หลังจากตอบคำถามซ้ำ ๆ กับหมอและพยาบาลไปสามคนเรื่องกินอาหารมาล่าสุดกี่โมงก็มีคนเอาเอกสารมาให้เธอเซ็น กุ๊กไก่ยังพอจับปากกาเซ็นชื่อตัวเองไหวในตอนที่จรดปากกาลงไปบนกระดาษนั้นได้แต่คิดในใจว่า
เออวะ เรานี่อาจจะตายไปเลยก็ได้ ชีวิตนี้ผัวมีแต่เป็นผัวปลอม พ่อแม่ไม่มีห่วงอย่างเดียวคือไม่ได้บอกลาเพื่อนรัก กุ๊กไก่น้ำตาไหลรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขึ้นเขียงและอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก
เก่งยืนอยู่ข้างเธอเขากุมมือของเธอเอาไว้มองเธอด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องกลัวนะครับ”
กุ๊กไก่น้ำตาไหล เธออ้าปากบอกเขา
“พี่เก่งถ้ากุ๊กไม่ฟื้นฝากบอกนาชากับลูกเกดว่ากุ๊กรักเพื่อนนะคะ”
เก่งยิ้ม
“กุ๊กไม่ต้องกลัว หมอเก่งมากแค่ผ่าตัดไส้ติ่งเดี๋ยวพี่โทรหาไอ้เคนให้พี่ไม่มีเบอร์นาชา”
เขาบอกแล้วกดโทรออกอย่างรวดเร็วทันใจไม่ต้องพูดมากอีก มือของเขาข้างหนึ่งยังจับมือของเธอเอาไว้แน่น
เก่ง : นาชาอยู่กับแกปะวะ ฉุกเฉินกุ๊กไก่เข้าโรงบาลผ่าตัดไส้ติ่งอยากคุยกับนาชา
เควิล : ไม่อยู่พอดีแม่ฉันมารับนาชาไปกับหลานไปนอนด้วย แล้วกุ๊กเป็นไรมากปะวะ
เก่ง : ไม่ต้องห่วงฉันดูแลอยู่
เควิล : ฝากด้วยนาชาเขารักกุ๊กไก่ของเขามาก เดี๋ยวจะโทรหานาชาให้รีบโทรหากุ๊กไก่นะ มีอะไรเร่งด่วนให้โทรมาได้เลยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
เก่ง : รู้แล้ว
เก่งวางสายไปแล้วพูดกับเธอเบา ๆ ทั้งมือยังลูบผมของเธออีก
“ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวนาชาโทรมาพี่จะบอกนาชาเอง เดี๋ยวพี่จะโทรหาสมชายให้บอกลูกเกดด้วย”
กุ๊กไก่ซาบซึ้งในจนร้องไห้ขี้โมงโป่ง
“ขอบคุณค่ะพี่เก่ง ถ้าไม่มีพี่เก่งกุ๊กคงไม่รอด”
เก่งยิ้ม
“พูดยังกะพี่เป็นหมอ พี่ทำได้แค่ให้กำลังใจกุ๊กเท่านั้นขอโทษด้วยนะ ส่วนเรื่องอชิพี่จะพยายามติดต่อเขาให้เร็วที่สุด
กุ๊กไก่ส่ายหน้า เธอปวดอีกแล้วปวดจนแทบขาดใจแต่ก็ยังพูดกับเก่งจากใจจริง
“ช่างหมอนั่นเถอะค่ะ กุ๊กมีพี่เก่งก็พอแล้ว”
หลังจากนั้นเธอก็ถามหายาดมแล้วเพราะรู้สึกทนไม่ไหว ในตอนนั้นบุรุษพยาบาลก็เข้ามาเข็นเตียงของกุ๊กไก่เพื่อพาเข้าห้องผ่าตัดทันที
เก่งเดินจับมือเธอไปตลอดทาง กุ๊กไก่น้ำตาคลอร้องไห้ฮึก ๆ เธอกลัวว่าตัวเองจะตาย และไอ้อชิก็ยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็นอีกถึงจะบอกว่าช่างเขาเถอะแต่เธอก็ยังอยากเห็นหน้าไอ้เพื่อนเลวนั่นก่อนเข้าห้องผ่าตัด
“ไม่ต้องกลัวนะพี่จะรอจนกุ๊กออกมา”
เก่งพูดก่อนที่จะบุรุษพยาบาลจะเข็นเตียงของเธอเข้าห้องผ่าตัดไป แสงไฟสว่างจ้าในห้องทำให้กุ๊กไก่ตาลาย หมอเอาอะไรไม่รู้มาแปะหลังเธอ เขาก้มมาใกล้ใส่แมสปิดหน้ามิดชิดอยู่ในชุดถุงมือเหมือนในหนังเด๊ะ
เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าห้องแบบนี้ทำให้กุ๊กไก่ยิ่งใจสั่น
“หมอคะหนูจะตายมั๊ยคะ”
หมอหัวเราะ
“แค่ผ่าตัดใส้ติ่งสบาย ๆ ครับ เดี๋ยวหมอจะให้ดมยาสลบนะไม่ต้องกลัวตื่นขึ้นมาก็เรียบร้อยผ่าตัดเสร็จสองสามวันก็กลับบ้านได้แล้ว”
ในขณะที่หมอชวนคุย พยาบาลก็มาฉีดยาให้เธอและให้ดมยาสลบหลังจากนั้นกุ๊กไก่ยังไม่ทันได้อ้าปากถามเธอก็ไม่รู้เรื่องแล้ว
เก่งเดินไปเดินมารอที่หน้าห้องผ่าตัดที่กุ๊กไก่หายเข้าไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเดินมาถามเขา
“คนไข้บอกแต่งงานแล้วไม่ทราบว่าติดต่อสามีคนไข้ได้หรือเปล่าครับ มีเอกสารต้องให้เขาเซ็น”
เก่งส่ายหน้าในตอนนี้เขาเองอยากจะเป็นสามีของกุ๊กไก่จริง ๆ เสียเอง
“เดี๋ยวผมลองอีกครั้งครับ เขาปิดเครื่องน่าจะทำงานครับ”
“อ้อครับ ถ้าติดต่อไปก็รบกวนด้วยนะครับ”
“ได้ครับ”
เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น สายมาจากลูเซียโน่แต่คนที่คุยคือลูกเกด
ลูกเกด : พี่เก่งกุ๊กไก่เป็นยังไงบ้างคะ
เก่ง : กำลังผ่าตัดไม่ต้องห่วงนะพี่ดูแลให้
หลังจากนั้นเสียงสะอื้นก็ดังเข้ามา ลูกเกดทั้งร้องไห้ทั้งฝากฝังกุ๊กไก่กับเขา บอกว่ากุ๊กไก่ไม่มีใครที่เมืองไทยให้ช่วยดูแลเต็มที่ เก่งรับปากรับคำว่าไม่ต้องห่วงกว่าลูกเกดจะวางสายได้ก็ร้องไห้ไปหลายนาที
หลังลูกเกดวางสายนาชาก็โทรเข้ามาอีก อาการเดียวกับลูกเกดเป๊ะ ทั้งร้องไห้ทั้งฝากฝังหากพวกเธอสองคนบินมาได้คงบินมาหาแล้ว นาชาเองก็ร้องไห้ไปหลายนาทีกว่าจะวางสาย
ตอนนี้เก่งแปลกใจมากที่เขาไม่สามารถติดต่ออชิได้เลย ผู้ชายคนนี้เหมือนตายไปจากโลกใบนี้แล้วไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ติดต่อไม่ได้ เขาโทรไปที่บริษัทอชิเลขาบอกว่าอชิมีงานด่วนต้องบินไปต่างประเทศและส่งคนมาช่วยดูแลกุ๊กไก่
เก่งถอนหายใจถึงเขาจะรู้สึกว่าตัวเองใจบาป แต่ในตอนนี้กลับรู้สึกโล่งอกที่ความสัมพันธ์ระหว่างกุ๊กไก่และอชิคล้ายจะมีรอยร้าวที่รอแค่วันแตกสลาย
เพราะแบบนี้เขาเองก็มีโอกาสแล้วแน่ ๆ
วันต่อมา
กุ๊กไก่ฟื้นขึ้นมาก็บ่ายคล้อย หมอบอกว่าเธอแพ้ยาสลบแต่ไม่รุนแรงจึงทำให้เกิดผื่นบวมขึ้นเต็มตัวและเต็มใบหน้า ปากของเธอก็บวมจนคับจึงทำให้เธอไม่สามารถพูดอะไรได้
เก่งจับมือของเธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ตื่นแล้วเหรอ”
กุ๊กไก่ยังไม่เห็นหน้าตัวเองแต่ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์ห่วงความสวยเพราะยังเจ็บแผลที่ผ่าตัดมาก เหมือนว่าจะระบมไปทั้งร่างและผลจากการแพ้ยาสลบจึงทำให้เธอมีไข้ต่ำ ๆ
เอาล่ะเธอไม่ตาย และคิดว่าคนที่ตายจริง ๆ คงเป็นอชิที่ไม่โผล่หน้ามาเลย ทั้ง ๆ ที่ก่อนเขาจะไปทำงานยังดูเหมือนจะเป็นห่วงเธอแท้ ๆ
“ลูกเกดและนาชาโทรมาตลอดเลย พี่บอกว่าไม่เป็นไรแล้วไม่ต้องห่วงนะแต่กุ๊กอาจจะต้องอยู่โรงพยาบาลนานหน่อยจนกว่าผื่นและอาการแพ้จะดีขึ้น”
คนอื่นผ่าตัดไส้ติ่งไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แต่ของกุ๊กไก่หมอบอกว่าคาดว่าจะอยู่เป็นสัปดาห์ กุ๊กไก่มองหาอชิเก่งเหมือนจะรู้ใจ
“หาอชิเหรอ เขายังไม่มาเลยพี่ติดต่อเขาไม่ได้เลยโทรเข้าที่ออฟฟิศเลขาของเขาบอกว่าอชิต้องไปติดต่องานที่ต่างประเทศกระทันหัน พี่แจ้งแล้วว่ากุ๊กไก่ผ่าตัดไส้ติ่งเลขาของเขาเลยจัดหาพยาบาลพิเศษมาช่วยดูแล บอกว่าไปรอบนี้อาจจะเป็นเดือนแต่ถ้าเขาว่างจะรีบติดต่อกลับให้กุ๊กไก่ดูแลตัวเองให้ดี”
แต่เก่งไม่ได้บอกว่าเขาถือวิสาสะปฏิเสธพยาบาลของอชิ เพราะเขาจะจ้างพยาบาลเองและเขาจะดูแลกุ๊กไก่เป็นหลัก ในตอนนี้โอกาสเป็นของเขาเก่งไม่คิดว่าจะปล่อยให้หลุดมือไป
กุ๊กไก่กลั้นน้ำตาไม่ได้แล้ว เธอป่วยขนาดนี้เขายังไม่คิดจะอยู่กับเธอ หากเธอตายก็คงตายเปล่าคงจะไม่ได้เจอกันอีก อยากจะถามนักว่าที่คนที่พูดเป็นเลขาของอชิหรือว่าเป็นตัวอชิเอง และเขาคนนั้นจะไม่สนใจเธอจริง ๆ ใช่หรือเปล่า
ใช่สิเธอมันแค่เมียปลอม ๆ ที่นอนกอดทะเบียนสมรส แล้วเรื่องที่กลับไปต่างประเทศเพราะลูกและเมียที่ยังไม่เคยเคลียร์กับเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้
กุ๊กไก่อาการยังไม่ค่อยดีเธอปวดจนทนไม่ไหว ร้องครางเพราะเจ็บแผลแต่แผลที่ผ่าตัดนั้นไม่เจ็บมากเท่าแผลในใจที่เหมือนว่าอชิกำลังใช้มีดกรีดแผลนั้นให้ลึกลงไปกว่าเดิม
เพราะเธอปวดมากหมอจึงให้ยาแก้ปวดแบบแรงและให้ยานอนหลับ กุ๊กไก่ทั้งสลึมสลือด้วยฤทธิ์ยาสลบที่ยังอยู่ทั้งถูกวางยาสารพัดจึงหลับเป็นตาย อย่างน้อยก็ช่วยให้เธอหลีกหนีจากความเจ็บปวดพวกนี้ไปได้
กุ๊กไก่อยู่ในสภาพเบลอแบบนี้หลายวันจนกระทั่งเธอฟื้นขึ้นมาในที่สุด ทุกครั้งที่เธอลืมตาขึ้นจะเห็นเก่งนั่งอยู่ข้า่ง ๆ คอยจับมือของเธอทั้งยังคอยพูดคุยไม่หยุดไม่ให้เธอรู้สึกเหงา และหลายครั้งกุ๊กไก่ก็ยังเหม่อลอยมองไปที่ประตูเผื่อว่าอชิจะกลับมาหาเธอ แต่เธอก็ไม่พูดเรื่องนี้กับเก่งเพราะการที่เขาคอยดูแลเธอไม่ห่างแบบนี้ เธอก็รู้แล้วว่าเขาคิดยังไงกับเธอ
แต่แปลกที่เธอไม่ดีใจกลับรู้สึกเสียใจและเกรงใจเขาเป็นอย่างมาก
“กุ๊กทำให้พี่เก่งลำบากใช่หรือเปล่าคะ”
เก่งยิ้มอบอุ่น
“ลำบากอะไร กุ๊กไม่สบายใจเหรอที่พี่อยู่ด้วย”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ กุ๊กเกรงใจ”
เก่งหัวเราะ พยายามทำให้เธอรู้สึกดี
“ไม่ต้องเกรงใจ ข้อแรกนะถ้าพี่ไม่ดูแลกุ๊กคงถูกไอ้เคนกับไอ้สมชายจัดการแน่ ๆ เพราะพวกมันถูกเมียมันจัดการมาอีกต่อ เพื่อนของกุ๊กไก่น่ะน่ากลัวมากไม่รู้เหรอ สองมาเฟียนั่นถึงกับหงอไม่กล้าหือ ไม่ต้องห่วง อีกอย่างพี่เต็มใจและห่วงกุ๊กไก่จริง ๆ นะครับ”
กุ๊กไก่ยิ้ม
“ขอบคุณพี่มากนะคะที่ช่วยเหลือกุ๊กตลอดและไม่ทิ้งไปไหนเลย”
“พี่รับไว้และอย่าพูดเยอะ ยังเจ็บแผลไม่ใช่เหรอครับ”
กุ๊กไก่ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้ามากในสายตาของเก่ง
ทุกครั้งที่เพื่อนโทรมาเธอก็มักจะหลับเสมอกระทั่งวันนี้มีแรงแล้วจึงขอให้เก่งช่วยโทรหาลูกเกดและนาชาเพราะโทรศัพท์ตัวเองแบตหมดอยู่ที่คอนโด ในขณะที่ผ่านมาหลายวันแบบนี้อชิก็หายไปราวกับตายไปแล้ว
“พี่เก่งช่วยโทรหาเพื่อนให้เกดหน่อยได้ปะคะ”
“ฟื้นขึ้นมาก็ถามหาเพื่อนเลยนะ”
กุ๊กไก่ยิ้มได้แล้วแต่ปากของเธอแห้งเพราะฤทธิ์ไข้ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เก่งลูบผมมัน ๆ ของเธอโดยไม่รังเกียจในตอนนี้ความสวยของเธอคงหลือศูนย์และเก่งก็ยังเห็นเธอในสภาพที่ย่ำแย่ที่สุดไปแล้ว กุ๊กไก่เองก็ไม่รู้สึกอายต่อหน้าเขาอีกต่อไป
“อย่าจับสิคะ ผมไม่ได้สระเดี๋ยวมือพี่เก่งเหม็นนะคะ”
เก่งส่ายหน้า
“อย่าคิดแบบนั้นสิ กุ๊กไก่ยังไงก็สวยในสายตาพี่ตัวก็หอมตลอดเลย”
กุ๊กไก่กลั้นขำ เป็นรอยยิ้มแรกตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมาแม้จะเจ็บปวดใจที่ไม่ได้เห็นคนที่อยากเห็นก็ตามที
“พี่เก่งโทรหาลูกเกดกับนาชาให้หน่อยค่ะ”
เก่งส่ายหน้า
“ไม่จำเป็นหรอก”
“พี่เก่ง กุ๊กคิดถึงเพื่อนค่ะช่วยหน่อยนะคะค่าโทรเดี๋ยวกุ๊กคืนให้”
เก่งหัวเราะ
“พี่ไม่ได้งกขนาดนั้นแต่ที่บอกไม่จำเป็นเพราะว่า”
เก่งหยุดพูด กุ๊กไก่เอียงคอ
“ทำไมคะ”
แต่แล้วเสียงคนสองคนก็ดังขึ้นพร้อมกัน
“เพราะเราอยู่ที่นี่กับแกไงไอ้เพื่อนบ้า”
กุ๊กไก่แทบไม่เชื่อสายตา เธอหันไปมองที่หน้าห้องเห็นทั้งลูกเกดและนาชายืนอยู่ตรงนั้นน้ำตาของเพื่อนรักทั้งสองไหลออกมา กุ๊กไก่ขยี้ตา
“ไม่จริงมั้ง พวกแกมาอยู่นี่ได้ไงวะ ไม่จริงใช่มั๊ย ฉันฝันไปใช่หรือเปล่าวะ พี่เก่ง กุ๊กฝันไปใช่หรือเปล่าคะ”
นาชาและลูกเกดพูดขึ้นพร้อมกัน
“เออแกฝันถึงได้เห็นนางฟ้าแบบพวกฉันไง”
กุ๊กไก่ร้องไห้โฮเธออ้าแขนออกกระทั่งนาชาและลูกเกดพุ่งตัวเข้าไปหาสามสาวกอดกันทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ เก่งขยับตัวและลุกขึ้นเขายิ้มบาง ๆ รู้สึกมีความสุขแทนกุ๊กไก่เป็นอย่างมาก และแล้วในห้องพิเศษในโรงพยาบาลเอกชนใหญ่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ของคนสามคนที่ไม่ได้พบกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้มานับปี