงไม่สนเขาหรอก”
อชิดวงตาไหววูบ เขากลับรู้สึกผิดอยู่ในใจอย่างประหลาด ในตอนนั้นเขาเองก็ลำบากมากและก็คาดคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าตัวเองจะมีชีวิตที่พลิกผันขนาดนั้น
“เรื่องบางเรื่องไม่มีใครควบคุมได้ แม้กระทั่งตัวเราเองแต่ถ้าเธอคิดว่าเป็นเพราะฉันที่ทำให้เธอได้เจอเขา ฉันก็ขอโทษด้วยนะ”
“ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ ความจริงมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก”
แต่มันแย่ยิ่งกว่า ชีวิตที่ผ่านมาของกุ๊กไก่แม่งโคตรบัดซบจนเธอไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองแม้แต่น้อย แต่นั่นแหละเธอก็ไม่เคยคิดจะปริปากเล่าให้ใครฟัง เธอย่ำแย่จนถึงต้องออกจากบ้านของตัวเองด้วยความหวาดกลัวจนไม่สามารถกลับไปที่นั่นได้อีก
บ้านหลังนั้นทุกคนทิ้งเธอไปหมดแล้ว ทั้งแม่และอชิ ต่างก็ทิ้งเธอไปหมดแล้ว
กุ๊กไก่หวนคิดถึงวันนั้นวันที่อชิไปต่างประเทศ หลังจากเรียนจบม.สาม อชิก็ย้ายไปเรียนที่อื่นและเธอก็เหมือนกัน ต่างคนต่างไม่เจอกันอีก เหมือนคำสารภาพรักของเธอจะเป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนขาดสะบั้นจนอยากที่จะต่อติด และเธอก็โกรธเขามาก โกรธเขาที่ไม่รับรักเธอ โกรธที่เขาทิ้งเธอไปโดยไม่ไยดี ไม่สนใจกระทั่งว่าเธอจะเป็นยังไง
เพื่อนที่เคยอยู่เคียงข้างกันมาตั้งแต่เธอจำความได้คนนั้นได้ตายจากเธอไปแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านมานานขนาดนี้ ความรู้สึกโกรธเกลียดนั้นกลับจางหายไปราวกับสายลมที่พัดผ่าน หรือจะเป็นเพราะมันเป็นเพียงอดีต หรืออาจจะเป็นเพราะเขาไม่มีค่ากับเธออีกต่อไป เธอจึงลืมเรื่องนี้ไปได้ในที่สุด
อชิเองก็สืบเรื่องกุ๊กไก่มาไม่ใช่น้อยก่อนที่เขาจะมาพบเธอ เขารู้แต่ว่าแม่ของกุ๊กไก่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ซึ่งกุ๊กไก่ในตอนนั้นก็ได้เงินประกันมาก้อนหนึ่ง และหลังจากนั้นเธอก็เข้าวงการพริตตี้ก็ได้เจอกับไฮโซณัฐและคบกันมาตั้งแต่เธออยู่ม.ปลาย
ในตอนนั้นเธอเป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่งที่อยู่เพียงลำพัง ญาติพี่น้องของแม่กุ๊กไก่ก็ไม่เคยติดต่อ เมื่อได้รับการเอาอกเอาใจจากณัฐที่เข้ามาจีบ และเขายังหน้าตาดี กุ๊กไก่คิดว่ามันเป็นรักแท้ เขาเข้ามาในตอนที่เธอกำลังลำบากเธอจึงตกลงคบกับเขาแม้ว่าจะมีคนมาจีบมากมายด้วยคิดว่าเขาเป็นคนที่ใช่ที่สุดกุ๊กไก่จึงเลือกเขา
คงเพราะตอนนั้นเธอเป็นแค่เด็กสาวที่ต้องเลี้ยงดูตัวเองคนหนึ่งจึงไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากความรักที่จับต้องได้ที่ณัฐเปย์ให้เธอมากกว่าใคร ถ้าจะบอกว่าเธอเลือกเขาเพราะเงินก็คงไม่ผิดนัก
หลายปีที่ผ่านมากุ๊กไก่ไม่เคยนอกใจเขาเธอเป็นคนซื่อสัตย์แม้ว่าจะมีคนมาจีบมากมายเธอก็ไม่เคยสนใจ เอาแต่ซื่อสัตย์โดยไม่รู้ว่าตัวเองโง่แค่ไหนที่เป็นแค่หนึ่งในตุ๊กตาที่มีอยู่หลายคนแฟนหนุ่มที่เขาเอาไว้อวดใคร ๆ และเขาก็ไม่เคยคิดจริงจังกับเธอเลยแม้แต่น้อย กุ๊กไก่ก็เป็นได้แค่นางบำเรอที่ไฮโซเลี้ยงเอาไว้ดูเล่นเหมือนที่ใคร ๆ พูดก็เท่านั้น
ในขณะที่ผู้ชายคนนั้นนอกจากกุ๊กไก่แล้วเขาก็ยังมีเด็กที่เลี้ยงดูเอาไว้หลายคนตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ โดยที่กุ๊กไก่ไม่เคยรู้ กระทั่งเขาต้องแต่งงานกับคนที่เหมาะสม คนอื่นยอมเป็นเมียลับ ๆ ของเขาเพราะเงินที่ไฮโซณัฐเลี้ยงดู ยกเว้นกุ๊กไก่ที่เธอยืนกรานจะเลิกกับเขา
แต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่รู้สึกพอ เขารักกุ๊กไก่ที่สุดและไม่ยอมเสียเธอ เขายังคิดว่ากุ๊กไก่ตัดเขาออกจากชีวิตไม่ได้จึงได้ตามตื้อเธอไม่เลิก แม้อชิจะรู้ว่ากุ๊กไก่ไม่มีทางกลับไปหาแฟนเก่า แต่อชิกลับอยากได้ยินจากปากเธอ อยากให้เธอรับปากเขาว่าจะไม่กลับไปหาไอ้บ้านั่นอีก
อชิรู้ตัวเองดีว่า ตัวเขายังมีปัญหาของตัวเองที่ต้องจัดการ เขาไม่สามารถดูแลใครได้ในตอนนี้ หลังจากเสร็จธุระที่เมืองไทยเขาก็หวังเพียงแต่ว่ากุ๊กไก่จะยืนบนขาของตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาใครอีก
อชิดูจะเหม่อลอย กุ๊กไก่จึงถามเขา
“คิดไรอยู่”
“เรื่อยเปื่อย”
“อย่าคิดอีกเลย”
กุ๊กไก่พูดคล้ายกับรู้ใจเขา เธอลุกขึ้นตั้งใจจะดึงเขาให้ลุกตาม ถึงเวลาที่ต้องไปเดินเล่นแล้วก่อนที่พระอาทิตย์จะตกแล้วอดดูวิวทะเลสวย ๆ แต่อชิกลับกระตุกมือจนเธอเสียหลักลงไปนั่งบนตักของเขา
อชิโอบรอบร่างของเธอไว้ กุ๊กไก่ปล่อยให้เขากอดก่อนจะพูดว่า
“นายคิดจะมาโรแมนติกกับฉันเหรอ”
จู่ ๆ อชิก็ยอมรับ
“อืม ไม่ได้เหรอ อย่างน้อยเรามาเที่ยวตอนนี้ก็เหมือนมาฮันนีมูนกัน เราจะลืมเรื่องการแต่งงานปลอม ๆ ไปได้หรือเปล่า บางทีฉันก็อยากจะมีความรักแบบคนธรรมดาบ้าง เรามาลองดูสักหน่อยดีมั๊ย”
กุ๊กไก่เม้มปาก ระสึกใจหวิวประหลาด มันคล้ายกับว่าความรู้สึกนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ธุรกิจของอชิเป็นไปได้ดีแพลนเปิดตัวแอพพลิเคชั่นเทรดคริปโตในเมืองไทยมีกำหนดขึ้นเดือนหน้า หลังจากได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐบาล และที่ดินที่เขาต้องการซื้อก็ตกลงกันเรียบร้อย เหลือเพียงแต่นัดวันชำระเงินกันและโอนมาเป็นชื่อเธอก็เท่านั้น
เมื่อเรียบร้อยแล้ว เหมือนกับว่าเขากำลังจะจากไปอีกครั้ง
กุ๊กไก่หัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกนี้
“ความรักแบบธรรมดาเหรอ นายเป็นเจ้าชายซาอุหรือไงถึงจะมีความรักแบบคนธรรมดาไม่ได้ ฉันเห็นนายคุยโทรศัพท์ออกบ่อย กับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ แฟนเหรอ”
ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเลขาหรือเพื่อนร่วมงานกันที่ต่างประเทศ แต่เพราะเธอดูท่าทางการพูดคุยของเขาและพยายามจับคำพูดที่แม้ว่าเธอจะแปลไม่ค่อยออก แต่ประโยคง่าย ๆ เช่น รักคุณ คิดถึงคุณ เธอก็ฟังออก
แต่เดิมกุ๊กไก่ไม่สนใจ แต่ตอนนี้เหมือนเธอจะสนใจเขามากขึ้นทุกวัน ๆ โดยไม่รู้ตัว เธอพยายามจะไม่คิดเรื่องนี้ แต่นับวันยิ่งทำใจได้ยาก เพราะแบบนี้เธอถึงต้องหาทางคุยกับคนอื่น ทั้งแอพหาคู่และคุยกับเก่งให้มาก ๆ เพื่อที่จะได้ไม่จดจ่อกับอชิมากเกินไป
อชิกลับตกอยู่ในความเงียบ เงียบจนกระทั่งกุ๊กไก่แปลกใจ
“แปลว่าแฟนจริง ๆ ล่ะสิ”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง แต่ฟังยังไงก็รู้ว่าเธอกำลังฝืนตัวเอง อชิถอนหายใจแล้วพูดว่า
“ยัยเพี้ยน ถ้ามีแฟนเขาจะยอมให้ฉันแต่งงานเหรอ เธอนี่มันก็โง่จริง ๆ”
กุ๊กไก่ตีแขนของเขา ความจริงที่เขาพูดก็ถูก แต่อชิอาจจะปิดบังฝั่งนั้นก็เป็นได้ เพราะเรื่องที่ที่ดินมูลค่ามหาศาลนั่นที่เขาอยากได้ หากจะพูดไปในเมืองไทยนี้ คนที่อชิสนิทและไว้ใจได้เขาก็คงไม่มี สุดท้ายจึงได้เลือกเธอและเลือกที่จะแต่งงานกับเธอเพราะที่ดินผืนนั้น
แต่เธอกลับเลือกที่จะไม่ถามต่อเพราะมันคือข้อตกลงระหว่างคนสองคน เขารู้เรื่องของเธอได้แต่เธอไม่สามารถรู้เรื่องของเขาได้เลยแม้แต่น้อย ถึงจะฟังดูไม่ยุติธรรมนักแต่เธอก็เป็นฝ่ายเลือกที่จะรับข้อเสนอนี้เอง
ในเมื่อถามเรื่องความรักไม่ได้ กุ๊กไก่จึงพิงตัวเข้าบนอกของเขาปล่อยให้เขากอดแล้วถามถึงเรื่องอื่น
“แล้วที่ดินของนายจะนัดโอนเมื่อไหร่”
ถ้าเป็นเรื่องนี้อชิกลับยินดีบอกเธอโดยไม่มีข้อแม้
“คงประมาณอาทิตย์หน้า ฉันบอกว่าฉันอยากได้เพราะจะซื้อให้ภรรยา เจ้าของที่น่ะเขาเป็นคนรักภรรยามากแต่คุณยายเสียไปนานแล้ว มีคนมาขอซื้อหลายคนแต่เขาไม่เคยขาย เขาถูกใจเธอกับฉันมากกว่า เขาเพียงอยากส่งต่อที่ดินที่ภรรยาของเขารักให้กับคนที่เห็นคุณค่าและจะไม่ขายมันไปเพื่อเงิน”
กุ๊กไก่เข้าใจแล้ว ที่แท้นายอชินี่ก็กำลังหลอกคนแก่นี่เอง แต่เธอไม่มีสิทธิ์ว่าเขาในเมื่อเธอยินยอมและรับรู้ตั้งแต่แรกโดยไม่มีใครบังคับ
“เพราะแบบนี้นายเลยเอาฉันบังหน้าเหรอ ฉันเข้าใจแล้ว”
อชิยอมรับ
“ใช่เขาค่อนข้างประทับใจสตอรี่ของเราสองคน เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันและแยกกันไปคนละประเทศ สุดท้ายก็ได้กลับมาพบกันจนกระทั่งแต่งงานกัน อาทิตย์หน้าเขานัดเราไปทานข้าวด้วยตอนนั้นเธอก็ทำตัวดี ๆ หน่อยแล้วกัน”
กุ๊กไก่ยิ้ม
“ได้สิ ฉันรับจ้างนายมาทำงานใหญ่นี่นา เชื่อฝือมือฉันได้ นายนี่ตอแหลเก่งเป็นบ้าเลยนะ”
อชิยิ้ม ดูเหมือนว่าแววตาเศร้า ๆ ของเธอจะหายไปแล้ว กุ๊กไก่เป็นคนที่อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย โกรธง่ายและหายง่ายเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะกี่ปีก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ฉายาเจ้าหญิงเจ้าอารมณ์ของเธอในตอนม.ต้นนั้นมันเหมาะกับกุ๊กไก่มากจริง ๆ
“ไม่โกรธแล้วเหรอที่ฉันทำเธอเจ็บ”
กุ๊กไก่ส่ายหน้า
“ไม่โกรธแล้วแหละ แต่หิว”
“ถ้างั้นไปเดินเล่นกันเถอะ”
“เดี๋ยวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนสิ”
อชิส่ายหน้า
“เปลี่ยนทำไมยังไม่ได้นอนสักหน่อย ออกไปเดี๋ยวก็สกปรกอยู่ดี เพิ่งมาถึงเองนะ”
“ไม่ได้เดี๋ยวใส่ไม่ครบชุด นายก็ด้วยมาอาบน้ำกับฉัน”
กุ๊กไก่มองผนังห้องน้ำที่เป็นกระจกใสมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างจนทะลุแล้วรู้สึกว่ามันน่าสนใจดี เธอจึงมีความคิดแปลก ๆ ขึ้นมา ในขณะที่อชิยังไม่ทันคิดอะไรกุ๊กไก่ก็ถอดผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ที่ใช้แทนเสื้อของเธอออกจนเห็นเสื้อชั้นในสีหวานที่ห่อหุ้มก้อนเนื้อใหญ่สองก้อนของเธออยู่
อชิตบมือเสียงดังเมื่อเขาคิดถูก
“ฉันว่าแล้วว่ามันเป็นผ้าเช็ดหน้า ไม่ใช่เสื้อจริง ๆ ด้วย”
“คนเรามันต้องมีรสนิยม ฉันก็แต่งไปตามเรื่องนายว่าสวยหรือเปล่าล่ะ”
กุ๊กไก่พูดแล้วถอดกางเกงขาสั้นจนเห็นแก้มก้นออกโดยไม่สนใจสายตาของอชิแม้แต่น้อย เขาถึงกับติดอ่างแล้วในตอนนี้
“สะ สวยแต่ว่ามันโป๊ไป ไม่ค่อยเหมาะสม”
“เห๊อะ ฉันมาทะเลไม่ได้ไปวัด มีอะไรไม่เหมาะสมยะ”
เธอดึงแขนเขาให้ตามเข้าไปในห้องน้ำอย่างงง ๆ เขย่งปลายเท้าจูบที่แก้มแดงระเรื่อของเขา
“เวลายังมีอีกหน่อย เรามาทำอะไรสนุก ๆ กันดีกว่า”
“ไอ้กุ๊ก อย่ามายั่วตอนนี้นะ ฉันไม่สนกลางวันกลางคืนนะโว้ย”
กุ๊กไก่ถามยั่ว ๆ
“แล้วใครสนล่ะ แน่จริงก็เข้ามาหาฉันสิ”